จากบน ซ้ายไปขวา: พระบรมราชวังจตุมุขมงคล, วัดโบสถรตนาราม, ถนนที่เกาะพิช, ท่าเรือศรีสวัสดิ์, สวนริมแม่น้ำ, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, วัดพนม, สถูปหลวง, Hotel Le Royal, อาคารศาลฎีกา Show สมญา:
พนมเปญ ที่ตั้งในประเทศกัมพูชา พิกัด: 11°34′10″N 104°55′16″E / 11.56944°N 104.92111°Eพิกัดภูมิศาสตร์: 11°34′10″N 104°55′16″E / 11.56944°N 104.92111°Eประเทศ 12 / 125 พื้นที่ • ทั้งหมด679 ตร.กม. (262 ตร.ไมล์)อันดับพื้นที่ที่ 24ความสูง11.89 เมตร (39.01 ฟุต)ประชากร (สำมะโน 2019) • ทั้งหมด
เว็บไซต์phnompenh.gov.kh พนมเปญ หรือ พนุมปึญ (เขมร: ភ្នំពេញ ภฺนํเพญ, ออกเสียง: [pʰnum pɨɲ]; อังกฤษ: Phnom Penh) อีกชื่อหนึ่งที่เป็นทางการคือ ราชธานีพนมเปญ เป็นเมืองหลวงของประเทศกัมพูชา และยังเป็นเมืองหลวงของนครหลวงพนมเปญด้วย ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า ไข่มุกแห่งเอเชีย (เมื่อคริสต์ทศวรรษ 1920 พร้อมกับเมืองเสียมราฐ) นับเป็นเมืองที่เป็นเป้าการท่องเที่ยวทั้งจากผู้คนในประเทศและจากต่างประเทศ พนมเปญยังมีชื่อเสียงในฐานะที่มีสถาปัตยกรรมแบบเขมรดั้งเดิมและแบบได้รับอิทธิพลฝรั่งเศส กรุงพนมเปญเป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยจังหวัดกันดาล และเป็นเมืองศูนย์กลางการค้า การเมือง และวัฒนธรรมของกัมพูชา มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน เทียบเท่าประชากรร้อยละ 14 ของประเทศ ประวัติศาสตร์[แก้]วัดพนม เป็นที่มาของชื่อพนมเปญ พนมเปญไม่ได้มีจุดเริ่มต้นจากการเป็นถิ่นฐานที่ตั้งหลัก จนกระทั่งเข้าสู่ยุคเมืองพระนคร หลังจากนครวัดและเมืองอื่นๆใกล้เคียงเริ่มมีชื่อเสียงโดดเด่นประจักษ์สู่สายตาประชาคมโลก ช่วงกลางศตวรรษที่ 15 เจ้าพระยาญาติ กษัตริย์แห่งจักรวรรดิเขมรทรงย้ายราชธานีจากเมืองนครธมซึ่งถูกทำลายและยึดครองโดยกองทัพสยาม มาตั้งอยู่ที่ ณ พื้นที่ที่เป็นกรุงพนมเปญในปัจจุบันและทรงก่อร่างสร้างนครหลวงใหม่สร้างพระราชวัง ทรงตั้งนามเมืองหลวงแห่งนี้ว่า จตุมุข (ចតុមុខ) มีความหมายแปลว่า "เมืองที่มีสี่ใบหน้า" สื่อถึง พระพรหมผู้มีพระพักตร์ 4 หน้า กรุงจตุมุขมีชื่อเต็มว่า จตุรมุข มงคลสกลกัมพูชาธิบดี ศรีโสธรบวรอินทปัตถ์ บุรีรัฏฐราชสีมามหานคร (ក្រុងចតុមុខមង្គលសកលកម្ពុជាធិបតី សិរីធរបវរ ឥន្ទបត្តបុរី រដ្ឋរាជសីមាមហានគរ) มีความหมายว่า "สถานที่แห่งแม่น้ำสี่สายที่ให้ความสุขและความสำเร็จของอาณาจักรเขมรผู้นำสูงสุดและเมืองที่ไม่อาจทำลายได้ของพระอินทร์แห่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่" เป็นชื่อเรียกกรุงพนมเปญสมัยนั้น และยุคสมัยนี้จึงเรียกว่ายุคสมัยจตุมุขทำให้กรุงพนมเปญเป็นเมืองหลวงของกัมพูชาเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กรุงพนมเปญยังคงเป็นเมืองหลวงอยู่ 73 ปีจากปี ค.ศ. 1432 - 1505 และถูกทอดทิ้งเป็นเวลา 360 ปี (จากปี ค.