สำหรับใครที่มีเสื้อผ้าหรือข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องการใช้งานแล้ว ไม่รู้จะนำไปไว้ที่ไหน การขายของมือสองก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเคลียร์ของที่ไม่ใช้แล้วไปพร้อมกับสร้างยอดขายได้ เป็นการหารายได้เข้ากระเป๋าอีกทางหนึ่ง หากไม่สะดวกเปิดร้านเพื่อขายของมือสอง ก็ยังมีช่องทางออนไลน์อยู่หลากหลายให้ได้ลองขาย ใครที่ยังไม่รู้ว่าจะขายของออนไลน์ที่ไหนดี ในบทความนี้จะมาแนะนำ 13 แอพขายของมือสองที่น่าสนใจ พร้อมอธิบายถึงจุดเด่นและข้อควรรู้ต่างๆ เกี่ยวกับแอพนั้นๆ ให้ได้ลองเลือกใช้งานกัน Show
สารบัญ ชี้เป้า 13 แอพขายของมือสอง ลงขายที่ไหนดีให้ขายได้แบบปังๆ1. อีเบย์ (eBay)
อีเบย์ หนึ่งในแอพขายของมือสองที่เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุด โดยมีมาตั้งแต่ปี 1995 ในปัจจุบันอีเบย์มีให้บริการใน 180 ประเทศ และมีผู้ใช้งานมากกว่า 138 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว จึงโดดเด่นในเรื่องการจัดส่งระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างโปรโมชั่นเป็นคูปองโค้ดส่วนลด เพื่อนำไปกรอกโค้ดรับส่วนลดได้ ทั้งโค้ดลับพิเศษสำหรับส่งให้ลูกค้าบางคนหรือจะเป็นโค้ดที่เห็นได้ทุกคน เพื่อเรียกให้ลูกค้าใหม่เข้ามาซื้อของในร้าน
หลังจากลงทะเบียนบัญชีส่วนบุคคลหรือบัญชีเพื่อการค้าในเว็บไซต์ของอีเบย์เรียบร้อยแล้ว ให้กดที่ Sell จากนั้นให้จัดหมวดหมู่ของสินค้าและใส่รายละเอียดสินค้าให้ถูกต้อง ตั้งราคาสินค้าและการจัดส่ง เพียงเท่านี้ก็สามารถขายสินค้าได้แล้ว
2. ลาซาด้า (Lazada)
ลาซาด้า เป็นแอพขายของมือสองและมือหนึ่งที่จัดว่าครบวงจร รองรับการชำระเงินหลากหลายวิธี มีศูนย์บริการลูกค้าคอยช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา มีพันธมิตรกว่า 100 แห่งในการจัดส่งและรับคืนสินค้า อีกทั้งลาซาด้ายังมีระบบที่ช่วยโปรโมตสินค้าและทำให้ลูกค้ามองเห็นสินค้าของแต่ละร้านได้อย่างเท่าเทียมกัน
เข้าหน้าเว็บไซต์ของลาซาด้า จากนั้นกดไปที่ขายสินค้ากับลาซาด้า (Sell on Lazada) แล้วกรอกรายละเอียดต่างๆ และหลักฐานยืนยันตัวตน เพื่อเปิดบัญชีร้านค้า จากนั้นลงขายสินค้าที่คุณต้องการได้เลย
3. ช้อปปี้ (Shopee)
ช้อปปี้ เป็นแอพซื้อของออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก แพลตฟอร์มใช้งานง่าย ผู้ขายใช้งานสะดวกตั้งแต่วางขายสินค้า ส่งสินค้า และรับชำระเงิน มีความน่าเชื่อถือ สามารถเพิ่มการมองเห็นได้โดยการกดโปรโมตสินค้าได้ฟรีทุก 4 ชั่วโมง ครั้งละ 5 รายการ และผู้ขายยังสามารถสร้างโปรโมชั่นคูปองโค้ดส่วนลดให้กับลูกค้าได้ โดยมีโค้ดหลากหลายรูปแบบให้เลือกสร้าง สามารถไลฟ์ขายสินค้า และมีแพ็กเกจส่งเสริมการตลาดให้ซื้อเพิ่มหากต้องการ
ต้องสมัครสมาชิก Shopee ก่อน และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเข้าไปที่ เริ่มขาย ซึ่งอยู่มุมบนซ้ายของหน้าบัญชีผู้ใช้ กดเพิ่มสินค้า และใส่รูปภาพ ชื่อสินค้า ราคา น้ำหนัก รายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน และกดลงขายสินค้า
4. ขายดี (Kaidee)
แอพขายดี เป็นแอพขายของมือสองที่เรียกได้ว่าลงขายได้ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ ตั้งแต่ของใช้ทั่วไป เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ตโฟน เครื่องดนตรี อุปกรณ์กีฬา มอเตอร์ไซค์ รถยนต์มือสอง ไปจนถึงบ้าน มีระบบแชตเพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายพูดคุยกันได้ก่อนจะตัดสินใจซื้อสินค้า ลงขายของง่าย ใช้เพียงแค่เบอร์โทรศัพท์ยืนยันตัวตน
