Ck5ถอดต วป ดน ำฝนแล วใส ทำงานไม เหม อนเด ม

รถไฟหัวกระสุนหยุดกลางคัน เมื่อเผชิญพายุฝน

เผยแพร่: 11 ก.ค. 2554 16:46 โดย: MGR Online

เอเยนซี - กรมการรถไฟปักกิ่งเผย รถไฟฟ้าความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้จีน จำนวน 19 ขบวน ต้องหยุดจอดในระหว่างทางเป็นเวลา 90 นาที หลังเกิดเหตุพายุฝนและลมแรง ทำให้การจ่ายพลังงานมีปัญหา เมื่อเวลา 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้

ผู้โดยสารในรถไฟฯ เที่ยวดังกล่าวชี้ว่า ไฟดับและอากาศในตู้รถไฟฯ ร้อนมากเนื่องจากระบบปรับอากาศหยุดทำงาน

“ตู้รถไฟมืดและร้อนมาก พวกเราทนไม่ได้กับระบบพลังงานที่ล้มเหลวบนรถไฟความเร็วสูง” บล็อกเกอร์คนหนึ่งโพสต์ข้อความลงเน็ตใช้ชื่อว่า Brother Jiabo ซึ่งโพสต์ขณะที่ติดอยู่บนรถไฟฯ

ขณะที่ชาวเน็ตเขียนเพิ่มเติมในโซเชียลเน็ตเวิร์กต่อท้ายแถลงการณ์ของกระทรวงรถไฟว่า “เทคโนโลยีที่เรียกว่าไฮเทคสุด ๆ มันบอบบางขนาดนี้เชียวหรือ”

ผู้โดยสารแซ่หวัง ผู้นั่งอยู่บนรถไฟสาย จี21 ออกจากปักกิ่งเมื่อเวลา 5.00 น. ชี้ว่า รถไฟที่เธอนั่งหยุดอยู่ตรงกลางทางเป็นเวลา 1 ชม. ในเมืองจี้หนาน มณฑลซานตง

“ผู้โดยสารราว 1,000 คนนั่งอยู่ในความมืด แล้วรถไฟฯก็เหมือนจะวิ่งได้อีก 20 นาที แล้วก็หยุดอีก ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย เด็กบางคนเริ่มส่งเสียงร้อง ผู้โดยสารบางคนเริ่มสบถ ส่วนเจ้าหน้าที่บริการบนรถไฟก็ออกมาขอโทษขอโพย”

“พวกเราหิวมาก น้ำสักแก้วก็ไม่ได้ดื่ม มันแย่มากจริง ๆ” หวัง ย้ำ นายกรัฐมนตรีจีนเวิน จยาเป่า ได้เดินทางไปเปิดรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งก่อนเปิดได้มีการทดสอบวิ่งบนรางมาแล้วตั้งแต่กลางเดือนพ.ค.

เวินชี้ว่า รถไฟความเร็วสูงที่เปิดก่อนหน้าวันเฉลิมฉลองพรรคคอมมิวนิสต์ครบรอบ 90 ปี เพียงวันเดียวนี้ จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งที่ทันสมัยและตอบสนองความพึงใจของนักท่องเที่ยวฯ

อย่างไรก็ตาม ด้วยเงินทุนมหาศาลในโครงการก่อสร้างฯ ทำให้กระทรวงรถไฟเป็นแหล่งเพาะเชื้อคอร์รัปชั่น สร้างความกังวลเรื่องปัญหาความปลอดภัยในการโดยสารด้วย

สำนักตรวจเงินจีนชี้ในเดือนมี.ค.ว่า ทั้งบริษัทก่อสร้างและปัจเจกบุคคลเมื่อปีที่แล้วได้ยักย้ายเงินกองทุนไปสูงถึง 187 ล้านหยวน จากโครงการรถไฟความเร็วสูงปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้เพียงโครงการเดียว

ในเดือนก.พ.มีการเปิดเผยว่า อดีตรัฐมนตรีรถไฟหลิว จื้อจวิน เป็นผู้คอร์รัปชั่นไปอีกกว่า 800 ล้านหยวน ซึ่งมีการกินสินบาทคาดสินบนมาเป็นเวลาหลายปี

ไชน่าเดลีเผยเมื่อวันจันทร์ (11 ก.ค.) ปัญหาเรื่องการจ่ายพลังงานกลายเป็นเรื่องใหม่ในเรื่องความปลอดภัยของการโดยสารรถไฟความเร็วสูง ที่เปิดให้บริการก่อนกำหนดเป็นเวลา 1 ปี

