2024 ทำไม simulation gname ถ งม ใน มหายล ย

วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2566 หลักสูตรปริญญาโท คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ได้จัดงาน TBS GRAD OPEN HOUSE 2023 โดยในงานนี้ได้มีการแนะนำให้ทุกคนรู้จักหลักสูตรปริญญาโท ของ Thammasat Business School (TBS) อย่างรอบด้าน ทั้ง 5 สาขา คือ MBA MRE MAP MSMIS และ MIF

“ผศ.เอกรินทร์ ยลระบิล ศ.ดร.นภดล ร่มโพธิ์ และ คุณโอฬาร วีระนนท์ ในงาน TBS GRAD OPEN HOUSE 2023”

“TBS เปิดโอกาส ให้ผู้สนใจเจาะลึก ทุกหลักสูตรอย่างใกล้ชิด”

โดยในงานจัดให้มี Hi-light ประเด็นคำถามที่น่าสนใจแต่ละ Program เช่น

🟠 MBA Thammasat แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร?

🔵 MRE หลักสูตรอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในประเทศไทย เรียนอะไรบ้าง?

🟣 MAP หลักสูตรปริญญาโทบัญชี ที่สามารถเข้าสู่เส้นทางการเป็น CPA ได้โดยไม่ต้องจบปริญญาตรีบัญชี จริงหรือไม่?

🔵 MSMIS หลักสูตรยุค AI ที่ให้มากกว่าแค่บริหารธุรกิจ จำเป็นไหมในยุคนี้?

🔴 MIF ต่อยอดสู่การเป็นนักการเงินมืออาชีพ ต้อง MIF Thammasat!!

โดยทุกหลักสูตรล้วนเชิญเหล่าคณาจารย์ และศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันที่โดดเด่น มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กันอย่างใกล้ชิด ตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้สนใจ ได้ข้อมูลเชิงลึก และเลือกตัดสินใจเรียนในสาขาที่เหมาะสมกับเส้นทาง และเป้าหมายชีวิตของตนเอง

“MBA ธรรมศาสตร์ คือประตูแห่งความรู้ เครือข่าย และโอกาสมากมายในชีวิต”

ในส่วนของหลักสูตรปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจ ม.ธรรมศาสตร์ “MBA Thammasat” ได้มี ศ.ดร.นภดล ร่มโพธิ์ ผู้อำนวยการโครงการ MBA และได้เชิญ คุณโอฬาร วีระนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด (DURIAN) และบริษัท ยักษ์เขียว จำกัด (YAK GREEN) ผู้นำด้านการสร้างระบบนิเวศน์นวัตกรรม ในหลายอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งเป็นศิษย์เก่า MBA ม.ธรรมศาสตร์ ทั้งคู่ ได้มาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ต่อผู้สนใจ โดยมีประเด็นน่าสนใจดังนี้

“ทำไมต้องเรียน MBA Thammasat”

สำหรับคำถามที่อยู่ในใจหลายคน ศ.ดร.นภดล ร่มโพธิ์ ได้ตอบคำถามนี้อย่างน่าสนใจว่า MBA เหมาะกับคนดังต่อไปนี้

1.อยากเติบโตในสายงาน : ถ้าเราไม่เรียน ไม่มีหลักวิชา ทำให้เราต้องลองผิดลองถูก แต่การเรียนทำให้เรารู้ และสามารถลดความผิดพลาดลงได้ ไม่ว่าจะทำอะไรในสายงานไหนก็ตาม

2.อยากเปลี่ยนสายงาน อยากข้ามสายงาน : MBA คือที่ๆ ทำให้เรามี Credential และความน่าเชื่อถือว่าเรามีความรู้จริง และได้ผ่านการฝึกปฏิบัติมาแล้ว

3.อยากเป็นผู้ประกอบการ : การเรียนทำให้เรามีความรู้ และมีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น

“3 ปัจจัย ทำไมควรเลือกธรรมศาสตร์ ในการเรียน MBA”

