Past simple tense หล กการ เต ม ed

PAST SIMPLE TENSE

TEACHER ONANONG PHONGMANEE

หลกั การใช้ past simple tense

S + V2 หลักสาคัญของ Tense น้คี อื เป็นการเล่าเร่อื งราวทีเ่ กดิ ข้นึ ในอดตี และกจ็ บลงไปแล้ว ประธานทุกตัวใชก้ รยิ าชอ่ งสองเหมือนกัน (ยกเว้น was ใช้กบั ประธานเอกพจน์, were ใชก้ บั ประธานพหูพจน์)

มกั มคี าบอกเวลากากับ (Adverbs of time) เช่น

-yesterday เมอ่ื วานนี้ -last ท่แี ล้ว last Friday/last month/last year

-ago ท่ีแล้ว two days ago./ Three months ago.

หลกั การเตมิ ed ที่เป็น regular verbs

1. กรยิ าทล่ี งทา้ ย ดว้ ย y และหน้า y เป็นพยญั ชนะ ใหเ้ ปล่ยี น y เปน็ i แลว้ เติม ed ยกตวั อยา่ งเชน่ cry – cried = รอ้ งไห้ marry – married = แตง่ งาน try – tried = พยายาม

2 กริยาที่ลงทา้ ย ด้วย y แตห่ นา้ y เป็นสระ (a/e/i/o/u) ให้เตมิ ed ไดเ้ ลย ยกตวั อย่างเช่น enjoy – enjoyed = สนกุ play – played = เล่น stay – stayed = พกั , อาศยั

3 กรยิ าทีล่ งท้ายดว้ ย e ใหเ้ ตมิ d ไดเ้ ลย ยกตวั อยา่ งเช่น hope – hoped = หวงั love – loved = รกั move – move = เคลอื่ น

4. กรยิ าที่มพี ยางคเ์ ดียว มีสระ (a/e/i/o/u) ตวั เดียว และลงท้าย ดว้ ยพยัญชนะที่เปน็ ตัวสะกดตวั เดยี ว ให้เพิม่ พยญั ชนะทล่ี งท้ายอกี 1 ตวั แลว้ เตมิ ed ยกตวั อยา่ ง เช่น plan – planned = วางแผน stop – stopped = หยดุ beg – begged = ขอรอ้ ง

5. กริยาทมี่ ี 2 พยางค์ แต่ลงเสยี งหนักพยางค์หลัง และพยางค์หลงั นน้ั มสี ระ (a/e/i/o/u) ตวั เดยี ว และลงทา้ ยดว้ ยพยญั ชนะที่เป็นตวั สะกด ตวั เดยี ว ใหเ้ พิม่ พยัญชนะทลี่ งทา้ ยอกี 1 ตัว แลว้ เตมิ ed ยกตวั อยา่ ง เช่น concur – concurred = ตกลง, เห็นดว้ ย occur – occurred = เกดิ ข้นึ refer – referred = อ้างถงึ permit – permitted = อนุญาต

ขอ้ ยกเวน้ ถา้ ออกเสยี งหนกั ทีพ่ ยางค์แรก ไมต่ ้องเติมพยัญชนะตัว สุดทา้ ยเขา้ มา ยกตัวอยา่ งเช่น cover – covered = ปกคลมุ open – opened = เปดิ 6. นอกจากกฏทก่ี ลา่ วมาแลว้ ข้างต้น เมอื่ ตอ้ งการใหเ้ ป็นชอ่ ง 2 ให้ เตมิ ed ไดเ้ ลย ยกตวั อยา่ งเช่น talk – talked = พดู start – started = เร่ิม worked – worked = ทางาน

คาบางคาสามารถเปน็ ได้ท้งั regular verbs และ irregular verbs เช่น burn -> burned หรือ burnt เผาไหม้ dream -> dreamed หรอื dreamt ฝัน lean -> leaned หรอื leant พงิ learn -> learned หรือ learnt เรยี น smell-> smelled หรือ smelt ไดก้ ลิ่น spell -> spelled หรือ spelt สะกด spill -> spilled หรอื split หก กระฉอก

ตัวอยา่ งของประโยคบอกเลา่

S + V2

I saw Nut at the market yesterday. She went to the bank two days ago. They played basketball at the gym last Friday.

