โดยพื้นฐานแล้ว ทั้งเครือข่ายเฉพาะที่ (LAN) และเครือข่ายระยะไกล (WAN) จะเชื่อมต่ออุปกรณ์มากมาย อย่างไรก็ตาม WAN สามารถสร้างขึ้นจาก LAN ที่เชื่อมต่อกันหลายตัวได้ WAN เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อ LAN หลายตัวในระยะทางไกลเพื่อให้อุปกรณ์สื่อสารกันผ่านพื้นที่กว้าง  ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง WAN และ LAN มีดังต่อไปนี้ ส่วนประกอบโมเดล Open Systems Interconnection (OSI) กำหนดโครงสร้างที่เป็นเลเยอร์ของวิธีการที่คอมพิวเตอร์แลกเปลี่ยนข้อมูลบนเครือข่าย เลเยอร์ต่างๆ ระบุขั้นตอนในการสื่อสารเครือข่ายและการดำเนินงานของส่วนประกอบเครือข่ายเพื่อให้การแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น LAN ใช้อุปกรณ์สื่อสารข้อมูล (DCE) จากเลเยอร์ OSI 1 และ 2 อุปกรณ์เลเยอร์ 1 เช่น ฮับและรีพีตเตอร์ จะส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายทางกายภาพ ตัวอย่างเช่น อาจมีการแปลงสัญญาณดิจิตอลเป็นสัญญาณอนาล็อกสำหรับการส่งผ่านสื่อทางกายภาพ อุปกรณ์เลเยอร์ 2 เช่น สวิทช์และตัวเชื่อม สร้างและรักษาการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์ในส่วนเครือข่ายเดียวกัน WAN ใช้ DCE จากเลเยอร์ OSI 1 2 และ 3 อุปกรณ์เลเยอร์ 3 กำหนดเส้นทางข้อมูลระหว่างส่วนเครือข่ายที่แตกต่างกัน ในการดำเนินการจะมีการตรวจสอบที่อยู่ของแพ็คเก็ตข้อมูลขาเข้า และส่งต่อแพ็คเก็ตไปยังเครือข่ายปลายทางที่เหมาะสม ตัวอย่างรวมถึง สวิตช์หลายเลเยอร์ เราเตอร์ และอุปกรณ์เทคโนโลยีเฉพาะทาง เช่น สวิตช์เฟรมรีเลย์ และโหมดถ่ายโอนข้อมูลแบบอะซิงโครนัส (ATM) การเชื่อมต่อใน LAN การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์จะเป็นแบบกายภาพ เช่น ผ่านสายอีเทอร์เน็ตหรือจุดเข้าใช้งานแบบไร้สาย การเชื่อมต่อเหล่านี้ช่วยให้มีการสื่อสารที่รวดเร็วระหว่างอุปกรณ์ภายในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่จำกัด ในทางตรงกันข้าม การเชื่อมต่อ WAN มักจะมีการเชื่อมต่อแบบเสมือนผ่านทางอินเทอร์เน็ตสาธารณะ ความหลากหลายของลิงก์การสื่อสารโทรคมนาคมใช้เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ใหญ่ขึ้น ตัวอย่างเช่น ต่อไปนี้คือการเชื่อมต่อ WAN ประเภทต่างๆ
อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ VPN » ความเร็วLAN มีความล่าช้าในการเผยแพร่ต่ำและมีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลสูงเมื่อเทียบกับ WAN ความล่าช้าในการเผยแพร่ หมายถึงเวลาที่สัญญาณใช้ในการเดินทางจากจุดหนึ่งในเครือข่ายไปยังอีกจุดหนึ่ง อุปกรณ์ LAN จะอยู่ในบริเวณใกล้เคียงและเชื่อมต่อผ่านเราเตอร์หรือสวิตช์โดยใช้สายอีเธอร์เน็ต LAN ยังมีความแออัดน้อยกว่าเพราะรองรับจำนวนผู้ใช้ที่จำกัดมากกว่า WAN ในการเปรียบเทียบ ผู้ใช้ WAN จะพบกับความล่าช้าในการเผยแพร่สูงกว่า และอัตราการถ่ายโอนข้อมูลต่ำกว่า ระยะทางเชิงภูมิศาสตร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความเร็ว นอกจากนี้ การเชื่อมต่อ WAN หลายประเภทยังขึ้นอยู่กับโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตสาธารณะ และต้องพบกับความแออัด ข้อผิดพลาด และความล่าช้าที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานของอินเทอร์เน็ต สายแบบเช่าใช้ส่วนตัวมีความเร็วที่สูงขึ้นแต่มีราคาแพงในการติดตั้ง เราต้องตรวจสอบว่าปัญหาเกิดจากเมนบอร์ดหรืออุปกรณ์อินเทอร์เน็ต (โมเด็ม/สายอินเทอร์เน็ต (LAN) /อุปกรณ์แชร์ไร้สาย Router) หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก่อนที่เราจะเริ่มทำการแก้ปัญหา อินเทอร์เน็ต การแก้ไขปัญหานี้เสนอวิธีแก้ปัญหาความผิดปกติของอินเทอร์เน็ตที่เกิดจากอุปกรณ์เมนบอร์ดเท่านั้น สำหรับคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์/บริการอินเทอร์เน็ต โปรดติดต่อตัวแทนจำหน่ายเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม หมายเหตุ :ติดตั้ง Windows 10 บนเมนบอร์ดแล้ว หมายเหตุ : ติดตั้ง Windows 10 บนเดสก์ท็อปแล้ว สมมติว่าคุณเก็บทั้งเมนบอร์ดรุ่น (A) และ PC (B) และเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยเครือข่ายแบบมีสาย