การท หอยแมลงภ ม ส ต างก นเพ ออะไร

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกหอยแมลงภู่รายใหญ่ของโลก ทำให้มีปริมาณเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมอาหารทะเลหลายหมื่นตันต่อปี และต้องกำจัดด้วยวิธีการฝังกลบ ไม่สามารถเผาทำลายได้ ทำให้ปัจจุบันมีเปลือกหอยแมลงภู่จำนวนมากถูกทิ้งในพื้นที่สาธารณะ สร้างปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาสุขภาพ

วช.จึงสนับสนุนทุนวิจัย ปีงบประมาณ 2565 ให้กับโครงการ “ต้นแบบผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงแปรรูปจากเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้ง” เพื่อพัฒนาวิธีการแปรูปเปลือกหอยแมลงภู่ ให้เป็นสินค้านวัตกรรม นำเอกลักษณ์และสมบัติเฉพาะของแคลเซียมคาร์บอเนตเปลือกหอยแมลงภู่มาใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร ประดับ ตกแต่ง และเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นการสนับสนุนกลไก Zero Waste ที่รักษาสภาพสิ่งแวดล้อม และเกิดการแปรรูปขยะเหลือทิ้งให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เป็นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนสอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจบีซีจีของประเทศไทย

การท หอยแมลงภ ม ส ต างก นเพ ออะไร

สำหรับโครงการดังกล่าวมี ศ.ดร.สนอง เอกสิทธิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าโครงการ และมีทีมนวัตกร ประกอบด้วย รศ.ดร.วิวัฒน์ วชิรวงศ์กวิน และรองศาสตราจารย์ ดร.คเณศ วงษ์ระวี อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์, ดร.ชุติพันธ์ เลิศวชิรไพบูลย์ นักวิจัยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค สวทช.) และ ดร.ลัญจกร อมรกิจบำรุง นักวิจัยหลังปริญญาเอก ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์

ดร.ชุติพันธ์ หนึ่งในทีมนวัตกรฯ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลในพื้นที่ ต.แหลมใหญ่ จ.สมุทรสงคราม เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสำคัญที่สร้างรายได้และจ้างงานในชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์หอยแมลงภู่ดองและหอยแมลงภู่ตากแห้งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่นของพื้นที่ ซึ่งวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ ต.แหลมใหญ่ จะจ้างชาวบ้านในพื้นที่แกะเนื้อหอย แล้วรับเนื้อหอยที่แกะแล้วกลับไปแปรรูป ปัญหาที่ตามมาคือขยะจากเปลือกหอยแมลงภู่ ซึ่งมีมากกว่า 50% ของน้ำหนักหอยแมลงภู่สด

การท หอยแมลงภ ม ส ต างก นเพ ออะไร

แปรรูป "เปลือกหอยแมลงภู่" สร้างมูลค่าเพิ่ม

ปัจจุบันการกำจัดเปลือกหอยแมลงภู่มีวิธีเดียวคือการฝังกลบ ชาวบ้านมีปัญหาในการหาพื้นที่ทิ้งเปลือกหอย เพราะการขนย้ายเปลือกหอยไปทิ้งก็มีค่าใช้จ่ายสูง จึงเกิดการทิ้งเปลือกหอยในบริเวณบ้าน หรือพื้นที่สาธารณะเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดมลพิษจากกลิ่นเน่าเหม็น ก่อปัญหาสุขภาพ ทัศนียภาพ รวมไปถึงการวางแผนการพัฒนาพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐ “การแปรรูปเปลือกหอยแมลงภู่เหลือทิ้งให้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง” จึงเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณขยะเปลือกหอยแมลงภู่ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

คณะนักวิจัยได้ศึกษาความเป็นไปได้เชิงเทคนิคแล้ว พบว่าสามารถแปรรูปขยะเปลือกหอยแมลงภู่ให้เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตบริสุทธิ์ อัญรูปอะราโกไนต์ ขนาดของแผ่นอยู่ที่ 3-7 ไมครอน หนา 300-500 นาโนเมตร สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมเวชสำอาง อุตสาหกรรมอาหารและสุขภาพ และอุตสาหกรรมอื่นๆ เพื่อทดแทนการนำแคลเซียมคาร์บอเนตคุณภาพสูงจากต่างประเทศ สำหรับกระบวนการแปรรูป ดร. ชุติพันธ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการที่ไม่ซับซ้อน ใช้วัตถุดิบ อุปกรณ์และสารเคมีที่มีในประเทศ สามารถถ่ายทอดให้กับวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อยใช้ในการจัดการขยะจากเปลือกหอยเองได้ วิธีการที่พัฒนาขึ้นนี้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีการสร้างของเสีย (Zero Waste Process) เพราะสามารถแปรรูปสารเคมีที่เหลือจากกระบวนการผลิตให้เป็นปุ๋ยสำหรับภาคการเกษตรได้ทั้งหมด

การท หอยแมลงภ ม ส ต างก นเพ ออะไร

ส่วนผลิตภัณฑ์แคลเซียมคาร์บอเนตที่ผลิตได้ สามารถนำไปใช้เป็นส่วนผสมในสินค้า OTOP ได้หลากหลาย เช่น สบู่ขัดผิวผสมผงประกายมุก ซึ่งเป็นการแปรรูปเปลือกหอยแมลงภู่ ให้เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตบริสุทธิ์ ที่มีคุณภาพสูง สามารถกระจายตัวได้ดีในวัตถุดิบสำหรับทำสบู่ และทำให้เกิดฟองขนาดเล็กทำความสะอาดผิวได้ยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีโลชั่นบำรุงผิวผสมผงมุกที่เพิ่มความขาวกระจ่างใสให้ผิว โดยไม่ทำให้ผิวระคายเคืองเนื่องจากเป็นวัสดุจากธรรมชาติ มีคุณสมบัติสะท้อนรังสี UVB ได้ดี และผลิตภัณฑ์ทรายอะราโกไนต์จากเปลือกหอยแมลงภู่ สำหรับตู้ปลาสวยงามที่สามารถนำมาใช้ทดแทนปะการัง ช่วยปรับสภาพน้ำให้มีความเหมาะสมกับการเลี้ยงปลาทะเลสวยงาม

