Star wars ม หน งมาแล ว 8 ภาค episode 4

จากการมาถึงของภาคสุดท้ายปิด Saga อย่าง Star Wars: The Rise of Skywalker ที่นอกจากจะเป็นภาคจบของไตรภาค Star Wars ยุคใหม่แล้ว มันยังจะเป็นภาคสุดท้ายที่เป็นการปิดฉากตำนาน Star Wars ยุคแรกตั้งแต่เริ่มต้นที่มีมาอย่างยาวนานถึงภาคที่ 9 นี้อีกด้วย และที่น่าสนใจคือหนังปิดฉากตำนานในภาคนี้ที่มีแฟนๆต่างรอคอยทั่วโลกจะทำรายได้สูงขนาดไหน คงต้องรอติดตามกันต่อไป แต่ในวันนี้เราจะลองมาย้อนดูกันก่อนว่าในเฟรนไชส์ Star Wars ทั้งหมด ที่มีมาอย่างยาวนาน 8 ภาค + 2 หนัง Spin-Off และ 1 อนิเมชั่น ภาคใดทำรายได้สูงที่สุด!

อันดับ 11

Star Wars: The Clone Wars ปี 2008

ทำรายได้ทั่วโลกไป $68,282,844

อันดับ 10

Solo: A Star Wars Story ปี 2018

ทำรายได้ทั่วโลกไป $392,924,807

อันดับ 9

Star Wars: Episode VI - Return of the Jedi ปี 1983

ทำรายได้ทั่วโลกไป $475,347,111

อันดับ 8

Star Wars: Episode V - The Empire Strikes Back ปี 1980

ทำรายได้ทั่วโลกไป $547,879,454

อันดับ 7

Star Wars: Episode II - Attack of the Clones ปี 2002

ทำรายได้ทั่วโลกไป $649,436,358

อันดับ 6

Star Wars: Episode IV - A New Hope ปี 1977

ทำรายได้ทั่วโลกไป $775,512,064

อันดับ 5

Star Wars: Episode III - Revenge of the Sith ปี 2005

ทำรายได้ทั่วโลกไป $850,035,635

อันดับ 4

Star Wars: Episode I - The Phantom Menace ปี 1999

ทำรายได้ทั่วโลกไป $1,027,082,707

อันดับ 3

Rogue One: A Star Wars Story ปี 2016

ทำรายได้ทั่วโลกไป $1,056,057,273

อันดับ 2

Star Wars: Episode VIII - The Last Jedi ปี 2017

ทำรายได้ทั่วโลกไป $1,332,539,889

อันดับ1

Star Wars: Episode VII - The Force Awakens ปี 2015

ทำรายได้ทั่วโลกไป $2,068,223,624

Star Wars: The Rise of Skywalker ปี 2019

ทำรายได้ทั่วโลกไป $....? ต้องรอติดตามกันต่อไป

Star Wars: The Rise of Skywalker เข้าฉาย 19 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์

ข้อมูลจาก: //www.boxofficemojo.com

ถึงอย่างนั้นระหว่างการสร้าง เจ้าตัวก็คิดว่าหนังเรื่อง Star Wars ที่เป็นการกำกับเรื่องที่สามของเขา น่าจะแป้ก ก็เลยหนีไปเที่ยวฮาวายกับเพื่อนที่ชื่อ สตีเวน สปีลเบิร์ก (และได้ไอเดียทำหนัง ‘อินเดียน่า โจนส์’ แถมกลับมาด้วย) แต่เมื่อจอร์จกลับมาจากพักร้อนก็พบว่าหนังกลายเป็นปรากฎการณ์ระดับชาติไปแล้ว และนั่นทำให้เขาสามารถเข็นหนังออกมาได้อีกสองภาคในภายหลัง

รู้ตัวอีกทีเวลาก็ผ่านไป 40 ปีแล้ว ปัจจุบัน Star Wars มีหนังภาคหลักทั้งหมด 8 ภาค ภาคแยกเสริมเนื้อเรื่องที่ออกฉายแล้ว 2 ภาค รวมถึงนิยาย การ์ตูน และตอนพิเศษแบบอื่นๆ จำนวนมหาศาลที่ชวนให้แฟนรุ่นใหม่ผู้ตามมาทีหลังอาจจะรู้สึกหน้ามืดเอาได้ง่ายๆ

โชคดีอยู่นิดหน่อยที่ทาง Disney ผู้เข้าไปซื้่อกิจการของ Lucasfilm ในปี ค.ศ.2012 และกลายเป็นผู้ถือสิทธิของซีรีส์ Star Wars ในปัจจุบันได้ทำการหั่นนิยายและการ์ตูนส่วนแยกย่อยฉบับก่อน ที่เคยถูกเรียกว่า expanded universe ออกไปหลายส่วนเพื่อไม่ให้มาเกี่ยวข้องกันกับฉบับภาพยนตร์ (แต่ยังทำตลาดอยู่ในชื่อ Star Wars Legends และมีกล่าวกันว่าจะใช้เนื้อหาบางอย่างมาอิงในหนังภาคใหม่ๆ)

ในจังหวะที่ภาคเสริมในฝั่งการ์ตูนกับนิยายยังมีไม่มากนัก และหนังภาคใหม่อย่าง Star Wars: The Rise of Skywalker ก็กำลังจะฉาย นี่จึงถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทบทวนเรื่องราวสงครามจักรวาลอันยิ่งใหญ่นี้กันอีกครั้ง

*คำเตือน : ใครกลัวสปอยล์ แนะนำให้ปิดบทความนี้ไปแล้วหาหนังมาดูก่อนน่าจะดีกว่านะ*

Star Wars: Episode I – The Phantom Menace (1999)

– เนื้อเรื่องเริ่มต้นที่ ดาวนาบู ถูกปิดล้อมโดยสหพันธ์พาณิชย์ สาธารณรัฐกาแลกติกจึงส่งเจไดสองคนนาม ไควกอน จินน์ กับ โอบีวัน เคนโนบี เข้าไปเจรจา แต่ก่อนที่จะทันได้เจรจากันด้วยคำพูด ทางสหพันธ์พาณิชย์ก็ส่งดรอยด์พิฆาตมาไล่ฆ่าสองเจไดซะงั้น ทั้งสองจึงหลบหนีลงไปยังดาวนาบู และได้รับความช่วยเหลือจากชาวกันแกนชื่อ จาร์ จาร์ บิงคส์

– ต่อมา สองเจไดและหนึ่งซ่าก็ได้เดินทางเข้าเมืองหลวงของดาวนาบู เพื่อช่วยเหลือเจ้าหญิงอามิดาลาและคนสนิท แพดเม่ ออกมา ก่อนจะเดินทางไปดาวคอรัสซานท์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐกาแลกติก แต่การเดินทางย่อมมีอุปสรรค เพราะระหว่างทางยานของพวกเขาถูกยิงเสียหาย เดชะบุญได้ดรอยด์ตัวหนึ่งชื่อ R2-D2 ช่วยซ่อมประคองยานให้สามารถลงจอดฉุกเฉินที่ดาวทาทูอีน

– ณ ดาวทาทูอีน ระหว่างที่ไควกอน จิน หาอะไหล่มาซ่อมยาน เขาได้พบกับเด็กชายนาม อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ ผู้มีพรสวรรค์ในการขับยานและสร้างเครื่องจักร (ผลงานเด่นชิ้นหนึ่งของเขาคือหุ่น C-3PO) และ อนาคินยังมีพลัง (The Force) อันแข็งกล้า จนทำให้เจไดมาสเตอร์อย่างไควกอน จิน เชื่อว่าคือ ‘ผู้ถูกเลือก’ ที่จะนำพาสมดุลย์คืนสู่พลัง ไควกอนเลยเปิดดีลกับเจ้านายของอนาคินว่า ถ้าอนาคินแข่งพ็อดเรซ (Podracing) ชนะ จะขออะไหล่ยานพร้อมกับไถ่อิสระให้กับตัวของอนาคิน และแน่นอน…อนาคินชนะ

– ระหว่างนี้ อนาคินก็กุ๊กกิ๊กกับแพดเม่ นิดๆ หน่อยๆ พอหอมปากหอมคอ เพราะต้องเข้าใจว่าน้องๆ ยังเป็นผู้เยาว์กันอยู่ในภาคนี้

– ยานก็ซ่อมเสร็จ คนก็พามาเพิ่ม แต่ภัยก็มาถีงเช่นกัน เมื่อ ดาร์ธ มอล ผู้ใชไลท์เซเบอร์สองปลาย บุกเข้ามาหมายจะสังหารเจ้าหญิงอามิดาลา แต่ไควกอนก็สามารถต้านรับจนสามารถหนีออกจากทาทูอีน ก่อนเดินทางไปยังดาวคอรัสซานท์ …เมื่อไปถึง เจ้าหญิงอามิดาลาก็เข้าพบ พัลพาทีน วุฒิสมาชิกของดาวนาบูทันที เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยื่นเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจและถอดถอนประธานสภาของสาธารณรัฐกาแลกติกคนปัจจุบัน เพื่อแก้ปัญหาดาวนาบู

– ถึงอย่างนั้น เจ้าหญิงอามิดาลาก็ยังรู้สึกว่าการแก้ปัญหาแบบนี้อาจสายเกินไปที่จะช่วยชาวนาบู เจ้าหญิงจึงเลือกกลับไปยังดาวนาบูอีกครั้ง พร้อมสองเจไดที่ได้รับคำสั่งจากสภาเจได เพื่อเปิดเผยการเบาะแสการกลับมาของเหล่า ซิธ

– พอกลับไปถึงดาว เจ้าหญิงตัดสินใจเข้าเจรจากับชาวกันแกนเพื่อขอเป็นพันธมิตรและออกมาช่วยเหลือเผ่าอื่นๆ บนดาวนาบู ในตอนแรกเหมือนจะไม่เป็นผล แต่สุดท้าย แพดเม่ก็เลิกปิดบัง แล้วเผยว่าเธอเป็นเจ้าหญิงต่างหากตัวจริง เจรจาจึงสำเร็จผล และสงครามเพื่ออิสรภาพก็ได้เริ่มต้นขึ้น

– สงครามเกิดขึ้นทั้งบนดาวและในอวกาศ อนาคินเผลอขึ้นยานอวกาศเข้าร่วมโดยบังเอิญ แต่ก็ใช้ทักษะเฉพาะตัวสร้างผลงานได้ซะงั้น ด้านไควกอนกับโอบีวันนั้น ทั้งคู่ได้เข้าปะทะกับดาร์ธ มอลอีกครั้ง ที่คราวนี้ไควกอนพลาดท่าโดนแทงจนบาดเจ็บสาหัส แต่โอบิวันผ่าร่างของดาร์ธ มอลขาดครึ่งเอาชนะไปได้ (ดาร์ธ มอล ไม่ตาย ไปปรากฏตัวในอนิเมชั่น The Clone Wars)

