กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

คาถานี้ให้ท่อง 1 จบ ก่อนที่จะอ่านหนังสือ และเมื่ออ่านเนื้อหาที่จะใช้จบ ให้ท่องคาถานี้อีก 1 จบ เมื่อเราสามารถจำคาถาได้แล้ว ให้เพิ่มเป็น 5 จบ ช่วงก่อนและหลังอ่านหนังสือ ถ้าทำเป็นประจำ เชื่อว่าจะทำให้ความจำดีขึ้น และสามารถทำข้อสอบได้แม่นยำ

คาถาพระสุนทรีวาณี

"มุนินทะ วะทะนัมพุชะ คัพภะสัมภะวะ สุนทะรีปาณีนัง สะระณัง วาณี มัยหัง ปิณะยะตัง มะนังฯ"

คาถานี้ให้ท่อง 3, 5 หรือ 7 จบ ซึ่งคาถาพระสุนทรีวาณี เป็นคาถาที่พระอาจารย์ที่วัดสุทัศน์ให้สวด บอกว่าเป็นคาถาที่ทำให้จำแม่น โดยส่วนมาจะใช้สวดเวลาพระสงฆ์จะสวดพระไตรปิฎก

คาถาท่องก่อนทำข้อสอบ

ตั้ง นะโม 3 จบ

"พานังทา โส สัตถานัง มิโคมัง มิโคมา"

เป็นคาถาที่ท่องก่อนเปิดข้อสอบ โดยตอนที่เราท่องคาถา ให้คิดว่าเราต้องทำได้ ต้องสอบได้ ให้กำจัดความคิดที่คิดว่าเราทำไม่ได้ออกไปให้หมด จะช่วยให้เราสามารถทำข้อสอบได้อย่างมั่นใจ

คาถาช่วยเรียกความมั่นใจให้ห้องสอบ

ตั้ง นะโม 3 จบ

"สหัสสเนตโต เทวินโต ทิพพจักขุง วิโสทายิ"

หลังจากท่องคาถาแล้วให้เปิดกระดาษข้อสอบขึ้นมา ถ้าอ่านแล้วยังรู้สึกว่ายังไม่มั่นใจว่าทำได้ ให้คว่ำกระดาษลงแล้วท่องคาถาอีก 7 จบ แล้วเริ่มทำความรู้สึกเลย ให้เชื่อในสัญชาตญาณแรกในการตอบคำถาม

ไม่ว่าจะสโมสรหรือทีมชาติไหน ๆ การที่นักเตะคนหนึ่งได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ของทีมนั้น ๆ ล้วนเป็นความภาคภูมิใจสำหรับพวกเขา เนื่องด้วยเสื้อแข่งหมายเลขนี้ ถูกมองว่าเป็นเสื้อหมายเลขสำหรับให้นักเตะที่เก่งและมีอิทธิพลที่สุดของทีม ทั้งในและนอกสนาม ได้สวมใส่ลงเล่น

เสื้อเบอร์ 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น เองก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

แต่ทว่าช่วงต้นปี 2023 ที่ผ่านมา ตำแหน่งนักเตะผู้สวมเสื้อเบอร์ 10 อันทรงเกียรติ ของทีมชาติญี่ปุ่น ลงสนามเผชิญหน้ากับคู่แข่งนั้น กลับกลายเป็นตำแหน่งว่าง ไม่มีใครก้าวขึ้นมารับไม้ต่อจากคนก่อนหน้า

ก่อนที่สุดท้ายจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีแข้งรุ่นใหม่ที่ "กล้า" และ "พร้อม" จะเข้ามารับบทบาทดังกล่าวต่อแล้ว นักเตะคนนั้นมีชื่อว่า "ริตสี โดอัน"

เขาคือใคร ? ติดตามเรื่องราวของ (ว่าที่) นักเตะเบอร์ 10 ของทีมชาติญี่ปุ่นคนใหม่ ไปกับเรา Main Stand