“บล็อกเกอร์ทั้งหลายต่างเห็นว่า พวกเขาจะไม่เดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงหลังเกิดเหตุการณ์นี้”

สูบบุหรี่ในรถไฟฯ ความเร็วลดฮวบ

ก่อนหน้านี้ (4 ก.ค.) สำนักข่าวซินจิงเป้ารายงานว่า ขบวนรถไฟหมายเลข G183 วิ่งจากสถานีหงเฉียวของเซี่ยงไฮ้มาถึงสถานีฝั่งใต้ของเมืองปักกิ่ง ในช่วงที่รถไฟวิ่งมาถึงเมืองจี่หนานและเต๋อโจว (มณฑลซานตง) ขบวนรถไฟได้ชะลอความเร็วลงเกือบหนึ่งนาที เนื่องจากมีผู้โดยสารเข้าไปสูบบุหรี่ในห้องน้ำ อย่างไรก็ดี เหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางถึงจุดหมายอย่างตรงเวลาของรถไฟขบวนนี้ โดยเมื่อเวลา 4.45 นาฬิกา รถไฟปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้หมายเลข G183 วิ่งมาถึงเมืองเต๋อโจวได้ไม่นาน นายอู่ ฮุ่ยหยังผู้โดยสารคนหนึ่งในโบกี้หมายเลข 10 ก็ได้ยินเสียงประกาศเตือนภัยของรถไฟ ที่จอมอนิเตอร์ของรถไฟแสดงข้อมูลว่ารถไฟได้ลดความเร็วลงอย่างรวดเร็วจาก 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือเพียง 280 กิโลเมตร

จากนั้น เจ้าหน้าที่บนรถไฟได้มาเคาะประตูห้องน้ำที่ตั้งอยู่ระหว่างโบกี้หมายเลข 9 และ 10 พบผู้ชายอายุประมาณ 40 ปีเดินออกมา เจ้าหน้าที่รีบตอบในวิทยุสื่อสารว่า “ผมจับเขาได้แล้ว” ในทันที หลังจากนั้นพนักงานรถไฟก็มาคุมตัวชายคนดังกล่าวไป

นายอู่ เล่าย้อนเหตุการณ์ว่า ช่วงเกิดเหตุรถไฟขบวนนี้ได้ลดความเร็วลงจนถึงเกือบศูนย์ แต่ไม่ถึงกับหยุดวิ่ง

ตำรวจประจำรถไฟขบวนนี้นายหนึ่งบอกกับนักข่าวว่า เนื่องจากชายคนดังกล่าวสูบบุหรี่ในห้องน้ำ เจ้าหน้าที่จึงต้องต่อว่าและอบรมเขา รวมทั้งปรับเงินเขาด้วย พนักงานที่สวมเสื้อของกลุ่มบริษัทเป่ยเชอคนหนึ่งแอบให้ข้อมูลด้วยว่า อัตราค่าปรับในกรณีนี้คือ 50 หยวน

นอกจากนี้ขบวนรถไฟปักกิ่ง-เซี่ยงไฮ้ หมายเลข CRH380 เป็นขบวนรถไฟปิดและห้ามสูบบุหรี่ทั้งขบวน หากพบว่ามีผู้สูบบุหรี่ ระบบตรวจตราจะส่งสัญญาณเตือนภัย ทั้งยังทำให้อุปกรณ์ต่างๆ หยุดทำงานด้วย

เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 2 กรกฎาคม ขบวนรถไฟหนานไค-เซี่ยงไฮ้ (หงเฉียว) หมายเลข G157 พบผู้โดยสารคนหนึ่งสูบบุหรี่ในห้องน้ำ ทำให้ขบวนรถขัดข้องและส่งสัญญาณเตือนภัยด้วยเช่นกัน

ชาวปทุมฯ ร้องชลประทานอย่ากั๊กน้ำ ทำถนนทรุดตัว

เผยแพร่: 7 เม.ย. 2556 14:10 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ชลประทาน อ.หนองเสือ ปทุมธานี กั๊กน้ำทำถนนแตกแยกทรุดตัว มีความลึกกว่า 1.50 เมตร ระยะทางยาวกว่า 200 เมตร ชาวนาเร่งขุดร่องน้ำกลัวนาข้าวเสียหาย วอนเร่งส่งน้ำเข้ามาเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะตาย

