ดอกเบี้ยบ้านเดือนพฤศจิกายน เริ่มขยับแล้วในบางธนาคาร สำหรับใครที่กำลังวางแผนที่จะกู้ซื้อบ้าน ตัดสินใจเลือกโครงการหรือหลังที่ชอบได้แล้ว ดอกเบี้ยบ้านอัปเดตล่าสุด นี้ คาดว่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจยื่นกู้ได้ โดยมีหลายธนาคารที่ปรับลดดอกเบี้ย ซึ่ง TNN
Online ได้รวบรวมอัตราดอกเบี้ยของแต่ธนาคารมาฝากกัน
ดอกเบี้ยบ้านเดือนพฤศจิกายน 2565 ของ 7 ธนาคาร
ธนาคาร | อัตราดอกเบี้ยขั้นต่ำ เฉลี่ย 3 ปีแรก | อัตราดอกเบี้ย MRR | วงเงินกู้สูงสุด | ระยะเวลากู้(ปี) |
| 2.83% | 6.2750% | ไม่เกิน 1.2 ล้านบาท | 40 |
| 2.50% | 6.2450% | ไม่เกิน 100%ของราคาซื้อขาย/ประเมิน | ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด |
| 2.88% | 6.0500% | 100% ของราคาประเมิน | ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด |
| 2.78% | 6.2500% | 70-100% ของราคาประเมิน | ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด |
| 2.84% | 6.4800% | ขั้นต่ำ 5 แสนบาท สูงสุด 50 ล้านบาท | ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด |
| 2.60% | 5.9700% | 100% ของราคาประเมิน | 40 |
| 4.90% | 5.9950% | 100% ของราคาประเมิน | ขึ้นอยู่กับธนาคารกำหนด |
ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย
*** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน เฉลี่ย 3 ปีแรก เป็นไปตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดและเป็นการคำนวณทางค่าเฉลี่ยคณิตศาสตร์เท่านั้น***
**** อัตราดอกเบี้ย MRR ที่แต่ละธนาคารเลือกใช้ในผลิตภัณฑ์กู้สินเชื่อที่อยู่อาศัย
1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์
โดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 1.99% เป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 4 ปีแรก จากสินเชื่อนโยบายรัฐ โดยมีระยะเวลาผ่อนสูงสุด 40 ปี ผ่อนเดือนละ 5,000 บาท เงินงวดคงที่ 84 งวด (7 ปีแรก) และมีวงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อราย / ต่อหลักประกัน
มีกำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงินตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2564 และสิ้นสุดระยะเวลาทำนิติกรรมวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือ เมื่อธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ ทั้งนี้ ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการกําหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกําหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว
นอกจากนั้น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank) ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีค่อนข้างต่ำ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อที่ร่วมกับนโยบายรัฐ โครงการบ้านจัดสรรที่ธนาคารกำหนด ตลอดจน โครงการสำหรับผู้สูงอายุ และสินเชื่อเพื่อคนไทยในต่างประเทศ เป็นต้น
สามารถดูรายละเอียดสินเชื่อ หรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เว็บไซต์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ คลิกที่นี่
2. ธนาคารออมสิน
ธนาคารออมสิน มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่หลากหลายขึ้น อาทิ สินเชื่อเคหะสำหรับบุคคลทั่วไป ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำสุดอยู่ที่ 2.65% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.95% และ ปีที่ 2-3 = MRR-3.245% โดยมีเงื่อนไขในการทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ
ส่วน สินเชื่อเคหะสำหรับกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.50% เท่านั้น แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.75% และ ปีที่ 2-3 = MRR-3.370% โดยมีเงื่อนไขในการทำประกันชีวิตเพื่อประกันสินเชื่อ ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อทั้งหมดให้วงเงินสูงสุดไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาประเมินหลักทรัพย์ แล้วแต่ราคาใดที่ต่ำกว่า
สามารถศึกษาเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของ ธนาคารออมสิน คลิกที่นี่