– สงครามสิ้นสุดลง ดาวนาบูเป็นอิสระอีกครั้ง พัลพาทีนได้กลายเป็นประธานสภาสาธารณรัฐกาแลกติกคนใหม่ และโอบีวันก็ได้รับอนาคินไว้เป็นลูกศิษย์ตามเจตนารมณ์ของไควกอน พร้อมทิ้งคำถามไว้เล็กๆ (ที่คนดูก็น่าจะรู้อยู่แล้ว) ว่าใครกันแน่เป็น ซิธลอร์ด คนใหม่

Star Wars: Episode II – Attack of the Clones (2002)

– 10 ปีหลังจากเหตุการณ์ปิดล้อมดาวนาบู ตอนนี้สภาพของสาธารณรัฐกาแลกติกสั่นคลอนกว่าเดิม ด้วยการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ต้องการจะแยกตัวนำทัพโดนเคานท์ดูกู

– เจ้าหญิงแพดเม่ อามิดาลา ได้เดินทางไปยังดาวคอรัสซานท์อีกครั้งเพื่อทำหน้าที่ในฐานะวุฒิสมาชิกดาวนาบู แต่พอยานลงจอดปุ๊บก็โดนลอบฆ่าปั๊บ โชคดีที่แพดเม่เล่นมุกเดิม ปลอมตัวเป็นนางในเลยรอดตาย ก่อนจะได้เจไดมาเป็นบอดี้การ์ด ซึ่งคนที่มารับจ็อบก็ไม่ใช่ใครที่ไหน…โอบีวันกับอนาคินนั่นเอง คุ้มกันได้ไม่นานก็เจอนักฆ่า แม้เจไดทั้งสองจะพยายามจับตัวให้ได้ แต่นักฆ่าก็ดันถูกนักล่าค่าหัวผู้เป็นนายจ้างฆ่าปิดปากเสียก่อน สภาเจไดจึงสั่งให้โอบีวันไปสืบต่อว่าตัวการที่ต้องการฆ่าเจ้าหญิงอามิดาลาเป็นใคร

– โอบิวันสืบค้นเรื่องนักล่าค่าหัวคนดังกล่าว จนเจอเรื่องดาวคามิโน สถานที่พัฒนาและสร้างกองทัพโคลน ซึ่งกองทัพที่ว่านี้ใช้ DNA ของ แจงโก้ เฟทท์ ทหารรับจ้างที่โอบีวันไล่ตามอยู่เป็นต้นแบบ โอบีวันได้คอนแทกต์กองทัพโคลนแบบงงๆ เพราะเดิมทีคนที่เตรียมกองทัพโคลนไว้คือ เจไดมาสเตอร์ชื่อไซโฟเดียส (Sifo-Dyas)

– ส่วนอนาคินที่อยู่เป็นบอดี้การ์ดให้แพดเม่ ก็พัฒนาความกุ๊กกิ๊กกันมากขึ้น ก่อนเขาจะเดินทางไปดาวทาทูอีนหลังจากฝันถึงเสียงร่ำร้องอย่างเจ็บปวดของแม่ การกลับไปยังบ้านเกิดทำให้เขาพบว่าแม่ถูกลักพาตัวไป อนาคินจึงบุกไปหาหวังจะช่วยชีวิตแม่ แต่ก็ไม่ทันการ กลายเป็นพลั้งมือไล่สังหารกลุ่มที่ลักพาตัวแม่จนหมด ถือเป็นก้าวใหญ่ของอนาคินที่เริ่มเดินเข้าสู่ด้านมืด

– โอบิวันได้เจอกับ แจงโก้ เฟทท์ และโบบา เฟทท์ ลูกชายที่ซ่อนตัวในดาวคามิโน ก่อนจะเกิดเหตุไล่ตามกันจนไปถึงดาวจีโอโนซิส ที่โอบีวันได้รู้ว่า กลุ่มที่ต้องการจะแยกตัวจากสาธารณรัฐเป็นคนวางแผนฆ่าเจ้าหญิงอามิดาลา และตอนนี้ยังพัฒนากองทัพดรอยด์ร่วมกับสหพันธ์พาณิชย์อีกด้วย ก่อนถูกจับตัว โอบีวันได้ส่งข่าวให้อนาคินไปบอกต่อสภาเจได ส่งผลให้สมุหนายกพัลพาทีนได้สิทธิ์กุมอำนาจฉุกเฉิน เมื่อได้อำนาจ พัลพาทีนจึงได้สั่งให้นำกองทัพโคลนจากดาวคามิโนร่วมมือกับสภาเจไดไปโจมตีดาวจีโอโนซิสทันที

– อนาคินและเจ้าหญิงอามิดาล่า ตัดสินใจเดินทางไปดาวจีโอโนซิสล่วงหน้าเพื่อช่วยโอบีวัน …แต่แล้วไงโดนรวบตัวเพิ่มไปอีกสองคน ก่อนที่จะโดนจับเข้าลานประหารพร้อมกับโอบีวัน แต่เหล่าเจไดที่นำทัพโดย โยดากับเมซ วินดู พร้อมกองทัพโคลนก็ได้บุกมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน

– กลายเป็นชนวนเหตุให้สงครามโคลนเริ่มขึ้น ในช่วงเหตุการณ์ครั้งนี้ เมซ วินดู ได้สังหารแจงโก้ เฟทท์ ทิ้งความแค้นให้ โบบา เฟทท์ ผู้เป็นลูก ส่วนโอบีวันกับอนาคินทำหน้าที่รุมเคานท์ดูกู ที่แม้จะสองรุมหนึ่งก็จริง แต่ท่านเคานท์ก็ใช้ฝีมืิอตัดแขนขวาของอนาคินขาดและทำให้โอบิวันได้รับบาดเจ็บ จนโยดาต้องเข้ามาเป็นมือที่สามในการต่อสู้ ส่งให้เคาท์ดูกูต้องถอยทัพกลับไปยังดาวคอรัสซานท์ พร้อมกับแบบแปลนของสุดยอดอาวุธสุดยอด ‘เดธสตาร์’ (Death Star )ที่หมายจะมอบให้ ดาร์ธ ซีเดียส ผู้เป็นอาจารย์

– หลังเหตุวุ่นวาย อนาคินได้แขนเทียม พร้อมได้ตำแหน่งหน้าที่อัศวินเจได และได้แอบแต่งงานกับแพดเม่ อามิดาลา โดยมี R2-D2 กับ C-3PO เป็นพยานรักแบบลับๆ แม้จะขัดต่อธรรมเนียมของเหล่าเจไดก็ตาม

Star Wars: Episode III – Revenge of the Sith (2005)

– สามปีให้หลังจาก Episode II ในที่สุดสงครามก็แผ่ขยายมาถึงดาวคอรัสซานท์ เมืองหลวงของสาธารณรัฐกาแลกติก

– ประธานสภาพัลพาทีนโดนไซบอร์กนายพลกรีวัสของกลุ่มแบ่งแยกจับตัวไป เป็นหน้าที่ของอนาคินกับโอบีวันในการบุกเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยการฝ่าเข้าเรือธงของกรีวัส ทั้งคู่เข้าปะทะกับเคาท์ดูกู และเชือดคอเคานท์ดูกูทิ้งโดยอนาคิน หลังจากนั้น โอบีวันได้ตามกรีวัสไปที่ดาวอูทาเพา (Utapau) และเอาชนะกรีเวียสได้ที่นั่น

– หลังจากทำความดีงามจากการช่วยพัลพาทีน อนาคินก็แว่บไปเจอหน้าแพดเม่เมียรัก และได้รู้ว่าเจ้าหล่อนกำลังตั้งท้องอยู่ท้องแล้ว อนาคินที่ดีใจได้ไม่นาน ก็ดันฝันเห็นว่าเมียจะตายตอนคลอด เหมือนในเหตุการณ์ที่แม่ของเขากำลังจะเสียชีวิต

– จังหวะนั้นพัลพาทีนเริ่มตีซี้กับอนาคิน ด้วยการเสนอให้อนาคินได้รับตำแหน่งในสภาเจได แต่ถูกเจไดในสภาคนอื่นปฏิเสธเพราะเห็นว่าอนาคินยังหนุ่มไป และมีปมอะไรบางอย่าง ถึงอย่างนั้นทางสภาก็ตั้งให้อนาคินเป็นเจไดมาสเตอร์ พร้อมทั้งยื่นงานลับให้ไปตีสนิทกับพัลพาทีน และคอยส่งข่าวให้สภาเจได

– อนาคินที่ไม่ไว้ใจสภาเจไดมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้า ก็ไม่ยอมทำตามออเดอร์นี้สักเท่าไหร่ และพัลพาทีนที่พอจะรู้ว่าอนาคินกำลังกลุ้มใจอะไรก็บอกใบ้ว่า พลังด้านมืดนั้นสามารถช่วยภรรยาสุดที่รักของเขาได้ ก่อนที่จะเปิดเผยกับอนาคินว่า จริงๆ แล้วเขาคือ ดาร์ธ ซีเดียส อาจาร์ยของดาร์ธ มอลและเคานท์ดูกู

– อนาคินที่กำลังสับสนเลยติดต่อเมซ วินดูให้มาคุมตัวดาร์ธซีเดียส ในระหว่างที่เมซ วินดูเกือบจะคุมตัวซีเดียสได้ อนาคินกลับถูกยั่วยุและล่อลวงโดยซีเดียสเพราะกลัวว่าจะเสียเมียไป อนาคินจึงหันไปตัดแขนเมซ วินดู ช่วยให้ซีเดียสสูบพลังและปล่อยให้วินดูตกตึกตายไป และแล้วอนาคินก็ยอมรับการแต่งตั้งจากซีเดียสให้กลายเป็น ดาร์ธ เวเดอร์ และรับงานแรกในฐานะเวดอร์ให้ไปไล่ฆ่าทุกคนในวิหารเจได

– จังหวะเดียวกันนั้น ซีเดียสได้ออกสั่ง ‘คำสั่งที่ 66’ ให้กองทัพโคลนลงมือสังหารเจได โอบีวันและโยดา รอดตายหวุดหวิดจากคำสั่งที่ว่า (ในช่วงนี้โยดาอยู่บนดาวคาชีค (Kashyyyk) ดาวบ้านเกิดของเผ่าวูคกี้) ทั้งคู่ได้พบกับวุฒิสมาชิก เบล ออร์กานา พยานรู้ที่เห็นว่ามีการสังหารโหดในวิหารเจได ก่อนไปดูคลิปจากกล้องบันทึกภาพและได้พบว่า เป็นตัวอนาคินเองที่เป็นคนลงมือ

– หลังจากทราบเรื่อง โอบีวันพยายามไปบอกแพดเม่ว่า อนาคินเข้าสู่ด้านมืดแล้ว แต่เธอไม่ยอมเชื่อจึงขับยานไปดาวมุสตาฟาร์เพื่อตามหาความจริง แต่หารู้ไม่ว่า โอบีวันแอบขึ้นยานตามไปด้วย

– ในช่วงนั้นทางพัลพาทีน (ดาร์ธ ซีเดียส) ได้เอาความเท็จไปเล่าในสภา และก่อตั้ง ‘จักรวรรดิ’ ที่เขาเองกลายเป็นจักรพรรดิขึ้นมา เสร็จเรียบร้อยก็ต้องมาบู๊กับโยดา แต่ต้องแยกกันก่อนจะตัดสินผลได้

