ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงหลายราย รายชื่อน่าสนใจ นายสราวุธ ทรงศิวิไล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี ระหว่างเป็น ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร กระทรวงคมนาคม ถึงเป็นอธิบดีกรมทางหลวง
นายสราวุธ แจ้งมีทรัพย์สิน 10,675,259 บาท ได้แก่ เงินสด 4 แสนบาท เงินฝาก 557,331 บาท เงินลงทุน 2 ล้านบาท ที่ดิน 7.5 แสนบาท ยานพาหนะ 7 แสนบาท สิทธิและสัมปทาน 3,971,928 บาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 2,296,000 บาท ไม่มีหนี้สิน
แจ้งมีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 2,320,434 บาท เป็นเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งทั้งหมด มีรายจ่ายรวม 7.2 แสนบาท
นางนภพรรณ ทรงศิวิไล คู่สมรส มีทรัพย์สิน 22,349,618 บาท ได้แก่ เงินฝาก 1,397,287 บาท เงินลงทุน 565,650 บาท ที่ดิน 9.9 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6.5 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 3,986,681 บาท ไม่มีหนี้สิน ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 2 แสนบาท
รวมทั้งคู่มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 33,024,878 บาท ไม่มีหนี้สิน
ทรัพย์สินที่น่าสนใจ นายสราวุธ แจ้งถือครองพระเครื่อง 25 องค์ ได้มาระหว่างปี 2528-2561 รวมมูลค่า 1,290,000 บาท นาฬิกา 8 เรือน ระหว่างปี 2547-2560 รวม 3 แสนบาท สร้อยคอทองคำ 2 เส้น ได้มาระหว่างปี 2552-2553 รวม 196,000 บาท ภาพเขียน 8 ภาพ ได้มาระหว่าง 2545-2559 รวม 5.1 แสนบาท
โดยก่อนหน้านี้ ระหว่างปี 2557-2560 นายสราวุธ เป็นรองอธิบดีกรมทางหลวง (ฝ่ายบำรุงทาง) ปี 2560-2561 เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ปี 2561-2562 เป็น ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ปี 2562 เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทั่งถูกโยกขึ้นเป็นอธิบดีกรมทางหลวง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติโยกย้ายสับเปลี่ยนข้าราชการระดับสูงหมุนเวียนสังกัดกระทรวงคมนาคม จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1. นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทางหลวงชนบท ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง
2. นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมท่าอากาศยาน ไปดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมทางหลวงชนบท และ 3. นายปริญญา แสงสุวรรณ ผู้ตรวจราชการกระทรวง (ผู้ตรวจราชการกระทรวงระดับสูง) สำนักงานปลัดกระทรวง ไปดำรงตำแหน่งอธิบดี (นักบริหารระดับสูง) กรมท่าอากาศยาน
ล่าสุดได้มีการรายงานว่า จากคำสั่งดังกล่าว ทำให้นายปฐม เฉลยวาเรศ ตัดสินใจเขียนหนังสือขอลาออกจากราชการ แม้จะเหลืออายุราชการ 1 ปี โดยจะเกษียณอายุราชการในปี 2565 ซึ่งหนังสือดังกล่าวลงวันที่ 14 ก.ย.2564 ระบุว่า แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากราชการเพราะมีปัญหาด้านสุขภาพ จึงขอลาออกจากราชการตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2564
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ถือเป็นหนึ่งในหัวหน้าหน่วยที่มีผลงานดี เนื่องจากผลักดันการเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามเป้าหมาย อีกทั้งยังรับนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นำมาปฏิบัติอย่างเห็นผล โดยเฉพาะในเรื่องการนำยางมาแปรรูปทำแบริเออร์ยางครอบคอนกรีต และโครงการติดตั้งเสาหลักนำทางยางธรรมชาติ (Rubber Guide Post : RGP) รวมถึงเดินหน้าโครงการใช้ความเร็วของรถไม่เกิน 120 กิโลเมตร
นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือลาออกจริง โดยให้ทางเจ้าหน้าที่ส่งที่กระทรวงคมนาคมเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งการลาออกนั้นส่วนหนึ่งมีปัญหาทางด้านสุขภาพ เนื่องจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปตรวจสุขภาพ พบว่าร่างกายมีโรคประจำตัว และมีอาการรุนแรงขึ้นทั้งเรื่องของหัวใจ ความดันสูง จึงใช้โอกาสนี้ต้องกลับไปรักษาตัวและพักผ่อน
สำหรับการทำงานตลอดอายุราชการกว่า 37 ปี ยืนยันว่าตนทุ่มเทกับการทำงานมาโดยตลอด พอมาอยู่ระดับผู้บริหารสูงสุดของกรมทางหลวงชนบทก็ได้ปูพื้นฐานภายใน ทช. หลายอย่างให้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการเอาระบบเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน
ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบเรื่องการลาออกของอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ก่อนหน้านายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้รายงานว่า อธิบดีทางหลวงชนบทจะยื่นหนังสือลาพักร้อนเท่านั้น ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ การมาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีงานทำ
ส่วนจะมีการยับยั้งใบลาออกของนายปฐม หรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ขอให้ปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ดำเนินการ เพราะหนังสือลาออกตนยังไม่เห็น และยังไม่ได้รับรายงาน