การ ต นดอกไม น าร กๆส ม วงเป นกล บ

วิธีทำให้ดอกไม้สดอยู่ได้นาน ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหน ดอกไม้ก็ยังมีสีสันสดใส ไม่เหี่ยวเฉาง่ายเหมือนที่ผ่านมา ตามไปชมการยืดอายุดอกไม้สดกันเลยค่ะ

เบื่อไหมคะ…ที่ต้องหาดอกไม้ใหม่มาเปลี่ยนใส่แจกันบ่อย ๆ บางครั้งยังไม่ทันหมดวันก็เหี่ยวซะแล้ว กระปุกดอทคอมเลยรวบรวมวิธีวิธีทำให้ดอกไม้สดอยู่ได้นานมาฝากกันค่ะ เพื่อให้คนที่ชอบแต่งบ้านด้วยดอกไม้สดได้นำไปกัน เพื่อให้ดอกไม้ยังคงสวยงาม ดูเฉิดฉาย และอยู่ประดับบ้านไปได้อีกนาน ไม่ต้องตระเวนหาซื้อดอกไม้ใหม่มาปักแจกันให้เปลืองทั้งเงินและเวลา

1. เลือกแจกันปากกว้างมาใช้

สิ่งแรกที่จะทำให้ดอกไม้ไม่เหี่ยวเฉาง่ายเลย นั่นก็คือการเลือกภาชนะหรือแจกันให้มีลักษณะปากกว้างและที่สำคัญต้องสะอาด ไม่ควรเลือกที่มีขนาดเล็กเกินไป ไม่อย่างนั้นก้านดอกไม้จะถูกเบียดเสียดจนช้ำและไม่สามารถดูดน้ำขึ้นมาเลี้ยงดอกได้

2. เติมน้ำร้อนรีเฟรชดอกไม้

ถ้าสภาพอากาศเย็นตัวลงและทำให้ดอกไม้ดูแห้งแล้ง เหมือนผิวพรรณที่ขาดน้ำ ให้นำน้ำเปล่าไปต้ม เมื่ออุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 43-44 องศาเซลเซียสให้เทลงไปในแจกันดอกไม้ทันที เพราะน้ำร้อนจะมีโมเลกุลขนาดเล็กที่สามารถซึมผ่านเข้าไปในก้านดอกได้อย่างรวดเร็ว ช่วยรีเฟรชดอกไม้ให้กลับมามีสีสันสดใสอีกครั้ง

3. หล่อน้ำอุ่นในแจกันช่วยรักษาความสด

นอกจากจะใช้น้ำร้อนช่วยรีเฟรชดอกไม้เหี่ยวแห้งให้กลับมาสดใสได้แล้ว เรายังสามารถนำน้ำอุ่นหรือน้ำอุณหภูมิห้องมาเทหล่อแจกันเอาไว้ ก็จะช่วยให้ดอกไม้สด ๆ เพิ่งตัดมามาด ๆ ยังคงความสดและมีสีสันสวยงามไปได้อีกนาน

4. ตัดใบล่างออกให้หมด

วิธีนี้ก็เปรียบเหมือนการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หากดอกไม้ที่มานำเสียบในแจกันยังติดใบที่ก้านอยู่ แถมใบเหล่านั้นก็จมน้ำอยู่ตลอดเวลา ให้รีบตัดทิ้งด่วน เพราะใบไม้ที่จมน้ำจะเน่าง่ายและกลายอาหารของแบคทีเรียที่อาจจะทำให้ดอกไม้เน่า

5. เปลี่ยนน้ำในแจกันบ้าง

อย่ามัวแต่ชื่นชมกับความสวยงามของดอกไม้จนลืมเปลี่ยนน้ำในแจกัน แต่ควรจะนำแจกันมาล้าง จากนั้นเติมน้ำสะอาดเข้าไปใหม่แล้วนำดอกไม้มาปักอีกครั้ง ถ้าจะให้ดีใส่ยาแอสไพรินลงไปในน้ำสัก 2-3 เม็ด เพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่จะมาทำลายดอกไม้จนเหี่ยวเฉา