3.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
โดยอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา อยู่ที่ 2.55% สำหรับคอนโด ที่มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป และ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม และคอนโด ที่มีราคาตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับกลุ่มอาชีพพิเศษ (แพทย์, สัตวแพทย์, ทันตแพทย์, เภสัชกร, ผู้พิพากษา และนักบินพาณิชย์) และ ลูกค้ากรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ (สำหรับผู้มีเงินฝากและ/หรือเงินลงทุนกับธนาคาร 5 ล้านบาทขึ้นไป)
นอกจากนี้ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านสำหรับ “คู่เพื่อน” ที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกัน โดยมีความแตกต่างการจากกู้ร่วมแบบเดิม คือ ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้กู้ แต่จะพิจารณาจากรายได้ ศักยภาพในการชำระคืน และเครดิตของผู้กู้ทั้ง 2 ท่าน รวมถึงการตรวจสอบเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ และต้องเป็นการขอสินเชื่อเพื่อซื้อที่อยู่อาศัยใหม่จากโครงการในกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์พันธมิตรซึ่งธนาคารให้การสนับสนุนโดยราคาซื้อขาย (หลังหักส่วนลดทั้งหมดแล้ว) ตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป
โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่กล่าวมาทั้งหมดมีวงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% ของราคาประเมินและราคาซื้อขาย รวมไปถึงสิทธิพิเศษจากธนาคาร คือ ดอกเบี้ยคงที่ 0.75% ต่อปี นาน 1 ปี ฟรีค่าประเมินหลักประกัน และฟรีค่าจดจำนองเมื่อซื้อ MRTA / MLTA ตามเงื่อนไขที่กำหนด
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
ธนาคารกรุงศรี คลิกที่นี่
4.ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกรุงเทพ มีผลิตภัณฑ์สินเชื่อกู้บ้าน คอนโด และทางเลือกของอัตราดอกเบี้ยที่หลากหลายมากที่สุด โดยให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 70-100% ของมูลค่าหลักประกัน และมีอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 2.73% แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบที่ 1 ปีแรก = MRR-4.45% ปีที่ 2 และปีที่ 3 = MRR-2.60% และแบบที่ 2 ปีแรก = MRR-4.20% ปีที่ 2 = MRR-3.95% และปีที่ 3 = MRR-1.50% โดยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR-5.9500%
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ที่มีดอกเบี้ยต่ำที่สุดที่ 2.73% ของ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มีเงื่อนไขในการขอสินเชื่อบ้าน คือ ผู้กู้สินเชื่อต้องเป็นกลุ่มวิชาชีพเฉพาะ คือ แพทย์ ผู้พิพากษา อัยการ และนักบิน หรือ พนักงานประจำที่มีเงินเดือนมากกว่า 200,000 บาท และต้องทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ ธนาคารกรุงเทพ คลิกที่นี่
5.ธนาคารทหารไทยธนชาต
โดยอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารทหารไทยธนชาต เฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุดอยู่ที่ 2.75% แต่มีเงื่อนไข คือ โครงการที่กู้ซื้อนั้นต้องเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯ ที่ธนาคารกำหนด (Top Selective Developers) และต้องสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริมทั้ง 3 ประเภท สำหรับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) กำหนดประกอบไปด้วย โครงการบ้านและคอนโดจากแสนสิริ, โครงการบ้านและคอนโดจากอนันดาฯ และโครงการบ้านและคอนโดจากเอพี (ไทยแลนด์) เป็นต้น
หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆที่เว็บไซต์ ธนาคารทหารไทยธนชาต คลิกที่นี่
6.ธนาคารกรุงไทย
สินเชื่อบ้านของ ธนาคารกรุงไทย กรณีขอสินเชื่อ แบบทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.00% โดยจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ในปีแรกเพียง 0.56% และในปีที่ 2 และ 3 = MRR-2.00% ส่วน กรณีการขอสินเชื่อ แบบไม่ได้ทำประกัน ของ ธนาคารกรุงไทย มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.08% โดยปีแรก เดือนที่ 1-9 = 0.56% และเดือนที่ 10-12 = 1.56% ปีที่ 2 และ 3 = MRR-2.00% โดยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR ปัจจุบันที่ 6.22%
ความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านของ ธนาคารกรุงไทย สามารถเลือกผ่อนต่ำล้านละ 3,000 บาทต่อเดือน ในช่วงปีที่ 1 ได้ และมีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 40 ปี โดยให้วงเงินกู้บ้านสูงสุด 100%
นอกจากนี้ ธนาคารกรุงไทย ยังมีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจอย่าง สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับบุคลากรภาครัฐ โดยทางธนาคารใช้ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบกำหนดระยะเวลา (MLR) เป็นตัวกำหนดดอกเบี้ย โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 3.83%
สามารถศึกษาเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของ
ธนาคารกรุงไทย คลิกที่นี่
และสุดท้าย ธนาคารไทยพาณิชย์ เองก็มีอัตราดอกเบี้ยทางเลือกสำหรับทั่วไปที่น่าสนใจ โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 100% จากราคาประเมินหลักประกัน กรณีลูกค้าโครงการ /ลูกค้าองค์กร จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทโครงการ หรือประเภทองค์กร
โดยผลิตภัณฑ์อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อกู้ซื้อบ้านใหม่ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) จะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบที่ 1 (ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อมากกว่า 70% ของวงเงินกู้) มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปีแรกอยู่ที่ 5.95% และแบบที่ 2 (ไม่ทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ) มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปีแรกอยู่ที่ 5.995%
สามารถศึกษาเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ คลิกที่นี่
ภาพประกอบ : พีอาร์ คุณาลัย
วิธีคำนวณดอกเบี้ยบ้าน อัปเดตล่าสุด 2565
หากต้องการคำนวณดอกเบี้ยธนาคารแบบง่าย ในแต่ละธนาคารก็จะมีเครื่องมือคำนวณสำเร็จรูปไว้ให้เราได้ใช้
เพื่อประเมินและวางแผนการใช้จ่ายของเราได้ โดยยังไม่ต้องเดินทางไปยังธนาคารก็ได้ หากมีแผนที่จะยื่นกู้แล้ว การคำนวณดอกเบี้ยก่อนในเบื้องต้นก็จะช่วยให้เราวางแผนการใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างการคำนวณ : ใช้อัตราส่วนการผ่อนชำระเบื้องต้นที่ 1,000,000 : 7,000
หากกู้ซื้อบ้านในราคาประเมิน 2,000,000 บาท สามารถคิดเป็นยอดชำระเริ่มต้นต่อเดือนจากวงเงินกู้ได้ที่ประมาณ 14,000 บาทต่อเดือน
**การคำนวณเบื้องต้นมาจากตัวเลขที่สมมติขึ้น โดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.89% ตลอดปีที่ 1-3
เช่น กู้ซื้อบ้านกับธนาคารแห่งหนึ่งที่มีดอกเบี้ยเฉลี่ยทั้ง 3 ปีอยู่ที่ 2.89% โดยแบ่งชำระเป็นจำนวนเงิน 14,000 บาทต่อเดือน ตลอดระยะเวลา 3 ปี รวมเป็นยอดชำระทั้งหมด 504,000 บาท แบ่งเป็นเงินต้น 347,196.69 บาท และคิดเป็นดอกเบี้ย 156,803.34 บาท
หมายเหตุ ** การคำนวณเงินต้นและดอกเบี้ยตามกรณีตัวอย่างด้านบนเป็นการคำนวณเบื้องต้น 3 ปีแรกเท่านั้น และการคำนวณดังกล่าวเป็นการคาดคะเน อัตราจริงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร**
อย่างไรก็ตาม อัตราสินเชื่อบ้านโดยส่วนใหญ่จะเปลี่ยนแปลงไม่บ่อยมากนัก ประมาณ 1 ไตรมาสหรือครึ่งปีต่อครั้ง ซึ่งการปรับเปลี่ยนของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารแต่ละแห่งด้วย และหากต้องการข้อมูลอย่างละเอียด แนะนำว่าให้ไปปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เราต้องการขอยื่นสินเชื่อโดยตรง หรือ โทรสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สินเชื่อ เพื่อที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน ที่สำคัญควรศึกษาข้อมูลหลายๆธนาคารเพื่อนำมาเปรียบเทียบว่ายื่นกู้กับธนาคารไหนตอบโจทย์และคุ้มค่ากับเราที่สุด เพราะหนี้บ้านนั้น จะเป็นหนี้ก้อนโตที่อยู่กับเราไปอีกหลายสิบปี !!
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย
ภาพ : TNN Online , AFP ,พีอาร์ คุณาลัย,แอลพีเอ็น