- US
Choose your country or region
Home
Shopping
Signup
Login
Welcome to Mobvoi support
Troubleshooting FAQ
General FAQ
Basic Product FAQ
Have a question but didn't get it answered? Ask here:
Ask now
Products & Services
Mobvoi developers TicDesign Mobvoi app Ticwear Global app Warranty & Service policies Terms of service Privacy policy Cookie policy Referral program
Become a referrer Healthcare
Diabetes case BCAM case Wheelchair Power Assist case Healthcare Diabetes case BCAM case About us About us Blog
Copyright © HK SMARTMV LIMITED. All rights reserved.
Help
หากนาฬิกาของคุณมีปัญหา คุณอาจต้องรีเซ็ตนาฬิกาให้กลับไปเป็นเหมือนครั้งแรกที่คุณได้นาฬิกามา ("ค่าเริ่มต้น") นอกจากนี้คุณยังติดต่อผู้ผลิตนาฬิกาได้อีกด้วย
สําคัญ: ขั้นตอนด้านล่างนี้มีไว้สำหรับ Wear OS และอาจแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต อุปกรณ์ และเวอร์ชันของซอฟต์แวร์
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณรีเซ็ตนาฬิกาเป็นค่าเริ่มต้น
- ข้อมูลที่เก็บไว้ในนาฬิกาจะถูกลบ
- แอปที่ติดตั้งไว้และข้อมูลในแอปจะถูกลบ
- การตั้งค่าระบบและค่ากำหนดจะถูกลบ
- นาฬิกาจะเลิกจับคู่กับโทรศัพท์ หากต้องการใช้นาฬิกา คุณต้องจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์อีกครั้ง
รีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น
Wear 3
- ปลุกระบบนาฬิกาหากไม่เห็นหน้าจอ
- ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอแล้วแตะการตั้งค่า ทั่วไปรีเซ็ต
- แตะรีเซ็ตและป้อน PIN เพื่อยืนยัน
Wear 2
- ปลุกระบบนาฬิกาหากไม่เห็นหน้าจอ
- เลื่อนลงจากด้านบนของหน้าจอ จากนั้นแตะ "การตั้งค่า" ระบบ
- ในนาฬิกาบางรุ่น คุณต้องปัดไปทางซ้ายจึงจะพบตัวเลือกนี้
- เลื่อนลงแล้วแตะ "ยกเลิกการเชื่อมต่อและรีเซ็ต"
- หากไม่เห็นตัวเลือกนี้ ให้แตะเลิกจับคู่กับโทรศัพท์
- แตะเสร็จสิ้น เพื่อยืนยันว่าต้องการเลิกจับคู่และรีเซ็ตนาฬิกา
หากยังแก้ปัญหาไม่ได้: ให้ถอนการติดตั้งแอป Wear OS และติดตั้งอีกครั้ง จากนั้นลองอีกครั้ง
ค้นหาแอปหลังจากรีเซ็ต
ระบบจะลบแอปเมื่อคุณรีเซ็ตนาฬิกา หลังจากจับคู่นาฬิกาอีกครั้ง ให้ไปที่ Play Store ในนาฬิกาเพื่อเลือกแอปที่ต้องการติดตั้งอีกครั้ง แล้วดาวน์โหลดแอปเหล่านั้น ดูวิธีดาวน์โหลดแอปในนาฬิกา
นาฬิกาเวอร์ชันเก่า: เมื่อคุณจับคู่นาฬิกากับโทรศัพท์อีกครั้งหลังจากรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้นแล้ว ระบบจะติดตั้งแอปทั้งหมดที่ทำงานร่วมกับ Fit ลงในนาฬิกา
หากคุณเป็นเจ้าของ Samsung Galaxy Watch ซีรีส์ 5 และมีปัญหาในการตั้งค่า Google Assistant ให้รอ 15 นาทีเมื่อตั้งค่านาฬิกาเสร็จแล้วก่อนลองตั้งค่าใหม่
แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อ
แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อกับ Google Assistant ใน Fitbit Sense หรือ Versa
- ตรวจสอบว่าตั้งค่า Google Assistant ผ่านแอป Fitbit แล้ว
- ตรวจสอบว่านาฬิกาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้ว
- ตรวจสอบว่าคุณลงชื่อเข้าใช้บัญชี Google ในโทรศัพท์แล้ว
- ตรวจสอบว่านาฬิกาและโทรศัพท์เชื่อมต่อกันอยู่ผ่านบลูทูธ
แก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อกับ Google Assistant ในนาฬิกาที่ใช้ Wear OS
- ตรวจสอบว่านาฬิกาเชื่อมต่อกับโทรศัพท์แล้ว
- ตรวจสอบว่าคุณมีบัญชี Google ในนาฬิกาแล้ว
- เปิดและปิดโหมดบนเครื่องบินในนาฬิกา
แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับข้อความ
หากส่งข้อความในนาฬิกาที่ใช้ Wear OS ไม่ได้ ให้ลองทําตามขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบว่านาฬิกาจับคู่กับอุปกรณ์ Android อยู่
ตรวจดูว่านาฬิกาจับคู่กับอุปกรณ์ Android แล้ว หากนาฬิกาจับคู่อยู่กับ iPhone คุณจะส่งข้อความแชทไม่ได้
ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบว่านาฬิกากับโทรศัพท์เชื่อมต่อกันอยู่
- ตรวจสอบว่านาฬิกาและอุปกรณ์ Android อยู่ใกล้กันและจับคู่กันผ่านบลูทูธ
- หากต้องการตรวจสอบการเชื่อมต่อ ให้ใช้ค้นหาโทรศัพท์ของฉันจากการตั้งค่านาฬิกา หากโทรศัพท์ส่งเสียง แสดงว่าคุณมีการเชื่อมต่อที่ดี
- หากโทรศัพท์กับอุปกรณ์ Android ที่จับคู่ไว้ไม่ยอมเชื่อมต่อกัน ให้ซ่อมแซมอุปกรณ์
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบ Google Assistant
ขั้นตอนที่ 4: ตรวจสอบแอปรับส่งข้อความในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต
ยืนยันข้อมูลต่อไปนี้ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ที่จับคู่ไว้
- มีแอปเวอร์ชันล่าสุดของหนึ่งในแอปต่อไปนี้
- LINE
- Nextplus
- Telegram
- Threema
- Viber
- VK
- ลงชื่อเข้าใช้แอปแล้วและส่งข้อความภายในแอปได้
ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบแอปรับส่งข้อความของอีกฝ่าย
ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต Android ที่จับคู่ไว้ ให้ทำดังนี้
- เปิดแอปรายชื่อติดต่อ
- ค้นหาบุคคลที่ต้องการส่งข้อความถึง แล้วแตะชื่อบุคคล
- ในรายละเอียดการติดต่อ ให้ตรวจสอบว่าบุคคลนั้นมีแอปรับส่งข้อความหรือไม่
- หากบุคคลนั้นมีแอปรับส่งข้อความ ให้แตะดาวที่ด้านบนของหน้าจอรายชื่อติดต่อดังกล่าว หากรายชื่อติดต่อนั้นติดดาวอยู่แล้ว ให้ลองยกเลิกการติดดาวแล้วติดดาวอีกครั้ง
ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม
เราจะปรับปรุงได้อย่างไร