วิธีเลือกซื้อ microSD card และ SD card ต้องดูอะไรบ้าง ปี 2022
Published
7 เดือน agoon
26 มิ.ย. 2022By
Wattana S.วิธีเลือกซื้อ microSD card และ SD card สำหรับเพิ่มหน่วยความจำให้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กล้องถ่ายรูป รวมไปถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ต้องดูอะไรบ้าง วันนี้ทีมงาน iphone-droid.net จะมาแนะนำว่าควรเลือกอย่างไร ไปดูกัน!
ข้อมูลพื้นฐานของการ์ด SD
SD นั้นย่อมาจากคำว่า Sucure Digital โดยใช้ชิปหน่วยความจำแฟลช NAND ขนาดเล็กหนึ่งหรือสองตัว ซึ่งคล้ายกับที่พบในหน่วยความจำแบบ USB และ SSD โดยมีตัวประมวลผลขนาดเล็กเพื่อจัดการการไหลของข้อมูลและชุดคำสั่ง
SD มี 3 มาตรฐานที่มีขนาดแตกต่างกัน และครื่องอ่านการ์ด miniSD จะไม่ทำงานกับการ์ด microSD ซึ่งจำเป็นต้องใช้อะแดปเตอร์ในด้วยเมื่อต้องการให้เครื่องอ่านข้อมูล
- Standard SD cards: 1.26 x 0.94 x 0.083 ถึง 0.055 นิ้ว (32 x 24 x 2.1 ถึง 1.4 มม.)
- miniSD cards: 0.85 x 0.79 x 0.055 นิ้ว (21.5 x 20 x 1.4 มม.)
- microSD cards: 0.56 x 0.43 x 0.039 นิ้ว (15 x 11 x 1 มม.)
การ์ด SD มาตรฐานทั้งหมดมาพร้อมกับสวิตช์ล็อคขนาดเล็ก สำหรับเปิด/ปิดความสามารถในการเขียนหรือลบข้อมูลบนการ์ด แต่สำหรับ miniSD และ microSD Card จะไม่มีคุณสมบัตินี้ นอกจากนี้แล้วกฌยังมีอีก 5 หมวดหมู่หลักสำหรับแบ่งคลาสขนาด ซึ่งจะระบุระบบการเชื่อมต่อและความจุข้อมูลของการ์ด
- SD หรือ SDSC (Secure Digital Standard Capacity): ความจุสูงสุด 2GB
- SDHC (Secure Digital High Capacity): ความจุมากกว่า 2GB ถึง 32GB
- SDXC (Secure Digital Extended Capacity): ความจุมากกว่า 32GB ถึง 2TB
- SDUC (Secure Digital Ultra Capacity): ความจุมากกว่า 2TB ถึง 128TB
- SDIO (Secure Digital Input Output): มีหลากหลายความจุ โดยมีมีความพิเศษตรงที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น ตัวรับ Bluetooth หรือ GPS เป็นต้น
สำหรับ SDSC, SDHC และ SDXC ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับอุปกรณ์หลากหลาย เช่น แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน โดรน และกล้องดิจิตอล ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องสำหรับเพิ่มดพื้นที่จัดเก็บ
SDUC ถือเป็นมาตรฐานที่ยังใหม่มาก ดังนั้นอาจต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่เราจะได้เห็นการใช้งานอย่างแพร่หลาย ด้วยขนาดพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่มากถึง 128TB สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการการใช้นานๆ หลายปี
ตารางด้านบนจาก SD Association จะเห็นว่าการ์ด SD มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา และมีการเน้นไปที่ความจุในการจัดเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประสิทธิภาพและ Class ความเร็ว
การ์ด SD ทั้งหมดจะใช้ทองเหลืองขนาดเล็กที่ส่วนปลายสำหรับรับและส่งข้อมูล ถ้าใครเคยสังเกต SD แบบต่างๆ จะเห็นว่าจำนวนแถวทองเหลืองไม่เท่ากัน เพราะยิ่งมีหน้าสัมผัสหลายแถวก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการถ่ายโอนข้อมูลมากขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ชิปแฟลช NAND จะมี Class ในการระบุถึงอัตราการเขียนขั้นต่ำหรือความเร็วช้าที่สุดที่ข้อมูลสามารถใส่ลงในชิปหน่วยความจำในรูปแบบที่มีโครงสร้าง แทนที่จะเป็นแบบสุ่ม
จากตารางข้างบน จะมีจุดสังเกตของ Class 10 สามารถบันทึกหรือเล่นวิดีโอได้ถึง 4K ก็จริง แต่อัตราเฟรมเรตจะไม่ได้สูงมาก โดย Class ที่แนะนำสำหรับการบันทึกวิดีโอ 4K ควรเลือกที่ UHS Class 3 ที่มี Class วิดีโอ 30MB/s ซึ่งดีพอสำหรับวิดีโอ 4K ที่อัตราเฟรมสูง เร็วกว่า Class 10 ธรรมดาถึง 3 เท่า