การเรียนในแต่ละที่ จะมีความแตกต่างกันอยู่ 3 อย่างคือ

1.คณาจารย์ และอาจารย์ผู้สอน

เราเลือกผู้สอนที่เป็นตัวจริง เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ไม่ใช่ใครก็มาสอนได้ เช่น หากเรียนวิจัย ผู้สอนก็เป็นนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ เป็นศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ที่มีผลงานที่โดดเด่นจริงๆ ถ้าเป็นด้านธุรกิจ ก็เชิญเหล่าคณาจารย์ ผู้ประกอบการ ผู้ปฏิบัติ CEO ตัวจริง ที่มีโอกาสเจอได้ยาก แต่เราเชิญตัวจริงเหล่านี้ ทั้งมาสอน มาถาม มา Comment ให้คำแนะนำ ทำให้ผู้เรียนมีโอกาสเจอคนที่เก่งมากๆ และมีองค์ความรู้ในด้านนั้นจริงๆ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่ามาก

2.หลักสูตรที่มีความเข้มข้น

เราทำวิจัยกับ Stakeholders ที่เกี่ยวข้องทั้งนายจ้าง ทั้งนักวิชาการ ทั้งผู้ประกอบการมากมาย เพื่อสร้างและคัดสรรรายวิชาที่มีความหลากหลาย เหมาะสมกับยุคสมัย และ Updated อยู่เสมอ

3.กิจกรรม (Extra Curriculum)

เรียน MBA ธรรมศาสตร์ ไม่ใช่มานั่งเรียน 3 ชม.ต่อวันแล้วจบไป แต่เรามีกิจกรรมมากมาย ที่พัฒนาเราอยู่ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Business Simulation Game เราเป็นเจ้าของธุรกิจจริงเป็นอย่างไร, มี Case Study มากมายในการเรียนการสอนแทบทุกครั้ง, การไปดูงานในที่ต่างๆ, มีโอกาสเรียนแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านธุรกิจนานาชาติ ในทุกภูมิภาคของโลก โดยจ่ายค่าเทอมเท่ากับที่จ่าย MBA ภาคไทย และการมีเพื่อนมากมายในทุกวงการ ที่ประสบความสำเร็จอย่างหลากหลายจริงๆ

“MBA Thammasat คือ Business School ระดับโลก”

MBA ธรรมศาสตร์ เป็นมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจ ที่ได้รางวัลระดับโลกการันตี และเป็นมหาวิทยาลัยเดียวในประเทศไทยที่ได้ Triple Crowns ที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลกจริงๆ ถ้านับเฉพาะสาขาบริหารธุรกิจ เราได้รับรางวัล Association of MBAs ซึ่งถือเป็นการ Stamp ว่านี่คือ MBA ระดับโลก ถ้าไม่มีคุณภาพ คุณไม่สามารถได้รางวัลเหล่านี้ได้เลย ทั้งในมิติของอาจารย์ งานวิจัย หลักสูตร การเชิญวิทยากรภายนอก และกิจกรรม ฯลฯ

“ไม่ว่าเราต้องการอะไรในชีวิต ถ้าตั้งโจทย์ได้ชัด MBAตอบโจทย์ได้ทุกอย่าง”

คุณบอม โอฬาร วีระนนท์ ในฐานะศิษย์เก่า MBA Thammasat ได้แบ่งปันไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่ว่าเราอยากจะเป็นผู้บริหารในองค์กร อยากเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ หรืออยากเป็น Policy Maker ที่สร้างประโยชน์ให้ประเทศไทยและโลกใบนี้ หากตั้งโจทย์ได้ชัด MBA สามารถเป็นประตูสู่ความสำเร็จได้ทุกอย่าง

“เรียน MBA ตอนอายุ 27 จบตอน 30 จากเจ้าหน้าที่อาวุโส สู่ประตูแห่งโอกาสมากมาย”

