Mi band 2 ต ดฟ ล ม เกะกะ ไม สวย

Zepp Life ติดตามกิจกรรมต่างๆของคุณ วิเคราะห์การนอนหลับ และประเมินผลการออกกำลังกายของคุณ กระตุ้นให้คุณมีกำลังใจในการออกกำลังกายมากขึ้น ช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกๆวัน

• เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัจฉริยะอื่นๆ สนับสนุนการจับคู่ Zepp Lifeกับ Mi แบนด์, นาฬิกา Amazfit Bip, เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Mi, เครื่องชั่งน้ำหนัก Mi, นาฬิกา Amazfit และอื่นๆ ของคุณ

• บันทึกทุกการออกกำลังกายได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ สนับสนุนการวิ่ง ขี่จักรยาน เดินและการออกกำลังกายประเภทอื่นๆทั้งหมดในแอปเดียว รับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการออกกำลังกายของคุณตามท่าทางและอัตราการเต้นของหัวใจเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมากขึ้น

• ผู้ช่วยส่วนตัวสำหรับการนอนหลับ Zepp Life วิเคราะห์ปัจจัยหลายอย่างที่มีผลต่อคุณภาพการนอนหลับของคุณ และบอกให้รู้ว่าคุณสามารถปรับปรุงการนอนหลับได้อย่างไร

• เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับร่างกายของคุณ ใช้ Mi Fit กับ เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ Mi เพื่อวัดและติดตามข้อมูลองค์ประกอบของร่างกาย 10 อย่าง ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างแผนการออกกำลังกายที่ดีขึ้นและตรวจหาความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เป็นไปได้

• การปลุกและการแจ้งเตือน อุปกรณ์อัฉริยะใช้การสั่นเพื่อปลุกหรือแจ้งเตือนคุณโดยไม่รบกวนผู้อื่น คุณจะได้รับการแจ้งเตือน การโทร ข้อความ อีเมล และอื่นๆ เพื่อไม่ให้พลาดทุกการแจ้งเตือนที่สำคัญ การแจ้งเตือนนั่งนาน จะช่วยแจ้งเตือนให้คุณออกไปเดินเล่นหรือออกำลังกายสักครู่ เมื่อคุณนั่งนานเกินไป

- ใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายจากการก้าวเดินและวิ่ง โดยเทียบนับจำนวนจากก้าวเดินใน 1 วัน แล้วคำนวณออกมาเป็นแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ

- ตรวจจับการนอนหลับในแต่ละวันและแสดงผลออกมาเป็นข้อมูล เพื่อใช้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนของเราให้ดีขึ้น

- สามารถปลดล็อคโทรศัพท์ หรือ แท็ปเล็ตได้โดยที่ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน

- สามารถตั้งนาฬิกาปลุก ตั้งการแจ้งเตือนสายเรียกเข้า แจ้งเตือนแอพ

- สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ได้

สินค้าพร้อมส่ง สั่งซื้อได้แล้ว คลิกลิ้งค์นี้เลยครับ https://www.xiaomishopth.com/product/618/mi-band-2

สเปคของตัว Mi Band 2 ทั้งหมด

- สามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP67 (กันน้ำลึกได้ 1 เมตร 30 นาที) เอาไว้กันพวกเหงื่อในขณะออกกำลังกายเป็นหลัก แต่ไม่สามารถแช่น้ำหรือใส่ในขณะว่ายน้ำได้

- แบตเตอรี่แบบ Lithium Polymer ขนาด 8มม. ความจุ 45 mAh

- สามารถเปิดใช้งานได้ 21 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยใช้เวลาชาร์จเพียงไม่กี่นาที

- ใช้ระบบบลูทูธ 4.0 BLE (Bluetooth Low Energy) ซึ่งใช้งานพลังงานต่ำมาก อัตราตอบสนอง 0.6 วินาที ระยะส่งไกล 50 เมตร

- ขนาดตัวเครื่อง 40.3 x 16 x 10.5 มม. น้ำหนัก 7 กรัม

- สายรัดสามารถปรับความยาวได้ตั้งแต่ง 157mm ถึง 205mm

- วัสดุตัวเครื่องเป็น Polycarbonate

- มีหน้าปัดเป็นหน้าจอ OLED สามารถแสดงผลข้อมูลต่างๆได้ เช่น นาฬิกา จำนวนก้าว อัตราการเต้นหัวใจ การแจ้งเตือนแอพ และอื่นๆ