หอยแมลงภู่ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Perna viridis) จัดอยู่ในไฟลัมมอลลัสคาเป็นหอยสองฝา สีของเปลือกเปลี่ยนไปตามสภาพการอยู่อาศัย กล่าวคือ ถ้าอยู่ใต้น้ำตลอดเวลามีสีเขียวอมดำ ถ้าอยู่บริเวณน้ำขึ้นน้ำลง ถูกแดดบ้างเปลือกจะออกเหลือง เปลือกด้านนอกมีสีเขียว ส่วนท้ายจะกว้างกว่าส่วนหน้า เนื้อหอยมีสีเหลืองนวลหรือสีส้ม มีหนวดหรือเส้นใยเหนียวสำหรับเกาะหลักเรียกว่า เกสร หรือ ซัง

หอยแมลงภู่ ขนาดความยาวของเปลือกหอยที่สามารถสืบพันธุ์ได้มีความยาวตั้งแต่ 2.13 เซนติเมตรขึ้นไป มีความยาวตั้งแต่ 4-20 เซนติเมตร เป็นหอยที่กระจายพันธุ์ทั่วไปในทะเลแถบอินโดแปซิฟิก กินอาหารแบบกรองกิน ซึ่งกินได้ทั้งแพลงก์ตอนพืชและแพลงก์ตอนสัตว์ หอยแมลงภู่มีทั้งเพศแยก และมีสองเพศในตัวเดียวกัน มีการผสมพันธุ์นอกลำตัว หอยเพศผู้จะมีลำตัวหรือที่ห่อหุ้มตัวสีครีมหรือขาว ส่วนเพศเมียจะมีสีส้ม มีช่วงฤดูสืบพันธุ์อยู่ 2 ช่วงในรอบ 1 ปี คือช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม และช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์

หอยแมลงภู่ อาศัยด้วยการเกาะตามโขดหินและตามไม้ไผ่บริเวณชายฝั่งทะเล ห่างฝั่งประมาณ 1,000-3,000 เมตร ในน่านน้ำไทยพบได้ทั้ง 2 ฝั่งทะเล

การท หอยแมลงภ ม ส ต างก นเพ ออะไร
หอยแมลงภู่เมื่อปรุงสุกแล้ว

เป็นหอยที่นิยมบริโภคกันเป็นอย่างมาก สามารถนำไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น หอยทอด, ออส่วน เป็นต้น เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีการเพาะเลี้ยงกันมาเป็นเวลานาน โดยที่พันธุ์ของหอย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจะอาศัยจากธรรมชาติ ที่เมื่อหอยในธรรมชาติได้ผสมพันธุ์และปฏิสนธิเป็นลูกหอยตัวอ่อน ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กลอยไปตามกระแสน้ำแบบแพลงก์ตอนแล้ว จะใช้วัสดุที่เพาะเลี้ยงปักลงไปในทะเล เพื่อให้ลูกหอยนั้นเกาะอาศัย แบ่งออกได้เป็น การเลี้ยงแบบปักหลักล่อลูกหอย, การเลี้ยงแบบแพ, การเลี้ยงแบบแขวนบนราวเชือก และการเลี้ยงแบบตาข่ายเชือก แบบที่นิยมเลี้ยงกันมาก คือ แบบปักหลักล่อลูกหอย โดยใช้ไม้ไผ่หรือไม้ลวกในการล่อลูกหอยในระดับน้ำลึก 4-6 เมตร และเลี้ยงจนมีขนาดใหญ่ ถึงขนาดต้องการ บางแห่งนิยมใช้ไม้ไผ่ทำเป็นโป๊ะ เพื่อดักจับปลาและล่อลูกหอยในพื้นที่ 1 ไร่ หรือ 1,600 ตารางเมตร จะปักหลักได้ประมาณ 1,200 หลัก ทั้งนี้ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 6-8 เดือน จะได้หอยขนาดความยาวเฉลี่ย 5-6 เซนติเมตร เป็นขนาดที่สามารถส่งตลาด แต่ก็เป็นสัตว์ที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมาก เช่น อุณหภูมิร้อน หรือน้ำเสีย หรือมีน้ำจืดปะปนลงมาในทะเลเป็นจำนวนมาก หอยก็จะตาย ซึ่งภายในรอบปีสามารถเลี้ยงได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น นอกจากนี้แล้ว เปลือกหอยสามารถนำไปบดเพื่อผสมเป็นอาหารสัตว์ และผสมทำเป็นยา

อ้างอิง[แก้]

  • Rylander, K., J. E. Pérez & J. A. Gómez. 1996. Status of the green mussel, Perna viridis (Linnaeus, 1758) (Mollusca: Mytilidae), in north-eastern Venezuela. Caribbean Marine Studies, 5: 86-87.
  • ↑ ตลาดสดสนามเป้า, รายการทางช่อง 5: อาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 จักกริช พวงแก้ว สรณรัชฏ์ กาญจนะวณิช วิภาพรรณ นาคแพน. นักสืบชายหาด: พืชและสัตว์ชายหาด. กทม. มูลนิธิโลกสีเขียว. 2549