ประโยคปฏิเสธ

เราใช้ Verb to do (did) + not =didn’t นาหนา้ กริยาหลกั และ กรยิ าหลกั ให้เปลยี่ นเป็นช่องที่ 1 โดยไมต่ อ้ งเตมิ d หรอื ed

มโี ครงสรา้ งเป็น S + didn’t + V1

ตวั อยา่ งประโยค เชน่ I didn’t see Nut at the market yesterday. She didn’t go to the bank two days ago.

ประโยคคาถาม

เราใช้ Verb to do (Did) นาหนา้ ประโยคและตามหลงั ดว้ ยประธาน กริยาหลกั ให้เปลีย่ นเป็นช่องท่ี 1 โดยไม่ตอ้ งเติม d หรอื ed

มโี ครงสร้างเปน็ Did + S + V1 ...? ตัวอยา่ งประโยค เชน่ Did you see Nut at the market yesterday? Yes, I did. / No, I didn’t.

Simple past tense หรือทีบางครั้งแรกว่า อดีตกาล ใช้เพื่อบอกให้ทราบถึงสิ่งที่เกิดและเสร็จสิ้นไปแล้วในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ ในภาษาอังกฤษ Simple past tense เป็นรูปพื้นฐานของ tense ที่ใช้บอกอดีต (past tense) โดยเวลาของสิ่งที่ถูกพูดถึงเกิดขึ้นนั้นอาจจะพึ่งเกิดและเสร็จสิ้นไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ หรือเกิดและเสร็จสิ้นไปนานแล้วก็ได้

ตัวอย่างเช่น
  • John Cabot sailed to America in 1498.
  • My father died last year.
  • He lived in Fiji in 1976.
  • We crossed the Channel yesterday.

จะใช้ simple past tense เมื่อบอกว่าสิ่งนั้นเกิดขึ้นเมื่อใด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องใช้คำที่บอกเวลาแน่นอนในอดีตด้วยเสมอ

  • ความถี่: often, sometimes, always I sometimes walked home at lunchtime. I often brought my lunch to school.
  • เวลาในอดีตที่เจาะจง: last week, when I was a child, yesterday, six weeks ago We saw a good film last week. Yesterday, I arrived in Geneva. She finished her work atseven o'clock I went to the theatre last night
  • เวลาในอดีตที่ไม่เจาะจง: the other day, ages ago, a long time ago People lived in caves a long time ago. She played the piano when she was a child.

หมายเหตุ: คำว่า ago เป็นคำที่เป็นประโยชน์มากในการบอกเวลาในอดีต จะถูกวางไว้หลังคำบอกเวลา เช่น a week ago, three years ago, a minute ago เป็นต้น

โปรดระวัง: Simple past tense ในภาษาอังกฤษอาจจะดูเหมือนรูปประโยคการบอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตในภาษาไทย แต่โปรดระวังเพราะจะมีความหมายแตกต่างกันก็ได้

การสร้าง Simple Past Tense

โครงสร้างของ simple past tense เมื่อใช้คำกริยาปกติ ประโยคบอกเล่า ประธาน + verb + ed I skipped. ประโยคปฏิเสธ ประธาน + did not + กริยาช่อง 1 They didn't go. ประโยคคำถาม Did + ประธาน + กริยาช่อง 1 Did she arrive? ประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ Did not + ประธาน + กริยาช่อง 1 Didn't you play?

การใช้ To Walk ใน Simple Past Tense ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ ประโยคคำถาม I walked I didn't walk Did I walk? You walked You didn't walk Did you walk? He walked He didn't walk Did he walk? We walked We didn't walk Did we walk? They walked They didn't walk Did they walk?