ขัดเกลาฝีเท้า ก่อนออกไปท้าทายโลกกว้าง

หากใครจำกันได้ ในช่วงฟุตบอลโลก 2022 ญี่ปุ่น คือหนึ่งในทีมที่ทำผลงานได้น่าประทับใจ หลังจากสามารถเอาชนะได้ทั้ง สเปน และ เยอรมนี ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่ง "ริตสี โดอัน" ที่ได้โอกาสลงเล่นทั้งสองเกมนี้ ก็ทำผลงานผลิตสกอร์เกมละ 1 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวของทีมชาติญี่ปุ่น ประจำการแข่งขันครั้งนั้น และส่งผลให้ญี่ปุ่นผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ในฐานะแชมป์กลุ่มไปในที่สุด

ชื่อของ ริตสึ โดอัน เลยเป็นหนึ่งในชื่อของนักเตะทีมชาติญี่ปุ่น ที่ถูกพูดถึงในช่วงอีเวนท์ฟุตบอลโลก 2022 อยู่พักใหญ่ ไม่แพ้เพื่อนร่วมทีมคนอื่น ๆ ทั้ง คาโอรุ มิโตมะ, ทาเคฟุสะ คุโบะ หรือ ทาคุมะ อาซาโนะ

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

เส้นทางการค้าแข้งของเขา เรียกได้ว่ามีผลงานที่เห็นภาพชัดตลอดแทบทุกปี เริ่มขัดเกลาฝีเท้าการเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ กับทีมโรงเรียนในบ้านเกิดของตัวเอง ที่จังหวัดเฮียวโงะ ก่อนจะได้รับข้อเสนอจากหลายสโมสรฟุตบอลอาชีพชั้นนำในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น วิสเซล โกเบ, กัมบะ โอซากา, เซเรโซ โอซากา และ นาโงยา แกรมปัส ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมพวกเขา ในฐานะนักเตะเยาวชน

และเป็นทาง กัมบะ โอซากา ที่ได้ตัว ริตสึ โดอัน ในวัย 13 ย่างเข้า 14 ปี ไปฝึกปรือทักษะลูกหนังต่อ

เพียงปีเดียว โดอัน พร้อมกับเพื่อน ๆ กัมบะ โอซากา ชุด U-15 ก็สามารถพาทีมคว้าสามแชมป์ใหญ่ของรายการฟุตบอลถ้วยระดับสโมสรในญี่ปุ่น ชุดอายุไม่เกิน 15 ปี ได้แก่ เจเอฟเอ พรีเมียร์คัพ 2012, ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์สโมสรญี่ปุ่นครั้งที่ 27 ชุด U-15 และ ศึกฟุตบอลถ้วยของเจ้าชายทาคามาโดะ ครั้งที่ 24 ชุด U-15

ด้วยตำแหน่งตัวรุกริมเส้นที่ถนัดเท้าขวา รวมถึงทักษะการเลี้ยงบอลที่คล่องแคล่วจนคนอื่นแย่งบอลด้วยยากของเขา ทำให้ ริตสึ โดอัน ถูกแฟนบอล กัมบะ โอซากา ตั้งฉายาให้เป็น "อากิฮิโระ อิเอนางะ รุ่นที่ 2" โดย อากิฮิโระ อิเอนางะ คืออดีตนักเตะของ กัมบะ โอซากา ที่มีจุดเด่นในเรื่องเทคนิคการเลี้ยงบอลครองบอลอันเหนียวแน่น จนยากสำหรับผู้เล่นคู่แข่งที่จะเข้ามาแย่งบอลจากเขา (ปัจจุบันปี 2023 อิเอนางะ ในวัย 37 ปี กำลังเล่นอยู่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล)

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

พร้อมกับถูก กัมบะ โอซากา ดันขึ้นไปเล่นอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรเป็นครั้งแรก ในปี 2015 ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัวในปี 2016 ด้วยวัย 17 ย่างเข้า 18 ปี หลังลงเล่นให้กับต้นสังกัดในศึกเจลีก ประจำฤดูกาลนั้นไป 21 เกม ยิงได้ 10 ประตู