เข้าหน้าเว็บ Kaidee เข้าไปที่ ลงขาย เลือกหมวดหมู่สินค้า กรอกข้อมูลรายละเอียดและชื่อของสินค้า ใส่รูปภาพจริงของสินค้า อย่าลืมระบุข้อมูลตำหนิต่างๆ ของสินค้าไว้ด้วย จากนั้นเลือกโซนและระยะเวลาการประกาศสินค้า กดปุ่ม ยืนยันการลงขาย แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว
5. ดีพ็อพ (Depop)
สำหรับสายวินเทจหรือสายแฟชั่นต้องห้ามพลาดแอพนี้เลย เพราะดีพ็อพเน้นการซื้อขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ และรองเท้า จึงมีกลุ่มผู้ใช้งานหนุ่มสาวทั่วโลก แอพนี้มีฟีเจอร์เด่นในการช่วยจัดตำแหน่งถ่ายภาพเสื้อผ้าของคุณให้ดูน่าสนใจมากกว่าเดิม และคำแนะนำอื่นๆ ซึ่งจะช่วยให้ร้านของคุณขายเสื้อผ้าได้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่เสื้อผ้ามือสองเท่านั้น แต่แอพนี้เหมาะกับนักออกแบบหน้าใหม่ที่ต้องการทำแบรนด์ของตัวเองด้วย
ลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บหรือโหลดแอปพลิเคชัน จากนั้นตั้งชื่อร้านค้าของคุณ นำสินค้าที่ต้องการขายมาถ่ายรูป ใส่ชื่อและรายละเอียดของสินค้า สามารถใส่แฮชแท็กเพื่อเพิ่มการมองเห็นของสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้
6. เฟซบุ๊ก (Facebook)
ไม่มีใครไม่รู้จักเฟซบุ๊กอย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าเฟซบุ๊กมีฟีเจอร์ Facebook Marketplace ที่ช่วยเพิ่มช่องทางในการขายของออนไลน์ให้ปังมากขึ้นด้วยนะ ผู้ใช้งานสามารถค้นหาและโพสต์ขายสินค้าได้เลย โดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กที่มีอยู่ ไม่เป็นจำเป็นต้องมีเพจร้านค้า ถ้ายังไม่รู้ว่าจะลงขายของที่ไหนดี เริ่มจากเฟซบุ๊กก็ไม่เลวเลย
เข้าไปที่เว็บหรือแอพ Facebook จากนั้นกดแถบ Marketplace สังเกตได้จากไอคอนรูปร้านค้า ไปที่ขายและตั้งชื่อสินค้า ราคา เลือกหมวดหมู่ เพิ่มรูปภาพ เลือกการจัดส่ง แล้วกดเผยแพร่ เท่านี้ก็ลงขายของเรียบร้อยแล้ว
7. ตลาดดอทคอม (Tarad.com)
ตลาดดอทคอม เป็นหนึ่งในแอพขายของฟรี ที่เป็นสื่อกลางในการเลือกซื้อสินค้าที่เชื่อมโยงแพลตฟอร์มธุรกิจอื่น เช่น Lazada Shopee และ Facebook เข้าด้วยกัน มีระบบจัดการการขายได้จากทุกช่องทาง ทำให้ไม่พลาดทุกคำสั่งซื้อ มีระบบจัดการสินค้าและสต็อก รวมถึงมีระบบบัญชีและรายงานการขายสินค้า เรียกว่าครบจบในที่เดียวเลยล่ะ
เข้าไปที่หน้าเว็บแล้วเข้าไปที่ เปิดร้านค้าออนไลน์ จะมีแพ็กเกจหลายแบบให้เลือกใช้งาน ตั้งแต่แบบฟรีไปจนถึงเสียเงินรายปี โดยมีระบบการใช้งานต่างกันไปตามแต่แพ็กเกจที่เลือก เมื่อเลือกแพ็กเกจได้แล้วก็ลงทะเบียนและตั้งชื่อร้านค้า ก็จะได้เป็นเว็บไซต์สำเร็จรูปร้านค้าของเราเอาไว้ลงขายของได้แล้ว
8. อินสตาแกรม (Instagram)
หากยังนึกไม่ออกว่าจะขายของออนไลน์ที่ไหนดี ลองลงขายในอินสตาแกรมดูสิ เชื่อว่าเกือบทุกคนต้องมีแอพนี้ติดโทรศัพท์อยู่แน่นอน ตอนนี้ไอจีมีฟีเจอร์ให้ลงขายสินค้าได้ทั้งโพสต์รูปขายในหน้าแรกไอจีหรือไอจีสตอรี่ เลือกลงขายในไอจีส่วนตัวหรือจะสร้างบัญชีร้านค้า (Instagram Business) ก็ได้ เพียงแค่ถ่ายรูปให้สวยๆ และติดแฮชแท็กให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้านั้นๆ แค่นี้ก็ขายของได้ไม่ยากเลย