– แพดเม่ไปเจออนาคินและบอกให้เขาออกจากด้านมืดเพื่อไปใช้ชีวิตอย่างสงบกับเธอ อนาคินลังเลอยู่พักนึงก่อนจะเจอว่า โอบีวันแอบตามมาด้วย เลยเข้าใจผิดคิดว่าแพดเม่เป็นคนพาเจไดมาฆ่าเขา ก่อนจะใช้พลังบีบคอแพดเม่ซะ (อ้าว!) โอบีวันจึงเข้าช่วยแพดเม่และเริ่มบู๊อย่างดุเดือดกับอนาคิน โอบีวันเอาชนะได้ด้วยการหั่นขาทั้งสองข้างของอนาคิน (เพราะ ข้าอยู่สูงกว่าเจ้า!) และปล่อยอนาคินทิ้งไว้ตะเกียกตะกายริมลาวา ให้ซีเดียสมาเก็บร่างกายที่เหลือไปใส่เครื่องช่วยชีวิตหรือเกราะดำที่หลายคนคุ้นตากัน

– แพดเม่ที่โดนบีบคอเกือบตาย ก็ได้คลอดลูกแฝดชายหญิง ชายที่ได้ชื่อว่า ลุค และหญิงที่มีชื่อว่า เลอา ในภายหลัง เธอเสียชีวิตหลังคลอดลูกไม่นาน ก่อนจะมีการจัดงานศพอย่างยิ่งใหญ่ที่ดาวนาบูบ้านเกิด

– เวเดอร์ที่รอดตายฟื้นมาได้ก็ถามถึงลูกเมียตัวเอง แต่ถูกซีเดียสโกหกปนไปว่าเมียกับลูกตายแล้ว เขาจึงกลายเป็นลูกศิษย์และมือขวาของซีเดียส ในการช่วยสร้างจักรวรรดิและเดธสตาร์

– โยดา โอบีวัน และเบล ออร์กานา ตัดสินใจนำฝาแฝดไปซ่อนตัว โดยเบลรับเลี้ยงเลอาที่ดาวอัลเดอราน ส่วนลุคถูกฝากไว้กับโอเวนและเบรู ลาร์ส โดยที่โอบีวันคอยดูแลอยู่ห่างๆ เตรียมฝึกให้เด็กน้อยเป็นเจไดต่อไปในอนาคต

– ส่วน R2-D2 ยังอยู่รอดปลอดภัย แต่ C-3PO ถูกลบข้อมูลที่บันทึกเรื่องราวความสัมพันธ์ของอนาคินกับแพดเม่ และเบล ออร์กานาก็ได้เก็บหุ่นสองตัวนี้ไว้ใช้งาน

Solo: A Star Wars Story (2018)

– ฮัน โซโล เป็นตัวละครที่โดดเด่นในจักรวาล Star Wars มาโดยตลอด ดังนั้นก็ไม่แปลกใจที่ดิสนีย์ผู้ถือสิทธิ์จักรวาลสงครามดวงดาวอยากจะเล่าเรื่องของตัวละครตัวนี้ในอดีต

– หนังภาคนี้จึงย้อนเวลากลับไปหลายพันปี… เกินไป เอาแค่หกปีภายหลังการก่อตั้งจักรวรรดิในภาค 3 ก็พอ

– ณ ดาวคอเรลเลีย ฮันใช้ชีวิตในฐานะคนจรและทำงานสกปรกอย่างการขโมยของเลี้ยงชีพให้ เลดี้ พร็อกซิม่า เจ้าของถิ่น

– จนวันหนึ่งที่เขาขโมยของแล้วกั๊กเอาพลังงานสกัด หรือที่เรียกว่า โคแอกซียม ไว้กับตัว แต่เนื่องจากพร็อกซิม่าถือว่าทำงานผิดพลาดจึงทำให้เขากับ คีร่า สาวผู้กุมใจฮันโดนไล่ล่า

– ฮันกับคีร่าหนีการตามล่าพ้นถึงสถานีอวกาศ และเอาโคแอกซียมไปยัดใต้โต๊ะให้คนคุมด่าน แต่มีแค่ฮันที่หลุดไปได้ ส่วนคีร่าโดนคนของพร็อกซิม่าจับตัวกลับไป

– ฮันหาทางเอาตัวรอด ลั่นวาจาว่าจะกลับมาช่วยคีร่า เขาเลยตัดสินใจสมัครเป็นทหารของจักรวรรดิ แต่เมื่อถูกถามว่าตัวของเขานั้น “สกุลอะไร” ฮันไม่มีคำตอบ เพราะตัวคนเดียวมาตลอด นายทหารที่ลงทะเบียน เลยลงชื่อเป็น ฮัน โซโล ที่สะท้อนความตัวคนเดียวนั่นเอง

– เวลาผ่านไปสามปี ฮัน โซโล ถูกส่งไปเป็นทหารราบ เพราะโดนไล่ออกจากโรงเรียนการบิน และได้พบกับ โทไบแอส เบกเคตต์, วาล และริโอ ดูแรนต์ ที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นทหาร แต่ความจริงเป็นกองโจรปลอมตัวมา

– ตอนแรกฮันพยายามจะขอเข้าร่วมกองโจรด้วย แต่กลายเป็นว่าเจอเบกเคตต์ย้อนรอยด้วยการแจ้งว่า ฮันพยายามหนีทหาร และนั่นทำให้ฮันถูกลงโทษด้วยการส่งไปหาสัตว์ประหลาดยักษ์ขนยาวที่ถูกขังไว้ในคุกโคลน

– สรุปแล้วสัตว์ประหลาดดังกล่าวคือชาววูกี้ ซึ่งบังเอิญฮันพูดภาษานั้นได้นิดหน่อย ทั้งสองคนเลยร่วมกันแหกคุกแบบทุลักทุเลเบาๆ และนั่นคือครั้งแรกที่ฮันกับชิวแบคคาทำงานร่วมกัน

– การรอดชีวิตจากการปะทะกับวูกี้ทำให้กองโจรของเบกเคตต์ยอมรับความเก๋าของฮัน และรับเข้าทีมมาช่วยงาน

– ฮันเข้าร่วมแผนปล้นรถไฟขนของ ก่อนที่จะได้รับปืนประจำตัวมาจากเบกเคตต์ แผนการปล้นผ่านไปด้วยดีพอสมควร จนกระทั่งกองโจรคู่ปรับของเบกเคตต์ปรากฎตัว ทำให้ฮัน, ชิววี่ และเบคเก็ต ต้องรับมือกับกองโจรคู่ปรับ ริโอที่เป็นคนขับยานโดนยิง ฮันจึงตัดสินใจขับยานแทน ส่วนวาลนั้นโดนดรอยด์ไล่ล่าล้อมกรอบจึงยอมกดระเบิดสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยงานของชายคนรัก และแผนการขโมยก็ล้มเหลวเพราะการแยกของไปมาทำให้ระเบิด

– เบกเคตต์เปิดเผยว่างานปล้นครั้งนี้ได้รับมาจากกองโจรคริมสันดอว์นของ ไดรเดน วอส

– เบกเคตต์และฮันตัดสินใจไปต่อรองกับ ไดรเดน วอส แต่การเดินทางครั้งนี้กลับทำให้ฮันได้เจอกับคีร่าโดยบังเอิญในงานเลี้ยงของ ซึ่งสถานะของคีร่าคือการเป็นมือขวาของไดรเดน

– แผนการครั้งใหม่ที่ฮันด้นสดเพื่อเอาตัวรอดจากการโดนไดรเดนฆ่าทิ้งคือการไปขโมยแร่ดิบ และนำไปสกัดให้เร็วที่สุด โดยไดรเดนได้ให้คีร่าเดินทางติดตามพวกฮันไปด้วย

– คีร่าได้แนะนำให้หายานที่เร็วที่สุดจากนักขนของเถื่อนตัวเอ้ แลนโด้ คาริเซียน ซึ่งฮันไปร่วมโต๊ะพนันกับแลนโด้ เกิดการดวลการพนันกับฝีปากจนทำให้แลนโด้เอ่ยปากขอพนันยานด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายแลนโด้ก็ชนะพนันบนโต๊ะไป

– กระนั้นด้วยการที่คีร่ากับเบกเคตต์มาด้วย ทำให้แลนโด้ยอมรับงานด้วยราคาถูก และพาเอา L3-37 หุ่นยนต์นักสิทธิเครื่องจักร ควบต้นหนของยานเดินทางไปด้วย การเดินทางเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น เพราะศักยภาพของยานมิลเลนเนียมฟอลคอนกับหุ่น L3-37

– แผนการบุกชิงแร่ดิบเริ่มขึ้น L3-37 ได้ปลดปล่อยดรอยด์กับหุ่นต่างๆ ที่ทำหน้าที่ไปปล่อยคนงานให้เป็นอิสรภาพอีกทอดหนึ่ง แต่ชิววี่ที่เห็นขาววูกี้ตนอื่นโดนจับกุมตัวไว้ ก็ได้ตัดสินใจทิ้งงานไปช่วยเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์

– ฮันชิงเอาแร่ดิบออกมาได้ และได้ชิวแบคคากับเพื่อนช่วยกันขนของออกมาในช่วงที่เกิดจราจลครั้งใหญ่ งานนี้ L3-37 โดนยิงจนเสียหายระหว่างการจราจลนี่เอง แลนโด้ขนเอา L3-37 กลับขึ้นยาน โดยที่ตัวของเขาก็ได้รับบาดเจ็บ ฮันจึงต้องรับหน้าที่ขับยานแทน

– ถึงจะขนของออกมาได้ แต่ยานของทัพจักรวรรดิก็มาขวางทางไว้ ฮันจึงเสนอให้เอาแผงวงจรของ L3-37 มาติดตั้งเป็นระบบนำทางถาวรของเรือ และในขณะเดียวกัน ชิวแบคคาก็แสดงทักษะให้เห็นว่า เขารู้เรื่องการขับยานเช่นกัน คู่หูฮันกับชิวแบคคาจึงได้ขับยานร่วมกันเป็นครั้งแรก

– ในจังหวะที่ยานมิลเลนเนียมฟอลคอนโดนไล่จี้แบบกระชั้นชิด ฮันตัดสินใจใช้การดริฟต์ยานอวกาศทั้งลำจนทำให้รอดตายจากการล่ามาได้ และเมื่อแผงวงจรของ L3-37 ทำงาน พวกฮันก็หลบสัตว์ประหลาดยักษ์แล้วเดินทางออกจากพายุแรงดึงดูด แต่ยานมิลเลนเนียมฟอลคอนไม่มีกำลังเหลือมากพอจะหนีแรงดึงดูดได้ แผนการด้นสุดอีกอันก็เริ่มขึ้นนั่นคือการเอาแร่ดิบที่เป็นพลังงานที่ขโมยมาไปใส่ที่เตาพลังงานของตัวยาน

