พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ (ราชบัณฑิตยสถาน ๒๕๒๕ : ๑๓๓) ให้ความหมายข้อเท็จจริง และข้อคิดเห็นไว้ว่า
“ข้อเท็จจริง” หมายถึง ข้อความแห่งเหตุการณ์ที่เป็นมาหรือเป็นอยู่ตามจริง ข้อความหรือเหตุการณ์ที่จะต้องวินิจฉัยว่าเท็จหรือจริง
“ข้อคิดเห็น” หมายถึง ความเห็น ความรู้สึกนึกคิดของผู้ส่งสารที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อหา
อาจกล่าวได้ว่า
ข้อเท็จจริง นั้นต้องสามารถพิสูจน์สนับสนุนยืนยันได้
ข้อคิดเห็น นั้นไม่สามารถสนับสนุนยืนยันได้
๑. มีความเป็นไปได้
๒. มีความสมจริง
๓. มีหลักฐานเชื่อถือได้
๔. มีความสมเหตุสมผล
ลักษณะของข้อคิดเห็น
๑. เป็นข้อความที่แสดงความรู้สึก
๒. เป็นข้อความที่แสดงการคาดคะเน
๓. เป็นข้อความที่แสดงการเปรียบเทียบหรืออุปมาอุปไมย
๔. เป็นข้อความที่เป็นเป็นข้อเสนอแนะหรือเป็นความคิดของผู้พูดและผู้เขียนเอง
ตัวอย่างข้อความที่เป็นข้อเท็จจริง
๑. กตเวที หมายถึง สนองคุณท่าน (พิสูจน์ได้โดยค้นความหมายจากพจนานุกรมฉบับราช
บัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕)
๒. ดวงตาเป็นอวัยวะที่ทำให้มองเห็น (พิสูจน์ได้ด้วยหลักวิชาการ)
๓. ทุกคนหนีไม่พ้นความตาย (พิสูจน์ได้จากประสบการณ์)
ตัวอย่างข้อความที่เป็นข้อคิดเห็น
๑. การปกครองในระบอบประชาธิปไตยดีทีสุด (ไม่มีข้อวินิจฉัย)
๒. คนเรียนเก่งย่อมประสบผลสำเร็จในชีวิตเสมอ (ไม่มีข้อยืนยัน)
๓. การรับประทานแต่ผักไม่น่าจะเป็นผลดีต่อร่างกาย(ไม่มีข้อยืนยัน)
๒. “ในการทำอะไรลงไปควรทำด้วยปัญญา อย่าทำไปด้วยอำนาจกิเลสตัณหา ถ้าเป็นคนที่ศึกษาก็ศึกษาด้วยรู้สึก ผิดชอบชั่วดี ว่ามันเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา ถ้าประกอบการงานก็ต้องมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีว่า เป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำและทำให้ดีที่สุดด้วยความเยือกเย็น ถ้าทำด้วยอำนาจปัญญาควบคุมอยู่จะไม่ใจร้อนเลย”
ใจความสำคัญของข้อความนี้คือข้อใด