ศ. 1505 ถึง 1865) โดยกษัตริย์ที่ตามมาเนื่องจากการต่อสู้ภายในราชวงศ์ระหว่างผู้อ้างสิทธิชิงบัลลังก์ หลังจากนั้นกษัตริย์ก็ย้ายเมืองหลวงหลายต่อหลายครั้งและสร้างเมืองหลวงขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ศรีสันธร, ละแวกและกรุงอุดงมีชัย ในระหว่างอานามสยามยุทธในสมัยพระอุทัยราชา (นักองค์จัน) ได้ย้ายเมืองหลวงกลับมายังกรุงพนมเปญอีกครั้งเพื่อเข้ากับญวนจนจบศึกพระหริรักษ์รามาธิบดี (นักองค์ด้วง) ครองราชย์จึงได้ย้ายกลับมาอยู่ ณ อุดงมีชัย จนกระทั่งเมื่อกัมพูชาลงนามในสนธิสัญญายอมเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1866 ภายใต้การปกครองของพระบาทสมเด็จพระนโรดม พรหมบริรักษ์ ได้ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงอุดงมีชัยกลับมาที่พนมเปญทรงแต่งตั้งกรุงพนมเปญเป็นเมืองหลวงของประเทศอย่างเป็นทางการนับแต่บัดนั้น หลังจากการมีการทำสัญญากับฝรั่งเศสแล้วต่อมากัมพูชาก็ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิอาณานิคมฝรั่งเศสแถบอินโดจีนที่รวมถึงเวียดนามและลาว ภายใต้อำนาจการปกครองแบบเต็มรูปแบบของปารีส ทำให้พนมเปญมีศักยภาพและเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าหมู่บ้าน ก้าวไปสู่การพัฒนาเป็นเมืองท่าริมน้ำที่ทันสมัยของฝรั่งเศส แม้จะมีความวุ่นวายในส่วนอื่นๆ ของประเทศทั้งก่อนและหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่พนมเปญยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศสจนกระทั่งปี ค.ศ. 1953 ภายใต้การนำของสมเด็จนโรดมสีหนุและคลื่นมวลชนชาวเขมรที่ออกมาเรียกร้องเอกราช จนได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสอย่างสมบูรณ์ ซึ่งช่วงต้นของปี ค.ศ. 1970 พนมเปญค่อนข้างมีความสงบท่ามกลางทะเลสงครามในประเทศกัมพูชา ในปี ค.ศ. 1975 กองกำลังเขมรแดงภายใต้การนำของพอลพตบุกโจมตีพนมเปญ หลังจากเข้ายึดครองไม่กี่วันจึงเริ่มกวาดล้างประชากรกว่าสองล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โดยเนรเทศออกไปสู่ชนบท ภายใน 4 ปีพนมเปญแทบร้างผู้คน ยกเว้นเขตพื้นที่กักกัน เช่น S-21 และพื้นที่บางส่วนที่ชาวเขมรแดงอาศัยอยู่ เมื่อเขมรแดงถูกขับไล่ออกไปจากกรุงพนมเปญในปี ค.ศ. 1979 ผู้คนจึงค่อยๆ ทยอยกลับเข้ามาอาศัยในเมืองอีกครั้ง แต่เนื่องจากสภาพบ้านเมืองที่ถูกทำลายและทรุดโทรมอย่างมาก รวมถึงจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นน้อย องค์การระหว่างประเทศจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทและให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูบ้านเมือง หลังจากการลงนามในความตกลงทางการเมืองสมบูรณ์แบบในความขัดแย้งกัมพูชา หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า ความตกลงสันติภาพกรุงปารีส (Paris Peace Agreement) ในปี ค.ศ. 1991 ซึ่งคืนเสถียรภาพเต็มที่แก่ประชาชนชาวกัมพูชา ในปี ค.ศ. 1999 กัมพูชาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งสนับสนุนและดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุนในกัมพูชามากขึ้น ถือเป็นจุดเริ่มต้นในทางที่ดีสำหรับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศ ภูมิศาสตร์[แก้]พนมเปญตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนกลางค่อนใต้ของกัมพูชา และล้อมรอบด้วยจังหวัดกันดาล ตัวนครตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง โตนเลสาบ และแม่น้ำบาสัก ตัวนครตั้งอยู่ในพิกัดภูมิศาสตร์ 11°33′00″N 104°55′00″E / 11.55°N 104.91667°E (11°33' เหนือ, 104°55' ตะวันออก) ครอบคลุมพื้นที่ 678.46 ตารางกิโลเมตร (262 ตารางไมล์) แบ่งเป็นตัวเทศบาล 11,401 เฮกตาร์ (28,172 เอเคอร์) และถนน 26,106 ha (64,509 เอเคอร์) ที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในเขตเทศบาลมีจำนวน 34.685 km2 (13 sq mi) โดยอยู่ในเขตชลประทาน 1.476 km2 (365 เอเคอร์) ภูมิอากาศ[แก้]ข้อมูลภูมิอากาศของพนมเปญ (อุณหภูมิ: ค.