- ด้านล่างของหน้าจอเป็นปุ่มสัมผัส สามารถแตะสัมผัสเพื่อเลือกดูข้อมูลต่างๆได้ 3 อย่าง ได้แก่ นาฬิกา จำนวนก้าว อัตราการเต้นหัวใจ

- ตัวสายรัดใช้วัสดุกาวซิลิโคนดาวน์คอนนิ่งผสมกับ TPSiV เป็นวัสดุที่ทนความยืดหยุ่นได้สูง ทนต่อรังสี UV มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อแบคทีเรีย จึงลดอาการแพ้ต่อผู้สวมใส่ ไม่เป็นปัญหาต่อคนที่ผิวหนังบอบบาง

- ทนต่อสภาพอากาศได้ที่อุณหภูมิ -20 ถึง 70 องศาเซลเซียส

อุปกรณ์ที่ใช้งานได้

- อุปกรณ์ดังกล่าวต้องรองรับ Bluetooth 4.0 และ มีระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (Kit Kat) ขึ้นไป

- สมาร์ทโฟน Xiaomi สามารถใช้งานได้ แต่ต้องมีระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (Kit Kat) ขึ้นไป

- iPhone / IPad ที่มีระบบปฏิบัติการ iOS7 ขึ้นไป แต่จะไม่สามารถใช้งานฟังค์ชันปลดล็อคโทรศัพท์ได้

- นอกเหนือจากนี้ จะต้องติดตั้งแอพ Mi Band เพื่อตรวจสอบว่ารองรับการใช้งานหรือไม่

การดาวน์โหลดแอพมาใช้งาน

http://app.mi.com/detail/68548

สามารถค้นหาได้ใน Playstore / Appstore โดยใช้คำค้นหาว่า Mi Fit

หรือสามารถสแกน QR Code จากคู่มือภายในกล่อง เพื่อดาวน์โหลดได้ทันที

โดยตัวแอพจะเป็นเมนูภาษาอังกฤษ

ลิ้งค์ดาวน์โหลดแอพใน Playstore https://play.google.com/store/apps/details?id=com.xiaomi.hm.health&hl=th

ลิ้งค์ดาวน์โหลดแอพใน Appstore https://itunes.apple.com/en/app/xiao-mi-shou-huan/id938688461

อุปกรณ์ภายในกล่อง

ตัวเครื่อง สายรัด สายชาร์จ USB คู่มือ

แกะกล่อง Mi Band และรีวิวการใช้งานแอพกับ Mi Band 2

หน้าตากล่อง Mi Band มีลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดเล็ก ซีลด้วยพลาสติกบาง ตัวกล่องใช้กระดาษรีไซเคิลเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมจาก Xiaomi มีโลโก้กำกับอยู่บนตัวกล่อง

ด้านล่างของด้านหลังกล่องมีรายละเอียดของผลิตภัณฑ์เป็นภาษาจีนกำกับไว้อยู่ และบาร์โค้ดตัวสินค้า

เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบตัว Mi Band 2 ถูกประกอบเข้าที่ช่องใส่ของตัวกล่อง

เมื่อเปิดกล่องด้านใน จะเจอสายรัด สายชาร์จและคู่มือด้านใน

ตัว Mi Band 2 บริเวณด้านหน้าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลแบบ OLED ถูกบด้วยปิดทับด้วยแผ่นซีลพลาสติก พร้อมปุ่มสัมผัสด้านข้าง ใช้สัมผัสเพื่อดูข้อมูลต่างๆที่หน้าจอ

บริเวณด้านหลัง จะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ ส่วนด้านข้างจะเป็นขั้วสำหรับเสียบเข้ากับสายชาร์จ

เราสามารถแตะปุ่มสัมผัสด้านข้างของจอเพื่อดูข้อมูลได้ถึง 6 รูปแบบ ได้แก่ เวลา การนับก้าวเดิน ระยะทาง แคลอรี่ ปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลือ และ อัตราการเต้นหัวใจ ซึ่งจะต้องใช้เวลาวัดซักครู่ ถึงจะแสดงข้อมูล โดยเราสามารถตั้งค่าให้ตัว Mi Band 2 แสดงผลข้อมูลกี่รูปแบบก็ได้ในหน้า Profile

ลักษณะของสายรัด มีปุ่มกระดุมสีดำไว้ติดกับช่องกระดุมเพื่อยึดสายให้เข้าที่กับข้อมือ โดยสามารถปรับเปลี่ยนช่องใส่ให้เข้ากระชับกับข้อมือผู้ใช้งานได้

เปรียบเทียบสาย Mi Band 2 กับ Mi Band 1 สังเกตุได้ว่าช่องของสายรัด Mi Band 2 จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย

สายชาร์จที่มากับตัวเครื่อง วิธีการใช้งานคือ ให้ถอดตัวกระดุม Mi Band 2 ออกจากสายแล้วเสียบเข้าที่ช่องชาร์จ เมื่อชาร์จไฟแล้ว หน้าจอจะแสดงแถบพลังงานแบตเตอรี่ในขณะชาร์จ

ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอพ Mi Fit มาใช้งานได้ทันทีใน Play Store หรือ App Store

การใช้งานครั้งแรก ผู้ใช้งานจะต้องมีไอดี Mi Account ก่อน

สามารถสมัครได้ที่นี่ https://account.xiaomi.com

แนะนำให้สมัครแบบอีเมล์นะครับ

แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟน Xiaomi ที่มี Mi Account ในระบบอยู่แล้วก็สามารถใช้งานได้ทันทีโดยตัวแอพจะเรียกร้องสิทธิ์ในการเข้าถึงของ Mi Account หลังจากนั้นก็สามารถกด Add Device เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ได้เลย ในส่วนการสมัครการล็อคอินผมจะไม่อธิบายแต่ขอลัดมาวิธี Add Device เลยนะครับ

การเพิ่มอุปกรณ์ตัวแอพจะถามว่าต้องการเพิ่มตัวไหน ให้เราเลือก Mi Band ได้เลย โดยก่อนเลือกให้เราเปิดบูลทูธกับมือถือก่อนนะครับ

จากนั้นแอพจะทำการค้นหา Mi Band ภายในรัศมี เมื่อค้นหาพบแล้วแอพจะแจ้งเตือนให้เราเคาะที่ Mi Band 1 ครั้งเพื่อยืนยันการจับคู่ครับ

หลังจากนั้นแอพจะแจ้งเตือนว่าจับคู่เรียบร้อยแล้ว และจะพาเราไปสู่หน้าหลักของแอพครับ

ในหน้าหลักของแอพจะมีหัวข้อใหญ่ๆแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อ ได้แก่ Status Play และ Profile คราวนี้เราจะมาอธิบายทีละหัวข้อกันนะครับ

หน้า Status จะเป็นหน้าแสดงข้อมูลสถานะของเราทั้งหมด โดยจะขออธิบายทีละส่วนของหน้านี้เลยละกันนะครับ

S.1 เป็นหน้าปัดแสดงข้อมูลการก้าวเดิน/วิ่ง ระยะทางและแคลอรี่ ของเราในวันนั้น ซึ่งสามารถกดเข้าไปดูข้อมูลการก้าวเดิน/วิ่งในแต่ละช่วงเวลา และยังสามารถดูสถิติย้อนหลังได้ทั้งแบบวัน แบบทั้งสัปดาห์ และแบบทั้งเดือน

S.2 เป็นปุ่มสำหรับเข้าสู่โหมดการวิ่ง โดยในหน้านั้นจะมีตัวเลขข้อมูลต่างๆแสดงผลอยู่ ซึ่งเราสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ได้ด้วยการไปที่ Setting และ กดเปิด Monitor Heart Rate นอกจากนี้ยังสามารถแจ้งเตือนระดับการเต้นของหัวใจในแต่ละช่วงได้อีกด้วย

S.3 เป็นปุ่มสำหรับแชร์ข้อมูลการเดินของเราในวันนั้นสู่แอพโซเชียลต่างๆ

S.4 Sleep data คือข้อมูลการนอนหลับของเราในแต่ละคืน เมื่อกดเข้าไป เราจะสามารถดูข้อมูลต่างๆของการนอนในคืนนั้นได้ เช่น เวลาที่เริ่มหลับ ชั่วโมงการหลับปกติ หลับสนิท เวลาที่ตื่น หลับไปทั้งหมดกี่ชั่วโมง และยังสามารถดูสถิติย้อนหลังได้ทั้งแบบวัน แบบทั้งสัปดาห์ และแบบทั้งเดือน

S.5 Weight data คือข้อมูลน้ำหนักของตัวผู้ใช้งาน เราสามารถเข้าไปกรอกน้ำหนักของเรา เพื่อวัดค่า BMI และเช็คสถิติได้ โดยข้อมูลจะแสดงผลเป็นเส้นกราฟ

