สารประกอบฟีนอลิก (Phenolics หรือ Phenolic compounds) เป็นสารไฟโตเคมิคอลที่สำคัญ พบในพืชที่เป็นอาหารเพราะทำหน้าที่เป็นสารตั้งต้น ในการสังเคราะห์สารสำคัญต่างๆของพืช อยู่ในส่วนของช่องว่างภายในเซลล์ (cell vacuole) ในส่วนต่างๆ ของพืช เป็นสารที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ในกระบวนการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ของพืชแต่ละชนิด ยกตัวอย่างเช่น
โดยสารประกอบฟีนอลิก ที่พบตามธรรมชาติในพืช เป็นสารที่พบได้ทั่วไปในใบ ลําต้น และเปลือกของพืช ได้แก่ สาร gingerol พบใน ขิง, สาร eugenol พบใน กานพลู, ตะไคร้ และ ใบกระเพรา, สาร capsaicin พบในพริก, สาร curcumin พบในขมิ้น, สาร catechin พบในชา ซึ่งสารประกอบฟีนอลิก มีสูตรโครงสร้างทางเคมีเป็นวงแหวนที่มีหมู่ไฮดรอกซิลมาเกาะตั้งแต่สองหมู่ขึ้นไป ในปัจจุบันสารกลุ่มนี้ได้รับความสนใจและมีการวิจัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังเป็นสารที่มีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ในเชิงสุขภาพร่างกาย สุขภาพความงามและการแพทย์อีกด้วย การจำแนกชนิดของสารประกอบฟีนอลิกสารประกอบฟีนอลิก เป็นสารต้านออกซิเดชันที่พบมากในอาหารและสารจากธรรมชาติพบมากกว่า 8,000 ชนิด เป็นสารทุติยภูมิที่สร้างขึ้นโดยพืช มีโครงสร้างประกอบด้วย หมู่ไฮดรอกซีเกาะอยู่กับวงแหวนเบนซีน โดยสามารถจำแนก ชนิดของสารประกอบฟีนอลิกเป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้
ประโยชน์ของสารประกอบฟีนอลิกสารประกอบฟีนอลิก พบมากในธัญพืช มีความสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้ดี โดยสารฟีนอลิกในส่วนที่เป็น insoluble-bound phenolics คือส่วนที่มีความสามารถในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุด รองมาคือ solubleconjugated phenolics และ สารฟีนอลิกในรูปอิสระตามลำดับ สารประกอบฟีนอลิกในพืชมีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยสารประกอบฟีนอลิกจะจับอนุมูลอิสระ ดังนั้นจะไปยับยั้งอนุมูลอิสระที่เกิดจากปฏิกิริยาลูกโซ่ของการเกิดออกซิเดชันของไขมัน และจับกับอนุมูลของธาตุออกซิเจนและอนุมูลของธาตุไนโทรเจนที่ว่องไว ในระบบของสิ่งมีชีวิต นอกจากนี้กลไกของการต้านการเกิดออกซิเดชันแบบอื่น เช่น การเกิดคีเลชันของโลหะเหล็กและทองแดง ในปฏิกิริยา Fenton ซึ่งจะมีการปลดปล่อยอนุมูลไฮดรอกซีล ซึ่งมีความว่องไวสูงมาก ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระจะไปจับกับไอออนของเหล็กและทองแดงได้ นักวิจัยหลายคนรายงานว่า สารประกอบฟีนอกลิกในอาหารมีผลดีต่อสุขภาพเนื่องมาจากสารประกอบฟีนอลิกมีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก นอกจากนี้สารประกอบฟีนอลิก ยังมีคุณสมบัติเป็นสารต้านการอักเสบ ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลต และป้องกันการสร้างสารก่อมะเร็ง ซึ่งสารประกอบฟีนอลิก พบได้ในเกือบทุกส่วนของพืช แต่จะมีความแตกต่างกันในด้านของชนิดและปริมาณ จึงมีการนำสารมาใช้ประโยชน์เป็นอาหาร ยา และเครื่องสำอางอย่างแพร่หลาย วิธีการสกัดสารประกอบฟีนอลิกการสกัดสารประกอบฟีนอลิกจากพืช สมุนไพร สามารถทําได้หลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น
การวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกจะขึ้นอยู่กับ ปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของสารสำคัญที่มีอยู่ในธรรมชาติ ขนาดอนุภาคตัวอย่าง สภาวะในการเก็บ วิธีการสกัดและการเลือกใช้สารมาตรฐานในการเทียบหาปริมาณ และการมีสิ่งรบกวนในตัวอย่าง ทั้งนี้บริษัท วิสไบโอ จำกัด รับบริการทดสอบปริมาณสารฟีโนลิก (Total Phenolic Content, TPC) กับตัวอย่างทุกผลิตภัณฑ์ โดยใช้วิธี Folin-Ciocalteu colorimetric method เปรียบเทียบกับสารมาตรฐานกรดแกลลิก (Gallic acid) นำไปวิเคราะห์ ด้วยเครื่องสเปกโทรโฟโตมิเตอร์ จากนั้นนำไปคำนวณหาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมด จากกราฟมาตรฐานปริมาณกรดแกลลิก ตัวอย่างการรายงานผลการวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกทั้งหมด (Total Phenolic Content, TPC)รายงานผลการวิเคราะห์หาปริมาณสารประกอบฟีนอลิกของสารสกัดใบหม่อน (ณชกนกและอนงค์, 2020) โดยศึกษาการสกัดใบหม่อน 3 ชนิด คือ ใบหม่อนสด ใบหม่อนอบแห้ง และใบหม่อนลวกก่อนอบแห้ง โดยการสกัดตัวอย่างใบหม่อนทั้ง 3 ชนิด ด้วยตัวทำละลายที่ต่างกัน ได้แก่ น้ำ น้ำต่อเอทานอล (หนึ่งต่อหนึ่งโดยปริมาตร) และเอทานอล พบว่า ใบหม่อนสดสกัดด้วยน้ำให้ ปริมาณฟีนอลิกทั้งหมด (21.89 มิลลิกรัมสมมูลของกรดแกลลิกต่อกรัมตัวอย่างแห้ง) แล้วนำใบหม่อนสดที่สกัดด้วยน้ำมาเตรียมเป็นชาผงชนิดละลายน้ำโดยผสมกับมอลโตเดกซ์ตรินและทำแห้งด้วยเทคนิคการทำแห้งแบบเยือกแข็ง |