ไม่น่าเชื่อเลยว่า นอกจากโรคเบาหวานและโรคอ้วนที่มากับเทรนด์การติดเครื่องดื่มหวานๆ อย่างชานมไข่มุกของคนในปัจจุบันแล้ว “โรคไต” ก็เป็นอีกหนึ่งโรคเรื้อรัง ที่หนึ่งในปัจจัยเสี่ยงคือการกินอาหารหรือเครื่องดื่มหวานๆ ได้เหมือนกัน ทั้งนี้ โรคไตยังนับเป็นโรคที่มีอัตราผู้ป่วยสูงขึ้นจนกลายเป็นโรคอันดับต้นๆ ของคนไทยเลยทีเดียว ทั้งด้วยปัจจัยที่กล่าวมารวมกับว่าโรคไตนั้นไม่ได้เกิดจากแค่พฤติกรรมการกินเค็มเท่านั้น ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวว่ากำลังทำร้ายสุขภาพไตด้วยการกินอาหารบางอย่างเป็นประจำ แต่จะมีอะไรบ้าง?... ตามไปดูกัน!! Show สายกินต้องรู้! โซเดียมสูง...ไม่ได้แฝงอยู่แค่ในเกลือหรือน้ำปลา เมื่อพูดถึงอาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพไต หลายคนก็มักจะโฟกัสไปที่อาหารรสชาติเค็มจัดที่ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา แต่จริงๆ แล้ว อาหารที่มีโซเดียมสูงนั้นอาจไม่ได้มาพร้อมกับรสชาติเค็ม แต่แฝงอยู่ในอาหารหลากหลายรูปแบบและหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น...
แล้ว “โซเดียมสูง” ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคไตยังไงบ้าง? โดยปกติหน้าที่ของไตคือช่วยปรับโซเดียมในร่างกายให้สมดุล แต่หากร่างกายได้รับโซเดียมในปริมาณที่สูงเกิน...จนไตไม่สามารถขับออกได้ทัน ก็จะเกิดโซเดียมสะสมในเลือดสูง ส่งผลให้ร่างกายเก็บรักษาน้ำมากขึ้น น้ำในหลอดเลือดจึงเพิ่มขึ้น ไตจึงต้องทำงานหนักเพื่อจะพยายามขับโซเดียมและน้ำส่วนเกินออก สิ่งที่ตามมาก็คือ ทำให้เกิดความดันสูงขึ้นในหน่วยไต และเมื่อระดับความดันสูงขึ้น ก็จะก่อให้เกิดแรงดันในกลุ่มหลอดเลือดฝอยที่อยู่ในเนื้อไต เมื่อแรงดันสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็จะทำให้เกิดการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ นำไปสู่ภาวะไตเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ความดันสูงระดับวิกฤต...อาจทำให้เสี่ยง “ไตวายเฉียบพลัน” หากระดับความดันในเลือดที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือค่าความดันตัวบนสูงมากกว่า 200 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป และตัวล่างสูงมากกว่า 130 มิลลิเมตรปรอท ไตจะสูญเสียกลไกในการป้องกันแรงดันเลือดสูง และเกิด “ภาวะไตวายเฉียบพลัน” ได้! ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีโรคความดันในเลือดสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งต้องควบคุมปริมาณโซเดียมในแต่ละวันให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม แต่จะว่าไป...ต่อให้ไม่กินเค็ม ก็มีโอกาสเสี่ยงเป็น “โรคไต” ได้อยู่นะ แม้ว่าการกินเค็มหรือกินอาหารที่มีโซเดียมสูงจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงโรคไต แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่นำไปสู่ความเสี่ยงในการเป็น “โรคไต” ได้เหมือนกัน เช่น
สังเกตตัวเองให้เป็น! สัญญาณแบบนี้...ถึงเวลาตรวจเช็กสุขภาพไต?
“ไต” เป็นอวัยวะที่ต้องทำงานตลอดเวลาโดยไม่มีวันหยุด เราจึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพไตด้วยการลดเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง พร้อมตรวจสุขภาพไตเพื่อเช็กการทำงานว่ายังปกติอยู่หรือไม่ เพราะหากปล่อยปละละเลยจนไตเสื่อม... ก็อาจสายเกินกว่าจะกลับมาฟื้นฟูได้ทัน!! ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่มีหน้าที่ขับของเสียและรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคไตมากขึ้น โดยเฉพาะโรคไตเรื้อรัง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักมาจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เพราะฉะนั้นการดูแลสุขภาพไตให้ห่างไกลจากความเสื่อมเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย รู้จักกับไตในร่างกายของคนเรามีไตอยู่ 2 ข้าง มีลักษณะรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว ทำหน้าที่กรองน้ำ เกลือแร่ สารเคมี และของเสียที่ร่างกายไม่ต้องการ แล้วขับออกมาทางปัสสาวะ หน้าที่ของไต
ปัจจัยเสี่ยงโรคไต
ประเภทโรคไตโรคไต แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
สาเหตุการเกิดโรคไต
อาการบอกโรคไต
ตรวจหาโรคไตการตรวจหาโรคไตแพทย์จะตรวจหาสาเหตุเพื่อประเมินความรุนแรง ได้แก่
ดูแลรักษาไตแม้ว่าไม่ได้ป่วยเป็นโรคไตก็ควรมีการตรวจสุขภาพทั่วไปรวมถึงการทำงานของไตตามคำแนะนำอย่างสม่ำเสมอและป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคไต แต่หากตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่าเป็นโรคไต การดูแลรักษาไตสามารถทำได้โดย
ป้องกันโรคไต
การป้องกันไม่ให้ป่วยด้วยโรคไตเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่หากรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยงควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและประเมินการทำงานของไตโดยเร็ว และหากตรวจวินิจฉัยพบความผิดปกติ ควรพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรับคำแนะนำและรักษาให้เร็วที่สุด ไม่ควรละเลยเนื่องจากโรคอาจมีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้กลายเป็นไตเสื่อมถาวรได้ |