MacOS X (แมค โอเอส เท็น) คือระบบปฏิบัติการของบริษัทแอปเปิล ที่มีหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ต่างๆ ซอฟแวร์ที่ติดตั้งภายในเครื่อง ตลอดจนเป็นตัวกลางในการติดต่อกับผู้ใช้
ข้อดีของการใช้ MacOS
1. เป็นระบบปิดที่มีความปลอดภัยต่อข้อมูลผู้ใช้งานที่มีความปลอดภัยสูง จำนวนไวรัส เวิร์ม มัลแวร์มีจำนวนที่น้อย มีความสเถียรภาพในการใช้งานเพราะระบบปฏิบัติการออกแบบร่วมกันกับฮาร์ดแวร์ทำให้สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี
อุปกรณ์ไอทีทุกชิ้น ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งควรเลือกใช้ให้เหมาะกับรูปแบบของการทำงานด้วย เพื่อให้การใช้งานนั้นคุ้มค่า และสร้างผลลัพธ์ที่ดี และเหมาะสมที่สุดซึ่งระบบภายในของอุปกรณ์ไอที อย่าง PC หรือ MAC คือระบบปฏิบัติการ โดยมีหลักๆ 2 ระบบ นั่นก็คือ ระบบ macOS และ ระบบ Window ซึ่งแบ่งแยกรูปแบบของคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจน หากระบบภายในดี จะส่งผลให้อุปกรณ์นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้วเคยสงสัยไหมคะ ว่าจริงๆแล้ว ระบบปฏิบัติการทั้ง 2 นี้ มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร แล้วอะไรที่ดี และคุ้มค่ากว่ากันแน่ ?
ระบบปฏิบัติการ macOS
ระบบ macOS คือ ระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Apple สำหรับใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตระกูล MAC เช่น iMac, MacBook ระบบปฏิบัติการนี้ มีพื้นฐานมาจากระบบ UNIX จึงได้รับความน่าเชื่อถือในเรื่องของความเสถียรและความมั่นคงปลอดภัย
ระบบปฏิบัติการ Windows
ระบบ Windows คือ ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ ที่สร้างขึ้นโดยบริษัทไมโครซอฟต์ ที่มีลักษณะเป็น GUI (Graphic-User Interface) ที่นำรูปแบบของสัญลักษณ์ภาพกราฟิกเข้ามาแทนการป้อนคำสั่งทีละบรรทัด ใช้หลักการแบ่งงานเป็นส่วน เรียกว่า หน้าต่างงาน (windows)
ความเหมือน และแตกต่าง ระหว่าง ระบบ macOS และ ระบบ Windows
- ประสิทธิภาพในการใช้งาน
ระบบ macOS: จะมีความเสถียรในเรื่องคุณภาพการทำงานที่ดี ภาพคมชัด เสียงสมจริง
ระบบ Windows: โดดเด่นเรื่องการใช้งานง่าย โปรแกรมสนับสนุนเยอะกว่า
- การใช้งานของโปรแกรม
ระบบ macOS: หากเป็นโปรแกรมพิมพ์งานเอกสาร ระบบ macOS จะใช้โปรแกรม iWork ที่จะมีทั้ง Page ใช้พิมพ์เอกสาร, Number สำหรับใส่แผนภูมิและตาราง หรือ Keynote เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงาน
ระบบ Windows: หากเป็นโปรแกรมพิมพ์งานเอกสาร จะใช้โปรแกรม Microsoft Word, นำเสนองานโดย Microsoft Powerpoint และนำข้อมูลใส่ตารางโดย Microsoft Excel
*ซึ่งทั้ง 2 ระบบปฏิบัติการ จะมีโปรแกรมที่ใช้งานได้เหมือนกัน แต่วิธีการและชื่อโปรแกรมจะแตกต่างกัน
- ความปลอดภัย
ระบบ macOS: มีความปลอดภัยสูง ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้ล้ำสมัยอยู่เสมอ จึงทำให้ความเสี่ยงที่จะโดนไวรัสนั้นมีน้อยกว่า Windows
ระบบ Windows: มีระบบความปลอดภัย ที่ทั้งนี้จะน้อยกว่าระบบ macOS
แล้วควรเลือกใช้ ระบบ macOS หรือ ระบบ Windows ดีนะ ?
