ก นด ม g โนะ เรคอนก สต า ตอนท 2

เผยแพร่: 8 ส.ค. 2556 19:35 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ASTVผู้จัดการ – เพรียวพันธ์ พร้อม บิ๊ก ตร.แถลงข่าวจับนักค้ายารายใหญ่ 4 คดี เป็นม้งขนยาบ้า 4.2 ล้านเม็ด มูลค่า 1 พันล้านบาท ซุกกระสอบปุ๋ย 15 ใบ ที่ จ.พะเยา คดีที่สองคนไต้หวัน-ไทย ขนเฮโรอีน 237 กก.มูลค่ากว่า 426 ล้านบาท แถวย่านบางนา ส่วนอีกสองคดีพบยาบ้า 4 แสน และ 4 หมื่นเม็ด

วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.พร้อมด้วย พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.และ พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส.แถลงผลการจับกุม นายชูชาติ พูนโชติภิรมญ์ อายุ 28 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง จ.พะเยา พร้อมของกลางยาบ้า 4,200,000 เม็ด บรรจุอยู่ในกระสอบปุ๋ยสีฟ้า 15 ใบ รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ ทะเบียน บธ 1151 พะเยา รวมมูลค่าของกลาง 1 พันล้านบาท โดยจับกุมได้บนทางหลวงหมายเลขที่ 1093 บ้านฮวก ม.3 ต.ภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สมยศ และ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ ได้รับแจ้งจากสายลับของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากหมู่บ้านราษฎร์ภักดี ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด บช.ปส.และ บก.ตม.5 นำกำลังออกสืบสวนจับกุมกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว กระทั่งเวลา 21.00 น.วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบ นายชูชาติ ขับรถกระบะออกมาจากหมู่บ้านราษฎร์ภักดี มุ่งหน้ามาตามทางหลวงหมายเลข 1093 เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาบ้าของกลางดังกล่าวบรรจุในกระสอบปุ๋ยสีฟ้าอยู่ที่ท้ายรถ

จากการสอบสวน นายชูชาติ รับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายจ้างไม่ทราบชื่อและสกุลจริง อายุประมาณ 45 ปี สัญชาติลาว มีถิ่นที่อยู่ในประเทศลาว ฝั่งตรงข้ามอุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ให้ไปรับยาบ้าจากบ้านราษฎร์ภักดี ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งที่กว๊านพะเยา อ.เมือง จ.พะเยา

รายที่ 2 พล.ต.อ.สมยศ และ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ นำกำลังเข้าจับกุม นายฉี ฮุง เชียง อายุ 53 ปี นายเหยา ซุง วู อายุ 43 ปี นายเชียง ชาย ซุน อายุ 43 ปี ทั้งหมดเป็นชาวไต้หวัน และนายศุภเดช บุญเจริญ อายุ 40 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ พร้อมของกลาง ยาเสพติดเฮโรอีน 678 แท่ง น้ำหนักรวม 237 กก.มูลค่ากว่า 426 ล้านบาท และรถยนต์โตโยต้าสีดำ ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ชฉ 1389 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมได้ที่ รร.เมเปิล แขวงและเขตบางนา กทม.หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่านายศุภเดช สามารถจัดหาเฮโรอีนมาได้ และกำลังเตรียมส่งออกนอกประเทศ ดังนั้นเวลา 09.40 น.วันที่ 8 ส.ค.ขณะที่นายศุภเดชกำลังเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์ของกลางอยู่ใน รร.เมเปิล เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น พบเฮโรอีนของกลางซุกซ่อนอยู่ภายในรถของนายศุภเดช จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่อีกชุดให้ควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวไต้หวันทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะที่กำลังเดินทางออกนอกประเทศไปยังเขตปกครองพิเศษฮ่องกง

อีกราย พ.ต.อ.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบก.ปส.3 นำกำลังเข้าจับกุม นายพิชิต แสงวานิชย์ อายุ 35 ปี นายสมชาย แสงวานิชย์ อายุ 28 ปี และ นายบุญมา แซ่เล่า อายุ 29 ปี ทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่าม้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย หลังจากสายลับของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แจ้งว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดล็อตใหญ่ โดยสามารถยึดยาบ้า จำนวน 400,000 เม็ด รถเก๋งยี่ห้อนิสสันมาร์ช รถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถกระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่า และโทรศัพท์มือ 6 เครื่อง โดยจับกุมได้บนถนนสายเชียงแสน-เชียงของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากชาวพม่าให้ไปรับยาบ้าจากชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหามูลค่ากว่า 3.8 ล้านบาท

