Ms office 2023 ใช หลายคน ซ อแบบไหนค ม

Microsoft 365

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ถ้าท่านติดตามข่าวด้วยไอทีคงจะผ่านตากันมาแล้วบ้างเกี่ยวกับข่าวที่ไมโครซอฟท์ประกาศออกมาว่าต้นปีหน้า 2023 ทางไมโครซอฟท์จะรีแบรนด์จาก Microsoft office เป็น Microsoft 365 แล้วจะกระทบกับการใช้งานของเราอย่างไรบ้าง ถ้าท่านเข้าหน้าเว็บไซต์ www.office.com ท่านจะเห็นประกาศของไมโครซอฟท์ตามที่กล่าวไปข้างต้น เมื่อดูรายละเอียดเราจะพบว่าทางไมโครซอฟท์จะเริ่มเปลี่ยนในส่วนของเว็บไซต์ก่อนโดยเริ่มในเดือนพฤศจิกายน 2022 โดยจะเปลี่ยนไปใช้เว็บไซต์ใหม่ https://www.microsoft365.com/ แทน และลำดับต่อไปจะเป็นคิวของแอพพลิเคชันบนวินโดว์และอุปกรณ์ mobile devices จะเริ่มในเดือนมกราคม 2023 การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลต่อทุกคนๆที่ใช้งานแอพพลิเคชัน microsoft office ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน Office app for work, school, หรือ personal ซึ่งท่านผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องไปดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งแต่อย่างใดนะครับ เพราะทางไมโครซอฟท์จะทำการอัปเดตให้โดยอัตโนมัติ สำหรับท่านที่ใช้งาน microsoft office แบบซื้อครั้งเดียวอยู่แล้วนั้นก็จะยังสามารถใช้งานต่อได้ แต่สำหรับท่านที่กำลังจะซื้อ office ใหม่ควรเลือกซื้อแบบไหนดี เรามาดูว่าแต่ละแบบนั้นมีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไรครับ

1. microsoft office 2021 เป็นแบบซื้อขาดจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว ไม่มีส่วนของความสามารถของระบบคลาวด์เช่นการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นๆหรือการจัดเก็บเอกสารบนคลาวด์ โดยจะประกอบไปด้วย 3 เวอร์ชันดังนี้

• 1.1 Office Home & Student 2021 ซอฟต์แวร์ในชุดมีดังนี้ Word, Excel, PowerPoint ราคาประมาณ 4,200 บาท
• 1.2 Office Home & Business 2021 ซอฟต์แวร์ในชุดมีดังนี้ Word, Excel, PowerPoint, Outlook ราคาประมาณ 11,200 บาท
• 1.3 Office Professional 2021 ซอฟต์แวร์ในชุดมีดังนี้ Word, Excel, PowerPoint, Outlook, Publisher, Access ราคาประมาณ 15,400 บาท

ข้อดีคือผู้ใช้งานมีความเคยชินกับการใช้งานซึ่งมีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชัน 2016, 2019 ไม่จำเป็นต้องต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อใช้งาน

2. microsoft 365 ซึ่งเป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ทางไมโครซอฟท์ผลักดันให้เกิดการใช้งานสูงสุด ถ้าท่านสังเกตุจะพบว่าซอฟต์แวร์ชุดนี้จะถูกแถมมากับโน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ๆนั่นคือเวอร์ชัน Home & Student เพื่อให้ใช้งานได้ฟรีๆไปเลย 1 ปี แต่ microsoft 365 ยังมีเวอร์ชันอื่นๆอีกด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ใช้งาน ดังนี้

2.1 สำหรับการใช้งานส่วนตัว จะประกอบด้วย Microsoft 365 Personal สำหรับผู้ใช้งาน 1 คน และ Microsoft 365 Family สำหรับแชร์การใช้งานให้ผู้ใช้งานได้ตั้งแต่ 1-6 คน ท่านอาจจะช่วยกันแชร์ค่าซอฟต์แวร์กับกลุ่มเพื่อนๆก็ได้นะครับดูจะเป็นช่องทางที่ประหยัดค่าซอฟต์แวร์ดีครับโดยตกปีนึงไม่เกิน 500 บาทต่อคน

