Anti virus ท เหมาะก บเซ ร ฟเวอร ท ม application

Microsoft® Windows® Defender จะมีมาให้แล้วพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Windows® 8 และ 8.1 แต่ก็มีเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องที่ทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสของบริษัทอื่นทั้งที่เป็นแบบทดลองใช้งานและตัวเต็มเอาไว้, ซึ่งจะทำให้มีการปิดการทำงานของ Windows Defender ออกไป. ถ้าท่านต้องการที่จะใช้ Windows Defender เป็นตัวป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน, ท่านสามารถที่จะทำการปิดการทำงานหรือยกเลิกการติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ติดตั้งอยู่นั้นออกไป และจากนั้นให้ทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ด้านล่างนี้เพื่อเปิดการทำงานให้กับ Windows Defender ต่อไป.

  1. กดที่คีย์ผสมของ Windows Logo + X บนแป้นพิมพ์และ จากรายการนั้น, ให้คลิกที่ Control Panel. หมายเหตุ: เนื่องจาก Control Panel เป็นแอพพลิเคชั่นของ Windows Desktop ดั้งเดิม, ซึ่งถ้าท่านยังไม่ได้อยู่ที่หน้านี้, หน้าจอจะเปลี่ยนไปเป็นหน้า Desktop ให้และจะทำการเปิดหน้าต่าง Control Panel ขึ้นมาให้.
  2. ในหน้าต่างของ Control Panel, ให้คลิกที่ System and Security.
  3. ในหน้าต่างของ System and Security, ให้คลิกที่ Action Center.
  4. ในหน้าต่างของ Action Center, ในส่วนของ Security, ให้คลิกที่ปุ่ม View antispyware apps หรือ View anti virus options. หมายเหตุ: ขั้นตอนถัดไปจะขึ้นอยู่กับว่าท่านได้เลือกที่ปุ่มใดไว้:

เมื่อทำการเปิดขึ้นมาแล้ว, Windows Defender จะทำการเปิดโดยอัตโนมัติ ขอแนะนำท่านเป็นอย่างยิ่งว่า ให้ท่านทำการอัพเดต virus and spyware definitions โดยทันที.

Anti virus ท เหมาะก บเซ ร ฟเวอร ท ม application

เรื่องของ Security ในปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ใช้ไม่อาจล่ะเลยได้เพราะโลกก้าวสู่ยุคที่อินเทอร์เน็ตติดตัวไปกับทุกคน และทุกสถานที่ ผ่านอุปกรณ์พกพาในรูปแบบต่างๆ และด้วยจำนวนแอพพลิเคชั่น ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นในทุกปี

Anti virus ท เหมาะก บเซ ร ฟเวอร ท ม application
ขอขอบคุณภาพจาก www.pexels.com

ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกโหลดแอพฯ ทั้งแบบฟรี และเสียเงินมาติดเครื่องเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น แอพฯ เกมส์, ถ่ายรูป, แชทหรือแอพฯที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำงาน และแน่นอนว่าเมื่อสะดวก ย่อมมีความเสี่ยงตามมา โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการโจมตีจากแอกเกอร์ที่ทำแอพฯปลอมขึ้นมาหลอกผู้ใช้ หรือหาช่องโหว์จากแอพฯที่มี

และทำการโจมตีโดยหวังผลในรูปแบบต่างๆ จนทำให้ผู้ใช้งานหวั่นวิตก แต่ก็มีหลายๆนักพัฒนา ออกมาปล่อย แอพฯ ของตนเอง เพื่อช่วยปกป้องการโจมตีทางไซเบอร์ผ่านทางแอพฯ ซึ่งก็มีอยู่่ที่โหลดใช้งานเป็นจำนวนมาก แบ่งไปตามความเชื่อมั่นในแอพฯ และผลการรีวิวของผู้ใช้งานก่อนหน้าตนเอง

Anti virus ท เหมาะก บเซ ร ฟเวอร ท ม application

No Update No Security

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นล่าสุดกลับพบว่า หนึ่งในแอพฯที่ใช้ปกป้อง กลับกลายเป็นแอบ “ขโมยข้อมูล” ผู้ใช้ส่งออกไปเซิร์ฟเวอร์ภายนอกโดยไม่ได้รับอนุญาตแทน โดยแอบดังกล่าวมีชื่อว่า “DU Antivirus Security” ซึ่งมีผู้ที่ดาวน์โหลดไปใช้งานแล้วมากกว่า 10 – 50 ล้านครั้ง และถูกให้คะแนนจากผู้ใช้อยู่ในระดับ 4-5 ดาว ว่าเป็นแอพฯป้องกันเครื่องที่น่าสนใจมากที่สุดอีกหนึ่งแอพฯ