และผลงานการยิงประตูแตะเลขสองหลักของเขา ในเจลีก ฤดูกาล 2016 มันก็เป็นใบเบิกทางให้ ริตสึ โดอัน ได้รับโอกาสครั้งใหญ่กับการออกเดินทางไปค้าแข้งในต่างแดนครั้งแรก

ก้าวกระโดดแทบทุกปี

เอฟซี โกรนิงเกน ทีมในลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ ได้ยื่นข้อเสนอยืมตัวเขาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะช่วงฤดูร้อน ปี 2017

เจ้าตัวไม่ปฏิเสธโอกาสครั้งนี้ หอบข้าวของไปค้าแข้งอยู่ในลีกเนเธอร์แลนด์ 1 ฤดูกาลเต็ม ซึ่งก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม 10 ประตู จากการลงเล่น 31 เกมรวมทุกรายการให้กับ เอฟซี โคนิงเกน ในฤดูกาล 2017/18 และสโมสรแห่งนี้ก็ได้คว้าตัวเขาในวัย 20 ปี มาร่วมทีมถาวรด้วยราคา 1.7 ล้านยูโร ในฤดูกาล 2018/19

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

โดอัน ยกระดับฝีเท้าของตัวเอง รวมถึงได้ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรที่ดีกรีชึ่อชั้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ แทบทุกปี เริ่มจาก ฤดูกาล 2019/20 หลังลงเล่นให้กับ เอฟซี โคนิงเกน ได้ 2 ปี เป็นทาง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน หนึ่งในทีมชั้นนำของลีกเนเธอร์แลนด์ ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม ด้วยราคา 7.5 ล้านยูโร

จากนั้นถูกยืมตัวไปเล่นให้กับ อาร์มีเนีย บีเลเฟลด์ ในบุนเดสลีกา เยอรมนี ในฤดูกาล 2020/21 ก่อนจะกลับมาลับฝีเท้าต่อกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ในฤดูกาล 2021/22

และล่าสุดได้ย้ายไปเล่นให้กับ ไฟร์บวร์ก ในบุนเดสลีกา ฤดูกาล 2022/23 ค่าตัว 8.5 ล้านยูโร พร้อมกับสามารถพาทีมไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาลต่อมา 2023/24

ซึ่ง โดอัน เองก็เปิดเผยว่าหนึ่งในความฝันของเขา สำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพก็คือการประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งในลีกสูงสุดของเยอรมนี โดยมี ชินจิ คางาวะ แข้งรุ่นพี่ที่เคยโลดแล่นในลีกบุนเดสลีกา เป็นต้นแบบ

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

"ผมคิดว่าเป็นเพราะ ชินจิ คางาวะ หลายคนในญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงผมด้วย อยากเล่นในบุนเดสลีกาก็เพราะเขา เขาคือนักเตะญี่ปุ่นที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่เคยเล่นในลีกแห่งนี้ ผมตัดสินใจง่ายมากตอนที่มีทีมจากบุนเดสลีกายื่นข้อเสนอมาให้ผม สมัยยังเล่นอยู่ในลีกเนเธอร์แลนด์" ริตสึ โดอัน กล่าว

ส่วนระหว่างทางที่กำลังโลดแล่นกับการค้าแข้งในต่างแดน ริตสึ โดอัน ก็ได้รับลิ้มรสกับการลงเล่นทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2018 เกมอุ่นเครื่อง เปิดบ้านถล่ม คอสตา ริกา 3-0 และมีโอกาสสวมเสื้อสีน้ำเงินของทีมชาติญี่ปุ่น รับใช้ชาติมาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งเข้าช่วงปี 2021 เลยไปถึงต้นปี 2022 โดอัน ที่ฟอร์มตอนนั้นกำลังเข้าที่ทางกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน กลับแทบไม่ได้รับโอกาสจาก ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือทีมชาติญี่ปุ่น ลงสนามให้กับทัพ "ซามูไรบลู" มากเท่าที่ตัวเองคิดไว้