เชื่อว่าทุกๆ คนต้องเคยได้ยินและพอรู้จักชุดโปรแกรม Microsoft Office อยู่แล้ว ซึ่งประกอบด้วย Software ที่เป็นที่นิยมใช้กันมาอย่างยาวนานอาทิเช่น Word, Excel หรือ PowerPoint เป็นต้น บทความนี้เราจะมาสรุปรายละเอียดทั้งหมดให้ทราบ ตั้งแต่ว่ามันคืออะไร และหากอยากใช้งานแบบถูกลิขสิทธิ์ มีรูปแบบและ Package ไหนให้เลือกบ้าง ต่างกันยังไง ใช้แบบถาวรเลยดีไหม

\> เลือกซื้อ Microsoft Office ของแท้ถูกลิขสิทธิ์กับเรา

สารบัญ

Microsoft Office คือชุดคอลเลคชั่นรวมโปรแกรมหรือ Application ที่ใช้งานสำหรับงานสำนักงาน แต่ละแอพมีความสามารถในการทำงานที่แตกต่างกัน ซึ่งแน่นอน ว่าชุดโปรแกรมนี้เป็นที่นิยม และคุ้นเคยกับคนส่วนใหญ่ตั้งแต่เด็กนักเรียน ไปจนถึงพนักงานองค์กรเลยทีเดียว

ชุดโปรแกรมนี้ มีการเปิดตัวโดย Bill Gates มานานแล้ว มากกว่า 30 ปี โดยครั้งแรกนั้น จะประกอบด้วย Word, Excel และ PowerPoint ซึ่งสามแอพนี้ถือว่าเป็นสามทหารเสือของ Software ชื่อดังในไมโครซอฟท์ออฟฟิศเลยครับ

ในปีที่ประกาศเปิดตัว ชุดโปรแกรมเป็นที่นิยมมาก มีการสั่งซื้อกันอย่างแพร่หลายจนทำให้ในปีนั้น ไมโครซอฟท์เป็นบริษัทแรกที่ทำยอดขายต่อปีได้สูงเกิน 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และใน Q2 ปี 2020 Microsoft ประกาศว่าการขาย Software ทำยอดขายได้ถึง 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นำโดย Microsoft Office Apps นั่นเอง

ด้วยตัวเลขยอดขายที่พุ่งสูงขนาดนี้ จึงเป็นเหตุผลที่โปรแกรมนี้จะไปโผล่ในสถานที่ต่างๆ และนิยมเป็นที่ใช้งานตั้งแต่ตามบริษัท, สถานศึกษา และใช้งานตามบ้าน โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำ ประวัติความเป็นมา Option ต่างๆ ในการเลือกซื้อ และความสามารถเบื้องต้นของแต่ละโปรแกรมว่ามีความสำคัญอย่างไร

ประวัติความเป็นมา

ในตอนเริ่มต้นนั้น Microsoft Office ได้เปิดตัวในปี 1989 และประกอบด้วย 3 โปรแกรมหลักเริ่มต้นตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งถึงแม้ฟีเจอร์ต่างๆ จะถูกเพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ ในเวอร์ชั่นใหม่ๆ แต่ใน Word, Excel และ PowerPoint ยังคงมีลักษณะการทำงานที่เน้นผลลัพธ์เหมือนเดิมไม่ต่างไปจากยุคแรกๆ มากนัก

นอกจาก 3 แอพพลิเคชั่นหลักแล้ว ปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ ก็ได้รวมโปรแกรมหลักเพิ่มขึ้นอีก 4 แอพ ได้แก่ Access, Publisher, OneNote และ Outlook ซึ่งทุกโปรแกรมสามารถประสานการทำงานให้เชื่อมต่อกันได้อย่างไหลลื่น

หลังจากนั้นมา ก็มีเวอร์ชั่นต่างๆ พัฒนาและเปิดตัวจำหน่ายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Apps สำหรับ Desktop ที่ปรับ Interface การใช้งานให้ทันสมัยขึ้น เช่นเดียวกับ Apps สำหรับ Smartphone หรือ Web-Based เป็นทางเลือกสำหรับทั้งผู้ใช้งาน Windows และ Mac