บอม โอฬาร แบ่งปันประสบการณ์บางส่วนว่า เริ่มเรียน MBA ตอนอายุ 27 ปี ด้วยตำแหน่งพนักงานอาวุโส สมัยทำงานที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่ไม่ได้มีเครือข่าย เงินทอง สมบัติใดๆ แต่ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจนว่า เราอยากเรียน MBA เพื่อนำเอาองค์ความรู้ไปต่อยอดการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต อยากได้มีโอกาสเรียนแลกเปลี่ยนต่างประเทศ และอยากแข่งขัน Business Competition เพื่อสร้างประตูแห่งโอกาสบานต่อๆ ไป ผ่านไป 3 ปี เราสามารถบรรลุทุกเป้าหมาย ไปแลกเปลี่ยนระดับปริญญาโทในสาขา International Business, Norwegian School of Economics (NHH) ประเทศนอร์เวย์ (Norway) ได้รับทุน Norwegian Government Scholarship (Quota Scheme Program 2009) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยด้านการบริหารธุรกิจที่ดีที่สุดในภูมิภาคสแกนดิเนเวีย (Scandinavia) และได้รวมตัวกับเพื่อนๆ MBA รุ่นเดียวกัน แข่งขันในโครงการ MK Young Creative Contest 2010 และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศแผนการตลาดออนไลน์ อันดับหนึ่งประเทศไทยมาได้

ในแง่การทำงานประจำ

แม้จะเลือกเรียนจบช้ากว่าเพื่อนๆ 1 ปี ด้วยปริญญาโท MBA Thammasat ปกติใช้เวลาเรียนเพียง 2 ปี แต่บอม โอฬาร เลือกไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนระดับปริญญาโทที่ NHH, Norway อีก 1 ปี เพื่อสะสมความรู้ เครือข่ายและประสบการณ์ ซึ่งทำให้เมื่อกลับมา สามารถเลือกฝ่ายงานที่สนใจในการต่อยอดในอนาคตได้ คือ การทำงานในสถาบันวิทยาการตลาดทุน (วตท.) และได้มีโอกาสเป็นผู้ประสานงานโครงการ “พลัง วตท. ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม”ทั้ง 15 รุ่น ทำหน้าที่ประสานงาน การพัฒนาจังหวัดที่มีความเหลื่อมล้ำทั้งด้านเศรษฐกิจ การศึกษา สุขภาพและคุณภาพชีวิตล้าหลังในประเทศไทยให้พัฒนาขึ้นมาให้ได้ โดยอาศัยความร่วมมือจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาโครงการมากมายทั้งในเชิงธุรกิจ ชีวิตและสังคมจนถึงปัจจุบัน

ในแง่การทำธุรกิจส่วนตัว

ปัจจุบัน บอม โอฬาร วีระนนท์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด ซึ่งกลายเป็นกลุ่มบริษัทที่เป็น Holding Company ทำธุรกิจหลากหลาย ร่วมกับกัลยาณมิตร และพันธมิตรในหลายวงการ ทั้งด้านการสร้างระบบนิเวศน์นวัตกรรม ทำหลักสูตรพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้บริหารระดับสูง การพัฒนาผู้ประกอบการด้านการเกษตร (Agripreneur) การทำสัมปทานน้ำในกัมพูชา การทำต้นไม้ส่งออกไปตะวันออกกลาง การลงทุนในธุรกิจ Startup และการเป็นที่ปรึกษาองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว น่าสนใจ และสร้างประโยชน์ให้ผู้คนในวงกว้างเสมอ

ในแง่การเป็น Policy Maker

บอม โอฬาร มีโอกาสนำความรู้ที่ได้จาก MBA ธรรมศาสตร์ตอบแทนสู่สังคมในบทบาทต่างๆ เช่น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน, นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย, คณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการ ในหลากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ด้วยวัยปัจจุบันเพียง 43 ปี และทั้งหมดนี้เป็นไปได้ด้วยประตูแห่งโอกาส ที่ชื่อว่า MBA Thammasat