6. ตัดก้านดอกไม้ให้ได้มุม 45 องศา

ไหน ๆ จะตัดดอกไม้มาใส่แจกันทันที ก็ตัดให้มันดีและถูกต้องไปเลยสิค่ะ ก่อนจะนำดอกไม้มาเสียบในแจกัน ให้ตัดปลายก้านดอกทำมุม 45 องศา เพื่อเพิ่มขนาดให้ก้านดอกสามารถดูดน้ำขึ้นไปเลี้ยงดอกไม้ได้มากขึ้นกว่าการตัดก้านตรง ๆ ส่วนดอกไม้ชนิดบอบบางอย่าง กุหลาบ แนะนำให้ตัดปลายก้านดอกไม้ในน้ำ เพราะแบคทีเรียที่อยู่ในอากาศจะทำให้ก้านดอกดูดน้ำไปเลี้ยงดอกได้ยาก

7. เติมน้ำยาป้องกันจุลินทรีย์

สามารถผสมใช้เองได้ไม่ต้องซื้อหาให้สิ้นเปลือง เพียงแค่นำน้ำอัดลมน้ำใสมาผสมกับสารฟอกขาว จากนั้นลองหยดส่วนผสม 1 ส่วน ลงในน้ำเปล่า 3 ส่วนของแจกันดูก่อน แล้วค่อยเพิ่มลงไปอีก 2-3 หยด ส่วนผสมเหล่านี้จะเข้าไปทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่จะมาทำลายดอกไม้ให้หมดไป

8. ตั้งดอกไม้ให้ห่างจากปัจจัยเสี่ยง

ถ้าชอบนำดอกไม้มาประดับตกแต่งบ้านจริง ก็ต้องรู้ว่าไม่ควรตั้งดอกไม้ไว้ใกล้กับปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง ปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา นั่นก็คือไม่ควรตั้งให้โดนแสงแดดโดยตรง พื้นที่ที่ถูกปิดอับมีอุณหภูมิสูง รวมไปถึงผลไม้เนื่องผลไม้จะปล่อยก๊าซเอทิลีน (ethylene) ออกมา ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาได้เร็วกว่าปกติ

9. ตัดส่วนเน่าทิ้งไปให้เร็วที่สุด

ถ้าในระหว่างที่กำลังชมความงดงามของดอกไม้ แล้วดันไปเจอดอกเน่าหรือก้านใบบางส่วนที่เน่าเสีย ให้รีบตัดทิ้งโดยด่วน เพราะไม่อย่างนั้นส่วนเน่าจะปล่อยก๊าซเอทิลีน (ethylene) เช่นเดียวกับผลไม้ ออกมาทำให้ดอกไม้สดรอบข้างเหี่ยวเฉาตามไปด้วย

คราวนี้รู้แล้วหรือยังว่า เพราะอะไรทำไมดอกไม้ในแจกันถึงเหี่ยวเฉาง่ายเหลือเกิน และเมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่านำวิธีรักษาความสดใหม่ที่เราหามาฝากกันในวันนี้ไปลองปรับใช้กันดูนะคะ เพื่อให้ดอกไม้ของคุณยังคงความสดและสวยงาม อยู่ประดับบ้านไปได้อีกนาน

ใครที่ตอนนี้ภายในใจกำลังคิดว่าดอกไม้ก็เป็นธรรมดาที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้น ไม่ได้มีความพิเศษหรือว้าวใด ๆ บทความนี้จะพาทุกคนมาสัมผัสกับความพิเศษของดอกไม้ที่จริง ๆ แล้วนั้นมีความพิเศษมากกว่าที่เราคิด

