“มุ่งพัฒนาฯ”ผุดทีมบิสซิเนส เพิ่มร้านค้าโหมดิสทริบิวเตอร์เผยแพร่: 28 ม.ค. 2554 19:53 โดย: MGR Onlineมุ่งพัฒนาฯ รุกคืบหลังปลื้มผลงานปีที่แล้ว คว้าลูกค้าได้ 5 ราย พร้อมตั้งทีมพัฒนาธุรกิจหัวหอกหลักบทบาทดิสทริบิวเตอร์ Show นายเมธิน เลอสุมิตรกุล รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า ปีนี้บริษัทจะรุกธุรกิจการรับจัดจำหน่ายหรือการเป็นดิสทริบิวเตอร์อย่างเต็มรูปแบบหลังจากที่ปีที่แล้วได้เริ่มทดลองมาและได้รับการตอบรับอย่างดี ล่าสุดเตรียมตั้งแผนกใหม่คือ บิสซิเนสดีเวลลอปเมนต์ (Business Developement) เป็นหน่วยงานที่จะพัฒนาและร่วมมือกับทางซัพพลายเออร์เของสินค้าในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆขึ้นมา ทั้งนี้ในปีนี้ตั้งเป้าหมายที่จะได้ลูกค้าใหม่ๆเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างน้อยมากกว่าปีที่แล้วเท่าตัว ซึ่งปีที่แล้วตั้งเป้าหมายเพียง 1 ราย แต่ปรากฎว่าสามารถทำได้ถึง 5 รายรวม 5 แบรนด์ คือ 1.เจลกำจัดผิวหยาบกร้านส่วนเกินของเท้า ริไววัลแคร์ ของญี่ปุ่น 2.กลุ่มยินตัน มีลูกอมราคา 55 บาท และยาสีฟันน้ำสูตรรสมุนไพร ราคา 300 บาท นำเข้าจากญี่ปุ่น 3.ผลิตภัณฑ์แบรนด์ฟอร์แคร์ มีเครื่องดื่มธัญพืชและกะทิธัญพืช ล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วได้ลูกค้าอีก 2 รายคือ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ยูร่าของ มยุรา เศวตศิลา ซึ่งเดิมทำจัดจำหน่ายเอง และ แป้งหอมแบรนด์ บีอาร์ ซึ่งเดิมให้แมสมาร์เก็ตติ้งจัดจำหน่ายให้ ขณะเดียวกันปีนี้ยังมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มศักยภาพ ในการดำเนินธุรกิจอีก ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆให้กว้างขวางและครอบคลุมมากกว่าเดิม เพราะสินค้าเริ่มมีความหลากหลายจากเดิมมากขึ้น ซึ่งเดิมเน้นจะเพิ่มเอาท์เล็ตประมาณ 10-20% ต่อปี จากปัจจุบันมีประมาณ 8,000 เอาท์เล็ตแล้ว ทั้งโมเดิร์นเทรดและเทรดดิชันแนลเทรด เป็นเป้าหมายหลักเช่น ร้านขายยา ร้านสเปเชียลตี้สโตร์ ร้านโชวห่วย ร้านดิสเคาต์สโตร์ ร้านคอนวีเนียนสโตร์ เป็นต้น นอกจากนั้นจะเพิ่มคลังสินค้าและรถขนส่งบ้าง ซึ่งปัจจุบันมี รถขนาดใหญ่วิ่งต่างจังหวัด และรถเล็กวิ่งผ่านกรุงเทพฯ รวมประมาณ 10 คัน เนื่องจากบริษัทฯใช้ระบบเอาท์ซอร์สโดยให้บริษัทรวมถาวรขนส่งรับผิดชอบในกรุงเทพฯ และบริษัท ส.นิยม รับผิดชอบต่างจังหวัด ส่วนงบตลาดปีนี้จะเพิ่มมากขึ้นจากเดิมตามสัดส่วนยอดขาย โดยจะหันมาเน้นบีโลว์เดอะไลน์มากขึ้นจากที่ผ่านมาใช้งบตลาดรวม 30 กว่าล้านบาทเน้นทางด้านอะโบฟเดอะไลน์ ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ที่มาจากการรับจัดจำหน่ายและทำตลาดให้ มีประมาณ 5-10% เท่านั้นจากรายได้รวมของบริษัทฯ ที่เปลี่ยนจะมีรายได้ประมาณ 400 กว่าล้านบาทต่อปี ขณะที่รายได้หลักกว่า 90% ยังคงมาจากสินค้าในเครือของบริษัท ที่มี 5 แบรนด์คือ 1.พีเจ้น สินค้าที่เกี่ยวกับเด็ก เป็นการร่วมทุนกับต่างประเทศ และเป็นรายได้หลัก ส่วนอีก 4 แบรนด์เป็นของบริษัทฯเองคือ 2.ฟ็อกกี้ กระบอกฉีดน้ำ 3.เกอราจ มีดอุตสาหกรรม 4.วีแคร์ผลิตภัณฑ์สำลี และ 5.สไมล์วี กระบอกฉีดน้ำราคาต่ำ
กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ ทั้งหมด หรือเลือกตามพยัญชนะ
(Click to sort Ascending) (Click to sort Ascending) (Click to sort Ascending) (Click to sort Ascending) (Click to sort Ascending) |