– การหนีเสร็จสิ้น ฮันกับพวกเดินทางไปดาวซาวารีนและสกัดแร่ดิบได้ทัน …แต่ยานระดับเทพก็โทรมหน่อย กระนั้นงานก็ไม่ได้เรียบร้อยขนาดนั้นเพราะคู่ปรับของเบกเคตต์ก็มาเช่นกัน… และแลนโด้ก็เอายานชิ่งไปเรียบร้อย

– กับความจริงที่เปิดเผยว่า เอ็นฟิส เนสต์ ไม่ใช่กองโจรเสียทีเดียว แต่เป็นกองกำลังต่อต้านหลากเผ่าพันธุ์ ที่หาญกล้าท้า กองโจรคริมสันดอว์นและกองทัพจักรวรรดิ ฮันที่ได้ยินคำพูดเอ็นฟิสก็เริ่มใจอ่อนและหาทางช่วย แต่เบกเคตต์ไม่เล่นด้วย

– ฮันกับคีร่าเดินทางกับไปหาไดรเดน แต่ทว่าแผนการของฮันกับคีร่าล้มเหลว เพราะเบกเคตต์เป็นคนแบไต๋ก่อนนั่นเอง และไดรเดนก็ส่งคนไปไล่ล่าพวกของเอ็นฟิสเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

– กระนั้น ทั้งหมดเป็นแผนซ้อนแผนของฮัน ที่รอจัดการกองกำลังส่วนตัวของไดรเดน อีกทีหนึ่ง ทำให้เบกเคตต์ตัดสินใจปล้นแร่อีกทอดหนึ่งแทน

– ฮัน, คีร่า กับไดรเดน จึงต้องห้ำหั่นกันก่อน และการต่อสู้ลงเอยด้วยการที่คีร่าลุกขึ้นมาปิดเกมจนปลิดชีวิตของไดรเดนได้สำเร็จ

– คีร่าเร่งเร้าให้ฮันไปช่วยชิวแบคคา ฮันทำตาม และคีร่าได้ติดต่อหัวหน้าของไดรเดนอีกทอดหนึ่ง โดยโทษว่าเบกเคตต์เป็นคนขโมยของไป และหัวหน้าของคีร่านั้น… ก็คือ ดาร์ธ มอล ที่น่าจะเสียชีวิตไปนานแล้ว?

– ฮันตามตัวเบกเคตต์กับชิวแบคคาจนเจอ และฮันตัดสินใจยิงเบกเคตต์จนเสียชีวิต ส่วนคีร่าก็ขับยานออกไป

– ฮันเอาแร่ไปส่งให้เอ็นฟิส ที่เชิญชวนให้ฮันมาร่วมกองกำลังกบฎ แต่ฮันปฏิเสธ และเหมือนว่าเนฟิสจะรู้คำตอบล่วงหน้าจึงเตรียม แร่หลอดหนึ่งให้ไปขายทำเงินต่อ

– ภาพตัดมาที่แลนโด้กำลังดวลไพ่อยู่ แต่คราวนี้ฮันจับไต๋ได้แต่เริ่มว่าแลนโด้โกงไพ่ยังไง การเดิมพันแบบหมดหน้าตักจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง และคราวนี้ฮันเล่นไพ่ด้วยความนิ่งที่เหนือชั้นกว่า จนชนะแล้วคว้ายานมิลเลนเนียมฟอลคอนมาเป็นของเขาได้สำเร็จ

– หนังจบลงด้วยการที่ฮันเดินทางไปดาวทาทูอีน บ้านเกิดของ ลุค สกายวอล์คเกอร์

Rogue One: A Star Wars Story (2016)

– ภาคนี้เล่าถึงตัวละครกลุ่มใหม่ที่มี จิน เออโซ ลูกสาวของ เกเลน เออโซ ผู้พัฒนาอาวุธให้จักรวรรดิเป็นตัวนำ

– มอน มอธมา กับผู้นำกองกำลังพันธมิตรที่ต่อต้านจักรวรรดิในขณะนี้ ต้องการให้จินไปติดต่อกับ ซอว์ เกอร์เรรา เพื่อหาตัวพ่อเธออีกทอด จินรับทำงานร่วมกับหุ่น K-2SO และแคสเซียน แอนดอร์ เพื่อเดินทางไปยังดาวเจดาห์ (แคสเซียนยังรับภารกิจลับให้สังหารเกเลนทันทีที่พบด้วย)

– เมื่อไปถึง นางเอกก็ได้ไปเจอความวุ่นวายในเมืองและได้รับความช่วยเหลือจากชีรุต อิมเว กับเบซ มัลบัส ก่อนที่ทั้งสี่จะถูกลูกน้องของซอว์จับตัวไป

– จินได้เจอกับซอว์ และได้เปิดข้อความของ เกเลน ที่ให้ข้อมูลให้ไปหาแบบแปลนของ เดธสตาร์ ที่ระบุจุดอ่อนของมัน ณ หอคอยซิทาเดล บนดาวสคาริฟ จังหวะนี้ ออร์สัน เครนนิก เอาเดธสตาร์มาทดสอบพอดี พวกของจินเลยต้องหิ้วเอา โบดี รูก นักบินที่คุณพ่อเกเลนมอบหน้าที่ให้ของส่งหนีมาด้วย ก่อนที่ดาวเจดาห์ จะถูกทำลายแหลกไม่เหลือซาก

– กลุ่มของจิน เดินทางไปดาวอีดูเพื่อตามหามเกเลน เวลาเดียวกับที่กองกำลังพันธมิตรบุกเข้าโจมตีฐานที่ เกเลนอยู่ ทำให้เกเลนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขายังได้เจอลูกสาวครั้งสุดท้ายก่อนเสียชีวิต

– ถึงจินจะเอาความจริงที่ว่าเดธสตาร์มีจริงแถมยังมีจุดอ่อนมาบอกกับฝ่ายพันธมิตร แต่สมาชิกส่วนมากไม่อยากเสี่ยง เธอและแคสเซียนจึงรวบรวมกองกำลังส่วนหนึ่งที่เห็นด้วยบุกไปยังดาวสคาริฟ

– ด้วยการทุ่มเทของทีม ‘โร้กวัน’ กองทัพพันธมิตรได้รับข้มูลแบบแปลนเดธสตาร์ และแม้ว่าดาร์ธ เวเดอร์ จะโผล่มาโชว์พาวนิดๆ หน่อยๆ ในภาคนี้ เพื่อยับยั้งการส่งข้อมูล แต่ความลับเดธสตาร์ก็ยังเล็ดลอดไปถึงเจ้าหญิงเลอา ออร์กานา แม้ก๊วนตัวเอกในหนังภาคนี้ตายเกือบหมดก็ตาม

Star Wars: Episode IV – A New Hope (1977)

– ยานของเจ้าหญิงเลอา ผู้นำของกองทัพพันธมิตรกบฎ ถูกยานของดาร์ธเวเดอร์ไล่ล่า เธอจึงตัดสินใจเอาข้อมูลลับฝากไว้กับ R2-D2 และ C-3PO หุ่นรับใช้ของเธอ ให้นำไปส่งยังอดีตเจไดนาม โอบีวัน เคโนบี ก่อนที่เธอจะถูกเวเดอร์จับตัวไป

– หุ่นทั้งสองลงไปกับยานฉุกเฉินที่ไปตกอยู่กลางทะเลทรายและถูกเอาไปขายเลหลัง แล้ว โอเวน ลาร์ส ผู้ปกครองของ ลุค สกายวอลค์เกอร์ ก็ได้รับซื้อทั้งคู่ไป

– ลุครู้ว่าหุ่นสองตัวกำลังตามหาตัว โอบีวัน เคโนบี หรือ เบน เคโนบิี เขาเลยพาหุ่นสองตัวนี้ไปหาเฒ่าเบนและได้รู้ว่า โอบีวัน เป็นอดีตอัศวินเจได เช่นเดียวกับพ่อของเขา โอบิวันจึงเล่าเรื่อง ดาร์ธ เวเดอร์ ที่เคยเป็นศิษย์ของเขาแต่เข้าด้านมืดไปแล้ว และมอบไลท์เซเบอร์ของอนาคินให้กับลุค ทั้งคู่ดูภาพโฮโลแกรมของ เลอา และตัดสินใจที่จะทำตามคำขอของเจ้าหล่อนด้วยการนำแปลนของเดธสตาร์ไปยังดาวอัลเดอราน

– โอบิวันชวนลุคให้ไปด้วยกัน แต่ถูกปฏิเสธ ก่อนที่จะกลับไปที่บ้านแล้วพบว่า กองกำลังจักรวรรดิเผาบ้านของลุคไปแล้วทั้งหมดจึงเดินทางไปด้วยกัน และได้พบกับ ฮัน โซโล พ่อค้าของเถื่อนกับคู่หู่ ชิวแบคคา ชาวคาชีคที่มียานมิลเลนเนียม ฟาลคอน ยานซึ่งขึ้นชื่อว่าเร็วที่สุดในจักรวาล

– เมื่อไปถึงดาวอัลเดอราน ดาวดันโดนเดธสตาร์ยิงทิ้งพอดี แถมพวกลุคยังถูกจับตัวได้อีก พวกเขาจึงต้องแยกกันทำงาน โดยที่โอบีวันหาทางปลดยานออกจากการล็อก ส่วนลุค ฮัน และชิวแบคกา ไปช่วยเลอา แต่ก่อนที่พวกเขาจะหนีรอดได้ ดาร์ธ เวเดอร์ ก็โผล่มาไล่ล่าด้วยตนเอง โอบีวันจึงอาสาสู้ถ่วงเวลา และเมื่อมั่นใจแล้วว่าพวกลุครอดแน่ เขาก็ได้ยอมให้เวเดอร์ฆ่าเสีย

– มิลเลนเนียม ฟาลคอนหนีไปถึงดาวยาวิน โฟว์ (Yavin 4) ฐานลับของกองทัพพันธมิตร โดยไม่รู้ว่าจริงๆ โดนติดเครื่องติดตามไว้ แต่กองทัพพันธมิตรก็ได้ทราบจุดอ่อนของเดธสตาร์เรียบร้อยแล้ว ลุคก็เข้าร่วมกองยานด้วยเหตุผลที่ว่า เจ้าตัวมีประสบการณ์หย่อนระเบิดลงหลุมเล็กๆ จากการทำไร่ทำนาบนดาวทาทูอีน ส่วนฮัน โซโล ที่ตอนแรกจะรับเงินและชิ่งไปเลย สุดท้ายก็ยอมมาช่วยลุค

– แม้จะถูกติดเครื่องติดตามทำให้แผนการบุกโดนดักทางไว้ แถมดาร์ธเวเดอร์ยังขับยานทายไฟท์เตอร์มาลุยเอง แต่ถึงจะเสียกองกำลังไปมาก สุดท้ายลุคที่ได้รับการชี้แนะจากวิญญาณของโอบีวันก็สามารถระเบิด เดธสตาร์ สำเร็จ เย้!