ก่อนที่เขาจะได้ทำสิ่ง ๆ หนึ่งที่ทำให้เหล่าแฟนบอลทีมชาติญี่ปุ่น เสียงแตกเป็นสองฝ่าย รวมถึงทำให้ตัวเองได้เติบโตมากขึ้นในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ

เคลียร์ใจ

ริตสึ โดอัน ได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่น ภายใต้การคุมบังเหียนของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ไปเพียง 2 เกมเท่านั้น ในช่วงเวลา 1 ปี ระหว่างเดือนมีนาคม 2021 จนถึงเดือนมีนาคม 2022 ทั้งที่เขาก็ไม่มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นมากนัก ในช่วงที่ทีมชาติมีโปรแกรมการแข่งขัน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เจ้าตัวรู้สึกไม่ค่อยพอใจเท่าไรกับการเรียกตัวนักเตะเข้าแคมป์ฝึกซ้อมของกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น

เลยเป็นที่มาของข้อความที่ ริตสึ โดอัน โพสต์ลงในทวิตเตอร์ส่วนตัว เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2022 โดยหลายคนมองว่าเขาต้องการแสดงความรู้สึกเชิงเจ็บใจ, น้อยใจ ใส่ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ที่ไม่เลือกเขาติดทีมชาติ ว่า

"ผมเป็นคนที่ชอบเจอกับความทุกข์ยากและอุปสรรคต่าง ๆ ผมจะพยายาม !! ข้ามผ่านมันไปให้ได้ อ๊ะ, แล้วก็อีกอย่าง ผมไม่ได้รับบาดเจ็บนะ !!"

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

ข้อความดังกล่าวของ ริตสึ โดอัน ทำให้ความเห็นของแฟนบอลญี่ปุ่น แตกเป็นสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่มองว่า ฮาจิเมะ โมริยาสุ เลือกใช้แต่นักเตะคนเดิม ๆ ลงสนามให้กับทีมชาติญี่ปุ่นอยู่บ่อยครั้งจริง ๆ จนทีมอื่น ๆ อาจจะเริ่มจับทางแผนการเล่นของญี่ปุ่นแล้วก็ได้ และไม่ค่อยให้โอกาสนักเตะใหม่ ๆ ที่ฟอร์มกำลังดีกับทีมในลีกยุโรป ซึ่ง ริตสึ โดอัน ก็เป็นหนึ่งในนั้น

กับอีกฝ่ายที่วิจารณ์การกระทำของ ริตสึ โดอัน ในครั้งนี้ที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นมืออาชีพ ไม่เคารพการตัดสินใจของกุนซือ รวมถึงขุมกำลังนักเตะที่ ฮาจิเมะ โมริยาสุ เรียกติดทีมชาติญี่ปุ่นอยู่เรื่อย ๆ นั้นก็อุดมไปด้วยนักเตะที่ดีที่สุดของประเทศแล้วทั้งนั้น

ก่อนที่เวลาต่อมา ในช่วงเดือนเมษายน 2022 ฮาจิเมะ โมริยาสุ จะได้เดินทางไปที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อชมเกมการแข่งขันของ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน และดูฟอร์มของ ริตสึ โดอัน รวมถึงขอพูดคุยกับแข้งรายนี้เป็นการส่วนตัว

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

" 'ผมอยากรู้ ความรู้สึกทั้งหมดของคุณเกี่ยวกับการเรียกตัวติดทีมชาติของผม' นั่นคือคำถามแรกที่เขา (โมริยาสุ) ถามผม เมื่อพวกเราได้เจอกัน" ริตสึ โดอัน กล่าวกับ Number.Bunshun ถึงคำถามแรกและคำถามเดียวที่เขาได้รับจากโมริยาสุ หลังเกิดกระแสวิจารณ์การเรียกตัวนักเตะติดทีมชาติญี่ปุ่น