วันนี้ (7 เม.ย.) ชาวบ้านอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี ทั้ง 7 ตำบลในเขตพื้นที่ตั้งแต่คลองเจ็ด ไปถึงคลองสิบสอง ชาวนาชาวสวนส้ม และผู้ปลูกหญ้านวลน้อยต่างๆ ได้รับผลกระทบจากชลประทานรังสิตเหนือหยุดจ่ายน้ำเข้าคลองส่งน้ำต่างๆ ในพื้นที่อำเภอหนองเสือ ทั้ง 7 ตำบล เป็นเหตุให้น้ำในคลองลดลงเหลือเพียงก้นคลอง ทำให้ชาวบ้านที่ได้ปลูกข้าวทำนาไปแล้วนับหมื่นไร่ ต้องใช้พลั่วขุดดินริมคลองเปิดร่องน้ำเพื่อที่จะวางท่อสูบน้ำที่เหลือก้นคลองเข้าแปลงนา ซึ่งตลอดทั้งคลองน้ำแห้งขอดหมดแล้ว

ชาวนารายหนึ่ง ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ที่ปลูกข้าวไว้ก่อนที่จะมีการประกาศห้ามทำนา เปิดเผยว่าขณะข้าวเริ่มออกรวงแล้ว แต่ไม่มีน้ำที่จะไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เมล็ดข้าวลีบ และเกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อชาวนา จึงอยากวอนให้ทางชลประทานส่งน้ำเข้ามาเลี้ยงต้นข้าวที่กำลังจะตาย ซึ่งในการประกาศห้ามทำนาในช่วงฤดูแล้งของทางราชการ พวกตนเข้าใจดี เพราะชาวนาส่วนใหญ่เช่าที่ทำนา เมื่อไม่ทำก็ไม่มีเงินให้ค่าเช่านา เพราะเจ้าของนาเขาไม่ได้หยุดเก็บค่าเช่าพวกตนจึงต้องดิ้นรนอย่างที่เห็น ช่วงนี้ถ้ามีฝนฟ้าตกลงมาบ้างก็ถือว่าเป็นความโชคดีของชาวนา ส่วนชาวนารายอื่นที่พอมีเงินก็หยุดทำ เพรากลัวไม่มีน้ำ

ส่วนที่ถนนเลียบคลองสิบเอ็ดฝั่งตะวันออก มุ่งหน้าไปหนองแค บริเวณ ม.12 ต.หนองสามวัง อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี กม.ที่ 8 ถนนแตกร้าว และแยกออกกลางถนนเป็นที่น่ากลัวมากหากผู้ที่ขับรถผ่านไปมาไม่เคยเส้นทางอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งมีความลึกกว่า 1.50 เมตร ระยะทางยาวกว่า 200 เมตร และถนนจะทรุดตัวแตกแยกเป็นจุดๆ ตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะที่คลองแปด ต.บึงบอน คลองเก้า ต.บึงกาสาม คลองสิบเอ็ด ต.หนองสามวัง ถนนเลียบคลองที่สองฝั่งถนนเริ่มทรุดตัวเพิ่มมากขึ้น

ทางด้านนายอนุกูล สุริยะสวัสดิ์ นายก อบต.หนองสามวัง กล่าวว่าเมื่อวานนี้ตนตรวจถนนมีเพียงรอยร้าวเท่านั้น แต่วันนี้รอยร้าวกับแตกแยกเป็นร่องกว้างขึ้นกว่า 30 ซม.ลึกลงไปเกือบสองเมตร ส่วนสาเหตุมาจากทางกรมชลประทานรังสิตเหนือได้สั่งหยุดปล่อยน้ำจากคลองระพีพัฒน์ เข้าคลองซอยต่างๆ ตั้งแต่คลองเจ็ดไปถึงคลองสิบสอง เมื่อวันจันทร์ที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา จึงทำให้ชาวนาและชาวสวน ที่ต้องใช้น้ำได้ตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าไร่ จึงทำให้น้ำแห้งคลองและบางคลองคนเดินข้ามได้ด้วย และหากชลประทานรังสิตเหนือไม่ปล่อยน้ำเข้าคลองถนนทุกสายในพื้นที่จะทรุดตัวไหลลงคลองไปทั้งหมด และจะเสียหายมากกว่านี้อีกหลายร้อยเท่า