การกำเนิดของ Microsoft 365

ในปี 2011 ทางไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวการเซอร์วิสแบบ Cloud-Based ที่เรียกว่า Office 365 เพื่อแข่งขันกับ Google Drive โดยมีฟังก์ชั่นการใช้งานชุดโปรแกรมต่างๆ เหมือนกับ Version Desktop ทั่วไป แต่ ณ ตอนนั้น 365 จะมีฟีเจอร์เสริมที่เหนือกว่าได้แก่ Morph และ Designer ใน PowerPoint แต่การใช้งานจะเป็นลักษณะแบบเช่าใช้ ต้องชำระค่าใช้จ่ายเป็นรายปี มีทั้งเวอร์ชั่นที่ใช้งานผ่าน Browser Internet และลงติดตั้งบนอุปกรณ์

ตั้งแต่นั้นมา ทาง Microsoft ก็มีการ Update เพิ่มฟังก์ชั่นและโปรแกรมต่างๆ ขึ้นสู่การใช้งานแบบ Cloud-Based มากขึ้น เพื่อดึงดูดให้คนหันมาใช้งานแบบ Subscribe (เช่าใช้) กันมากขึ้น

ในปี 2017 ทางไมโครซอฟท์ก็ได้ประกาศ ว่าผู้ใช้งาน Desktop Office ทั่วไป จะไม่สามารถได้รับสิทธิ์การใช้งาน OneDrive และ Skype หลังปี 2020 อีกต่อไป ถ้าไม่ใช้งานผ่านเวอร์ชั่น 365 ซึ่งมีการแจ้งพร้อมกับการประกาศใช้นโยบาย “Modern Lifecycle Policy” ซึ่งมีใจความสำคัญคือทาง Microsoft จะมอบการบริการแบบ Full Suport ให้แก่ User ที่ใช้งาน Office เวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น

ในเดือนเมษายน ปี 2020 Office 365 ได้มีการ Rebrand เปลี่ยนชื่อเป็น Microsoft 365 ซึ่งหลักๆ แล้วเปลี่ยนแค่ชื่อเท่านั้น แต่ Package การเซอร์วิสยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

ยังคงขายดี

ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนแพคเกจมากมาย ทาง Microsoft ก็ยังมียอดขายโปรแกรมที่สูงอยู่ดี ตามข้อมูลต่อไปนี้

• ใน Q3 ปี 2020 ไมโครซอฟต์ประกาศว่ามีผู้ใช้งาน Microsoft 365 Business ถึง 258 ล้าน User ต่อเดือน และมีผู้ใช้งาน Microsoft Teams สูงถึง 75 ล้าน User ต่อวัน
• ปัจจุบัน มีผู้ใช้งาน Microsoft Office มากกว่า 1.2 พันล้านคน จาก 140 ประเทศ บน Interface 107 ภาษา
• ไมโครซอฟท์มอบลิขสิทธิ์ Software ของตนเป็นมูลค่า 2.6 ล้านดอลลาร์ ให้องค์กรการกุศลกว่า 86,000 แห่งทั่วโลก ได้ใช้งานฟรีๆ
• ในปี 2020 Microsoft ได้ก่อตั้งโครงการ AI for Health และสนับสนุนเงินเป็นจำนวน 40 ล้านดอลลาร์เพื่อให้นักวิจัย ทำ Research เพื่อการพัฒนาสุขภาพของมนุษย์ทั่วโลก รวมถึงพัฒนาวิธีต่อสู้กับ COVID-19 ด้วย

ความแตกต่างของ Microsoft Office VS Micosoft 365

หลายๆ คนอาจจะสงสัยว่าวิธีเลือกซื้อใช้งานแบบของแท้ให้ถูกต้องเป็นยังไง เลือกใช้หรือซื้อแบบไหนดี ย้ายเครื่องได้ไหม ต้องขอเริ่มต้นบอกก่อนเลย ว่าปัจจุบัน คุณสามารถเลือกใช้ไมโครซอฟท์ออฟฟิศอย่างถูกลิขสิทธิ์ของแท้ได้ 2 รูปแบบหลักๆ ได้แก่ Microsoft Office (Desktop) และ Microsoft 365 (Web Version) ซึ่งทั้งสองแบบมีโปรแกรมให้ใช้เหมือนกัน แต่จะต่างกันที่ราคา, ลักษณะการชำระเงิน และ Platform การใช้งาน ซึ่งมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