จริงๆแล้วคำว่า ‘คุ้มค่า’ นั้น ไม่ได้ตัดสินเพียงแค่ราคาเท่านั้น ควรมองถึงความเหมาะสมกับรูปแบบงาน เช่น หากการใช้งานอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ของเรา ไม่ได้เน้นภาพสวย เสียงชัด และการเรนเดอร์งานที่หนัก การใช้ PC ในระบบปฏิบัติการ Windows ถือเป็นการใช้งานที่ตอบโจทย์ และคุ้มค่าที่สุด เพราะถือว่าเราได้ใช้ฟังก์ชันในเครื่องอย่างครบครันนั่นเอง
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเลือกอุปกรณ์ในระบบ macOS หรือระบบ Windows สิ่งสำคัญควรพิจารณาถึงหลากหลายปัจจัยรวมกัน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ที่ได้มาพร้อมงานที่มีคุณภาพ หรือหากใคร และองค์กรไหน ต้องการที่ปรึกษา หรือจัดหา-จัดซื้ออุปกรณ์ไอที TechSpace มีบริการ IT Support ที่พร้อมดูแลระบบไอทีแบบครบวงจรอยู่นะคะ
Mac OSX คือระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง (เหมือน Windows) ที่ถูกออกแบบมาให้ ใช้งานบนเครื่อง Mac โดยมีชื่อเต็มๆ คือ Macintosh เป็นระบบปฏิบัติการของบริษัท Apple โดย Mac ใช้ ระบบปฏิบัติการที่มีชื่อเรียกว่า OSX ในเวอร์ชั่นปัจจุบันคือ 10 โดยจุดเด่นของ Mac นอกจากงานกราฟิกที่ สวยงามแล้วยังมี Interface ที่ใช้ได้ง่าย เพราะเครื่อง Mac ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย มีความปลอดภัย ในการใช้งานอย่างมาก
อุปกรณ์ของเครื่อง Mac จะประกอบด้วย
1. ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
2. เมาส์
3. คีย์บอร์ด
ตัวเครื่องMac อุปกรณ์ที่มากับ Mac
การใช้งาน Mouse ของ Mac
การคลิกด้วยนิ้วเดียว สามารถคลิกหรือดับเบิลคลิกตรงบริเวณผิวด้านบนของเมาส์ตรงใหนก็ได้
การเลื่อนปุ่มหน้าจอ สามารถทําได้โดยการเคลื่อนที่ของนิ้วบนพื้นสัมผัส สามารถเลื่อนหน้าจอได้ ทุกทิศทาง
การใช้งาน Mouse ของ Mac
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบปฏิบัติการ
1 Apple Menu la: Menu Bar
-Menu ต่างๆ ของการใช้งานจะเปลี่ยนไปตาม Application ที่เปิดใช้งานอยู่หากผู้ใช้ไม่ได้เปิด ใช้งาน Application ไว้ หน้าจอก็จะแสดงเป็นเมนูพื้นฐานของ Finder ของระบบปฏิบัติการ
-Apple Menนทําหน้าที่เหมือนกับ Start ใน Windows เมื่อผู้ใช้กดไปที่รูป Apple ก็จะ มีรายการให้เลือกใช้ เช่น About This Mac ที่จะเป็นการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องว่ากําลังใช้ Force Quit ทําหน้าที่เหมือน Task Manager ช่วยปิด Application ที่ค้างอยู่ เป็นต้น
2.Status Bar ทําหน้าที่บอกสถานการณ์ทํางานต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ Mac เหมือนกับ Taskbar ในระบบปฏิบัติการ Windows มีสัญลักษณ์ที่ชัดเจน
1) Bluetooth ใช้เปิดปิด การทํางานสัญญาณการเชื่อมต่อ Bluetooth
2) Wi-Fi ใช้สําหรับเชื่อมต่อกับสัญญาณ Wi-Fi และเปิดปิดการใช้งาน
3) Volume ใช้สําหรับปรับเสียงของลําโพง