"ผมก็เลยบอกทุกอย่างที่ผมรู้สึกไปกับการเรียกตัวติดทีมชาติของเขา จากนั้น เขาก็ชื่นชมผมพร้อมกับให้คำสัญญาว่า 'วันนี้คุณเล่นได้ดีเลยนะ รักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ให้ดี และเตรียมตัวให้พร้อมกับการลงเล่นให้กับทีมชาติหลังจากนี้' "

"ผมก็ได้ทำตามที่เขาบอก จนผมกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งในเดือนมิถุนายน แล้วมันก็ได้นำตัวผมไปสู่การติดทีมลุยฟุตบอลโลก 2022"

โดอัน กล่าวต่ออีกว่า "มันเหมือนเป็นการพูดคุยกัน เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างเข้าใจความรู้สึกกัน เขาบอกกับผมอีกว่า หลังจากนี้ทีมจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาอยากให้ผมคว้าโอกาสที่จะถึงนี้เอาไว้ และเชื่อว่าผมจะทำมันได้ ถ้ายังรักษาฟอร์มแบบนี้เอาไว้ได้อยู่ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมยังคงมุ่งมั่นกับการทำงานให้หนักอยู่เสมอ"

"เพื่อที่ผมจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของทีมชาติ สำหรับฟุตบอลโลกที่กำลังจะมาถึง และโปรแกรมอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต"

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

และ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ก็ได้ทำตามคำสัญญาที่มอบให้กับ ริตสึ โดอัน เอาไว้จริง ๆ เมื่อแข้งรายนี้รักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองเอาไว้ เขาก็ได้รับโอกาสกลับมาลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่นอีกครั้ง ก่อนจะเป็นตัวแปรสำคัญให้กับทีมในศึกฟุตบอลโลก 2022 ทำสองประตูในรอบแบ่งกลุ่ม พาทัพ "ซามูไรบลู" เข้าสู่รอบน็อกเอาต์

ริตสึ โดอัน ลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องในปี 2023 และได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของเขา นั่นคือการได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ลงสนามแข่ง ในนามทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นเบอร์เสื้อที่เต็มไปความคาดหวังจากผู้คนอันมหาศาล

เบอร์เสื้อที่ไม่มีใครกล้าแตะ

สำหรับทีมชาติญี่ปุ่น พวกเขาเองก็ไม่ต่างอะไรกับอีกหลาย ๆ ชาติ ในเรื่องของเสื้อแข่งหมายเลข 10

นี่คือหนึ่งในเสื้อเบอร์สำคัญของทีม ที่เต็มไปด้วยความขลังและความภาคภูมิใจ ผ่านการสวมใส่โดยเหล่าตำนานนักเตะแดนอาทิตย์อุทัยมาแล้วหลายคน

ส่วนใหญ่ นักเตะผู้ได้รับเลือกให้สวมเสื้อหมายเลข 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น โดยเฉพาะในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย จะเห็นว่าพวกเขาแทบทั้งหมดนั้น เป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลางตัวรุก

ไล่เรียงตั้งแต่ ฮิโรชิ นานามิ เพลย์เมกเกอร์เบอร์ 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น ในศึกฟุตบอลโลก 1998 ชุนซุเกะ นาคามูระ มิดฟิลด์เชิงรุก กับลูกยิงฟรีคิกสุดอันตรายของเขา ในศึกฟุตบอลโลก 2006, 2010 ชินจิ คางาวะ ในศึกฟุตบอลโลก 2014, 2018 และล่าสุด ฟุตบอลโลก 2022 เป็น ทาคุมิ มินามิโนะ ที่ได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ลงเล่นทัวร์นาเมนต์ครั้งนั้น (ขณะที่ฟุตบอลโลก 2002 เป็น มาซาชิ นากายามะ นักเตะในตำแหน่งกองหน้า)