“เลือกเพราะ เนื้อหาหลักสูตร ผู้ร่วมก่อตั้ง เครือข่าย และประตูแห่งโอกาส”

บอม โอฬาร ขยายความถึงสิ่งที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกเรียน และแนะนำ MBA Thammasat ว่า โครงการปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ (Master of Business Administration Program-MBA) ม.ธรรมศาสตร์ ได้ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2515 โดย ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในขณะนั้น เจ้าของอมตะวาจา ที่ว่า “สิ่งที่ถูกต้องคือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทําสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดคือสิ่งที่ผิด แม้ทุกคนทําสิ่งนั้น” ที่เป็นหลักยึดให้ผู้คนมากมาย ในแวดวงธุรกิจ ตลาดเงิน และตลาดทุนมาจนปัจจุบัน รวมทั้งเครือข่ายศิษย์เก่าที่มีมายาวนานกว่า 50 ปี สิ่งเหล่านี้ถือเป็น Door Opener ที่สำคัญ ในการเปิดประตูสู่โอกาสมากมาย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ตามแต่โจทย์ในชีวิตของแต่ละคน รวมทั้งเหล่าคณาจารย์ที่นำโดย ศ.ดร.นพดล ร่มโพธิ์ ที่เป็นทั้งอาจารย์ที่เคยสอนผมมาในสมัยเรียน และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ทำให้เราเชื่อมั่นจากหัวใจ ถึงเนื้อหาและคุณภาพหลักสูตร ว่าจะตอบโจทย์ทุกความต้องการได้

“MBA Thammasat … โดดเด่น เรื่อง ความสามารถในการแก้ปัญหา ถึก อึด ทน”

ด้วยความที่เป็นโครงการปริญญาโทภาคค่ำ (Part Time) ผู้ที่มาเรียนส่วนใหญ่ ล้วนเป็นผู้ที่มีหน้าที่การงาน มีกิจการ หรือมีภาระหน้าที่ของตนอยู่แล้ว ทั้งแทบทุกวิชา การเรียนการสอนล้วนมี Case Study และ Assignment ที่หนักแน่น จริงจัง แบบไม่เกรงใจใคร อย่างต่อเนื่องตลอด 2 ปี มันจึงฝึกให้คนที่เรียน MBA ธรรมศาสตร์ แทบทุกคน ต้องมีความอึด มีความสามารถในการทำงานเป็นทีม เป็น Fast Learner และมีการทักษะการบริหารจัดการเวลาเป็นอย่างดี

หากถามว่าเรียน MBA ธรรมศาสตร์ประทับใจอะไร ต้องบอกว่า

1.คณาจารย์ที่มีคุณภาพคับแก้ว

2.การออกแบบ กระบวนการเรียน การสอน (Learning Process) ที่ทำให้ผู้เรียนเปิดโลก และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง

3.คุณภาพของเพื่อนร่วมชั้น ที่มีความหลากหลาย และคัดกรองมาเป็นอย่างดี

4.การเป็นประตูแห่งโอกาสมากมายจริงๆ

“สิ่งที่อยากฝากไว้ สำหรับผู้สนใจในการมาเรียน MBA Thammasat”

เข้าเรียน MBA อย่าสนใจเพียงแค่เกรด แต่จงใส่ในองค์ความรู้ และสรรพวิชาที่จะได้รับ วิชาไหนใครบอกว่ายาก ใครบอกว่าอาจารย์โหดแต่ดี จงเข้าไปเรียนรู้ซะ เพราะสุดท้าย สิ่งเหล่านี้จะหลายเป็นวิชาติดตัว ที่เราสามารถนำเอามาใช้ได้ในอนาคต ในหลายบทบาท ในแต่ละช่วงชีวิตที่แตกต่างกันไป

“อายุเท่าไรไม่สำคัญ สำคัญที่ว่ามีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนรึเปล่า”