– ในตอนท้าย ลุค ฮัน และชิวแบคคา ได้รับเหรียญกล้าหาญจากการช่วยเหลือกองทัพพันธมิตร

Star Wars: Episode V – The Empire Strikes Back (1980)

– สามปีหลังจากทำลายเดธสตาร์ กองกำลังพันธมิตรย้ายไปอยู่บนดาวฮอธ (Hoth)

– ลุคได้ไปติดอยู่ในถ้ำน้ำแข็งและโดนจับตัวไว้โดยสิ่งมีชีวิตบนดาว แล้วเริ่มใช้ไลท์เซเบอร์เพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่วิญญาณของโอบีวันจะมาบอกให้ลุคไปฝึกวิชากับโยดา ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบดาวเดโกบาห์ (Dagobah) … ฮัน โซโล โผล่มาเจอลุค แต่ก็ยังไม่สามารถเอาตัวรอดได้จนกระทั่งทีมช่วยเหลือมาถึงอีกที พอรอดกลับมาจากถ้ำฮันกับชิวแบคคา ได้สำรวจสะเก็ดดาวก่อนพบว่าจริงๆ แล้วเป็นยานสอดแนมของจักรวรรดิ

– จักรวรรดิส่งกองกำลังขนาดใหญ่มาถล่ม จนสามารถทำให้ฐานที่มั่นของพันธมิตรถูกตีแตก ฮันกับชิวแบคคาพาเลอาและ C-3PO หนีไปด้วยกัน แต่ยานได้รับความเสียหายจนวาร์ปไม่ได้ จึงต้องซ่อนตัวในสะเก็ดอุกกาบาต (ฮันกับเลอาสปาร์ครักจนถึงขั้นจูบกัน) และระหว่างนั้นเวเดอร์ก็ได้สั่งให้โบบา เฟทท์ ออกตามหายานมิลเลนเนียม ฟาลคอน

– ส่วนลุคกับ R2-D2 ขับยานเอ็กซ์วิงก์เดินทางไปยังเดโกบาห์เพื่อเจอกับโยดาที่ซ่อนตัวอยู่ แล้ววิญญาณโอบิวันก็ปรากฏตัวขึ้นมาโน้มน้าวให้โยดาตกลงฝึกลุคเป็นเจได

– ด้านฮันที่เดินทางไปยังนครเมฆาบนดาวบีสปิน (Bespin) ซึ่งมี แลนโด คาลริสเซียน เพื่อนของฮันเป็นเจ้าเมือง แต่สิ่งที่ฮันไม่รู้คือกองกำลังจักรวรรดิแอบมาถึงที่นี่ก่อนแล้ว และให้แลนโดวางกับดักจับตัวฮัน และเลอาแลกกับการไม่ทำร้ายคนในเมือง

– ลุคที่ฝึกวิชาอยู่ดันเห็นภาพนิมิตพอดี เลยตัดสินใจละการฝึกไปช่วยเพื่อน แม้จะถูกโยดาห้ามไว้

– ส่วนเวเดอร์ที่ทำข้อตกลงกับแลนโด ให้คุมตัวเลอากับชิวแบคคาไว้ ก่อนจะทดลองแช่แข็งฮันด้วยคาร์บอไนต์ที่เดิมทีตั้งใจจะใช้งานกับลุค และส่งต่อฮันผู้โดนแช่แข็งให้ แจบบา เดอะ ฮัทท์ เจ้าหนี้ที่ฮันไปติดเงินไว้ แต่สุดท้าย แลนโดก็ช่วยเหลือเลอากับชิวแบคคาก่อนจะนำยานมิลเลนเนียม ฟาลคอนหนีไป

– เมื่อลุคมาถึงนครเมฆา ก็ได้บู๊กับโบบา เฟทท์แป๊บนึง แล้วไปปะทะกับเวเดอร์ต่อ เวเดอร์ที่เหนือกว่า ก็ได้ฟันมือของลุคขาด และประกาศความจริงว่า “ไม่, ข้าคือพ่อของเจ้า” ลุคที่อึ้งกับคำพูดที่เพิ่งได้ยินไปก็ตอบกลับไปว่า “ไม่… ไม่… มันไม่จริง มันเป็นไปไม่ได้! ไม่! ไม่!” ก่อนร่วงลงไปยังด้านล่างสุดของนครเมฆาและใช้พลังส่งจิตไปบอกเลอาให้มาช่วย เลอามารับลุคพร้อมกับแลนโดด้วยมิลเลนเนียม ฟาลคอนที่ได้ R2-D2 ช่วยซ่อมระบบวาร์ปให้

– ตอนท้ายสุดของภาค ลุคได้ติดตั้งมือเทียม ส่วนแลนโดกับชิวแบคคาเดินทางไปทาทูอีนเพื่อหาทางช่วย ฮันจากแจบบา เดอะ ฮัทท์

Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi (1983)

– ลุค, เลอา, แลนโด, ชิวแบคคา, C-3PO และ R2-D2 หาทางช่วยเหลือฮันจากแจบบา เดอะ ฮัทท์ โดยเลอาปลอมตัวเป็นนักล่าค่าหัวและให้ชิวแบคคาปลอมเป็นนักโทษที่เธอจับมา แม้เธอจะสามารถละลายฮัน จากการโดนแช่แข็งได้ แต่ก็ดันถูกจับได้

– ทางลุคก็ใช้พลังสะกดจิตคนได้จำนวนหนึ่ง ก่อนจะถูกจับได้ แล้วโยนให้ไปสู้กับสัตว์ประหลาด แม้จะชนะมาได้ แต่ก็ถูกคนหมู่มากคุมตัวไว้ ก่อนที่จะจับให้ไปอยู่กับฮันเพื่อที่จะโยนให้สัตว์ประหลาดในทะเลทรายกิน ยังไงก็ตาม ลุคสามารถใช้พลังและไลท์เซเบอร์ต่อสู้กับกองกำลังของแจบบา และยังทำให้โบบา เฟทท์ โดนยิงจรวดบนหลังระเบิดจนเข้าปากสัตว์ประหลาดไป ระหว่างที่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น เลอาก็รัดคอแจบบา เดอะ ฮัทท์จนตาย (หลังจากนั้นก็มีแจบบาอื่นมาแทน)

– พวกฮันหนีกลับไปยังฐานของกลุ่มพันธมิตร ส่วนลุคกลับไปหาโยดาที่ใกล้จะเสียชีวิต พร้อมยืนยันว่า เวเดอร์เป็นพ่อลุคและยังมีสกายวอลค์เกอร์อีกคนหนึ่ง ซึ่งวิญญาณโอบีวันได้มาบอกเองเลยว่า อีกคนที่ว่าคือ เลอาผู้เป็นแฝดของลุค ก่อนจะบอกว่าลุคต้องสู้กับเวเดอร์อีกครั้งเพื่อเอาชนะจักรวรรดิ

– ส่วนทางทัพพันธมิตรได้ทราบว่า เดธสตาร์ดวงใหม่ถูกสร้างขึ้นแล้ว และตัวจักรพรรดิของจักรวรรดิก็ได้ไปดูแลการก่อสร้างด้วยตนเอง ถึงแม้คราวนี้ดาวมรณะดวงใหม่จะยังไม่เสร็จดี แต่ก็มีสนามพลังห่อหุ้มอยู่ กองกำลังพันธมิตรจึงวางแผนแบ่งกำลังพลเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งนำทัพโดยฮัน เดินทางไปยังป่าบนดวงจันทร์ของดาวเอนดอร์ (Endor) เพื่อทำลายเตาพลังงานของสนามพลัง ส่วนอีกกองกำลังจะรอโจมตีเพื่อถล่ม เดธสตาร์ดวงใหม่อีกครั้ง

– ลุคกับเลอาได้เดินทางไปยังดวงจันทร์ดังกล่าว และได้พบกับเผ่าอีวอค (Ewoks) ซึ่งโชคดีที่ทั้งสองคนสามารถทำให้เผ่านี้ไว้ใจและช่วยเหลือพวกเขาได้ แล้วลุคก็ได้บอกกับเลอาว่า เธอเป็นน้องสาวของเขา และเวเดอร์เป็นพ่อของพวกเขา และในตอนสุดท้ายเขาต้องไปตัดสินเรื่องนี้กับเวเดอร์

– ลุคเดินทางไปมอบตัวกับทหารจักรวรรดิเพื่อให้พาไปพบกับเวเดอร์ เวเดอร์กล่อมให้ลุคเข้าด้านมืด แต่ไม่เวิร์ก เวเดอร์เลยพาไปกับจักรพรรดิพัลพาทีน (ดาร์ธ ซีเดียส) ก่อนจะได้รู้ความจริงว่า จริงๆ เดธสตาร์ใช้งานได้แล้ว แต่เป็นแผนการที่ล่อกองทัพใหญ่ของพันธมิตรมาเชือดทิ้งต่างหาก

– จังหวะนั้นฮันผู้นำทัพทำลายโล่พลังงาน ก็ถูกกองกำลังจักรวรรดิคุมตัวไว้ได้ แต่เผ่าอีวอคมาช่วยไว้ได้ทัน แถมทำให้สถานการณ์กลับด้านโดยปริยาย แต่แลนโดที่เป็นผู้นำทัพฝั่งยานอวกาศพบว่าสนามพลังของเดธสตาร์ยังไม่ถูกปิด

– พัลพาทีนพยายามยุให้ลุคโกรธเพื่อจะเข้าด้านมืดขณะกำลังการดวลดาบกับเวเดอร์ เวเดอร์สัมผัสได้ว่า ลุคมีน้องสาว เลยพยายามบอกว่าจะพาเลอาเข้าด้านมืด ลุคเลยโกรธจริงจังจนสามารถเอาชนะเวเดอร์ได้ พัลพาทีนยุให้ลุคฆ่าเวเดอร์ แต่ลุคปฏิเสธเพราะเขาเลือกวิถีแห่งเจได ได้ยินแบบนั้น พัลพาทีนเลยปล่อยไฟฟ้าใส่ลุคโลด เวเดอร์ที่เห็นลูกชายโดนทำร้าย ก็เอาตัวเข้าขวาง ก่อนจะโยนพัลพาทีนลงปล่องเตาพลังงาน …ครับ ดาร์ธซิเดียส ตายตรงนี้แหละ

– ลุคเข้าไปหาเวเดอร์ที่ขอให้ถอดหน้ากากเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะจากไปในอ้อมกอดของลูกชาย และแล้วกองทัพบนดวงจันทร์ก็สามารถปิดสนามพลัง ทำให้กองยานถล่มเดธสตาร์พังได้อีกครั้ง

– ศึกใหญ่จบลง ลุคนำร่างของเวเดอร์มาเผาบนดวงจันทร์ และเผยกับฮัน โซโลว่า จริงๆ แล้วเขากับเลอา เป็นพี่น้องกัน ไม่ได้กิ๊กกั๊กหรอกนะ ฮันกับเลอาก็ดี๊ด๊าแฮปปี้เอนดิ้ง

– หนังจบลงด้วยการที่ลุคเห็นวิญญาณของ โอบีวัน, โยดา และอนาคิน ยืนเคียงข้างกันในฐานะเจได

Star Wars: Episode VII – The Force Awakens (2015)