ความเร็ว Bus Speed
SD Association ได้ประกาศเปิดตัว SD Express ในปี 2018 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่มีการใช้ PCI Express สูงสุด 2 เลน สำหรับช่วยเพิ่มปริมาณงานสำหรับการรับส่งข้อมูลความเร็วสูง
ในปัจจุบัน การ์ด SD ที่ใช้ UHS-III หรือ SD Express นั้นยังไม่มีวางจำหน่ายในตลาด นั่นก็เพราะว่ายังไม่มีอุปกรณ์ที่รองรับการ์ดชนิดนี้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
ยังไม่หมดแค่นั้น ยังมี Class A1 และ A2 ที่ต้องพิจารณากันด้วย โดยเฉพาะการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ซึ่งเป็นความสามารถในการจัดการคำสั่งสุ่มข้อมูลจำนวนมาก โดยการวัดค่า IOPS (Input/Output Operation per Second) ซึ่งหมายถึงปริมาณการอ่านและเขียนไฟล์ต่อ 1 วินาที โดยเป็นขั้นตอนพื้นฐานในโปรแกรมต่างๆ รวมถึงการเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่น
สำหรับ Class A2 สามารถอ่านแบบสุ่มได้ไม่น้อยกว่า 4000 IOPS และเขียนได้แบบสุ่มไม่น้อยกว่า 2000 IOPS มีประสิทธิภาพดีขึ้นกว่า A1 ซึ่งก็เหมาะสำหรับการติดตั้งแอปและเกมต่างๆ ไว้บนการ์ดความจำตัวนี้แล้วเรียกใช้งานได้ลื่นไหลเหมือนการติดตั้งไว้บนความจำภายในตัวเครื่อง ทำให้สามารถเรียกใช้งานแอปหรือเล่นเกมได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ต้องติดตั้งลงบนตัวเครื่องเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว
วิธีเลือกซื้อ microSD card แบบไหนดี
สำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนแต่ละรุ่นจะมีสเปคที่ระบุไว้ว่ารุ่นของเรารองรับการ์ดภายนอกได้สูงสุดเท่าไหร่ และดูว่ากล้องสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุดที่เท่าไหร่ เช่น ถ้าถ่ายวิดีโอ 4K ได้ ก็ควรเลือกการ์ด UHS Class 3 (U3) ซึ่งรองรับ Video Class 30 (V30) เขียนไฟล์ได้ไม่มีสะดุด แม้ว่า Class ที่ต่ำกว่าจะรองรับวิดีโอ 4K ก็ตาม แต่ก็ยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด
Samsung EVO Plus
เช็คราคาล่าสุด
Lexar microSDHC 633x
เช็คราคาล่าสุด
สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการถ่ายวิดีโอ 4K และติดตั้งแอปหรือเกมไว้บนการ์ดได้ด้วย แนะนำให้เลือกเป็น HS Class 3 (U3), Video Class 30 (V30) และมี Class A2 ด้วย
SanDisk Extreme
เช็คราคาล่าสุด
Lexar Professional 1066x
เช็คราคาล่าสุด
SanDisk Extreme PRO
เช็คราคาล่าสุด
Samsung EVO Plus A2
เช็คราคาล่าสุด
สำหรับผู้ใช้งาน HUAWEI รุ่นใหม่ๆ บางรุ่นจะรองรับการ์ดแบบ NM card เป็นการ์ดหน่วยความจำนาโนที่มีขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ ซึ่งเล็กกว่า microSD Card ถึง 45%
HOSINGLOBAL NM Card
เช็คราคาล่าสุด
Lexar NM Card
เช็คราคาล่าสุด
อย่างไรก็ตาม หากเลือกใช้รุ่นที่ไม่เหมาะหรือความจุมากเกินกว่าที่สเปคของสมาร์ทโฟนระบุไว้ เมื่อมีไฟล์จำนวนมหาศาลถูกจัดเก็บไว้ก็จะส่งผลต่อการทำงานได้ด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการแนะนำในการเลือกซื้อการ์ด SD ให้เหมาะกับอุปกรณ์ต่างๆ ของเรามากที่สุด นอกจากจะตรงกับความต้องการแล้ว ยังช่วยให้ใช้งานได้ลื่นไหลและเข้าใจตัวเลขที่อยู่บนการ์ดชนิดต่างๆ ด้วย อย่าลืมกดติดตามแฟนเพจ @iPhoneDroid.net และทวิตเตอร์ @iPhone_Droid จะได้ไม่พลาดข่าวสารดีๆ ด้วยนะครับ
Related Topics:how tomicroSD cardSd cardวิธีเลือกซื้อ microSD
Up Next
“TECNO” เปิดตัวสมาร์ทโฟน CAMON 19 ซีรีส์ใหม่ สุดทันสมัย ดีไซน์มีรางวัลการันตีที่นิวยอร์ก ประกาศเตรียมเปิดตัวในไทยภายในกรกฎาคมนี้