เริ่มต้นที่ตั้งค่าบัญชีธุรกิจ โดยเข้าไปที่ Settings เลือก Account ไปที่ Switch to Professional Account แล้วเลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของคุณ จากนั้นก็ใส่ข้อมูลต่างๆ ของร้านค้าในไอจี แล้วมาโพสต์ขายของกันเลย
9. พันทิปมาร์เก็ต (Pantipmarket)
ตลาดขายของมือสองที่ลงขายสินค้าได้หลากหลายหมวดหมู่ ที่สำคัญคือฟรี ทางพันทิปมาร์เก็ตมีทีมงานที่คอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย รวมไปถึงการจัดส่งสินค้า มีการแยกพื้นที่จังหวัดชัดเจน เพื่อให้สะดวกในการรับส่งสินค้า
ยืนยันตัวตนโดยใช้ภาพถ่ายตนเองคู่กับบัตรประชาชน และไฟล์สแกนรูปบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการ แล้วอัปโหลดเข้าสู่ระบบ จากนั้นกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน หากส่งเอกสารสำเร็จเรียบร้อยแล้วจะต้องรออนุมัติประมาณ 3 วันทำการ
10. อเมซอน (Amazon)
แอมะซอน แอพขายของมือสองอีกแอพหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันทั่วโลก มีผู้ใช้งานจำนวนมาก ในแอมะซอนมีการจัดหมวดหมู่สินค้าที่อนุญาตให้ขายเป็นมือสองได้และไม่ได้ และมีการจำแนกสภาพของสินค้ามือสองออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ Like New or Open Bow, Very Good, Good และ Acceptable เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีความเข้าใจสภาพสินค้าที่ตรงกันมากขึ้น
ลงทะเบียนผู้ขายใน Amazon แล้วจะมีให้เลือกรูปแบบการจัดส่งสินค้าว่าเป็น Fulfillment by Amazon (FBA) หรือ Fulfillment by Merchant (FBM) จากนั้นก็เพิ่มสินค้าในรายการและใส่รายละเอียดสินค้า ค้นหาเลขรหัสระบุประเภทสินค้า ASIN, EAN, ISBN (for books), หรือ UPC และกด Apply to Sell
11. เคลียร์ตู้ (Cleartoo)
สำหรับใครที่ต้องการโละเสื้อผ้าในตู้แล้วล่ะก็ แอพเคลียร์ตู้เหมาะกับคุณมากเลยทีเดียว เพราะเป็นแอพที่เน้นซื้อขายเสื้อผ้ามือสองเป็นหลักสมชื่อแอพ นอกจากจะลงขายฟรีแล้ว ยังช่วยลด Fast Fashion ได้อีกด้วยนะ
เข้าแอพ Cleartoo ล็อกอินเข้าแอพ ใส่ข้อมูลส่วนตัวต่างๆ หากต้องการขายสินค้ามือสองให้กดเลือก เริ่มขาย
12. แซปปี้ (Zaapi)
แซปปี้ แอพขายของมือสองที่มีเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรีสำหรับขายของออนไลน์ สามารถใช้งานได้แบบฟรีๆ จุดเด่นหลักของแซปปี้คือ ลงขายสินค้าได้ไม่จำกัดจำนวนและไม่มีข้อจำกัดประเภทสินค้า ขอแค่ไม่ผิดกฎหมายก็พอ มีฟีเจอร์ระบบบริหารสต็อกอัตโนมัติ ระบบรายงานการขาย และสร้างโปรโมชั่นต่างๆ ถือเป็นอีกแอพที่ครบวงจรเลยทีเดียว
สมัครร้านค้าใหม่ในแอพ Zaapi ลงทะเบียนสร้างเว็บไซต์ด้วยเบอร์โทรศัพท์ ใส่รายละเอียดร้าน แล้วไปที่เมนูสินค้า กดเพิ่มสินค้าใหม่ ใส่รูป ชื่อสินค้า และรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน
13. พอชมาร์ค (Poshmark)
พอชมาร์ค เป็นแอพส่งเสริมการขายของมือสองออนไลน์ เป็นที่รู้จักในด้านความสะดวกและรวดเร็ว ผู้ซื้อสามารถส่งข้อเสนอมาให้ผู้ขาย ซึ่งสามารถตอบรับหรือปฏิเสธก็ได้ ผู้ขายจะได้รับค่าสินค้าทันทีที่ผู้ซื้อได้รับสินค้าและกดอนุมัติ
เพียงแค่คลิกที่รูปภาพ ตั้งราคา และอัปโหลด ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาที คุณก็จะได้รายการขายสินค้าเข้าไปอยู่ในร้านค้าของคุณซึ่งสามารถแชร์และโปรโมตได้ |