ไม่ใช่เรื่องกลิ่นหอม รูปลักษณ์ และสีสันที่สวยงามเพียงอย่างเดียวที่ทำให้หลาย ๆ คนตกหลุมรักจนเลือกให้เป็นสื่อแทนความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ แต่เจ้าดอกไม้ที่เราเห็นกันอยู่แทบทุกวันนี้ยังมีความหมายที่มีเสน่ห์และน่าค้นหารอให้เราทุกคนได้ค้นพบและเข้าใจ

โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเคยได้ยินความหมายของดอกไม้เพียงไม่กี่สายพันธ์ุ ส่วนมากจะเป็นสายพันธุ์ที่เคยเห็นกันอยู่บ่อย ๆ หรือไม่ก็เป็นพันธุ์ที่มีขายตามท้องตลาดหรือท้องถิ่นนั้น ๆ ฉะนั้นวันนี้ LoveYouFlower™ เลยจะขอมาแนะนำดอกไม้ 9 ชนิดที่คุณอาจจะคุ้นชื่อหรือไม่คุ้นชื่อ แต่ขอการันตีว่าความหมายดี ไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ

1. ดอกคาเมลเลีย (Camellia)

ดอกไม้ความหมายดีชนิดแรก เราขอแนะนำดอกคาเมลเลีย เป็นชนิดดอกไม้ที่คนในประเทศอังกฤษยกให้เป็นดอกไม้ที่มีความหมายโรแมนติกที่สุดว่า “โชคชะตาของฉันอยู่ในมือของเธอแล้ว” เหมาะอย่างยิ่งที่จะมอบช่อดอกไม้นี้ให้คนสำคัญในระหว่างออกเดต หรือขอแต่งงาน แต่ถึงจะมีความหมายหวานซึ้งแบบนี้ ในประเทศอื่น ๆ ดอกคาเมลเลียก็มีความหมายที่ต่างออกไป เช่น ในประเทศจีนดอกไม้ชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของแก้วตาดวงใจ อย่างลูกชายและลูกสาว ส่วนในประเทศญี่ปุ่น ถือว่าดอกคาเมลเลียเป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา ที่สื่อถึงพระเจ้าและการเฉลิมฉลองค่ะ

2. ดอกคาร์เนชัน (Carnation)

ถัดมาขอแนะนำดอกคาร์เนชัน ที่มีโทนสีหลากหลายไม่แพ้กัน แต่ละสีก็มีความหมายที่แตกต่างกันไป หากจะมอบ ช่อดอกคาร์เนชันให้ใคร ควรเลือกดอกคาร์เนชันที่เป็นสีโทนเดียวจะดีที่สุดเพราะเต็มไปด้วยความหมายที่ดีและเป็นมงคลค่ะ เช่น

• ดอกคาร์เนชันสีขาว หมายถึง ขอให้โชคดี นิยมใช้สำหรับแสดงความยินดีในงานต่าง ๆ
• ดอกคาร์เนชันสีชมพู หมายถึง ฉันจะไม่ลืมเธอเลย นอกจากนี้คนยังใช้ดอกคาร์เนชันสีชมพูในการสารภาพรักกันด้วยค่ะ

แต่สำหรับใครที่เลือกดอกคาร์เนชันสองสี สามารถเลือกได้ตามความชอบและรสนิยมส่วนบุคคล ซึ่งจริง ๆ แล้วดอกคาร์เนชันสองสี ก็สื่อความหมายเชิงปฏิเสธว่า “ฉันมองเธอเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น” ฉะนั้นใครที่ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนอย่าเลือกช่อคาร์เนชันสองสีเด็ดขาดนะคะ

3. ดอกคาโมมายล์ (Chamomile)

สำหรับดอกคาโมมายล์ ถือเป็นดอกไม้ที่คนไทยส่วนใหญ่รู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดีจากการนำมาทำเป็นเมนูเครื่องดื่มอย่างชาสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยเรื่องการนอน นอกจากเป็นสมุนไพรแล้วยังเป็นช่อดอกไม้สุดน่ารัก เหมาะมอบเป็นกำลังใจให้คนสำคัญก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ไปให้ได้อีกด้วย