การเรียน MBA คือการ Give and Take เราเข้าไปทั้งเพื่อเรียนรู้ และแลกเปลี่ยนแบ่งปันกับเพื่อนๆ ร่วม Class ดังนั้นหากถามว่าควรเรียน MBA เมื่ออายุเท่าไร สำหรับผม อายุอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่อยู่ที่ว่าเรามีประสบการณ์อะไรในตัวเราเองบ้าง และการมีประสบการณ์ ความรู้ในตัวเรา หลายครั้งไม่เกี่ยวกับอายุ บางคนช่วยครอบครัวทำงานมาตั้งแต่ยังเล็ก บางคนทำธุรกิจมาตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย หลายคนทำกิจกรรมมามากมาย บางคนมีประสบการณ์ทำงานเป็นพนักงานในองค์กรที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เราได้ประโยชน์มากขึ้นและรู้วิธีการนำไปใช้ได้ดีขึ้น ถ้าเราสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อนๆ ได้ ไม่จำเป็นว่าสิ่งที่เรารู้ จะเป็นสิ่งที่ถูก แต่เมื่อมันเกิดการสื่อสาร ผ่านกิจกรรมต่างๆ ระหว่างเรียน มันจะทำให้เราเกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ และทำให้ทุกคนพัฒนาไปด้วยกันเป็นอย่างดี

“MBA ไม่ล้าสมัย เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ล้วนต้องใช้ทักษะในการบริหาร”

หลายคนอาจมีคำถามในใจ ว่าการเรียน MBA มันล้าสมัยรึเปล่าในโลกปัจจุบัน ในมุมมองส่วนตัวผมตอบได้เลยว่าหากเราเข้าใจ MBA ซึ่งย่อมาจาก Master of Business Administration คือ การเรียนรู้เพื่อเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการธุรกิจ และไม่ว่าคุณจะเป็นอะไร เป็นผู้บริหารมืออาชีพ เป็นเจ้าของกิจการ หรือเป็น Policy Maker ทั้งหมดล้วนต้องใช้ทักษะการบริหารทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับว่าเรานำมันไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร

“ตั้งเป้าหมายให้ชัด อยากได้อะไรจากการเรียน MBA”

สุดท้ายนี้อยากให้เพื่อนๆ ทุกคน หากได้มีโอกาสเข้ามาเรียน MBA Thammsat ให้ตั้งเป้าหมายชีวิตว่าเราอยากได้อะไรจากการเรียนที่นี่ จากนั้นให้ลอง Search ประวัติอาจารย์ทุกคน คนไหนที่เราสนใจ คนไหนที่ตอบโจทย์เป้าหมายในการเรียนของเรา และจงใช้โอกาสในการเป็นนักศึกษา MBA ธรรมศาสตร์ ทั้งในแง่ความสามารถในการเข้าถึงองค์ความรู้ งานวิจัย โอกาสทางธุรกิจ การแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ในระดับนานาชาติ การแข่งขัน Business Competition เครือข่ายเพื่อนๆ มากมายทั้งในสาขา และต่างสาขา ตลอดจน โอกาสในการ Connect CEO และคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าระดับประเทศในทุกระดับ

หากเราตั้งเป้าหมายชัด และใช้เวลาที่นี่อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อเถอะว่า เมื่อจบการศึกษาจาก MBA ธรรมศาสตร์ไป ไม่ว่าเราจะใช้เวลา 2 หรือ 3 ปี ชีวิตเราจะไม่ใช่แค่ได้เจอโอกาสมากมาย แต่จะมีความรู้ความสามารถในการคว้าโอกาส และสร้างความสำเร็จในมิติที่เรากำหนดไว้ได้จริง ยินดีต้อนรับเพื่อนใหม่ และรุ่นน้อง MBA ในอนาคตนะครับ … บอม โอฬาร วีระนนท์ กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างที่ต้องบอกว่า หากใครอยากเรียนปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ MBA ธรรมศาสตร์ เป็นที่น่าสนใจจริงๆ