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

เหตุผลที่ว่าทำไมถึงมักจะต้องเป็นนักเตะในตำแหน่งกองกลางตัวรุกอยู่บ่อยครั้ง ที่ได้สวมเสื้อแข่งเบอร์ 10 ให้กับทีมชาติญี่ปุ่น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอิทธิพลจากมังงะฟุตบอลชื่อดัง "กัปตันสึบาสะ" ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเตะหลาย ๆ คน โดยพระเอกของการ์ตูนเรื่องนี้อย่าง โอโซระ สึบาสะ เป็นทั้งนักเตะที่สวมเสื้อเบอร์ 10 รวมถึงเล่นในตำแหน่งกองกลางเชิงรุก

แต่กลับกลายเป็นว่า ฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่น กำลังประสบปัญหาครั้งใหญ่ กับการที่พวกเขาไม่มีนักเตะคนไหน กล้าพอจะก้าวขึ้นมาสืบทอดเสื้อหมายเลข 10 ของ "ซามูไรบลู" เป็นคนต่อไป หลังผ่านศึกฟุตบอลโลก 2022

เห็นได้จากช่วงที่ทีมชาติญี่ปุ่น ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องในเดือนมีนาคม 2023 แล้วไม่มีใครเลือกสวมเสื้อหมายเลข 10 ลงเล่นให้กับทีมเลย

ซึ่งมีการคาดเดากันว่า บรรดานักเตะทีมชาติญี่ปุ่น กำลังสื่อว่าพวกเขาอยากจะให้ ทาคุมิ มินามิโนะ เจ้าของเสื้อหมายเลข 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น ในช่วงฟุตบอลโลก 2022 ที่ไม่มีชื่อติดทัพซามูไรในรอบนั้น ได้กลับมาสวมเสื้อเบอร์นี้ เมื่อมีชื่อติดทีมชาติอีกครั้ง จึงเว้นเสื้อเบอร์ดังกล่าวให้ว่างไว้ โดยไม่มีใครเลือกใส่ลงเล่น

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

อย่างไรก็ตาม มินามิโนะ ก็ไม่เลือกที่จะกลับมาสวมเสื้อหมายเลข 10 ของทีมชาติตัวเองอีก หลังจากที่กลับมาติดทีมชาติญี่ปุ่นอีกครั้ง นับตั้งแต่ผ่านช่วงฟุตบอลโลก 2022

ด้วยเหตุผลเรื่องฟอร์มการเล่นในช่วงไม่กี่ปีหลัง ที่เจ้าตัวมองว่าตนยังไม่ดีพอกับการสวมเสื้อหมายเลขนี้ ของทีมชาติญี่ปุ่น จึงได้เปลี่ยนไปสวมเสื้อเบอร์อื่นแทน

อีกทั้งนักเตะรุ่นน้องหลายคนในทีมชาติ ก็มีผลงานในช่วงที่ผ่านมาที่ดูดีกว่าเขา ทำให้มินามิโนะเองก็อาจจะรู้สึกลำบากใจอยู่ไม่น้อย เมื่อทุกคนยังมองว่าเขาคือคนที่เหมาะสมและคู่ควรมากที่สุด กับการได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น ทั้งที่แข้งรุ่นน้องหลายคนก็เริ่มมีผลงานที่แซงหน้าเขาไปแล้ว

ทำให้เกิดคำถามจากแฟนบอลว่า แล้วใครล่ะ ? คือคนที่จะมารับช่วงต่ออย่างเป็นจริงเป็นจัง สำหรับการเป็นผู้สวมเสื้อหมายเลขนี้ ของทีมชาติญี่ปุ่น

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

และสุดท้ายเป็นทาง ริตสึ โดอัน ปีกวัย 25 ปี ที่ขออาสารับแรงกดดันมหาศาล สวมเสื้อหมายเลข 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น ต่อจาก ทาคุมิ มินามิโนะ