Microsoft Office (Desktop)

รูปแบบนี้ จะมีลักษณะการชำระเงินเป็นแบบ ชำระทีเดียว และได้ลิขสิทธิ์การใช้งานอย่างถูกต้องต่อ 1 อุปกรณ์แบบถาวรหรือตลอดชีพ ซึ่งการซื้อในรูปแบบกล่อง จะเป็นที่นิยมที่สุด ลิขสิทธิ์จะติดอยู่กับกล่องสินค้าตลอดไป เมื่อ User ต้องการเปลี่ยนเครื่อง ก็สามารถย้ายโปรแกรมไปลงอีกเครื่องแทนได้ เพราะการตรวจเช็คลิขสิทธิ์จะนับจำนวน License ที่ถูกต้องจากกล่องผลิตภัณฑ์เท่านั้น

Standard Office จะประกอบด้วยโปรแกรมมาตรฐานทั่วไป หลักๆ ก็ได้แก่ Word, Excel, PowerPoint และ OneNote มีทั้งรูปแบบให้เลือกใช้งานบน Windows หรือ macOS

เลือกซื้อ Microsoft Office (Desktop)

ลิขสิทธิ์แท้กับเรา

แพคเกจแบบซื้อขาด ชำระเงินทีเดียวใช้งานได้ตลอดชีพ

Microsoft 365 (Online Subscription)

Microsoft 365 คือสินค้าในรูปแบบ Subscription นั่นหมายความว่าลักษณะการซื้อจะเป็นแบบเช่าใช้ จ่ายเงินเป็นรายปี นั่นหมายความว่า ถ้าครบรอบ 1 ปี แล้วเราไม่ชำระเงินเพื่อใช้งานต่อ ลิขสิทธิ์ก็จะถูกยึดคืนไปนั่นเอง อย่างที่กล่าวไปด้านต้น แพคเกจนี้มีชื่อแต่ดั้งเดิมว่า Office 365 มาก่อน แล้วจึงมาปรับเปลี่ยนเป็นชื่อใหม่ในเดือนเมษายนปี 2020

สิ่งที่พิเศษคือตัวโปรแกรมต่างๆ จะได้รับการ Upgrade ทันทีอย่างอัตโนมัติฟรีๆ เมื่อมีเวอร์ชั่นใหม่ออกมา ศึกษารายละเอียดการ Support เพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์หลักของ Microsoft ที่นี่

เพราะ 365 มีลักษณะการใช้งานแบบ Cloud-Based ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยอุปกรณ์แบบไหนก็ได้ เทคโนโลยีนี้จึงเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานให้แก่ User เป็นอย่างมาก เพราะไฟล์ต่างๆ สามารถนำไปเปิดใช้งานหรือแก้ไขผ่านอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากแค่คอมพิวเตอร์ได้สบายๆ อาทิเช่น สมาร์ทโฟน หรือ Tablet เป็นต้น และที่สำคัญ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เพราะ Microsoft 365 นับลิขสิทธิ์การใช้งานเป็น User โดย 1 License สามารถติดตั้งได้สูงสุดถึง 15 อุปกรณ์ (Business Package) แต่ไม่สามารถเปิดใช้งานพร้อมกันได้นะครับ Login ใช้งานได้ทีละตัวครับ

ด้วยเหตุนี้ มีบางบริษัทก็หัวหมอ มีการลักไก่ซื้อแค่ User เดียว แต่ติดตั้งหลายๆ อุปกรณ์ แล้วให้หลายๆ User สลับกันใช้ ซึ่งก็ต้องเตือนกันไว้ก่อนว่าถ้าทาง Microsoft ตรวจสอบและจับได้ ก็จะโดนปรับเพราะถือว่าใช้งานผิดลักษณะครับ เนื่องจาก 1 License ถึงแม้จะลงได้หลายอุปกรณ์ แต่ก็จำกัดให้สามารถใช้งานได้แค่ 1 ผู้ใช้ เท่านั้นครับ