– สามสิบปีหลังจากการทำลายเดธสตาร์ดวงที่สอง กองกำลังปฐมภาคี (First Order) อันเป็นกองกำลังที่ก่อตั้งจากกลุ่มกองทัพจักรวรรดิในอดีตเริ่มหาทางกำจัดสาธารณรัฐใหม่ เพื่อสร้างอำนาจให้ตัวเองอีกครั้ง แต่จักรวาลยังไม่สิ้นคนดี เพราะนายพลเลอา ออร์กานาได้ก่อตั้งกองกำลังต่อต้านเอาไว้

– จริงๆ รายละเอียดของปฐมภาคีกับกองกำลังต่อต้าน มีรายละเอียดในนิยายทางการกับหนังสือไกด์บุ๊ก สรุปคร่าวๆ ไว้ว่า ปฐมภาคีใช้วิธีการที่แนบเนียนในการรวมกองกำลังขึ้น จากเดิมใช้ทหารเป็นกองทัพโคลนเปลี่นมาเป็นการสมัคร ตอนนี้ใช้วิธีการลักพาตัวเด็กมาฝึกแต่เล็กทำให้พวกเขาไม่มีความคิดจะต่อต้าน ส่วนกองกำลังต่อต้านก็ก่อตั้งขึ้นมาลับๆ เพราะสภาสูงของสาธารณรัฐใหม่ไม่เชื่อนักว่าจะมีการรวมตัวของอดีตกองทัพจักรวรรดิได้

– เรื่องในหนังเริ่มต้นเมื่อ โพ ดาเมรอน ได้รับคำสั่งให้ตามหา ลุค สกายวอล์คเกอร์ เจไดคนสุดท้ายที่หายตัวไป โพได้พบกับผู้อาวุโสในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของดาวแจคคู และได้รับแผนที่ระบุที่ซ่อนตัวของลุคไว้ แต่ไม่ทันไร ไคโล เรน ก็ปรากฏตัวพร้อมกับกองกำลังเพื่อเข้าบุกทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ โพจึงเอาข้อมูลลับไปฝากไว้กับหุ่น BB-8 ที่หนีรอดไปได้และตกไปอยู่ในการดูแลของ เรย์ เด็กสาวลึกลับที่อยู่ตัวคนเดียวบนดาวดวงนี้

– โพถูกไคโล เรนทรมานเพื่อให้บอกที่ซ่อนของแผนที่ แต่สุดท้ายได้ทหารสตอร์มทรูเปอร์ FN-2187 ช่วยไว้ โพกับทหารคนนี้หนีไปด้วยกัน แต่เพราะชื่อรหัสมันยาว โพเลย รียกเขาว่า ฟินน์ อิงจากเลขรหัสเจ้าตัว ทั้งคู่หนีด้วยยานทายไฟท์เตอร์และร่อนตกลงไปบนดาวแจคคูด้วยกัน

– ฟินฟื้นขึ้นมาพร้อมกับโพที่หายไปจึงคาดว่า โพตายแล้ว และออกเดินทางจนได้ไปเจอกับเรย์และ BB-8 ในที่สุด … กองทัพปฐมภาคีเข้าโจมตีตลาดที่เรย์มาแลกของ สองคนกับหนึ่งหุ่น เลยต้องตัดสินใจหนีจากที่่นั่นด้วยยานมิลเลนเนียม ฟาลคอน แต่หนีออกจากดาวได้ไม่ทันไร ยานฟาลคอนดันโดนจับตัวไว้ด้วยเจ้าเก่าของยานลำนี้อย่างฮัน โซโล กับชิวแบคคคา

– แม่จะได้ยานเก่าคืน พี่ฮันเราดันโดนแก๊งที่ไปติดหนี้มาทวงหนี้พอดี แล้วพอดี…ในยานมีสัตว์ประหลาดยักษ์ซึ่งสุดท้ายก็เผลอถูกปล่อยออกมาเพื่อเก็บเจ้าหนี้เหล่านี้

– อีกด้านเราได้รู้ว่าปฐมภาคีมีผู้นำสูงสุดชื่อว่า สโนค ซึ่งพวกเขาพัฒนาอาวุธใหม่ที่ชื่อ สตาร์คิลเลอร์ (Star Killer)

– และในช่วงนี้เราก็ได้รู้ว่า ไคโล เรน แท้จริงคือลูกของ ฮัน โซโล และมีใบ้ๆ ว่า ไคโล เรนเคยฝึกวิชากับ ลุค ก่อนจะก้าวเข้าด้านมืด ทำให้ลุคตัดสินใจปลีกวิเวก

– กลับมาทางกลุ่มเรย์ พวกเขาได้พบว่าแผนที่ของ BB-8 ยังไม่สมบูรณ์ พวกเขาจึงเดินทางไปยังดาวทาโคดานา (Takodana) เพื่อขอความช่วยเหลือจาก มาซ คานาตา (Maz Kanata) หญิงสาวที่สามารถสัมผัสถึงพลังได้

– เรย์ได้ถูกพลังชี้นำไปยังห้องเก็บของที่มีไลท์เซเบอร์ที่ลุคและอนาคินเคยใช้งาน แต่เธอรู้สึกแปลกๆ กับภาพนิมิตที่ได้เห็นและหนีออกไป มาสจึงเอาไลท์เซเบอร์ไปฝากกับฟินน์ที่ตอนแรกกะจะหนีไปใช้ชีวิตคนเดียวเงียบๆ

– ต่อมาไม่นาน สตาร์คิลเลอร์ทดลองยิงครั้งแรก …ซัดตูมไปยังเมืองหลวงของสาธารณรัฐใหม่ ก็คงไม่ต้องเถียงแล้วว่า ปฐมภาคีอันตรายไหม ในขณะเดียวกันปฐมภาคีก็ส่งกองกำลังมาโจมตีดาวทาโคดานา ที่ฮัน ชิวแบคคา และ ฟินน์ เข้าต่อสู้กับปฐมภาคี จนสุดท้ายกองยานเอ็กซ์วิงก์ของกองกำลังต่อต้าน

– เลอากับฮันพบหน้ากันอีกครั้งในฐานะสามีภรรยาที่่ห่างเหินกันไปนาน ทางโพกับฟินน์ที่ต่างฝ่ายต่างดีใจที่พวกเขารอดชีวิตกลับมาเจอกัน แล้วทุกคนก็โยกย้ายไปยังฐานของกองทัพต่อต้าน

– ด้านเรย์โดนจับตัวไปยังสตาร์คิลเลอร์ และถูก ไคโล เรน สอบสวนว่าเธอเป็นใคร แต่สถานการณ์กลับด้านเพราะเรย์กลับอ่านใจไคโล เรนได้ จนทำให้เขารู้สึกสับสน

– กองกำลังต่อต้านตัดสินใจโจมตีสตาร์คิลเลอร์ แต่เมื่อเลอาบอกฮันว่าลูกชายของพวกเขา เบน โซโล หรือ ไคโล เรน ยังมีชีวิตอยู่ ฮัน, ชิวแบคคา และ ฟินน์ จึงตัดสินใจ ลอบเข้าไปบนสตาร์คิลเลอร์

– ส่วนเรย์ก็ใช้พลังสะกดจิตทหารยามและสามารถออกจากที่คุมขังได้ ก่อนที่จะได้เจอับฟินน์อีกครั้งเพื่อวางระเบิดทำลายสตาร์คิลเลอร์

– ด้านที่ฮันได้เจอไคโล เรน ก็พยายามจะเรียกด้วยชื่อ เบน ให้ลูกชายของเขากลับไปหาครอบครัวอีกครั้ง แต่ไคโล เรนกลับฆ่าฮัน โซโล จนชิวแบคคาโกรธจัดยิงปืนเลเซอร์ใส่เรน ในจังหวะที่ระเบิดภายในสตาร์คิลเลอร์เริ่่มทำงาน

– ระหว่างที่ดาวกำลังจะระเบิด ไคโล เรนได้พยายามไล่ล่าฟินน์กับเรย์ และได้ปะทะกันจนฟินน์พลาดท่า แล้วเรย์ก็เอาไลท์เซเบอร์มาใช้ต่อ ทั้งคู่ดวลดาบกันในขณะที่ดาวกำลังจะระเบิด แล้วเรย์ก็สามารถเอาชนะ ไคโล เรนได้ หลังจากนั้นเรย็ก็รีบพาตัวฟินน์หนีไปพร้อมชิวแบคคาด้วยยานมิลเลนเนียม ฟาลคอน

– สโนคสั่งให้นายพลฮักซ์พาตัวไคโล เรนหนีกลับมาเพื่อฝึกให้สำเร็จ

– R2-D2 ที่ปิดเครื่องตัวเองไปนาน ได้รีบูตตัวเองอีกครั้งแล้วเปิดแผนที่ ซึ่งมาประกอบกับไฟล์ที่ BB-8 มีอยู่ทำให้พบว่าเป็นแผนที่ของกลุ่มดาวที่ลุคไปซ่อนตัว

– หนังจบลงที่เรย์เดินทางไปพบลุค และมอบไลท์เซเบอร์คืนให้กับผู้เป็นเจ้าของ

Star Wars: Episode VIII – The Last Jedi (2017)

– หนังเริ่มต้นด้วยกองกำลังต่อต้านต้องอพยพอีกครั้ง นายพลเลอา ได้ฝากงานสลัดกองเรือของกองกำลังปฐมภาคีไว้กับ โพ ดาเมรอน แผนการเป็นไปอย่างฉุกละหุก แต่โชคดีที่แผนการระเบิดเรือรบขนาดใหญ่เดรดนอตประสบความสำเร็จ แลกกับการสละชีวิตกองยานทิ้งระเบิดทั้งหมด ส่วน ฟินน์ เพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บตอนวาร์ปเข้าสู่ไฮเปอร์สเปซ

– นายพลฮักซ์ ที่ทำกองทัพปฐมภาคีเสียกำลัง ก็เจอ สโนค ใช้พลังลากลงพื้นนิดหน่อย โทษฐานที่ทำงานให้เสียหาย แต่นายพลฮักซ์บอกว่าได้วางหมากอะไรบางอย่างไว้แล้ว

– ภาพตัดไปที่ เรย์ ที่เอาไลท์เซเบอร์ไปคืนให้ ลุค สกายวอล์คเกอร์ แต่สิ่งที่มนุษย์ชราทำคือ… โยนไลท์เซเบอร์ทิ้ง สร้างความมึนงงกับเรย์ (และคนดู) เรย์พยายามตามติดชีวิตลุคโดยบอกว่า เลอาขอให้มาช่วยนะ แต่ลุคไม่ยอม ขอขังตัวเองในบ้านเฉยๆ สุดท้ายก็เลยชิววี่เลยพังประตูให้เรย์ และก็เป็นอันรู้กันว่า … ฮัน โซโล ได้จากไปแล้ว

– กลับมาทางปฐมภาคี สโนคกับ ไคโล เรน ทบทวนเหตุการณ์ในอดีตที่สังหารฮันและความพ่ายแพ้ต่อเรย์ แต่ผลพวงจากการต่อสู้นั้นเหมือนจะทำให้ ไคโร เรน มีความอ่อนไหวผลิขึ้นในดวงจิต

