ตลอดช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชื่อของรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ไทยอย่าง GPX ก็ค่อยๆเติบโต เป็นที่รู้จัก รวมถึงเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหนึ่งในโมเดลที่สร้างชื่อให้พวกเขาได้ดีเป็นอย่างมากก็คงหนีไม่พ้น GPX Legend-Series ที่ถูกเผยโฉมออกมาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2015 โดยในแต่ละปีรถมอเตอร์ไซค์โมเดลนี้จะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง มีรุ่นใดบ้าง 2015-2018 GPX Legend 200 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 ชูจุดเด่นคือการเน้นความคลาสสิค ทั้งชุดไฟหน้าโคมกลม, เรือนไมล์ทรงกลม, ถังน้ำมันทรงดั้งเดิมความจุ 12 ลิตร, ชุดล้อซี่ลวด, ยางลายฟันเลื่อย ผสมผสานด้วยกลิ่นอายแบบคาเฟ่-เรเซอร์ด้วยชุดแฮนด์บาร์แบบจับโช้ก, กระจกปลายแฮนด์, เบาะนั่งตอนยาวที่มีการเสริมตูดมดไว้ด้านท้าย และท่อไอเสียทรงเมกะโฟน ขณะที่ออพชันอื่นๆก็ค่อนข้างจัดเต็ม ทั้งชุดดิสก์คู่หน้า, โช้กอัพตะเกียบคู่หัวกลับทางด้านหน้าส่วนขุมกำลังของมันคือเครื่องยนต์บล็อคสูบเดียว SOHC ระบายความร้อนอากาศ และหม้อออยคูลเลอร์ ความจุ 197cc จ่ายน้ำมันด้วยระบบคาบูเรเตอร์ และส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ขณะที่ในตัวรถรุ่น Minor-Change ปี 2017 จะได้รับการอัพเกรดติดตั้ง โช้กหลังคู่แบบมีกระปุกซับแทงค์ และ ชุดล้ออัลลอยด์ มาให้แทนโช้กคู่ธรรมดาๆ และล้อซี่ลวดของเดิม ส่วนชุดล้อก็จะเป็นล้อซี่ลวด รัดด้วยยางเทรลสำหรับ Legend 150 เวอร์ชันแรกรุ่นปี 2016-2017 และเปลี่ยนมาใช้ยางทางเรียบในรุ่น Minor Change นั่นคือ Legend 150S และระบบเบรกทางด้านหน้าก็เป็นแบบดิสก์เดี่ยว ด้านหลังก็เป็นแบบดรัมเบรก ขณะที่ขุมกำลังของมันก็จะมีรูปแบบที่คล้ายกับของรุ่นพี่ แต่มีความจุเล็กลงมาเหลือ 149cc และไม่มีระบบออยคูลเลอร์มาให้แต่อย่างใด 2020-ปัจจุบัน GPX Legend 150-Fi Legend 150 Fi หรือ Legend 150S ร่าง Big-Minor Change ถูกเผยโฉมเป็นครั้งแรกเมื่อปลายปี 2020 โดยมาพร้อมกับการอัพเดทตัวรถ Legend 150 ครั้งใหญ่ด้วยการเน้นภาพลักษณ์ตัวรถให้ดูมีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งการใช้ชุดโคมไฟหน้า-หลังแบบ LED, ชุดหน้าจอมาตรวัด Full-Digital, เปลี่ยนเบาะนั่งใหม่แบ่งสัดส่วนชัดเจนระหว่างผู้ขี่กับผู้ซ้อน เน้นความสะดวกสบายของผู้ขี่และผู้ซ้อนมากขึ้น, ระบบกันสะเทือนทางด้านหน้าก็เปลี่ยนมาใช้แบบโช้กตะเกียบคู่หัวกลับ และที่สำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงจากแบบคาบูเรเตอร์เป็นแบบหัวฉีด GPX-Fi นั่นเองนอกจากนี้ชุดเรือนไมล์แบบ Full-Digital ก็ยังถูกติดตั้งแบบเยื้องศูนย์กลาง, แฮนด์บาร์กับพักเท้าก็ออกแบบให้เน้นท่วงท่าที่หมอบเตี้ยกว่า Legend 200, และโช้กอัพคู่หน้าก็เป็นแบบโช้กตะเกียบคู่หัวกลับที่ขนาดแกนใหญ่กว่า, โช้กหลังเป็นของ OEM โดย YSS เป็นครั้งแรก และที่สำคัญระบบดิสก์เบรกคู่ทางด้านหน้าเองก็เปลี่ยนมาใช้ชุดปั๊มเรเดียลเมาท์ 4 พอร์ท ที่ทำให้ตัวรถดูหล่อขึ้นมาก นอกนั้นในด้านขุมกำลังของมัน ก็จะยังคงเป็นบล็อคเดียวกันกับตัว GPX Legend 200 2018-2019 GPX Gentleman Racer 200 Gentleman Racer 200 ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จของ Gentleman 200 ด้วยการเน้นภาพลักษณ์ของความเป็นคาเฟ่-เรเซอร์ไบค์ยุคใหม่ที่จัดเต็มมากขึ้น จากการใส่ชุดโม่งหน้าเข้ามา นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนชุดแฮนด์บาร์จากแบบมีตุ๊กตาแฮนด์เป็นแบบจับโช้กที่ทำให้ท่านั่งดูหมอบยิ่งขึ้นไปอีก แถมยังมีการติดตั้งชุดกระจกปลายแฮนด์เพิ่มเข้ามา และที่สำคัญสมรรถนะของมันยังเด่นจนสามารถคว้ารางวัล Bike of The Year ปี 2019 ได้อีกด้วย ส่วนการส่งออกไปทำตลาดในแดนปลาดิบเอง ก็ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดีจากชาวญี่ปุ่นเช่นกันโดยในตอนนี้ทาง GPX Thailand ก็กำลังมีการจัดโปรโมชัน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน ของ Legend Twin 250 ทั้ง 2 รุ่น นั่นคือ โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็สามารถติดต่อหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.gpxthailand.com/ ได้เลยครับผม |