โดย Microsoft Office แบบเช่าใช้นี้ ก็สามารถแบ่งได้คร่าวๆ ได้อีก 3 แพคเกจ ได้แก่

Microsoft 365 Personal Subscriptions เป็นแพคเกจสำหรับใช้งานส่วนตัว ใช้งานได้แค่ตามบ้านหรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น ห้ามใช้ในบริษัท แพคเกจนี้ 1 License สามารถใช้งานได้ 1 User ติดตั้งได้ 5 อุปกรณ์ ประกอบด้วยโปรแกรมหลักได้แก่ Word, Excel, PowerPoint, OneNote, Outlook, Publisher และ Access โดยผู้ใช้งานจะได้รับ OneDrive ขนาด 1TB ไว้ใช้งาน และสิทธิ์ในการใช้ Skype เป็นระยะเวลา 60 นาทีต่อเดือน

Microsoft 365 Family Subscriptions สามารถใช้งานได้แค่ตามบ้านและเพื่อการศึกษาเท่านั้น และมีฟีเจอร์ทั้งหมดเหมือนกับแบบ Personal ต่างกันที่แบบ Family นั้น ซื้อแค่ 1 License จะสามารถใช้งานร่วมกันได้ถึง 6 User เลยทีเดียว และจะเหนือกว่าแบบ Personal ที่มี Personal Plan ให้ใช้ และขนาดความจุ OneDrive ที่สูงถึง 6TB

ทั้งสองรูปแบบ (Personal และ Family) นั้น หากใครที่ใช้งานแค่ตามบ้านหรือเพื่อการศึกษาเท่านั้น ก็สามารถสั่งซื้อได้ด้วยตนเองได้เลย ผ่านช่องทาง หน้าเว็บ Microsoft ที่นี่ แต่ต้องพึงระวังไว้ว่าไม่สามารถใช้งานในบริษัท หรือเพื่อธุรกิจได้ มิเช่นนั้นจะถือว่าผิดลิขสิทธิ์ครับ

Microsoft 365 Business Plans แพคเกจนี้ สำหรับใช้งานในองค์กร เพื่อธุรกิจได้อย่างถูกลิขสิทธิ์ ประกอบด้วย Office Apps พื้นฐานทั้งหมด พร้อมฟีเจอร์ในการใช้งาน Microsoft Teams และระบบรักษาความปลอดภัยเสริมแบบ Advance

เลือกซื้อ Microsoft 365 Business

ลิขสิทธิ์แท้กับเรา

แพคเกจแบบเช่าใช้ ชำระเงินเป็นรายปี

ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศเปิดตัว 365 โดยจุดประสงค์หลักเพื่อที่จะนำลักษณะ License แบบเช่าใช้ มาแทนที่รูปแบบลิขสิทธิ์ซื้อขาด

ถ้าใครที่ไม่ซีเรียสเรื่องเวอร์ชั่น คือไม่ได้ต้องการที่จะใช้ไมโครซอฟท์ออฟฟิศเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดตลอดเวลา การซื้อแบบลิขสิทธิ์ขาดหรือตลอดชีพแบบดั้งเดิมก็ถือว่าเพียงพอกับความต้องการ และถ้าใช้งานหลายปี การซื้อครั้งเดียวของแท้ตลอดไปย่อมราคาถูกกว่า แต่ถ้าต้องการการอัพเกรดแบบ Exclusive เลือกใช้ 365 ก็จะเหมาะสมกว่าครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ทาง Microsoft ได้มีการประกาศอย่างชัดเจน ว่าจะค่อยๆ ปรับแพคเกจให้รูปแบบการซื้อลิขสิทธิ์ขาดหมดไปอนาคต นั่นหมายความว่า ในอีกไม่กี่ปี การใช้ไมโครซอฟท์ออฟฟิศแบบถูกลิขสิทธิ์ จะเลือกใช้งานได้แค่แบบ 365 (เช่าใช้) เท่านั้น ซึ่งปัจจุบัน Software หลายๆ แบรนด์ก็เริ่มหันมาจำหน่ายแต่แบบเช่าใช้รายปีกันแล้ว ยกตัวอย่างเช่น Adobe หรือ Autodesk เป็นต้น