– ทำให้ ไคโล เรน ได้โชว์ฉากเด็กอีโมพังข้าวของอีกครั้ง พร้อมกับความตั้งใจจะไล่ล่า ลุค สกายวอล์คเกอร์ ตามคำยุของสโนค

– ส่วนลุคที่ฟังสปอยล์ เอ้ย เรื่องราวจากหนังภาค 7 ก็บอกชัดว่าจะไม่ไปช่วยกองกำลังของน้องสาวด้วยการฉายเดี่ยวถือดาบไปปราบอธรรมแน่ๆ เรย์ตามตื้อลุค แต่สุดท้ายชายชราก็ยืนยันว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วย จนกระทั่งสถานที่แห่งหนึ่งดึงดูดหญิงสาวเข้าไปหาคัมภีร์ต้นฉบับของเหล่าเจได ภาวะของผิดวิสัยของเรย์ทำให้ลุคเริ่มสนใจว่าเด็กสาวมีเป้าประสงค์เบื้องลึกในใจเป็นแบบใด เรย์จึงเปิดใจว่ามีอะไรในตัวที่เธอเริ่มคุมไม่ได้ ลุคเข้าใจทันทีว่าเด็กสาวต้องการอาจารย์ แต่เจ้าตัวยืนยันไม่คิดจะฝึกเจไดอีก

– การเดินทางด้วยไฮเปอร์สเปซของกองกำลังต่อต้านสิ้นสุุดลง เช่นเดียวกับกองกำลังของปฐมภาคี ที่คราวนี้สโนคนำทัพมาด้วยตัวเอง กำลังต่อต้านต่างตื่นตกใจ เพราะปกติถ้าเข้าไฮเปอร์สเปซแล้วไม่น่าจะมีใครตามรอยมาเจอ แสดงว่าปฐมภาคีมีเทคโนโลยีบางอย่างที่สามารถติดตามกองยานในขณะวาร์ปได้

– ศึกรบกลางอวกาศเริ่มขึ้นอีกครั้ง ไคโล เรน สัมผัสได้ว่าแม่ของเขาอยู่บนยานแม่ของกองกำลังต่อต้าน แต่เหมือนว่าความเป็น เบน โซโล จะรบกวนใจทำให้เขาลั่นไกไม่ลง จนกระทั่งมียานรบลำอื่นมาช่วยยิงให้ ห้องบัญชาการของนายพลเลอาถูกยิงถล่ม ส่งผลให้นายพลกระเด็นไปนอกตัวยาน (อ้าว?)

– เลอาใช้พลังดึงตัวเองจากห้วงอวกาศเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยได้สำเร็จแต่ก็อาการสาหัส ส่งผลให้ผู้นำโดยส่วนใหญ่ของกองกำลังต่อต้านตกเป็นหน้าที่ของ พลเรือโท อมิลีน โฮลโด มาทำหน้าที่บัญชาการทัพ แต่โพกับโฮลโดเหมือนจะไม่ถูกโฉลกกันในสไตล์การทำงาน

– ฟินน์พยายามจะหนีออกจากกองยานของกองกำลังต่อต้าน และได้พบกับ โรส ทิโก ที่เสียพี่สายไปในกองยานทิ้งระเบิด โรสพบว่าฟินน์พยายามจะหนีทัพ เลยอัดไฟช๊อตซะ… ช่างเป็นการพบกันที่ร้อนแรงเสียจริง

– ฟินน์เล่าว่ากองกำลังปฐมภาคีสามารถตามรอยกองยานต่อต้านจากการเดินทางไฮเปอร์สเปซได้ โรสจึงได้ไอเดียว่าต้องหาทางทำลายระบบติดตามด้วยการเดินทางไปทำลายห้องจ่ายพลังงานในยานสตาร์เดสทรอยเยอร์ ทั้งคู่นำแผนไปเสนอให้กับโพ กระนั้นการจะเข้าไปในยานของสโนค จำเป็นต้องมีคนถอดรหัสยานแม่ได้

– สามคนที่สุมหัวกันคิดแผนจึงติดต่อ มาซ คานาตา ที่แนะนำให้ไปหานักถอดรหัสมือดี (The Master Codebreaker) ที่อยู่บนดาวอีกดวง เพราะตัวของมาซกำลังติดพันกับการต่อสู้อยู่

– เหตุพิสดารเกิดขึ้นเมื่อ ไคโล เรน กับเรย์ สามารถสัมผัสจิตของกันและกันได้ผ่านพลังของ แต่การเสวนาก็จบลงโดยเร็วเมื่อลุคปรากฎตัว

– ลุคเริ่มสอนวิธีการใช้พลังให้กับเรย์ ซึ่งเป็นการยืนยันว่าเธอเป็นผู้ใช้พลังที่แข็งแกร่ง แต่ในขณะเดียวกันเรย์ก็พบพลังด้านมืดที่เย็นเยียบที่เรียกหาตัวเธออยู่ ระดับที่ทำให้หินผาแตกร้าวเลยทีเดียว ลุคกลัวในพลังของเรย์ที่รุนแรงไร้การควบคุม ก่อนเด็กสาวจะพบว่าชายชราปิดกั้นตัวเองจากการใช้พลังนานแล้ว

– เรย์กับไคโล เรน เชื่อมต่ออีกครั้ง ทั้งสองสนทนากันไม่นาน แต่เหมือนจะสามารถสัมผัสเชื่อมโยงกันมากขึ้น

– ฟินน์กับโรสเดินทางไปดาวคานโตไบทต์เพื่อตามหานักแกะรหัสในคาสิโนของดาวดังกล่าว ในระหว่างที่กำลังตามหานักถอดรหัส โรสก็บอกเล่าถึงอดีตของเธอให้ฟินน์ฟังว่า เธอถูกกองกำลังปฐมภาคีใช้งานหนักไม่ต่างกับเด็กๆ ที่เป็นทาสที่ทำงานให้กับเมืองแห่งการพนันนี้เลย

– เรย์ยังฝึกฝนต่อและรับฟังเรื่องราวของลุค ในค่ำคืนที่เขาพยายามรับมือกับ เบน โซโล ที่กำลังเข้าหาด้านมืด จนกลายเป็นเหตุที่ทำให้ลูกศิษย์ส่วนหนึ่งแปรพรรคไปเข้าด้านมืด กับอีกส่วนถูกสังหาร อันเป็นผลพวงจากความที่คนต่างมองว่า “ลุค สกายวอล์คเกอร์ เป็นตำนาน” เลยทำให้ ลุค หนีมาปลีกตัว ซึ่งเรย์กล่าวว่า เขาจะไม่ทำให้ลุคผิดหวังแต่อย่างใด

– ฟินน์กับโรสถูกจับไปเนื่องจากการจอดยานแบบผิดกฎหมาย แต่ทำให้พวกเขาได้พบกับ ดีเจ (DJ) นักถอดรหัสโดยบังเอิญ ฟินน์กับโรสที่หนีออกจากคุกโดยได้รับการร่วมมือจาเด็กๆ ที่ดูแลสัตว์ภายในเมืองการพนันแห่งนี้ ส่วนดีเจที่ได้รับการช่วยเหลือ จาก BB-8 (?) ก็นำยานอีกลำมาช่วยเหลือฟินน์กับโรสที่กำลังจนมุม

– ลุคกลับมาใช้พลังอีกครั้งและสัมผัสถึงเลอาได้

– เรย์กับไคโล เรน เชื่อมต่ออีกครั้ง …แต่งวดนี้ไคโลไม่ได้ใส่เสื้ออยู่ ทำให้การคุยดูจะแปลกตาหน่อย เรย์ถามว่าทำไม ไคโล เรน ถึงพยายามฆ่าพ่อของเขาเอง แต่ไม่ได้คำตอบชัดเจน ส่วนเรย์ได้รับฟังความจริงจากมุมของ ไคโล เรน ว่าเขาพยายามป้องกันตัวเองจากการลอบสังหารของลุคต่างหาก

– “ให้อดีตมันตายไป ฆ่ามันซะ…ถ้าจำเป็น” ไคโล เรน กล่าวกับเรย์ คำดังกล่าวเหมือนการล่อลวงแต่ก็มีความจริงที่น่าค้นหาซ่อนอยู่ ทำให้เรย์ตัดสินใจเดินทางไปบริเวณที่มีด้านมืดของพลังแข็งแกร่งด้วยตัวเอง ที่แห่งนั้นได้แสดงภาพที่ใจเธอปรารถนานั่นก็คือ ภาพของพ่อแม่ แต่สิ่งที่เธอพบที่นั้นกลับมีแค่เงาสะท้อนของตัวเอง ทำให้เรย์รู้สึกเดียวดายยิ่งกว่า และเหมือนจะทำให้เรย์ตอบสนองต่อไคโล เรน มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

– ลุคเข้ามาขัดขวางในช่วงที่เรย์กับไคโล เร็น กำลังจะเชื่อมต่อผ่านพลัง และเรย์พยายามหาคำตอบว่าลุคตั้งใจจะฆ่า เบน โซโล จนทำให้เขาตัดสินใจไปเป็น ไคโล เรน หรือไม่

– ลุคเล่าความจริงอีกครั้ง แล้วพบว่าจริงๆ ตอนแรกเขาแค่พยายามมองเข้าไปด้านในจิตใจของ เบน โซโล จนเผลอใจชักดาบประจำตัวออกมา แม้ว่าจะรู้ตัวว่ตัวเองผิดพลาด แต่เบนที่นอนอยู่ย่อมไม่คิดเช่นนั้น จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมขึ้น

– เรย์เชื่อว่าเธอยังสามารถดึง เบน โซโล กลับมาได้ ทำให้เธอตัดสินใจเดินทางออกจากดาวที่ลุคอาศัยอยู่

– ส่วนลุคเดินไปสถานที่เก็บคัมภีร์เจไดเพื่อจะเผาทำลาย แต่ด้วยใจที่ไม่นิ่งพอ อาจารย์โยดาที่หลงเหลือในภาวะวิญญาณก็โผล่มาทำการเผาที่แห่งนั้นและคัมภีร์จดหมดสิ้นทิ้ง พร้อมให้คำแนะนำลุคว่า ไม่ใช่เพราะว่าเจไดนั้นต้องสิ้นสุด แต่เป็นการบอกกล่าวว่า ลุคมองไปยังเรื่องราวในอดีตมากเกินไปจนไม่ได้มองเรื่องราวปัจจุบันเอาเสียเลย “จงส่งต่อสิ่งที่เจ้ารู้ กำลัง ความเชี่ยวชาญ รวมถึงจุดอ่อน ความเขลา ความล้มเหลว ใช่ โดยเฉพาะความล้มเหลว อาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความล้มเหลว” อาจารย์โยดากล่าวต่อชายชราที่สุดท้ายแล้วก็ยังเป็นศุิษย์วัยเยาว์ “ลุค… ศิษย์นั้นต้องไปได้ไกลกว่าตัวเรา นี่คือหน้าที่แท้จริงของเหล่าอาจารย์”

– ด้านฟินน์, โรส และดีเจ เดินทางไปยานของสโนค ซึ่งดีเจขอรับค่าจ้างล่วงหน้า ซึ่งโรสยอมสละสร้อยประจำตัวอันเป็นแร่หายากเป็นมัดจำล่วงหน้าให้

