เผยแพร่: 21 ธ.ค. 2559 13:22 ปรับปรุง: 23 ธ.ค. 2559 15:10 โดย: MGR Online
“โกลเด้นแลนด์” กางแผนเพิ่มแชร์ตลาดทาวน์เฮาส์ ตั้งเป้าปี 60 แชร์ตลาดทาวน์เฮาส์ 8-9% จากปัจจุบันมีแชร์ตลาดทาวน์เฮาส์เป็นเบอร์ 2 ที่ 6-7% เผยแผนปีหน้าผุด 21โครงการมูลค่า 21,000 ล้านบาท เน้นบุกทาวน์เฮาส์ 1-3 ล้านบาท เผยแผน 5 ปี ขึ้นแท่นบริษัทอสังหาฯ ที่มีรายได้ติด 1 ท็อป 5 แย้มบุกทาวน์เฮาส์ต่างจังหวัดครั้งแรก “ผุดศรีราชา ถนน 9 กิโลเมตร” ไตรมาส 3 ปีหน้า
นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ กล่าวว่า หลังประสบความสำเร็จจากตลาดทาวน์ในช่วงที่ผ่านมา จนทำให้บริษัทคลองส่วนแบ่งตลาดทาวน์เฮาส์เป็นเบอร์สองของตลาด โดยมีแชร์อยู่ที่ 6-7% ในปี 2560 บริษัทตั้งเป้าว่า จะมีแชร์ตลาดทาวน์เฮาส์เพิ่มขึ้นเป็น 8-9% ในปีหน้าบริษัทจะมีการเปิดตัวโครงใหม่ทั้งสิ้น 21โครงการ โดยจะเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ 17 โครงการ บ้านแฝด 3 โครงการ และบ้านเดี่ยว 1 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 21,000 ล้านบาท
โดยไตรมาสแรกจะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ 3 โครงการ ไตรมาสที่ 2 จะเปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ ไตรมาสที่ 3 เปิดตัวโครงการทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ บ้านแฝด 2 โครงการ และไตรมาสที่ 4 เปิดตัวทาวน์เฮาส์ 6 โครงการบ้านเดี่ยว 1 โครงการ และบ้านแฝด 1 โครงการ นอกจากนี้ อาจจะมีการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวโครงการใหม่ในย่านบางนา อีก 1 โครงการ แต่ยังไม่มีการสรุปแผนออกมาในขณะนี้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าเก่าในโครงการ ซึ่งหากการเจรจาได้ข้อสรุปแล้วจะมีการปรับแบบบ้าน ซุ้ม และสถาปัตยกรรมในโครงการใหม่ และเปิดตัวในปีหน้าได้
นอกจากนี้ ในปีหน้าจะเป็นครั้งแรกที่โกลเด้นแลนด์ฯ จะขยายตลาดทาวน์เฮาส์ออกไปในต่างจังหวัด โดยจะเปิดตัวโครงการโกเด้นทาวน์ ศรีราชา ถนน 9 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 1.59-2.3 ล้านบาท มูลค่าขายรวม 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 สำหรับการเลือกเปิดโครงการใหม่ที่ศรีราชา เนื่องจากเป็นเมืองที่มีดีมานด์ขยายตัวดี กลุ่มลูกค้าเป็นกลุ่มพนักงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งมีรายได้แน่นอน ไม่ได้รับผลกระทบจากการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
“นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าว่า ในระยะ 5 ปีจากนี้ จะก้าวขึ้นเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีรายได้ติด 1 ใน 5 ของตลาด โดยวางเป้าว่า ในจะมียอดรับรู้รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 20% โดยในปี 60 ตั้งเป้าว่า มีรายได้รวม 12,036 ล้านบาท และปี 61 มียอดขายรวม 15,089 ล้านบาท ปี 62 จะมีรายได้รวม 20,530 ล้านบาท และปี 63 มีรายได้รับรู้ที่ 25,000 ล้านบาท”
นายแสนผิน กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมียอดขายเติบโตสวนทิศทางตลาดรวม โดยสามารถสร้างยอดขายได้ 14,600 ล้านบาท และตั้งเป้าว่า จะมียอดรับรู้รายได้ที่ 10,500 ล้านบาท ส่วนปี 2560 ตั้งเป้าว่า จะมียอดขาย 18,000 ล้านบาท และมีเป้ารับรู้รายได้ 12,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในปีหน้า และการสร้างความต่อเนื่องของยอดขาย และรายได้ในปี 2559 นี้ บริษัทได้ใช้งบในการซื้อที่ดินรอการพัฒนา 5,000 ล้านบาท ทำให้ขณะนี้มีที่ดินรองรับโครงการใม่ในปีหน้าทั้งหมดแล้ว และมีบางแปลงที่เป็นที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในปีถัดๆ ไป
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มงบซื้อที่ดินในปี 2560 เป็น 7,800 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินสะสมเข้ามารอการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต เนื่องจากมองว่า แนวโน้มราคาที่ดินยังมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่เป็นเป้าหมายของโกลเด้นแลนด์ ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกก็มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทำเชื่อว่า ในปีหน้าอัตราดอกเบี้ยจะปรับสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนที่ดิน และการพัฒนาโครงการใหม่ ทำให้บริษัทมีแผนจะสะสมที่ดินไว้รอการพัฒนาโครงการในอนาคต