\> อ่านบทความ Adobe คืออะไร \> อ่านบทความ Autodesk คืออะไร

มีโปรแกรมอะไรบ้าง

Microsoft Office ได้มีการพัฒนา และบรรจุโปรแกรม, ซอฟต์แวร์ หรือแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมเข้าไปใน Package ขึ้นมากมายทุกๆ เวอร์ชั่น นับตั้งแต่เปิดตัวปี 1988 ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการรองรับความต้องการของ User ในการใช้งานเพื่อประโยชน์ในสำนักงานหรือออฟฟิศให้ได้มากที่สุด เรามาดูกันว่า ปัจจุบันนี้ Program หลักๆ ของไมโครซอฟท์ออฟฟิศมี Application ตัวไหนบ้าง

Microsoft Word

เชื่อว่าทุกๆ คนต้องเคยได้ยินหรือเคยใช้ Word กันอย่างแน่นอน

ไม่น่าแปลกใจที่เรากล่าวถึงโปรแกรมนี้เป็นตัวแรก เพราะมันเป็นแอพพลิเคชั่นตัวแรกของออฟฟิศที่เปิดตัวอย่างเรียบง่ายในชื่อ WordPerfect ซึ่งตอนแรกยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก จนปี 1995 จึงเริ่มมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างสูง เพราะการเข้ามาของ Windows 95 และ Office 95 นั่นเอง

ปัจจุบัน Word ถือเป็นโปรแกรมที่ถูกใช้งานกันอย่างกว้างขวางทั่วโลก ตัว App ประกอบด้วยฟีเจอร์ในการสร้างและแก้ไขไฟล์เอกสารหรือ Document อาทิเช่น การตรวจสอบการสะกดคำผิดแบบอัตโนมัติ, เครื่องมือแก้ไขข้อความที่หลากหลาย และความสามารถในการสร้างเอกสารต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

คุณยังสามารถตรวจสอบงานเอกสารที่สร้างเสร็จสิ้นก่อนสั่งพิมพ์ได้ ด้วยฟีเจอร์การ Print Preview ที่จะแสดงผลงานไฟล์ที่ปริ๊นลงกระดาษล่วงหน้าก่อนเราดำเนินการสั่งพิมพ์จริง

Microsoft Excel

Excel ตือโปรแกรม Spreadsheet ของ Microsoft Office ที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ, สร้าง Format และคำนวณข้อมูลตัวเลขหรือ Text ต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาด มีรูปแบบ Interface เป็นตารางที่กำหนดชื่อตามตำแหน่งแนวนอนแนวตั้ง หรือ Table and Column

ผู้ใช้งาน จะสามารถสร้างสูตรเพื่อบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่, กราฟ, แผนภูมิ, สร้าง Macros และตารางต่างๆ อย่างง่ายดายและรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่ง Software ที่ขาดไม่ได้สำหรับงานด้านบัญชี

แต่เดิมโปรแกรมนี้เป็นคู่แข่งกับ App จากอีกค่ายชื่อ Lotus 1-2-3 ปัจจุบัน Excel มีอีกชื่อเรียกว่า the Spreadsheet

Microsoft PowerPoint

PowerPoint เป็นแอพสำหรับสร้างไฟล์เพื่อใช้ในการ Presentation ทุกรูปแบบ ตั้งแต่งานกลุ่มในโรงเรียน ไปจนถึงพรีเซ้นงานในองค์กรขนาดใหญ่

โปรแกรมนี้เริ่มเปิดตัวในปี 1990 ใช้สร้าง Slide ที่ประกอบด้วยข้อความ, กราฟฟิค และมัลติมีเดีย ต่างๆ ตั้งแต่นั้นมา ตัว Software ก็มีการพัฒนาเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อเสริมความสามารถในการสร้าง Presentation ที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น เช่น เอฟเฟคโปร่งแสง, การตั้งเวลา และการทำ Animation ข้อความ เป็นต้น

Microsoft OneNote

OneNote เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกสิ่งที่ต้องการเพื่อป้องกันการหลงลืม และยังสามารถเลือกแชร์ให้กับคนอื่นตามที่ต้องการได้อีกด้วย

โปรแกรมนี้จะทำหน้าที่เป็นเหมือนสมุดจดดิจิตอล ที่สามารถบันทึกและ Sync โน๊ตได้อย่างอัตโนมัติ มีการเปิดตัวในแพคเกจ Microsoft Office ในปี 2013 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ไฟล์ต่างๆ ในรูปแบบ Note, ภาพวาด และการแคปหน้าจอให้กับผู้อื่นได้แบบออนไลน์

