ทั้งนี้ ผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำความเข้าใจถึงความจำเป็น ขั้นตอน ข้อจำกัด และความเสี่ยงที่จากการตรวจ CT Scan ก่อนการตรวจ Show ประเภทของ CT scanCT Scan ที่ใช้ในปัจจุบันมี 2 ประเภท ดังนี้
จุดประสงค์ในการทำ CT Scanโดยปกติแล้ว CT Scan จะใช้สำหรับผู้ป่วยที่แพทย์วินิจฉัยและสั่งให้ตรวจร่างกายโดยละเอียดเท่านั้น จะไม่ใช้ CT Scan ในการตรวจการคัดกรองโรคเบื้องต้น เพราะ CT Scan จะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจากการได้รับรังสีเอกซเรย์ และเพิ่มความวิตกกังวลเกินจำเป็น ซึ่งแพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยทำ CT Scan ในกรณีดังต่อไปนี้
การตรวจด้วย CT Scan มีข้อดีคือสามารถสแกนตรวจอวัยวะในร่างกายส่วนใหญ่ได้ ไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดในขณะตรวจสแกน ภาพที่ได้มีรายละเอียดสูงกว่าการทำอัลตราซาวนด์ ทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้แม่นยำขึ้น และสามารถสแกนได้รวดเร็วกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการสแกนแบบ MRI ข้อจำกัดในการทำ CT Scanการทำ CT Scan อาจมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ผลตรวจคลาดเคลื่อนผลตรวจ CT Scan อาจคลาดเคลื่อนไปจากความจริงจากหลายปัจจัย เช่น
อันตรายจากรังสีCT Scan ใช้รังสีปริมาณมาก ทำให้ผู้ที่เข้ารับการตรวจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจากการได้รับรังสีมากเกินไป โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ และเด็ก ดังนี้
นอกจากนี้ ในระหว่างการตรวจจะต้องมีการกลั้นหายใจ การทำ CT Scan จึงไม่เหมาะกับผู้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจที่ไม่สามารถกลั้นหายใจได้ในระหว่างการตรวจ การเตรียมตัวก่อนทำ CT Scanผู้ป่วยควรซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ CT Scan เช่น สาเหตุ ความจำเป็น ความเสี่ยง และประโยชน์ที่ได้จากการตรวจด้วย CT Scan และควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ การแพ้ยา และภาวะทางสุขภาพ เช่น
ก่อนทำ CT Scan ผู้ป่วยควรสวมเสื้อผ้าหลวม ๆ ที่ไม่มีส่วนประกอบของโลหะ เช่น ซิป เข็มขัด ถอดแว่นตา ฟันปลอม และไม่สวมใส่เครื่องประดับใด ๆ โดยในบางกรณี ผู้ป่วยอาจต้องเปลี่ยนใส่ชุดที่ทางโรงพยาบาลจัดให้ เพื่อให้สะดวกต่อการฉายรังสี สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการเอกซเรย์ช่องท้อง แพทย์อาจแนะนำให้งดอาหารเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนทำ CT Scan เพื่อไม่ให้รบกวนผลการตรวจและให้ได้ภาพฉายที่ชัดเจน หรือแพทย์อาจให้รับประทานยาระบายก่อนการทำ CT Scan นอกจากนี้ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยบางรายดื่มสารทึบรังสี หรืออาจใช้วิธีฉีดสารเข้าสู่เส้นเลือด หรือสอดสารทึบรังสีเข้าสู่ลำไส้ผ่านทางทวารหนัก เพื่อช่วยให้ภาพฉายในบริเวณต่าง ๆ ที่ต้องการตรวจเห็นได้ชัดเจนขึ้น หากผู้ป่วยมีความวิตกกังวลอย่างมาก แพทย์อาจให้ยาระงับประสาทเพื่อคลายความกังวลก่อนการเอกซเรย์ โดยผู้ป่วยควรให้ญาติหรือบุคคลใกล้ชิดมารับกลับหลังจากเสร็จขั้นตอน เนื่องจากฤทธิ์ของยาจะทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถขับขี่ยานพาหนะได้ตามปกติ การทำ CT Scanเมื่อเริ่มทำ CT Scan ผู้ป่วยต้องนอนราบลงบนเตียงของเครื่องสแกน เตียงจะถูกเคลื่อนเข้าไปภายในเครื่อง ให้บริเวณที่ต้องการจะสแกนอยู่ตรงกับวงแหวนสแกน และเครื่องจะเริ่มทำการสแกนด้วยการหมุนเพื่อฉายรังสีเอกซเรย์ไปรอบ ๆ ตัวผู้ป่วย โดยที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะฉายภาพที่ได้ออกมาเรื่อย