4) Date/Time ใช้สําหรับแสดงวันที่ และเวล
5) USER แสดงบัญชีผู้ใช้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนบัญชีผู้ใช้ผ่านทางนี้ได้
6) Spotlight ตัวที่ใช้ในการค้นหาในเครื่อง Mac
7) Notification Center การแจ้งเตือนต่างๆ ของระบบปฏิบัติการ Mac
3. Dock และ Stack เป็นแถบด้านล่างของระบบปฏิบัติการ OS X ซึ่ง Dock และ Stack มีการทํางานคล้ายๆ กัน โดยเป็นที่เก็บ Shortcut ต่างๆ โดย
-Dock เป็นที่เก็บ Shortcut ของ Application ที่เราใช้บ่อยๆ
-Stack เป็นที่เก็บ Shortcut ของ File และ Folder ที่เราใช้บ่อยๆ การสร้าง Dock และ Stack นั้นเพียงแค่ลากแล้ววางเท่านั้น เมื่อลาก Application หรือ File/Folder ที่ผู้ใช้นํามาใส่ Dock หรือ Stack ให้ลากมาวาง Icon ที่มีอยู่แล้ว และปล่อย Mouse
Dock และ Stack ระบบปฏิบัติการ Mac
4. Desktop หรือพื้นที่ในการทํางานของระบบปฏิบัติการ Mac เมื่อเราเปิดโปรแกรม หรือ Application ที่ใช้ในการทํางาน โปรแกรมจะแสดงผลบน Desktop นําไฟล์ต่างๆ มาวางบน Desktop ได้ เช่นกัน หรือการเชื่อมต่อผ่าน Hard disk, Flash Drive หรือ CD จะแสดงบน Desktop นี้
การใช้งาน Finder ในการจัดการไฟล์และไฟลเดอร์
Finder มีลักษณะเหมือนกับ My Computer ในระบบปฏิบัติการ Windows การใช้งานระบบปฏิบัติ การโดยปกติจะต้องมีการจัดการไฟล์ และโฟลเดอร์ต่างๆ โดยโปรแกรมที่ใช้ในเครื่อง PC คือ My Computer ส่วนในระบบปฏิบัติการ Mac จะเรียกว่า Finder โดย Finder จะมีลักษณะพิเศษกว่า
ส่วนประกอบของ Finder
1. Navigation Buton เป็นปุ่มที่ใช้ย้อนกลับ หรือไปโฟลเดอร์ถัดไป เหมือนปุ่มลูกศรของ Windows
2. View ช่วยในการปรับเปลี่ยนมุมมอง ขนาดของ Icon ใน Finder
3. Search ช่วยในการค้นหา File หรือ Folder ที่มีจํานวนมากๆ
4. Sidebar เป็นแหล่งที่รวบรวม Folder ที่เราใช้บ่อยๆ และเป็นแหล่งหน่วยความจําภายนอกที่ใช้ งานของเครื่อง Mac จะแสดงอยู่ในส่วนนี้
การเปลี่ยนมุมมองใน Finder
จากส่วนประกอบใน Finder จะมีปุ่มเพื่อปรับมุมมองของ Finder ซึ่งจะมีทั้งหมด 4 ปุ่ม หรือ 4 มุมมอง ดังต่อไปนี้
1) Grid View คือ ปุ่มแรก เป็นการดู File และ Folder ต่างๆ ในรูปแบบของไอคอน
2) List View คือ ปุ่มที่ปรับมุมมองให้ดูเป็นรายการพร้อมมีรายละเอียดของ File และ Folder
3) Column View คือ มุมมองที่ดูเป็นแถวตามการเข้า Folder ต่างๆ พร้อมแสดงรายละเอียด File และ Folder ที่เลือกในด้านขวาสุด
4) Cover Flow เป็น มุมมองแบบสุดท้าย เป็นมุมมองแบบพิเศษที่มีเฉพาะบนเครื่อง Mac เท่านั้น เป็นมุมมองที่ผสมผสานระหว่างมุมมองแบบ Grid และ List เข้าด้วยกัน โดยเรียกมุมมองนี้ว่า Cover Flow ซึ่งเป็นการดู File ต่างๆ ในรูปแบบของหน้าปก ซึ่งจะมีรายละเอียดที่สูง สามารถมองเห็นเนื้องานข้างใน และ สามารถเปิดดูหน้าถัดไปได้ เพียงแต่วางเมาส์บนเอกสารแล้วจะมีปุ่มเลื่อนดูหน้าถัดไปได้