Microsoft Outlook

Outlook นั้นทำหน้าที่หลักเป็น Email Application ที่มีฟังก์ชั่นเสริมทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้ User ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการปฏิทิน, Task Manager, ข้อมูล Contact Note, วางแผนกิจกรรมประจำวัน และ สร้าง Session กิจกรรมต่างๆ

เราสามารเลือกใช้ตัวโปรแกรมในลักษณะ Stand-Alone App หรือแบบออนไลน์เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานคนอื่นๆ หลายๆ User เพื่อแชร์ Mailboxes และปฏิทินกำหนดการต่างๆ ร่วมการภายในการจัดการครั้งเดียว

Microsoft Access

Access เป็นระบบการบริหารจัดการข้อมูล Database โดย Microsoft Office ที่ให้บริการ Graphic User Interface (GUI) และเครื่องมือการพัฒนาซอฟท์แวร์ ช่วยให้จัดเก็บหรือ Import ข้อมูลจาก Database แหล่งๆ อื่นๆ เข้าสู่อุปกรณ์ได้

ด้วยโปรแกรม Access คุณจะสามารถใช้ข้อมูลต่างๆ เพื่อสร้างตาราง, แบบสอบถาม และรายงานต่างๆ

Microsoft Publisher

Publisher เป็นโปรแกรมสำหรับการสร้าง, ออกแบบ Layout, ดีไซน์ และเผยแพร่ Page ต่างๆ ประกอบด้วย Template สำหรับสร้างองค์ประกอบสำหรับธุรกิจต่างๆ ที่หลากหลาย อาทิเช่น นามบัตรบริษัท, ปฏิทิน หรือโบรชัวร์ เป็นต้น

โปรแกรมนี้ ถือเป็นซอฟท์แวร์สำหรับงานออกแบบที่มีราคาถูก และง่ายต่อการใช้งาน เทียบได้กับโปรแกรม InDesign ของฝั่ง Adobe นั่นเอง

\> เลือกซื้อโปรแกรม Adobe ลิขสิทธิ์แท้ทั้งหมดกับเราที่นี่

SharePoint

SharePoint เป็นฟีเจอร์ของ Microsoft Office ที่ช่วยใหนการจัดการและจัดเก็บข้อมูลเอกสารต่างๆ เพื่อแชร์กันในองค์กร มีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ User สามารถสร้าง Password และจำกัดการเข้าถึงเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในธุรกิจปัจจุบันทุกประเภท โดยเฉพาะกลุ่มบริษัททางการเงิน ซึ่งไมโครซอฟท์เคลมว่า 80% ขององค์กรประเภทนี้ ใช้ฟังก์ชั่นนี้เป็นหลักในการแชร์ข้อมูลกันภายใน

Addin.co.th ภายใต้บริษัท แอด อิน บิซิเนส จำกัด เราจัดจำหน่ายพร้อมให้บริการสินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำมาตั้งแต่ปี 1993 เราเชื่อมั่นในการผลักดันกลุ่มลูกค้าองค์กร ภาคธุรกิจ และบุคคล โดยการเลือกสรรอุปกรณ์และบริการที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าทุกท่าน

ดูสินค้าทั้งหมด

ทำไมถึงต้องใช้ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ

การใช้งาน Microsoft Office นั้น จะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่องค์กรได้อย่างชัดเจนพิสูจน์ได้ ช่วยลดทอนระยะเวลาในการทำงานแต่ละวัน, เพิ่มผลิตผล และเพิ่มความแม่นยำถูกต้องของข้อมูล ความสามารถของโปรแกรมในออฟฟิศนั้น มีหลากหลายมากมาย สามารถซัพพอร์ตธุรกิจได้หลากหลายมากมาย แทบจะทุกประเภทก็ว่าได้ครับ

ใช้งานได้ทุกธุรกิจ

มีการสำรวจมาว่า 82% ของบริษัท มีความต้องการความสามารถในการใช้งาน ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ เบื้องต้น เป็นหนึ่งในเงื่อนไขในการสมัครงานของพนักงานใหม่ นั่นหมายความว่าแทบจะทุกที่ มีการใช้งาน Set โปรแกรมนี้ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างแน่นอน