– กลับไปทางฝั่งกองยานของกองกำลังต่อต้าน ที่เวลานี้ยานใหญ่แทบทุกลำนั้นยอมสละเรือเพื่อรักษากองกำลังหลักไปแล้ว และแผนของโฮลโดคือการพยายามอพยพทุกคนลงเรือเล็ก ทิ้งให้เรือใหญ่เป็นเป้าถูกทำลาย ทำให้โพโกรธเกรี้ยวในความไม่พยายามต่อสู้ และแตกหักกับโฮลโด

– ส่วนเรย์ที่เดินทางกลับมาจากการฝึกฝนและตามหาความจริง ได้ส่งตัวเองไปพบ ไคโล เรน ที่สั่งให้สตอร์มทรูปเปอร์มาควบคุมตัวซะงั้น

– โพเผยแผนลับของตัวเองให้กับโฮลโด แต่เธอไม่รับฟัง โพกับเพื่อนที่เข้าข้างเขาก็ใช้กำลังยึดสะพานเรือกลับมา

– ถึงเรย์จะโดนคุมตัว เธอก็พยายามโน้มน้าวใจ ไคโล เรน ให้กลับมาด้านสว่าง แต่ไคโล เรน เชื่อว่าจะเป็นเรย์ต่างหากที่กลับใจมาเข้าข้างเขา โดยไคโล เรน ได้พาเรย์ไปพบกับสโนคตัวเป็นๆ

– ส่วนฟินน์, โรส และดีเจ ที่สุดท้ายก็ฝ่าเข้าไปพื้นที่ด้านในของยานได้ กลับถูกกองกำลังปฐมภาคีจับได้ โพที่รับฟังการสื่อสารจึงรู้ว่าแผนลับของพวกเขาล่ม ขณะเดียวกัน สะพานเรือก็ถูกคนลึกลับบุกเข้ามา… คนที่ว่าคือนายพลเลอา ที่คืนสติเรียบร้อยและซัดโพให้สลบด้วยปืน และมีการเปิดเผยว่า แผนการของโฮลโดก็คือการใช้เรือธงเป็นตัวล่อเป้าให้ยานอพยพพาทุกคนที่เหลืออยู่เกือบทั้งหมดไปยังดาวเครต ฐานทัพเก่าของฝ่ายต่อต้าน และโฮลโดตั้งใจจะสละชีวิตตัวเองในแผนการนี้

– สโนคปะทะคารมกับเรย์ และได้เปิดเผยว่า สัมผัสระหว่างพลังทั้งหมดที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เป็นแผนการของตัวสโนคเองที่ตั้งใจวางกับดักทำให้เรย์เข้าใจว่าเธอจะสามารถกลับใจของไคโล เรน หลังจากนั้นสโนคเริ่มใช้พลังเพื่อดึงความลับของลุคออกมา

– ฟินน์กับโรสถูกนายพลฮักซ์จับกุมไว้ ส่วนดีเจก็เผยว่าได้ขายข้อมูลของกองยานต่อต้านให้เพื่อเอาตัวรอดตาย ทำให้กองยานอพยพโดนยิง

– เรย์พยายามต้านพลังของสโนค แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะพลังที่ต่างชั้นกันอย่างมาก และสโนคสั่งให้ไคโล เรน ปลิดชีวิตเรย์ทิ้ง ซึ่งสโนคมั่นใจมากว่า ไคโล เรน จะไม่ขัดขืนคำสั่ง ทว่า… ไคโล เรน แอบควบคุมไลท์เซเบอร์ของเรย์ (หรือก็คือของลุค) ที่อยู่ใกล้ตัวสโนคให้ทำงาน จึงทำให้สโนคตายอนาถ ก่อนที่เรย์กับไคโล เรน จะร่วมกันกำจัดกองกำลังส่วนตัวที่เหลืออยู่ของสโนค

– การร่วมมือของไคโล เรน กับเรย์สิ้นสุดลง ไคโล เรน ได้ยื่นข้อเสนอว่าจะให้เรย์กับเขามาทำงานร่วมกันเพื่อก้าวข้ามทั้งเจไดและซิธ แต่เรย์ไม่ตกลง ทั้งยังเปิดเผยว่าจริงๆ แล้ว เรย์สัมผัสได้แล้วว่าพ่อแม่ของเธอเป็นแค่คนธรรมดาสามัญ แต่ ไคโล เรน ก็กล่าวว่าสำหรับเขาแล้วเธอเป็นคนสำคัญ แม้จะฟังดูเป็นเรื่องที่งดงามแต่สุดท้ายเรย์ก็ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวและพยายามดึงไลท์เซเบอร์ของลุคคืนมา

– ด้านโฮลโดที่อยู่บนยานแม่ของกองกำลังต่อต้านเห็นเเพื่อนพ้องโดนไล่ยิงไปทีละลำ ก็เริ่มหาทางแก้ให้สถานการณ์ดีขึ้น และคราวนี้ โพทราบแล้วว่านายพลหญิงไม่ได้คิดหนี เพราะสิ่งที่เธอทำคือการตัดสินใจสละตัวเองและยานแม่ทำลายเรือรบของปฐมภาคี

– เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันมากมาย เรย์กับไคโล เรน แลกพลังกันจนไลท์เซเบอร์ของลุคเสียดาย เวลาเดียวกับที่ยานของโฮลโดชนเรือธงของปฐมภาคี เปิดทางให้ฟินน์กับโรสรอดตาย ทัพที่เหลืออยู่ของกองกำลังต่อต้านไปตั้งหลักบนดาวเครท ตามความตั้งใจของโฮลโด

– บนดาวเครต แม้กองกำลังของทัพต่อต้านจะเสียเปรียบ แต่ด้วยเรื่องราวหลายๆ อย่างทำให้กำลังพลที่เหลือเข้าใจแล้วว่า ถ้าต้านทานได้นานพอ เหล่าพันธมิตรที่ไว้ใจเลอาจะเข้ามาสนับสนุนอย่างแน่นอน การศึกบนดวงดาวที่มีพื้นผิวเป็นทะเลเกลือจึงเริ่มขึ้น ในขณะที่เรย์กับชิวแบคคานำยานฟอลคอนเข้ามาช่วยต่อสู้

– โพที่เห็นสถานการณ์ของยานรบภาคพื้นดินที่อาจจะแพ้ภัยเพราะพวกเขาสกัดกองทัพปฐมภาคไม่ได้ จึงสั่งให้กำลังพลถอยทัพ ส่วนฟินน์หมายสละชีวิตตัวเองเพื่อยับยั้งชัยชนะอีกครั้งของปฐมภาค แต่สุดท้ายโรสก็ขับยานมาขวางทางไว้ พร้อมบอกว่า “เราจะชนะด้วยวิธีนี้ ไม่ใช่สู้กับสิ่งที่เกลียด แต่ช่วยคนที่เรารัก” โรสกล่าวแล้วจูบฟินน์ก่อนจะหมดสติ

– การถ่วงเวลาของโพทำให้เลอาสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ แต่ยังไม่มีใครยอมมาช่วยเหลือพวกเธอ จนกระทั่งมีเงาหนึ่งเดินมา…

– ลุค สกายวอล์คเกอร์ ก้าวผ่านห้วงอวกาศมาหาเลอา ผู้เป็นน้องสาว ทั้งสองแลกเปลี่ยนกันสั้นๆ แต่ชัดเจนทั้งสองต่างปล่อยผ่านอดีตที่พวกเขาต่างยึดติดเอาไว้แล้ว

– เจไดในตำนานเดินออกไปท้าทายกองทัพที่มีทั้งหุ่นยักษ์ ยานรบ และปืนใหญ่ ไคโล เรน ที่เห็นลุคจึงสั่งการให้ยิงถล่มลุคทันทีแต่ปืนทั้งหมดกลับไม่สามารถสร้างได้แม้แต่รอยขีดข่วน ลุคทำการแสดงปัดฝุ่นบนไหล่ออกให้เห็นถึงความเก๋าเกม ไคโล เรน จึงตัดสินใจลงมาดวลกับอดีตอาจารย์ของเขา

– ด้านโพเข้าใจว่าการออกมาแสดงความเหนือชั้นนั้น ไม่ใช่เพราะเจไดคนสุดท้ายสามารถกวาดล้างกองทัพด้วยดาบเดียว แต่เพราะเขาต้องการถ่ลวงเวลาให้คนที่เหลืออยู่หนีไปได้ต่างหาก และลุคได้ยืนยันกับ ไคโล เรน ว่า เขาจะไม่ใช่ ‘เจไดคนสุดท้าย’

– คำพูดนั้นเกิดในช่วงเดียวกับที่เรย์ใช้พลังของเธอยกเอากองก้อนหินที่ขวางทางหนีของกองกำลังต่อต้านไว้สำเร็จ พวกเขารอดตายจากการไล่ล่าแล้ว

– ส่วน ไคโล เรน ที่เข้าปะทะกับลุคได้ฟาดดาบสุดกำลังก่อนจะพบว่า นักรบที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็นเพียงแค่ภาพลวงของพลังที่ส่งมาจากดวงดาวอันห่างไกล …และเหมือนว่าการใช้พลังระดับนี้ก็ทำให้ลุคเสียชีวิตลง และกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพลังเช่นเดียวกับอาจารย์ของเขา

– การต่อสู้ยังไม่จบลง แม้ว่ากองกำลังต่อต้านจะต้องกลับไปตั้งหลักใหม่กันพอสมควร แต่เรื่องราวของการต่อสู้ได้ถูกส่งต่อไปยังผู้คนที่กระจายอยู่ทั่วจักรวาล …แสงแห่งความหวังยังคงอยู่ เหลือเพียงว่าประกายของมันจะฉายแสงอย่างไรเป็นการไปต่อ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv แปลภาษาอาหรับ-ไทย lmyour แปลภาษา ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง แปลภาษาเวียดนามเป็นไทยทั้งประโยค Google Translate การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 หยน อาจารย์ ตจต เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คาราโอเกะ app แปลภาษาไทยเป็นเวียดนาม การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 บบบย ศัพท์ทหารบก แปลภาษาจีน การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 1 ขุนแผนหลวงปู่ทิม มีกี่รุ่น ชขภใ ตม.เชียงใหม่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พจนานุกรมศัพท์ทหาร รหัสจังหวัด อําเภอ ตําบล รหัสประจำจังหวัด 77 จังหวัด สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม หนังสือราชการ ตัวอย่าง ห่อหมกฮวกไปฝากป้า คอร์ด อเวนเจอร์ส ทั้งหมด แปลภาษา มาเลเซีย ไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค ่้แปลภาษา Egp G no Reconguista Google map ขุนแผนหลวงปู่ทิมรุ่นแรก ข้อสอบภาษาไทยพร้อมเฉลย ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง ค้นหา ประวัติ นามสกุล จองคิว ตม เชียงใหม่ ชื่อเต็ม ร.9 คําอ่าน ดีแม็กมือสองราคาไม่เกิน350000 ตัวอย่างรายงานการประชุมสั้นๆ