LAN แทนที่จะเป็นอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wireless): ทั้ง (A) และ (B) ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต -> ปัญหามักเกิดจากอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตหรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (A) ไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ แต่ (B) สามารถเชื่อมต่อ -> โปรดดูวิธีแก้ปัญหาด้านล่าง คุณอาจพบปัญหาต่อไปนี้เกี่ยวกับเครือข่ายอินเทอร์ผ่านเน็ตสาย LAN 1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสียบสายอินเทอร์เน็ตดีแล้วหรือไม่ ก. ตรวจสอบว่ามีอะไรติดอยู่ในช่องเสียบสำหรับสาย LAN หากมีนี่อาจเป็นสาเหตุของปัญหาการเชื่อมต่อด้วยสาย LAN ข. ตรวจสอบสลักในช่องสำหรับสายอินเทอร์เน็ตว่าชำรุดหรือไม่ และตัวที่ชำรุดอาจทำให้สายต่อเข้าแล้วหลวมได้ หากพบว่าหลวม ให้ลองทดสอบด้วยสาย LAN อื่นๆ ค. คลิก [Start Menu](1) จากนั้นคลิก [Setting](2) ง. เลือก [Network & Internet ](3) จากนั้นคลิก [Network and Sharing Center](4) จ. คลิก [Change adapter settings](5) หากแสดง [Network cable unplugged] ดังภาพด้านล่าง แสดงว่าส่วนใหญ่สายเคเบิลเครือข่ายไม่ได้เสียบอย่างแน่นหนา โปรดเสียบปลั๊กให้แน่นหรือเปลี่ยนสายเคเบิลเครือข่ายใหม่และลองอีกครั้ง **เคล็ดลับ: โปรดตรวจสอบว่า [สาย LAN จากโมเด็มไปยังตัวรับสัญญานเครื่อยข่าย (Router)] และ [สาย LAN จากรับสัญญานเครื่อยข่าย (Router)ไปยังช่อง LAN บน คอมพิวเตอร์] เสียบดีแล้วหรือไม่ 2.ตรวจสอบว่าอุปกรณ์เครือข่ายใน Device Manager ผิดปกติหรือไม่ ก. คลิกขวา [Start Menu](1) จากนั้นคลิก [Device Manager](2) ข. ตรวจสอบว่าไดร์เวอร์อะแดปเตอร์เครือข่ายปรากฏขึ้นพร้อมเครื่องหมายอัศเจรีย์สีเหลืองหรือไม่ ข้อความใน [สี่เหลี่ยมสีเขียว] ของภาพด้านล่างแสดงการทำงานปกติของอะแดปเตอร์เครือข่าย ในขณะที่ [สี่เหลี่ยมสีแดง] ที่มีเครื่องหมายอัศเจรีย์แสดงการทำงานผิดปกติของอะแดปเตอร์เครือข่าย หากมีเครื่องหมายอัศเจรีย์บนอุปกรณ์ คุณสามารถดาวน์โหลดไดรเวอร์ล่าสุดสำหรับไดร์เวอร์อะแดปเตอร์เครือข่ายได้จากเว็บไซต์สนับสนุนของ ASUSและติดตั้งได้ 3. เข้าสู่เครือข่ายและอินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่มีเครื่องหมายอัศเจรีย์บน Device Manager หมายถึงการทำงานของอะแดปเตอร์เครือข่ายปกติ ปัญหาเครือข่ายอาจเกิดจากการตั้งค่าระบบหรือสิ่งอำนวยความสะดวกทางอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ก. คลิก [Start Menu](1) จากนั้นคลิก [Setting](2) ข. เลือก [Network & Internet](3) และตรวจสอบข้อมูลเครือข่ายพื้นฐาน ค. หากแสดง [No Internet access] คุณสามารถคลิกและดำเนินการ [Troubleshooting] (4) สำหรับปัญหาอินเทอร์เน็ตใน Windows 4. เริ่มต้นการตั้งค่าอินเทอร์เน็ต ก. คลิก [Start menu](1) จากนั้นคลิก [Settings](2) ข. เลือก [Network & Internet](3) จากนั้นคลิก [Network reset](4) ค. คลิก [Reset now](5) จากนั้นเลือก [Yes](6) พีซีของคุณจะรีสตาร์ทหลังจากการรีเซ็ตเสร็จสิ้น 5. เข้าอินเทอร์เน็ตไม่ได้เพราะบราวเซอร์ หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยเบราว์เซอร์ แต่แอปพลิเคชั่นแชททำงานได้ตามปกติ คุณสามารถลองรีเซ็ต / ตั้งค่าเริ่มต้นเบราว์เซอร์เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ก. ยกตัวอย่าง Internet Explorer 11 (IE11) คลิก [สัญลักษณ์รูปเฟือง](1) ที่มุมบนขวาและเลือก [Internet Options](2) ข. เลือก [Advanced](3) และคลิก [Reset](4) เพื่อดำเนินการต่อ 6. ไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เนื่องจากเบราว์เซอร์ อ้างถึงคำแนะนำของ Microsoft เพื่อการแก้ไขปัญหา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ วิธีการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายบน Windows 7. รีเซ็ตระบบ หากปัญหาของคุณไม่ได้รับการแก้ไขด้วยวิธีการข้างต้น โปรดสำรองไฟล์ที่สำคัญของคุณ จากนั้นรีเซ็ตระบบ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ: |
กล องทร ว ช น ม ช องเส ยบสายแรนไว ทำอะไร
ลิขสิทธิ์ © 2024 th.cemle Inc.