เพิ่มผลิตผล

งานเอกสารในบริษัททุกอย่างแทบจะสามารถทำได้ด้วย Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น การสร้างไฟล์ Document ด้วย Word, การบริหารจัดการข้อมูลใน Excel หรือสร้างไฟล์ Presentation ด้วย PowerPoint เป็นต้น

เป็นที่ยอมรับในแบบสากล

ด้วยผู้ใช้งานทั้งหมดกว่า 1.2 พันล้าน User ในทุกๆ วัน จึงสามารถพิสูจน์ได้ว่า ไมโครซอฟท์ออฟฟิศนั้นเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย และถูกใช้งานในบริษัทชั้นนนำ รวมถึงในสถานศึกษา และองค์กรรัฐบาลทั่วโลก การที่บริษัทของคุณใช้งานและสร้างไฟล์ด้วยไมโครซอฟท์ออฟฟิศ จะช่วยให้สามารถประสานงานกับคู่ค้าได้อย่างสะดวกมากขึ้นในกรณีที่จำเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนไฟล์ข้อมูลกัน

Add In Business

จำหน่าย

อุปกรณ์ไอที ราคาถูก

ภายใต้บริษัท แอด อิน บิซิเนส จำกัด ตัวแทนจำหน่าย ได้รับการแต่งตั้งโดยตรงจากแบรนด์ชั้นนำ ราคา พิเศษ ส่งฟรี

สนใจสั่งซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่หน้า Contact

หรือ

สรุป

แพคเกจโปรแกรม Microsoft Office นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดแทบจะไม่ได้สำหรับการทำงานในองค์กรทุกที่ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนทราบถึงรายละเอียด และรูปแบบวิธีในการเลือกซื้อแบบถูกลิขสิทธิ์กันมากขึ้น ซึ่งทาง Add In Business เราก็เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจากไมโครซอฟท์เช่นกัน หากท่านผู้อ่านมีความสนใจเพิ่มเติมในการสั่งซื้อสินค้าอุปกรณ์ไอที สอบถามข้อมูล หรือขอใบเสนอราคา ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของอุปกรณ์ใดๆก็ตาม สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่

Facebook Inbox : https://goo.gl/9wo8oL Hotline : 063-819-7299 โทร : 02-713-2261 Line@ : @addinonline Email : [email protected]

ผู้เขียน

Unnote

อดีตสถาปนิกและนักศึกษาจบปริญญาโทสาขาอสังหาริมทรัพย์ ผันตัวมาคลุกคลีในวงการไอที เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

Microsoft Office Family ใช้ได้กี่คน

ถ้าคุณซื้อ Microsoft 365 Family คุณสามารถแชร์ประโยชน์จากการสมัครใช้งานของคุณกับบุคคลอื่นได้สูงสุด 5 คนในครอบครัวของคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ลงชื่อเข้าใช้ใน บัญชี Microsoft หน้าการแชร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช้บัญชี Microsoft เดียวกันกับที่คุณใช้ตั้งค่าการสมัครใช้งาน Microsoft 365 Family.

Microsoft Office 365 ใช้ได้กี่เครื่อง

การใช้งาน Office 365 Home 1 license จะสามารถใช้ได้ทั้งหมด 6 User หรือ 6 อีเมลล์ค่ะ ซึ่งแต่ละ User จะสามารถติดตั้งและใช้ได้บนอุปกรณ์ 5 เครื่องพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นพีซีหรือแม็กก็ได้ รวมถึงแท็บเลตและโทรศัทพ์มือถือด้วยค่ะ

Office 365 แชร์ได้กี่คน

หลักๆ เป็นแบบนี้ แชร์การสมัครใช้งาน Office 365 Home ของคุณกับบุคคลอื่นได้สูงสุด 4 คน หมายถึงรวมตัวคุณ (ผมจะใช้คำว่า #ต้นขั้ว นะครับ) ด้วยก็คือ 5 users.

Microsoft Office 365 Family มีอะไรบ้าง

Excel..

Microsoft Teams..

OneDrive..

OneNote..

Outlook..

PowerPoint..

Project..