Final fantasy vii บน pc ม อะไรเพ มเต ม

ใครจะคิดว่าวันหนึ่ง Final Fantasy VII เกมในตำนานของซีรีส์ ที่เคยสร้างปรากฏการณ์ระดับโลกมาแล้วเมื่อหลายสิบปีก่อน จะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ในร่างของเกม Next Gen ยุคปัจจุบัน มันคือความกล้าได้กล้าเสียอย่างที่สุด เพราะถ้าคุณหยิบ "ตำนาน" มาเล่นซ้ำ แล้วทำให้มันกลายเป็น "ตำนาน" อีกไม่ได้ ตำนานเก่าก็จะเป็นเพียงเรื่องปาหี่หลอกลวงผู้คน

แต่การมาของ Final Fantasy VII Remake พิสูจน์แล้วว่า แม้พวกเขาจะไม่ได้ถึงกับขนาดสร้าง "ตำนานใหม่" ขึ้นมาทับซ้อนของเดิม แต่พวกเขาคืนความอ่อนเยาว์ให้ "ตำนาน" นั้นกลับมาเป็นรูปเป็นร่าง สัมผัสได้อีกครั้ง หลังจากถูกทิ้งให้คงชื่อไว้อยู่เป็นสิบปี แม้จะมีการนำมาขายใหม่ แต่ด้วยแนวเกมสมัยเก่าที่ "เข้าถึงยาก" สำหรับคนยุคนี้ ทำให้การรีเมคครั้งนี้ ได้ทั้งการย้ำเตือนถึงความศักดิ์สิทธิ์ของซีรีส์ และแฟนเกมรุ่นใหม่ไปพร้อม ๆ กัน

และมันยังไม่จบลงเสียทีเดียว เพราะเมื่อไม่นานมานี้ คอนโซลเจนใหม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็ถึงเวลาของ Final Fantasy VII Remake ที่จะโชว์ประสิทธิภาพที่มันควรจะเป็นตั้งแต่แรก โดยไม่มีอะไรมาฉุดรั้งไว้ นี่คือรีวิว Final Fantasy VII Remake Intergrade เวอร์ชัน PlayStation 5 จากเรา Happyconsole

เนื้อหาเดิม เพิ่มเติมคือน้อน"Yuffie"

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Intergrade ไม่ใช่ภาคต่อ แต่มันคือ "เวอร์ชันอัพเกรด" ฉะนั้นอย่าคาดหวังเนื้อเรื่องต่อจากเดิม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือเนื้อหาของ Yuffie เพียงเท่านั้น

แต่ถามว่ามันคุ้มค่าที่จะเล่นหรือไม่ บอกเลยว่าคุ้ม เพราะเนื้อหาของ FFVII ไม่ว่าจะเวอร์ชันไหน มันมีมนต์ขลังในแบบของมัน อย่างเวอร์ชันล่าสุด เนื้อหาจะเล่า "แตกต่าง" จากเดิม ฉะนั้นคุณจะไม่ได้กลิ่นความเก่าของเนื้อหาแน่นอน แม้ว่าคุณอาจจะเล่นเวอร์ชันออริจินัลมาก่อน แต่ไม่ใช่ว่าคุณจะ "เดาได้" แบบก้าวต่อก้าว โอเค คุณยังพอเข้าใจพล็อตหลังของเกม แต่คุณไม่รู้ว่าภายในนาทีสองนาทีซอยย่อย มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง และนี่คือความตื่นเต้นของการเล่น Final Fantasy VII Remake สำหรับแฟน ๆ

และถ้าใครไม่ใช่แฟนเก่าของ Final Fantasy VII ภาคนี้เป็นภาคที่มีเนื้อเรื่อง "ซับซ้อน" และ "เป็นมนุษย์" มากที่สุดภาคหนึ่งของซีรีส์นี้ ซึ่งในเวอร์ชันใหม่ พวกเขาถ่ายทอดออกมาได้ต่อเนื่อง ลื่นไหล ไม่จำเป็นต้องพิจารณา และเก็บรายละเอียดมากเหมือนเวอร์ชันออริจินัล อย่างที่บอก พวกเขาอยากเปิดโอกาสให้แฟนใหม่ ๆ เข้าถึง "ตำนาน" ได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ และถ้าถามความเห็นเรา เราบอกเลยว่า "พวกเขาทำสำเร็จอย่างงดงาม"

ทันสมัย แตกต่างแต่เต็มไปด้วยกลิ่นไอเดิม

ระบบการต่อสู้ของ Final Fantasy VII Remake จะเป็นการประยุกต์ระบบการต่อสู้จากภาค 15 มาผสมกับความเป็นเทิร์นเบสแบบใช้คำสั่งได้อย่างลงตัว หากคุณนึกไม่ออกว่ามันออกมาเป็นแบบไหน ให้นึกถึงภาค 12 ที่คุณสามารถเดินไปโจมตีธรรมดาใส่มอนสเตอร์ได้เลย ราวกับเกมแอคชัน

ถ้าเล่าย้อนความไปตั้งแต่สมัยแรก ๆ Final Fantasy เป็นเกมที่มีระบบต่อสู้ซ้ำกันน้อยภาคมาก และที่ซ้ำกัน มักจะเป็นการนำระบบของภาคเก่าไป "พัฒนา" เพิ่ม ทำให้คุณรู้สึกถึงความสดใหม่อยู่เสมอ อย่างในภาค 7 ออริจินัล เราเริ่มได้ฟังก์ชันเท่ ๆ อย่างพวก Limit Break แบบกดปุ่ม Quick Time Event และฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่เกิดจากการอัพเกรดกราฟิก 2D ไป 3D หรือในภาค 10 ที่มีความเป็น Cinematic เพิ่มเข้ามาในฉากต่อสู้ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