“แหล่งที่มาของเงินในการซื้อที่ดินของบริษัทในปีนี้มาจาก 3 ส่วน คือ 1 การออกบอนด์ ซึ่งในปีนี้บริษัทได้ออกบอนด์ไปแล้ว 2,000 ล้านบาท 2.เงินจากการเพิ่มทุนของบริษัท และ 3.เงินที่มาจาการกู้ยืนสถาบันการเงิน”
สำหรับทิศทางตลาดอสังหาฯ ในปี 2560 คาดว่า จะฟื้นตัวกลับมาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะตลาดทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งมีดีมานด์สะสมในตลาดอยู่สูง ขณะที่บ้านระดับราคา 7-10 ล้านบาท ก็จะเป็นอีก 1 เซกเมนต์ที่ขยายตัวได้ดี ส่วนตลาดระดับบนเชื่อว่า ยังคงซบเซา เนื่องจากกำลังซื้อยังไม่ฟื้นทิศทางอัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ทำให้กำลังซื้อลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณาปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในกลุ่มผู้ซื้อตลาดล่างที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น กลุ่มผู้ค้าขาย ซึ่งไม่มีประวัติการเงินที่ชัดเจน ขณะที่กลุ่มพนักงานบริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทจะยังคงมีเครดิตที่ดี เพราะมีประวัติการเงินที่ต่อเนื่อง และเป็นกลุ่มที่มีเครดิตที่ดีสำหรับแบงก์
“ปีหน้าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่ผู้ประกอบการรายกลาง และเล็กลำบาก เพราะเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยาก ทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้เปรียบ เพราะจะเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย โดยเฉพาะบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งมีเครื่องมือทางการเงินที่หลากหลาย”
สำหรับกลยทุธ์การตลาดในปี 2560 แบ่งออกเป็น3ส่วนคือ 1. การเปิด 3 ทำเลใหม่ ซึ่งเป็นทำเลเรือธงด้านรายได้ ซึ่งในปีนี้บริษัทได้พัฒนาโครงการในย่านอ่อนนุช-พัฒนาการ โดยให้ชื่อว่า อาณาจักร โกลเด้น เลค โคโม ที่มีแนวคิดจากความสวยงามของบ้านที่อยู่อาศัยริมทะเลสาบโคโม ในประเทศอิตาลี นํามาพัฒนาเป็นโครงการรูปแบบต่างๆ 5 โครงการ ซึ่งนับว่าประสบความสําเร็จเป็นอย่างดี บริษัทจึงนําแนวคิดดังกล่าวมาพัฒนาโครงการใหม่ในปีหน้า โดยจะพัฒนาโครงการที่มีความหลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม 2 ชั้น และ 3 ชั้นบ้านแฝด และบ้านเดี่ยวในระดับราคาต่างๆ กัน ทําให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทกุกลุ่ม อยู่ในทําเลที่มีศักยภาพ ซึ่งต้องคํานึงถึงปัจจัยที่สําคัญ เช่น เป็นย่านที่มีกำลังซื้อสูง เป็นแหล่งชุมชน เดินทางสะดวก ใกล้สิ่งอํานวยความสะดวก เช่น ทําเลแจ้งวัฒนะ, ลาดพร้าว, เกษตรนวมินทร์ และสาทร-กัลปพฤกษ์ โดยทั้ง 3 ทําเล จะมีคอนเซ็ปต์โครงการเฉพาะตัว และมีจดุเด่นทั้งทําเล ราคาคุ้มค่า ฟังก์ชั่น และสิ่งอํานวยความสะดวกคล้ายกับโกลเด้น เลค โคโม
2.โครงการบ้านหรู สร้างแนวคิดใหม่ ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย โดยโกลเด้นแลนด์ ได้พฒันาโครงการบ้านเดี่ยวระดับบ้านหรูในแบรนด์ เดอะ แกรนด์ ทั้ง 4 ทําเล คือ พระราม 2, ประชาอุทิศ, บางนา และปิ่นเกล้า ซึ่งบริษัทได้เติมเต็มความคุ้มค่าการอยู่อาศัยให้กับโครงการมากยิ่งขึ้น โดยสร้างแนวความคิดโครงการใหม่ให้มีจุดเด่นในแต่ละที่ เช่น พระราม 2 เป็น Sun City, ประชาอุทิศ บ้านใหญ่ในสวน, บางนา บ้านใหญ่คุ้มค่าระดับ 100 ตารางวา พร้อมคลับเฮาส์ และทะเลสาบ, ปิ่นเกล้า โครงการมีระดับ โออ่าภูมิฐาน ซึ่งส่งผลให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในความคุ้มค่า และตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ทําให้ในปีนี้กลุ่มบ้านหรูสามารถทํายอดขายได้ทะลุเป้า ทั้งนี้ บริษัทจะยังคงพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการขายในปีหน้าต่อไป
3.การเจาะตลาดบ้านแฝด พัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ฟังก์ชั่นครบเทียบบ้านเดี่ยว จากการที่ราคาที่ดินทําเลในเมืองปรับตัวสูงขึ้น ในการพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาท จึงเป็นไปได้ยาก บริษัทจึงตอบสนองบ้านในเมืองในราคาตํ่ากว่า 5 ล้านบาท โดยสร้างเป็นบ้านแฝดที่มีสภาพโครงการ สิ่งอํานวยความสะดวก และฟังก์ชั่นเหมือนบ้านเดี่ยวราคาเกิน 10 ล้านบาท