โดยนักวิจัยด้านความมั่นคงปลอดภัยจากบริษัท Check Point เปิดเผยว่า เมื่อเปิดใช้งานแอปพลิเคชันครั้งแรก ข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์ เช่น รหัสเครื่อง รายชื่อผู้ติดต่อ ประวัติการโทร รวมถึงตำแหน่งที่อยู่ จะถูกส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอกโดยไม่มีการแจ้งหรือขออนุญาตผู้ใช้

ซึ่งข้อมูลดังกล่าวถูกนำไปใช้วิเคราะห์ร่วมกับแอปพลิเคชัน Caller ID & Call Block – DU Caller ของผู้พัฒนารายเดียวกัน มีความเป็นไปได้ว่าข้อมูลนี้อาจถูกนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์ในเชิงการค้าเช่นการแสดงผลโฆษณาด้วย แต่อย่างไรก็ดี ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา

บริษัทที่ได้พัฒนาแอปพลิเคชัน DU Antivirus Security ได้ออกอัปเดตเพื่อแก้ไขปัญหา โดยหลังจากเวอร์ชัน 3.1.5 โค้ดในส่วนที่เป็นการขโมยข้อมูลผู้ใช้ได้ถูกนำออกจากตัวโปรแกรมแล้ว ผู้ใช้ที่ใช้งานโปรแกรมดังกล่าวควรอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

เมื่อกล่าวถึงเรื่องของการอัปเดตแอพฯ ในวันนี้ยังถือเป็นเร่ืื่องที่เป็นปัญหาหลักของผู้ใช้งาน เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนมากมักจะขี้เกียจอัปเดตแอพฯของตนเอง และมีบางส่วนที่ไม่ทราบวิธีการในการอัปเดต เนื่องจากใช้งานเพียงอย่างเดียว หากต้องการใช้งานแอพฯ อะไรก็จะให้ญาติพี่น้อง บุตรหลาน หรือร้านค้าโหลดลงเครื่องให้

และจากการแข่งขันทางการตลาด ที่ทำให้เครื่องมีราคาที่ถูกลงมาก ทำให้จำนวนอุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การให้องค์กรความรู้เพื่อสร้างความเข้าใจต่อการใช้งานแอพฯจึงส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่แน่นอนว่าส่วนหนึ่งนั้นมาจาก บริษัทฯนักพัฒนาก็ปล่อยป่ะละเลยในการตรวจสอบช่องโหว่ของระบบของตนเองด้วย

Anti virus ท เหมาะก บเซ ร ฟเวอร ท ม application

ล่าสุด แอพฯ “CCleaner” ซึ่งเป็นแอพฯยอดนิยมในการใช้ลบไฟล์ขยะ หรือไฟล์ที่เกิดจากใช้งานแอพฯและส่งผลให้พื้นที่หน่วยความจำของเครื่องเต็ม และทให้เครื่องทำงานช้าลง กลับมามีพื้นที่เพิ่มขึ้นได้นั้น และมียอดติดตั้งกว่า 2.27 ล้านเครื่องทั่วโลก ก็โดน แฮกเกอร์ ฝังมัลแวร์ไว้ในโปรแกรม

โดยทีมวิจัยจาก Cisco Talos ได้ออกมาเปิดเผยการตรวจพบครั้งนี้ แอพฯ CCleaner เวอร์ชัน 5.33.6162 และแอพฯ CCleaner Cloud เวอร์ชัน 1.07.3191 ที่เพิ่งปล่อย ให้ดาวน์โหลดตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค. 12 ก.ย. 2560 ที่ผ่านมา โดนบุกรุกเข้ามายังระบบที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ แล้วแก้ไขไฟล์ของโปรแกรมในระหว่างช่วงก่อนที่จะส่งเผยแพร่ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลด

ทำให้ไฟล์ที่ถูกเผยแพร่บนเว็บไซต์นั้นได้รับการยืนยันความถูกต้องโดยใช้ใบรับรองของ CCleaner ส่งผลให้โปรแกรมแอนติไวรัสไม่แจ้งเตือนว่าเป็นไฟล์มัลแวร์ ซึ่งตัวโค้ดที่ถูกแฮกเกอร์เพิ่มเข้าไปในโปรแกรมเป็นมัลแวร์สายพันธุ์ Floxif มีความสามารถในการขโมยข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน เช่น ชื่อเครื่อง รายการโปรแกรมที่ติดตั้ง รายชื่อโปรแกรมที่เรียกใช้งาน เป็นต้น

แต่หลังจากที่มีการรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น ทางผู้พัฒนาได้ออกอัปเดต CCleaner เวอร์ชัน 5.34.6207 และ CCleaner Cloud เวอร์ชัน 1.07.3214 เพื่อแก้ปัญหาแล้ว โดยหากเคยติดตั้งโปรแกรมเวอร์ชันที่ถูกฝังมัลแวร์มาก่อนหน้านี้ เมื่อติดตั้งเวอร์ชันล่าสุด ตัวมัลแวร์จะถูกลบออกจากเครื่องโดยอัตโนมัติ

แม้ว่าแอพฯส่วนใหญ่ที่ถูกโจมตีนั้น จะอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android OS และยังไม่ได้มีรายงานออกมาว่าในระบบ iOS นั้น แอพฯประเภทปกป้องเครื่องนั้นโดนโจมตี ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัย ทางป้องกันทีดีที่สุดคือผู้ใช้งานต้องคอยอัปเดต เวอร์ชั่นใหม่ เมื่อมีการปล่อยออกมาจากผู้พัฒนา เลือกใช้แอพฯที่น่าเชื่อถือ และมั่นติดตามข่าวสารภัยคุกคามใหม่ๆอยู่เสมอ

Antivirus ฟรี ตัวไหนดี 2023

และนี้คือแอปฟรีป้องกัน Spyware บนมือถือ Android ที่แนะนำให้ลองหามาโหลดทั้งหมด 13 โปรแกรมได้แก่.

Avast Antivirus..

AVG Anti-Virus โปรแกรมป้องกันไวรัสและความปลอดภัย.

Bitdefender Antivirus..

Comodo Mobile Security..

Eset Mobile Security & Antivirus..

Kaspersky Mobile Antivirus..

Lookout Security & Antivirus..

Microsoft Defender..

จำเป็นต้องมีโปรแกรมสแกนไวรัสไหม

ถ้าพูดถึงการใช้งานทั่วไป Anti Virus อาจไม่จำเป็นมาก แต่ถ้าในระดับองค์กรแล้วนั้น Anti Virus ยังถือเป็นโปรแกรมที่สำคัญอย่างมาก เพราะสามารถป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหลออกไปนอกองค์กร สำหรับเพื่อนๆที่อยากจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อเข้ามาได้ทุกช่องทางของ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพราะเราคือ ผู้นำ ...

iPhone ต้องลง Antivirus ไหม

อันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นไหน หรือยี่ห้อใด ก็มีความเสี่ยงที่จะติดไวรัสหรือมัลแวร์ได้เช่นกัน แต่ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ iPhone ก็คือ ระบบ iOS มีความปลอดภัยมากพออยู่แล้ว ทำให้แอปฯ Antivirus แทบจะไม่จำเป็นที่ต้องมี แต่ทั้งนี้ ผู้ใช้ iPhone จะเชื่อใจ Apple ฝั่งเดียวไม่ได้ ก็ต้องหาทางป้องกันเองเช่นกัน ซึ่งเว็บไซต์ ...

โปรแกรม สแกน ไวรัส Avast Free Antivirus ดีไหม

แม้ว่าโปรแกรม Avast Free Antivirus จะได้รับผลการทดสอบในการป้องกันต่ำกว่า 2 ตัวแรกที่เราหยิบมาแนะนำไปเล็กน้อย (98.9%) แต่มันก็ยังถือว่าเป็นคะแนนที่ค่อนข้างสูงมากอยู่ดี จุดแข็งหลักของ Avast คือการใช้ทรัพยากรเครื่องในการทำงานที่ต่ำมาก ทำให้เราใช้งานระบบคอมพิวเตอร์ได้เหมือนปกติ ไม่รู้สึกช้าลงแต่อย่างใด