พร้อมกับจะทำให้ทุกคนเห็นหลังจากนี้ว่า "เขานี่แหละ จะเป็นผู้สืบทอดเบอร์ 10 คนต่อไปของทีมชาติญี่ปุ่น"

เบอร์ 10 แบบที่ไม่มีใครเคยเป็น

เสียงของเหล่าแฟนบอลทีมชาติญี่ปุ่น แตกออกเป็นสองฝ่ายอีกครั้ง เมื่อรู้ว่า ริตสึ โดอัน จะได้รับบทบาทเป็นผู้สวมเสื้อเบอร์ 10 ลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่น ต่อจากนี้

เพราะบางส่วนก็มองว่า มีนักเตะคนอื่นที่คู่ควรสำหรับการได้สวมเสื้อเบอร์ 10 มากกว่าเขา เช่น คาโอรุ มิโตมะ ที่ฟอร์มกำลังแจ่มสุด ๆ กับ ไบรตัน ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่เป็นตัวหลักอย่างต่อเนื่องกับ เรอัล โซเซียดาด ในลาลีกา สเปน

แต่ก็มีแฟนบอลอีกบางส่วน ที่มองว่า ริตสึ โดอัน เองก็คู่ควรกับการสวมเสื้อเบอร์ 10 ลงเล่นให้กับทีมชาติเช่นกัน ทั้งด้วยตำแหน่งที่เล่นเป็นตัวรุก, ผลงานของเขาทั้งในนามสโมสรกับทีมชาติ

และที่สำคัญก็คือ "ความกล้า" เพราะเขาแทบจะเป็นคนเดียวที่ออกมาเปิดเผยผ่านสื่อต่าง ๆ อย่างชัดเจนเองว่า อยากจะเป็นสวมเสื้อหมายเลข 10 ลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่น แม้มันจะต้องเจอกับความกดดันมหาศาล แต่เขาก็พร้อมจะรับมันไว้ เพื่อความฝันของเขาเอง

กาล ม นต น อ นโดน เซ ย เหม องทอง

"ผมพูดอยู่เสมอว่าผมอยากมีหมายเลข 10 ติดอยู่ที่หลังเสื้อของผม เวลาลงเล่นในนามทีมชาติ ผมอยากจะเป็นเอซของทีม" ริตสึ โดอัน กล่าวกับ Shueisha.Online

"และผมก็อยากจะเป็นมากกว่านั้น ผมอยากจะเป็นคนที่สามารถพาทีมชาติญี่ปุ่นยังจุดสูงสุดได้ ผมอยากจะเป็นคนที่ทุกคนสามารถฝากทุกอย่างไว้ที่ผมได้ เมื่อทีมกำลังเจอกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ผมพร้อมที่จะเป็นแบบนั้น"

"ผมอยากให้แฟนบอลทุกคน คอยกดดันผมต่อไป ผมต้องการให้ทุกคนคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดจากพวกเรา อย่าลังเลที่จะวิจารณ์ผม เมื่อทีมไปไม่ถึงจุดหมาย ทั้งหมดที่ว่ามาก็เพื่อประโยชน์ต่อทีมที่อยากจะไปถึงจุดสูงสุด"

"ผมอยากจะแสดงให้ทีมชาติญี่ปุ่น รวมถึงแฟนบอลได้เห็น ถึงมุมมองที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน สำหรับนักเตะหมายเลข 10 ของทีมชาติญี่ปุ่น"

สุดท้ายแล้ว ริตสี โดอัน จะได้รับการยอมรับจากผู้คนโดยส่วนใหญ่ ให้เป็นหนึ่งเดียวที่คู่ควรกับการได้สวมเสื้อเบอร์ 10 ลงเล่นให้ทีมชาติญี่ปุ่นหรือไม่ อนาคตหลังจากนี้ จะเป็นตัวพิสูจน์เอง