ขณะที่ พล.ต.ต.อาชวันต์ โชติกเสถียร ผบก.ปส.4 นำกำลังเข้าจับกุม นายสุพัฒน์ ทามัน อายุ 37 ปี ชาว จ.เชียงราย นายปฐมพงษ์ ปาณะที อายุ 32 ปี ชาว จ.เชียงราย นายประเสริฐ ปทุมสูติ อายุ 37 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี และ นายอำนวย กลิ่นโฉม อายุ 47 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 40,000 เม็ด รถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีซูซุ ทะเบียน 70-5242 พร้อมพ่วงทะเบียน 70-5243 เชียงราย รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมันเชลล์ บ.ไชยแสง ปิโตรเลียม จำกัด เลขที่ 69 ม.5 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงหบุรี หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือมาส่งยังพื้นที่ภาคกลาง จึงได้ติดต่อล่อซื้อยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด กระทั่งเวลา 01.30 น.วันที่ 8 ส.ค.ได้พบรถบรรทุกพ่วง ซึ่งมีนายสุพัฒน์เป็นคนขับนำยามาส่งให้กับเจ้าหน้าที่ พบยาบ้า 40,000 เม็ด ซึ่งเกินกว่าจำนวนที่เจ้าหน้าที่ติดต่อล่อซื้อ จากการสอบถามทราบว่าจะมีลูกค้าอีกรายมารับยาบ้าจำนวนดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนขยายผลนายประเสริฐและนายอำนวย ที่มารับยาบ้าส่วนที่เหลือ

ผมดูแบบพากษ์ไทยนะครับ คือช่วงแรกๆ1-12ตอนแรก โอเคมาก พอดูได้ ถึงจะงงๆชื่อบางอย่างเช่น แคบปิตอลอามี่ หรือหน่วยรบ ชื่อยานรบหรือสถานที่ เพราะอยู่ๆก็พูดแค่ชื่อภาพไม่มีต้องดูไปสักพักถึงจะ อ้อ ว่านางเอกพูดถึงอะไร แต่พอ13-26ตอนหลังมันคืออนิเมะตลกชัดๆ เดี้ยวก็ฆ่ากัน เดี้ยวก็ดีกัน ดีกันได้ยังไม่ข้ามวันอ้าวตีกันอีกแล้ว แล้วที่ตีกัน หัวหน้ามันยังไม่รู้เรื่องเลย ยิ่งตอน20กว่าๆ โอ้โหศัพท์มาเพียบ ชื่อนั้นชื่อนี่เต็มไปหมด หุ่นยนต์เปลื่ยนกันยังกับเปลื่ยนเสื้อผ้า ขโมยกันอย่างสุขใจ แล้วที่ตลกสุดๆคือ Eแมนนี่(ใช่เปล่า)ที่ขับหุ่นขาเดียวตัวสีดำใหญ่ๆแอบชอบคนใส่หน้ากากอ่ะ คือตอนแรกโดนมาร์คมันทิ้งไว้ คงมีแผนล่ะมั้ง แต่คุณเธอเนียนมาก สนิทใจกับคนบนยานสุดๆ แล้วพอได้หุ่นก็พูดซะดิบดีนะว่าเออเดี้ยวถล่มยานฟูลมูลเสร็จก็จบแล้ว ไปๆมาๆทรยศเฉย ขับยานไปเข้ากับมาร์คเฉยเลย แล้วมีบทพูดอันหนึ่ง "ตายเพื่อมาร์คซะเถอะ" คืออะไรจะให้พระเอกตายเพราะคนรักของคุณเธอได้หุ่นกากกว่าพระเอกเหรอ การรบกันก็มั่วสุดๆ พ่อนางเอกตายได้โครตควาย คือสงครามนะเว้ยไม่ใช่ซ้อมรบ ชุดอวกาศรู้จักใส่ซะมั้ง แล้วไอตัวที่อยู่เบื้องหลังแคบปิตอลอามี่ก็ตายแบบควายๆอีกโดนโมบิสูทเตะมั้งคือไปยืนดูอยู่ใต้สนามรบอ่ะ พอหุ่นพระเอกพังคือสงครามจบ อะไรว่ะ แล้วยานฟลูมูลอ่ะ แผน Reconguistaล่ะ เออจบแบบหาต้นชนควายไม่ถูกเลย พระเอกมันเคยบอกตอนไหนว่ะว่าอยากเดินทางรอบโลก อยู่พี่แกกระโดดลงญี่ปุ่นซะงั้น นี่ยังมีให้บ่นอีกเยอะ สายเลือดพระเอกก็กลายเป็นเรื่องงี่เง่าไปเลย เหตุผลต่อสู้ของบักมาร์คก็งี่เง่าพอกัน พระเอกมันได้ขับกันดั้มแต่ตัวเองขับหุ่นแมสไงเลยอิจฉา เรื่องนี้ผมให้คะแนนเท่า AGE ล่ะกัน 4/10 ห่วยมาก ให้เพราะกันพลา