4. ดอกเวอร์บีน่า (Verbena)

มาต่อกันที่ดอกเวอร์บีน่า ที่หลาย ๆ คนอาจไม่คุ้นหน้าและไม่คุ้นชื่อ เจ้าดอกนี้เป็นดอกไม้สีม่วงที่มีหน้าตาน่ารัก มีความหมายที่สึ่อถึงความสุขของทุกคนในครอบครัว และนอกจากนั้นแล้วดอกเวอร์บีน่ายังมีความหมายว่า โปรดอวยพร อีกด้วย ใครที่อยากส่งความสุขให้คนในครอบครัวหรือต้องการอวยพรใครสักคนดอกเวอร์บีน่าตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

5. ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil)

“ดอกแดฟโฟดิล” หรือเรียกอีกอย่างว่า “ดอกนาร์ซิสซัส” เป็นดอกไม้ที่ผู้คนนิยมมอบให้กันเพื่อแสดงความยินดี ไม่ว่าจะเป็นฉลองที่ได้งานใหม่ ฉลองที่ได้บ้านใหม่ หรือฉลองให้แก่สมาชิกใหม่ภายในครอบครัว เนื่องจากในภาษาดอกไม้ ดอกแดฟโฟดิล หมายถึง การเริ่มต้นใหม่นั่นเองค่ะ

6. ดอกไลแลค (Lilac)

สำหรับดอกไลแลค เป็นดอกไม้ที่ลักษณะเป็นพุ่ม มักจะออกดอกในหน้าร้อน มีมากมายหลายสีเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นสีม่วง ชมพู ขาว นวล และบางครั้งก็มีสีแดงเข้ม มีความหมายที่สื่อถึงความรู้สึกของรักแรก เป็นดอกไม้ที่ชายหนุ่มมักจะมอบให้หญิงสาวในวันออกเดต เพื่อบอกว่าเธอเป็นเหมือนรักแรกพบของคุณ

7. ดอกกุหลาบ (Rose)

ถ้าพูดถึงดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความรักในทุก ๆ รูปแบบ ถึงขนาดที่ถูกยกย่องว่าเป็นราชินีแห่งดอกไม้ ก็ต้องนึกถึง “ดอกกุหลาบ” เป็นอันดับแรกเลยจริงไหมคะ เพราะไม่ว่าจะโอกาสไหน หรือมอบให้ใคร ถ้าให้เลือกซื้อดอกไม้ Love You Flower เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึง ช่อดอกกุหลาบ มาก่อนเป็นอันดับแรกแน่

แต่รู้หรือไม่ว่าดอกไม้ชนิดนี้ หากมีสีที่ต่างกันออกไปแล้ว ความหมายก็ต่างด้วยเช่นกัน และสีที่ทุกคนรู้ความหมายกันอยู่แล้วก็จะเป็นสีขาว สีชมพู สีแดง และสีเหลืองใช่ไหมคะ แต่คราวนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักความหมายของดอกกุหลาบสีอื่น ๆ กันด้วย จะมีสีอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