การต่อสู้ของ Final Fantasy VII Remake ก็เหมือนกัน หลังจากพวกเขาประสบความสำเร็จกับการผสม Action เข้ากับ Turnbase อย่างลงตัวในภาค 15 ในภาคนี้ คุณเลยได้ใช้มันอย่างเต็มที่ คุณสามารถโจมตี กลิ้งหลบ ป้องกันได้ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนใน Final Fantasy แถมยังมีช่องให้กดคำสั่งเพื่อใช้ไอเท็ม และมาทีเรีย บอกเลยว่านี่คือระบบการต่อสู้ที่ "สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่ Final Fantasy เคยมีมา"

ที่สุดแห่งบรรยากาศ Next Gen จดหมายรักจากผู้พัฒนา

สิ่งที่ต้องพูดถึงเลยคือ ในที่สุดเราก็ได้เล่นเกมนี้แบบ 60FPS ในแบบที่ภาพอลังการเสียที อย่างที่บอก นี่คือการคืนฟอร์มที่แท้จริงของ Final Fantasy VII Remake แบบไม่ต้องกั๊กฮาร์ดแวร์ นี่คือเวอร์ชันที่ "ควรจะเป็น" ตั้งแต่แรก หาก Square Enix ไม่เห็นใจชาว PS4 และเลือกชะลอการวางจำหน่ายเกมนี้ จนกว่า PS5 จะออก

ทั้งกราฟิกตอนต่อสู้เอย บรรยากาศในเมืองเอย ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบ ลื่นไหล พวกบั๊กที่เคยมีในเวอร์ชันต้นฉบับ หายเรียบ โดยเฉพาะ "ประตูในตำนาน" ที่โดนล้อว่าทำไมไม่ยอมแก้ซักที รอบนี้เขาแก้ให้แล้วนะครับ สวยกว่าเดิมหลายเท่า

สรุปแล้ว Fantasy VII Remake Intergrade ต้องนิยามจริง ๆ ว่า มันคือเกมเวอร์ชันแบบที่ควรจะเป็นอย่างแท้จริง ด้วยความลื่นไหลในระดับที่เล่นได้ไม่น้อยหน้าใคร กราฟิก แสงเงาระดับเทพสมกับความเป็นเน็กซ์เจน บวกกับเนื้อหาที่เรียกได้ว่า "ขึ้นหิ้ง" ไปแล้ว เราในฐานะ Happyconsole บอกได้คำเดียวว่า "อย่าพลาดเด็ดขาด เพราะคุณจะเสียใจไปตลอดชีวิต"

เวลาคุณเล่น Final Fantasy VII Rebirth, คุณอาจรู้สึกว่ามือคุณอาจบังจอแล้วทำให้ไม่ได้เล่นแบบเต็มที่. เล่นแบบไร้ขีดจำกัดด้วยเม้าส์และคีย์บอร์ด. MEmu มีตัวเลือกหลายอย่างให้คุณใช้งานเกมที่คุณเล่นแบบที่คุณต้องการ. ดาวน์โหลดและเล่น Final Fantasy VII Rebirth บน PC. เล่นนานแค่ไหนก็ได้, ไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่, หรือเจอคนโทรเข้ามาระหว่างเล่น. MEmu 9 เป็นตัวเลือกสำหรับการเล่น Final Fantasy VII Rebirth บน PC. ทางทีมงานเราได้ปรับแต่งเกม, ปรับให้เล่นเกมบางเกมได้เหมือนเล่น Final Fantasy VII Rebirth เป็นเกม PC เช่นเล็งด้วยเม้าส์หรือใช้คีย์บอร์ด. ระบบของเรายังทำให้คุณสามารถเปิดเล่นได้มากกว่า 2 เกมพร้อมๆกันในคอมของคุณ. และที่สำคัญที่สุด, ระบบโปรแกรมของเราสามารถทำให้คุณใช้ระบบของ PC ทำให้เกมลื่นเหมือนกับใช้โทรศัพท์รุ่นล่าสุด. เราไม่ได้ดูแลเรื่องการเล่นเกม, แต่เราดูแลถึงความสนุกสนานที่คุณได้จากการเล่นด้วย.

สกรีนช็อตและ & วีดีโอของ Final Fantasy VII Rebirth บน PC

ดาวน์โหลด Final Fantasy VII Rebirth บน PC ด้วย MEmu Android Emulator สนุกกับการเล่นบนหน้าจอขนาดใหญ่

ข้อมูลเกม

ดาวน์โหลด Final Fantasy VII Rebirth บน PC

• 
  1. ดาวน์โหลดตัวติดตั้ง MEmu และสิ้นสุดการติดตั้ง
• 
  2. เริ่ม MEmu จากนั้นเปิด Google Play บนหน้าแรก
• 
  3. ค้นหา Final Fantasy VII Rebirth ใน Google Play
• 
  Install 4. ดาวน์โหลดและติดตั้ง Final Fantasy VII Rebirth
• 
  5. เมื่อติดตั้งเสร็จให้คลิกที่ไอคอนเพื่อเริ่มใช้งาน
• 6. สนุกกับการเล่น Final Fantasy VII Rebirth บนพีซีด้วย MEmu

ทำไมถึงควรใช้ Memu สำหรับ Final Fantasy VII Rebirth

MEmu App Player เป็นอีมูเลเตอร์ Android ที่ดีที่สุดและผู้คนกว่า 50 ล้านคนเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การเล่นเกม Android ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยีการจำลองเสมือนของ MEmu ช่วยให้คุณเล่นเกม Android หลายพันเกมได้อย่างราบรื่นบนพีซีของคุณแม้แต่เกมที่ต้องใช้กราฟิกมากที่สุด