ศ. 1988–2013, สูงสุด: ค.ศ. 1906–2013) เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี อุณหภูมิสูงสุดที่เคยบันทึก °C (°F) 36.1 (97) 38.1 (100.6) 40.0 (104) 40.5 (104.9) 40.0 (104) 39.2 (102.6) 37.2 (99) 37.8 (100) 35.5 (95.9) 36.1 (97) 34.4 (93.9) 37.2 (99) 40.5 (104.9) อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 31.6 (88.9) 33.2 (91.8) 34.6 (94.3) 35.3 (95.5) 34.8 (94.6) 33.8 (92.8) 32.9 (91.2) 32.7 (90.9) 32.2 (90) 31.4 (88.5) 31.1 (88) 30.8 (87.4) 32.9 (91.2) อุณหภูมิเฉลี่ยแต่ละวัน °C (°F) 26.6 (79.9) 28.0 (82.4) 29.4 (84.9) 30.2 (86.4) 30.0 (86) 29.2 (84.6) 28.7 (83.7) 28.5 (83.3) 28.2 (82.8) 27.2 (81) 27.1 (80.8) 26.3 (79.3) 28.3 (82.9) อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 21.8 (71.2) 22.8 (73) 24.3 (75.7) 25.5 (77.9) 25.6 (78.1) 24.9 (76.8) 24.8 (76.6) 24.6 (76.3) 24.4 (75.9) 24.2 (75.6) 23.2 (73.8) 21.9 (71.4) 24.0 (75.2) อุณหภูมิต่ำสุดที่เคยบันทึก °C (°F) 12.8 (55) 15.2 (59.4) 19.0 (66.2) 17.8 (64) 20.6 (69.1) 21.2 (70.2) 20.1 (68.2) 20.0 (68) 21.1 (70) 17.2 (63) 16.7 (62.1) 14.4 (57.9) 12.8 (55) หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 12.1 (0.476) 6.6 (0.26) 34.8 (1.37) 78.8 (3.102) 118.2 (4.654) 145.0 (5.709) 162.1 (6.382) 182.7 (7.193) 270.9 (10.665) 248.1 (9.768) 120.5 (4.744) 32.1 (1.264) 1,411.9 (55.587) ความชื้นร้อยละ 73 71 71 73 77 78 80 81 84 84 78 73 77 วันที่มีฝนตกโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) 1.2 1.1 3.4 6.8 15.9 17.0 18.1 18.3 21.5 19.3 10.2 4.5 137.3 จำนวนชั่วโมงที่มีแดด 260 226 267 240 202 192 143 174 129 202 213 242 2,490 แหล่งที่มา 1: Deutscher Wetterdienst แหล่งที่มา 2: Danish Meteorological Institute (sun, 1931–1960) เขตการปกครอง[แก้]ศาลากลางพนมเปญ พนมเปญเป็นเขตการปกครองพิเศษที่มีพื้นที่ 678.46 ตารางกิโลเมตร (261.95 ตารางไมล์) ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับจังหวัด มีทั้งหมด 14 เขต (ខណ្ឌ ขณฺฑ) 105 แขวง (សង្កាត់ สงฺกาต่) และ 953 หมู่บ้าน (ភូមិ ภูมิ) เขตทั้งหมดอยู่ภายใต้การบริหารของพนมเปญ ส่วนเขตดังเกา, เมียนเจ็ย, ปอร์แซนเจ็ย, แซนซก และรุสเซ็ยแกวถือเป็นเขตนอกนคร เขตการปกครองของพนมเปญ รหัส ISO ชื่อ ภาษาเขมร เขต หมู่บ้าน ประชากร 1201 จ็อมการ์มนឌចំការមន5 40 70,772 1202 โฎนปึญឌដូនពេញ11 134 155,069 1203 ปรัมปีร์เมียะเกอะราឌប្រាំពីរមករា8 66 71,092 1204 ตวลกอร์ก (ตวล โกก)ឌទួលគោក10 143 145,570 1205 ดังเกาឌដង្កោ12 81 159,772 1206 เมียนเจ็ย (มีชัย)ឌមានជ័យ7 59 248,464 1207 รุสเซ็ยแกวឌឫស្សីកែវ7 30 274,861 1208 แซนซก (แสนสุข)ឌសែនសុខ6 47 182,903 1209 ปอร์แซนเจ็ย (ปอร์แสนชัย)ឌពោធិ៍សែនជ័យ7 75 226,971 1210 จโรย จองวา (จโรย จ่อง วา)ឌជ្រោយចង្វារ5 22 159,233 1211 แปรก พโนว (แปรก พโนว)ឌព្រែកព្នៅ5 59 188,190 1212 จบา ออมโปว (จบาอ๊อม โปว)ឌច្បារអំពៅ8 49 164,379 1213 Boeng Keng Kangឌបឹងកេងកង7 55 66,658 1214 Kamboulឌកំបូល7 93 75,526 สถานที่สำคัญทางราชการ[แก้]ประชากร[แก้]ประวัติจำนวนประชากรปีประชากร±% p.a. 1950334,000— 1960398,000+1.77% 1970457,000+1.39% 1975370,000−4.14% 197832,000−55.78% 1980189,000+143.03% 1985351,000+13.18% 1990634,000+12.55% 1995925,000+7.85% 20001,284,000+6.78% 20051,677,000+5.49% 20102,101,725+4.62% 20192,129,371+0.15% ข้อมูลเมื่อ 2019 พนมเปญมีประชากร 2,129,371 คน โดยมีความหนาแน่นประชากรที่ 3,136 คนต่อตารางกิโลเมตรในพื้นที่นครที่มีขนาด 679 ตารางกิโลเมตร (262 ตารางไมล์) อัตราการเติบโตอยู่ที่ 3.92% เขตนครมีประชากรเพิ่มขึ้น 4 เท่านับตั้งแต่ ค.ศ. 1979 การสำรวจโดยสถาบันสถิติแห่งชาติใน ค.ศ. 2017 เปิดเผยว่าประชากรในพนมเปญ 95.3% เป็นชาวเขมร, 4% เป็นชาวจาม และอื่น ๆ อีก 0.7% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน เวียดนาม และชนกลุ่มน้อยอื่น ๆ ได้แก่ ชาวไทย, บูดง, มนง, กูย และ Chong ภาษาทางการคือภาษาเขมร ส่วนภาษาอื่นที่ใช้กันทั่วไปคือภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ศาสนา[แก้]ศาสนาในพนมเปญ (สำมะโน 2019) วิญญาณนิยมและศาสนาอื่น ๆ (0.1%) ศาสนาประจำชาติคือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ประชากรในพนมเปญมากกว่า 97.8% นับถือศาสนาพุทธ ชาวจามนับถือศาสนาอิสลามมาหลายร้อยปี ส่วนศาสนาคริสต์มีผู้นับถือจำนวนน้อย เศรษฐกิจ[แก้]ศูนย์การค้าซอร์ยา พนมเปญเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของกัมพูชา มีอัตราการเติบโตมากขึ้นในแต่ละปี เป็นศูนย์รวมของโรงแรม ภัตตาคาร บาร์ และสิ่งก่อสร้างมากมาย การเติบโตทางเศรษฐกิจ เริ่มตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 ได้มีการเปิดศูนย์การค้าแบบตะวันตกชื่อว่า ศูนย์การค้าโสรยา และ ศูนย์การค้าสุวรรณา รวมทั้งกิจการภัตตาคารและแฟรนไชส์ตะวันตกอื่น ๆ ได้แก่
ตึกที่สูงที่สุดในพนมเปญ คือ ตึกวัฒนะ (Vattanac Capital Phnom Penh) สูง 200 เมตร (656 ฟุต) สร้างถึงยอดเมื่อ พฤษภาคม ค.ศ. 2012 สามารถมองเห็นตัวเมืองได้ทั่ว สายการบิน กัมพูชานครแอร์ มีที่ทำการใน พนมเปญ การศึกษา[แก้]มหาวิทยาลัยภูมินทร์พนมเปญ
หนังสือพิมพ์[แก้]ภาพถ่ายทางอากาศของกรุงพนมเปญ รายวัน[แก้]เขมร[แก้]
อังกฤษ[แก้]
จีน[แก้]
นิตรสาร[แก้]
กีฬา[แก้]สนามกีฬาที่สำคัญในพนมเปญ ได้แก่ สนามกีฬาโอลิมปิกพนมเปญ จุคนได้ 50,000 คน อย่างไรก็ตาม สนามนี้ไม่เคยถูกใช้ในกีฬาโอลิมปิกเลย สนามนี้สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1964 เป็นสนามเหย้าของฟุตบอลทีมชาติกัมพูชา การคมนาคม[แก้]การเดินทางในพนมเปญใช้รถตุ๊กตุ๊กและรถจักรยานยนต์ เมื่อ 9 สิงหาคม ค.ศ. 2007 เริ่มมี บริษัท มายลิง โอเพ่นทัวร์ (Mai Linh Open Tou) จากเวียดนามมาบริการแท๊กซี่มิเตอร์หลังคาสีเขียว จะคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ 1.50 ดอลลาร์ ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ ท่าอากาศยานนานาชาติพนมเปญ เป็นท่าอากาศยานที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ห่างจากตัวเมืองพนมเปญ 7 กิโลเมตร (4.3 ไมล์) |