• ดอกกุหลาบสีเหลือง (ปลายกลีบเป็นสีแดง) หมายถึง ฉันกำลังตกหลุมรักเธอ เหมาะจะมอบให้กันในช่วงที่เริ่มต้นคบกันใหม่ ๆ หรือถ้าอยากจะอ้อนแฟนที่คบกันมานาน การให้ดอกกุหลาบสีนี้เพื่อบอกว่าถึงเราจะคบกันมานาน แต่ก็ยังตกหลุมรักเธอทุกวันได้เช่นกัน
• ดอกกุหลาบสีพีช หมายถึง การแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนและความจริงใจ
• ดอกกุหลาบสีส้ม หมายถึง ความรัก ความศรัทธาอย่างแรงกล้า รวมทั้งความหลงใหลลุ่มหลงด้วย
• ดอกกุหลาบสีม่วง หมายถึง รักแรกพบ
• ดอกกุหลาบสีเขียว หมายถึง จิตวิญญาณของหนุ่มสาวที่คงอยู่ตลอดกาล หมายความว่าถึงจะอายุมากแค่ไหนแต่ใจยังเด็กตลอดกาล
• ดอกกุหลาบสีมินต์ หมายถึง การแสดงความยินดี ความรื่นเริง และการเริ่มต้นใหม่
• ดอกกุหลาบสีดำ หมายถึง การเกิดใหม่ การเริ่มต้นใหม่ และความรักที่รักตลอดไปชั่วนิรันดร์

8. ดอกทานตะวัน (Sunflower)

ดอกทานตะวันสีเหลือง มีหลายความหมายเลยค่ะ และทุกความหมายล้วนสื่อถึงแง่บวกทั้งสิ้นเลยเช่น

• ความสุข
• การมองโลกในแง่ดี
• ความซื่อสัตย์
• การมีอายุยืนยาว
• ความสงบสุข
• การชื่นชม สรรเสริญ
• การเสียสละ อุทิศตัวเพื่อคนอื่น
• ในสมัยวิคตอเรียน การมอบช่อดอกทานตะวันให้ใครสักคนนั้นก็เพื่อสื่อถึงความรู้สึกขอบคุณ หรือความสำนึกในบุญคุณที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ
• ในประเทศจีน ดอกทานตะวันเป็นสัญลักษณ์ของอายุยืนยาวและพละกำลัง นอกจากนี้ยังเชื่อว่าดอกทานตะวันจะช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีโชคลาภอีกด้วย

9. ดอกเยอบีร่า (Gerbera)

ดอกเยอบีร่า เป็นดอกไม้อีกชนิดที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงเยอะมาก และมีสีเยอะมากไม่แพ้กัน โดยสายพันธุ์ที่เราหยิบยกมาพูดในคราวนี้ก็คือ “เยอบีร่าเดซี่” ค่ะ ซึ่งแต่ละสีของมันมีความหมายแตกต่างกันออกไป ดังนี้

• ดอกเยอบีร่าสีเหลือง หมายถึง ความสุข ความสนุกสนาน และความสดชื่น กระฉับกระเฉง เหมาะจะมอบให้เป็นของขวัญแก่คนที่ผ่านช่วงเวลายากลำบากมาได้ หรืออยากจะเป็นกำลังใจให้เขาคนนั้นค่ะ
• ดอกเยอบีร่าสีแดง หมายถึง ความรักที่หวานลึกซึ้งไม่เกรงใจใคร
• ดอกเยอบีร่าสีชมพู หมายถึง การแสดงความชื่นชมยินดี
• ดอกเยอบีร่าสีส้ม หมายถึง ความสดใสราวกับดวงอาทิตย์
• ดอกเยอบีร่าสีม่วง หมายถึง การบอกให้ใครคนนั้นรู้ว่าคุณกำลังสนใจเขาอยู่แบบลับ ๆ

นอกจากทั้ง 9 ดอกไม้ดังกล่าวแล้ว ยังมีดอกไม้อีกมากมายบนโลกนี้ที่มีความหมายดี๊ดี เหมาะที่จะมอบให้คนที่เรารักเพื่อสื่อแทนความในใจ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกรัก ขอบคุณ หรือขอโทษ เราสามารถมอบช่อดอกไม้แทนคำพูดเหล่านั้นได้ นอกจากจะทำให้เราดูเป็นคนโรแมนติกแล้ว ยังหมายถึงว่าเราใส่ใจคนสำคัญของเรามากแค่ไหนด้วยนะคะ แค่ดอกไม้ก็ทำให้พวกเขาสามารถยิ้มกว้างไปได้ทั้งวันแล้วค่ะ