เมื่อเลื่อนแถบเมนูลงมา พบว่าจะมีหัวข้อเพิ่มเติมอีก 2 หัวข้อดังนี้

S.6 Heart rate data คือ ข้อมูลอัตราการเต้นหัวใจของผู้ใช้งาน ซึ่งสามารถกดเข้าไปเพื่อวัดอัตราการเต้นหัวใจและเก็บไว้เป็นสถิติได้ ซึ่งหลังจากวัดไปแล้ว แอพจะแสดงผลข้อมูลพร้อมคำอธิบายว่าอัตราระดับนี้ ร่างกายผู้ใช้งานอยู่ในสภาวะใดบ้าง เช่น พักผ่อน ไม่มีกิจกรรมใดๆ หัวใจเต้นเล็กน้อย แอโรบิค และหัวใจเต้นแรง

S.7 Streak data คือบันทึกการทำลายสถิติของผู้ใช้งาน เราสามารถดูได้ว่าเราทำลายสถิติทะลุเป้าหมายได้สูงสุดกี่วัน โดยสามารถแชร์ผ่านแอพโซเชียลต่างๆได้

หน้า Play จะเป็นหน้าสำหรับใช้งานในส่วนอื่นๆที่ไม่ใช่การออกกำลังใดๆ โดยผมขอแบ่งออกเป็น 7 หัวข้อดังนี้

P.1 Incoming Calls เราสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนสายเรียกเข้าได้ โดยฟังค์ชันนี้ ผู้ใช้งานจะต้องเปิดบูลทูธเชื่อมต่อไว้ตลอดเวลา โดยมีการตั้งค่าว่าจะให้ดีเลย์กี่วินาทีแล้วค่อยสั่นเตือน หรือสั่งให้ไม่สั่นเมื่อเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นเบอร์ที่เราไม่รู้จัก

P.2 Alarm เป็นการตั้งค่านาฬิกาปลุกของตัว Mi Band เมื่อถึงเวลาปลุกแล้ว ตัว Mi Band จะสั่นไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ใช้งานจะลุกขึ้นจากที่นอน

P.3 Apps เป็นการตั้งค่าให้ Mi Band สั่นเตือน เมื่อการแจ้งเตือนของแอพนั้นๆเข้ามา

P.4 Idle alert เป็นฟังค์ชันสั่นแจ้งเตือนเมื่อผู้ใช้งานนั่งเป็นเวลานานเกิน 1 ชั่วโมง ซึ่งจะเป็นการเตือนให้ผู้ใช้งานไม่ให้นั่งนานเกินไปและลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย โดยสามารถตั้งเวลาเริ่มเตือนและหยุดเตือนได้

P.5 Sreen unlock เป็นฟังค์ชันที่สามารถสั่งให้สมาร์ทโฟนปลดล็อคได้ทันที ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน โดยฟังค์ชันนี้ ผู้ใช้งานจะต้องเปิดบูลทูธเชื่อมต่อไว้ตลอดเวลา และยังไม่รองรับกับระบบ iOS

P.6 เป็นฟังค์ชันสั่นแจ้งเตือนเมื่อมือถือของเรา ห่างจาก Mi Band ไปเกินรัศมีที่ตัว Mi Band ตรวจจับได้ (ประมาณ 10 เมตร)

P.7 เป็นฟังค์ชันที่ใช้งานร่วมกับแอพโซเชียลมีเดียของจีน ส่วนนี้ผมขอข้ามนะครับ เพราะคนไทยไม่นิยมใช้แอพโซเชียลเหล่านี้

หน้า Profile เป็นหน้าปรับเปลี่ยนแก้ไขข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเอง โดยแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อใหญ่ดังนี้

Pr.1 ส่วนนี้จะเป็นข้อมูลทั้งหมดของผู้ใช้งาน มีชื่อผู้ใช้งาน รูปโปรไฟล์ ค่าเฉลี่ยการก้าวเดิน จำนวนกิโลเมตรที่เดินมาทั้งหมด และจำนวนการทำลายสถิติ ซึ่งเราสามารถกดที่ ชื่อเพื่อแก้ไขข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลร่างกายของผู้ใช้งานได้

Pr.2 My Devices เป็นหัวข้อแสดงรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับแอพนี้อยู่ ซึ่งเราสามารถเข้าไปดูข้อมูลของตัวอุปกรณ์และตั้งค่าการแสดงผลข้อมูลของตัว Mi Band 2 ได้ที่นี่

Pr.3 Set Goal เป็นการตั้งค่าเป้าหมายเส้นชัย ซึ่งเราสามารถตั้งค่าเป้าหมายเส้นชัยของการก้าวเดิน/วิ่ง และ น้ำหนักของผู้ใช้งานได้ที่นี่

Pr.4 Status Notification เป็นการตั้งค่าแจ้งเตือนในมือถือ เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าไปดูข้อมูลสรุปการทำกิจกรรมต่างๆและข้อมูลการนอนหลับของวันนั้น