ๆ ผู้ป่วยควรผ่อนคลายความกังวล นอนราบนิ่ง ๆ และหายใจตามปกติ ในบางกรณีผู้ป่วยอาจต้องหายใจเข้า หายใจออก หรือกลั้นหายใจตามคำสั่งแพทย์ เพื่อให้ภาพถ่ายรังสีออกมาชัดเจน โดยในระหว่างที่อยู่ในเครื่อง CT Scan ผู้ป่วยสามารถสื่อสารกับแพทย์และนักเทคนิคที่ดูแลการสแกนได้ผ่านเครื่องสื่อสารด้วยเสียง (Intercom) และการสแกนจะสิ้นสุดลงภายในเวลาประมาณ 10–20 นาที ผลการตรวจ CT Scanหลังทำ CT Scan เสร็จ เครื่องคอมพิวเตอร์จะประมวลภาพออกมา รังสีแพทย์จะอ่านผลที่ได้และรายงานต่อแพทย์ผู้ดูแล ซึ่งแพทย์จะสรุปผลการตรวจและพูดคุยกับผู้ป่วยต่อไป โดยขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ในการทราบผล ตัวอย่างผลการตรวจด้วยวิธี CT Scan มีดังนี้ ตรวจไม่พบผลผิดปกติการตรวจไม่พบความผิดปกติหมายถึงลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
ตรวจพบผลผิดปกติการตรวจพบความผิดปกติอาจหมายถึงการตรวจพบลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
การดูแลตนเองหลังทำ CT Scanหลังทำ CT Scan ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านและทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น รับประทานอาหาร ดื่มน้ำ หรือขับรถได้ตามปกติ และควรไปพบแพทย์ตามนัดหมายเพื่อฟังผลจากแพทย์ ยกเว้นผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาระงับประสาทเพื่อคลายความกังวลก่อนเข้าเครื่องสแกน ซึ่งจะทำให้รู้สึกมึนงงหรือง่วงซึมได้ จึงไม่ควรขับขี่ยานพาหนะด้วยตนเอง และควรให้ญาติหรือคนสนิทมารับกลับ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนผู้ป่วยที่ต้องใช้สารทึบแสงช่วยให้การฉายภาพเอกซเรย์ชัดเจนขึ้น หลังทำ CT Scan แพทย์อาจให้อยู่รอดูอาการที่โรงพยาบาลประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อดูว่าผู้ป่วยมีอาการแพ้จากการใช้สารทึบรังสีหรือไม่ โดยผู้ป่วยควรดื่มน้ำในปริมาณมาก เพื่อช่วยให้ไตขับสารทึบรังสีออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ หากผู้ป่วยมีข้อสงสัย ควรรีบถามและปรึกษาแพทย์ให้ทราบอย่างแน่ชัด และหากพบอาการที่เป็นสัญญาณอันตรายดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
ความเสี่ยงและผลข้างเคียงจากการทำ CT ScanCT Scan อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ เช่น การแพ้สารทึบรังสีผู้ป่วยที่ใช้สารทึบรังสีที่ใช้ในการตรวจ อาจมีอาการแพ้หลังจากได้รับสารเข้าสู่ร่างกาย เช่น มีผดผื่นคัน หายใจติดขัด ปวดท้อง ระบบทางเดินอาหารผิดปกติ อันตรายต่อทารกในครรรภ์และเด็กแรกเกิดรังสีจากการสแกนอาจกระทบต่อทารกในครรภ์และทำให้เกิดความผิดปกติซึ่งเป็นอันตรายต่อเด็กที่จะเกิดมา หากผู้ป่วยตั้งครรภ์ แพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีการอื่นในการตรวจวินิจฉัย นอกจากนี้ สารทึบแสงที่อยู่ภายในร่างกายอาจส่งผ่านไปยังทารกในขณะที่ผู้ป่วยให้นมบุตร ทำให้เด็กมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจากการได้รับสารทึบรังสีเข้าสู่ร่างกาย เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งในปัจจุบันไม่พบว่าการทำ CT Scan จะส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายในระยะยาว เนื่องจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่ทำให้ผู้ป่วยทั่วไปเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งจากรังสีใน CT Scan น้อยมาก อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในผู้ป่วยที่ทำ CT Scan จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อผู้ป่วยเป็นเด็ก เด็กโต และผู้ที่เข้ารับการตรวจด้วยการฉายรังสีเป็นประจำ |