10 วิธีป้องกันไวรัส คอมพิวเตอร์

การทำงานของบูตเซกเตอร์ไวรัสคือ จะเข้าไปแทนที่โปรแกรมที่อยู่ในบูตเซกเตอร์ โดยทั่วไปแล้วถ้าติดอยู่ในฮาร์ดดิสก์ จะเข้าไปอยู่บริเวณที่เรียกว่า Master Boot Sector หรือ Partition Table ของฮาร์ดดิสก์นั้น ถ้า   บูตเซกเตอร์ของดิสก์ใดมีไวรัสประเภทนี้ติดอยู่ ทุก ๆ ครั้งที่บูตเครื่องขึ้นมา เมื่อมีการเรียนระบบปฏิบัติการ จากดิสก์นี้ โปรแกรมไวรัสจะทำงานก่อนและเข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำงานตามที่ได้ถูกโปรแกรม มา ก่อนที่จะไปเรียนให้ระบบปฏิบัติการทำงานต่อไป ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

2. โปรแกรมไวรัส (Program Viruses) หรือ File Intector Viruses เป็นไวรัสอีกประเภทหนึ่ง
ที่จะติดอยู่กับโปรแกรม ซึ่งปกติจะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น COM หรือ EXE และบางไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ใน
โปรแกรมที่มีนามสกุลเป็น SYS ได้ด้วยการทำงานของไวรัสประเภทนี้ คือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่ติดไวรัส ส่วนของไวรัสจะทำงานก่อนและจะถือโอกาสนี้ฝังตัวเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำทันทีแล้วจึงค่อยให้โปรแกรมนั้นทำ งานตามปกติ เมื่อฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำแล้วหลังจากนี้หากมีการ เรียกโปรแกรมอื่น ๆ ขึ้นมาทำงานต่อ ตัวไวรัสจะสำเนาตัวเองเข้าไปในโปรแกรมเหล่านี้ทันที เป็นการแพร่ระบาดต่อไป

นอกจากนี้ไวรัสนี้ยังมีวิธีการแพร่ระบาดอีกคือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่มีไวรัสติดอยู่ ตัวไวรัสจะเข้าไปหา โปรแกรมอื่น ๆ ที่อยู่ติดเพื่อทำสำเนาตัวเองลงไปทันที แล้วจึงค่อยให้โปรแกรมที่ถูกเรียกนั้นทำงานตามปกติต่อไป

3. ม้าโทรจัน (Trojan Horse) เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมธรรมดา ทั่ว ๆ ไป เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้ทำการเรียนขึ้นมาทำงาน แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมา ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมมาทันที ม้าโทรจันบางตัวถูกเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งชุด โดยคนเขียนจะทำการตั้งชื่อโปรแกรมพร้อมชื่อรุ่นและคำ อธิบาย การใช้งาน ที่ดูสมจริง เพื่อหลอกให้คนที่จะเรียกใช้ตายใจ

จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจันคือเข้าไปทำอันตรายต่อ ข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่อง หรืออาจมีจุดประสงค์เพื่อที่จะล้วง เอาความลับของระบบคอมพิวเตอร์ ม้าโทรจันถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการ

เข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้ เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้นและนับว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโปรแกรมที่มีความอันตรายสูง เพราะยากที่จะตรวจสอบและ สร้างขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งอาจใช้แค่แบต์ไฟล์ก็สามารถโปรแกรมม้าโทรจันได้

4. โพลีมอร์ฟิกไวรัส (Polymorphic Viruses) เป็นชื่อที่ใช้เรียกไวรัสที่มีความสามารถในการแปรเปลี่ยนตัวเอง ได้เมื่อมีการสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ ผลก็คือ ทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจัดโดยโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใช้วิธีการสแกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

5. สทิลต์ไวรัส (Stealth Viruses) เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อการตรวจจับได้ เช่น ไฟล์อินเฟกเตอร์ ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรม ใดแล้วจะทำให้ขนาดของ โปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทิสต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริงของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้

เนื่องจากตัวไวรัสจะเข้าไปควบคุมดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือโปรแกรมใดก็ตามเพื่อตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิม ทุกอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

6. Macro viruses จะติดต่อกับไฟล์ซึ่งใช้เป็นต้นแบบ (template) ในการสร้างเอกสาร (documents หรือ spreadsheet) หลังจากที่ต้นแบบในการใช้สร้างเอกสาร ติดไวรัสแล้ว ทุก ๆ เอกสารที่เปิดขึ้นใช้ด้วยต้นแบบอันนั้นจะเกิดความเสียหายขึ้น

สำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องมืออิเลคทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการทำงานทั้งระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์การสื่อสารเช่นมือถือ แทปเลต หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้ระบบการทำงานที่ควบคุมด้วยอิเลคทรอนิกส์มักจะรู้จักคำว่าไวรัสกันเป็นอย่างดี

ไวรัส ถือเป็นโปรแกรมทางระบบอิเลกทรนิกส์ที่มีความสามารถในการฝังตัวและสำเนาตัวเองอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์และสามารถก่อให้เกิดความเสียหายให้กับระบบการทำงานของเครื่องได้ และไม่เพียงแต่จะทำลายหรือก่อความเสียหายให้กับระบบการทำงานของเครื่องเพียงเท่านั้นแต่ยังสามารถส่งผ่านหรือติดต่อจากเครื่องหนึ่งสู่เครื่องหนึ่ง รวมไปจนถึงสามารถแพร่ระบาดผ่านเครือข่าย หรือระบบการสื่อสารทีมีการเชื่อมต่อกันได้อีกด้วย โดยจุดประสงค์ในการทำงานของไวรัสประเภทต่าง ๆ นั้นมักขึ้นอยู่กับผู้เขียนโปรแกรมขึ้นมาว่าต้องการให้มีผลกับการทำงานส่วนใด เช่น เพื่อทำลายโปรแกรมหรือข้อมูล เป็นต้น

ส่วนการสังเกตุการทำงานของเครื่องว่าติดไวรัสหรือไม่นั้นอาจพิจารณาได้จากอาการเบื้องต้นในการทำงานของเครื่องเช่น เครื่องช้า การเรียกโปรแกรมขึ้นมาใช้งานใช้เวลานาน วันเวลาของโปรแกรมเปลี่ยนไป มีข้อความ pop-up หรือข้อความที่ไม่เคยแสดงขึ้นมาที่หน้าจอ มีเสียงออกจากลำโพงทั้งที่ไม่ได้เปิดใช้โปรแกรม ความผิดปกติของแป้นพิมพ์ หรือขนาดของหน่วยความจำที่น้อยกว่าปกติ การทำงานของดิสก์ค้างนานกว่าที่เคยเป็น เครื่องทำงานผิดปกติหรือทำงานช้าลง รวมไปจนถึงไฟล์การทำงานค้างนานอย่างมาก ไปจนถึงเครื่องเปิดปิดเองโดยที่ไม่ได้สั่งปิดหรือเปิดเครื่อง เป็นต้น

คำถามต่อมาคือเราจะสามารถป้องกันการเกิดไวรัสได้อย่างไร ท่ามกลางการเกิดขึ้นและพัฒนาของไวรัสคอมพิวเตอร์หลากหลายสายพันธ์อย่างเช่นในปัจจุบัน ในวันนี้บทความของเราจึงขอนำเสนอแนวทางในการแก้ไข หรือป้องกันไวรัสเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

  1. เลือกและติดตั้งโปรแกรมหรือซอฟแวร์ป้องกันไวรัสที่น่าเชื่อถือได้และสามารถอัพเดทฐานข้อมูลได้โดยอัตโนมัติ เพื่อทำหน้าที่ในการดักจับและจัดการกับไวรัสได้อย่างทันท่วงที และอัพเดทโปรแกรมสแกนไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
  2. สร้างนิสัยการสแกนไวรัสเบื้องต้นด้วยตนเอง เช่นระวังการดาวโหลดไฟล์ หรือเปิดไฟล์แบบอัตโนมัติ ทางที่ดีควรมีการตั้งค่าเพื่อสแกนไฟล์ที่จะเปิดเสียก่อนเพื่อป้องกันการติดตั้งไวรัสแบบอัตโนมัติ
  3. ตั้งค่าระบบการป้องกันไวรัสให้ทำงานทันทีหลังจากที่คอมพิวเตอร์เริ่มใช้งาน
  4. ไม่ควรดาวโหลดโปรแกรมจากแหล่งการใช้งานที่ไม่น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันการติดตั้งของไวรัส
  5. หากต้องมีการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลจากภายนอกควรมีการสแกนหาไวรัสก่อนทุกครั้งเพื่อป้องกันการถ่ายทอดไวรัสจากเครื่องหนึ่งสู่เครื่องหนึ่ง

ทั้งนี้หายมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ไฟล์ข้อมูลหาย ฮาร์ดดิสเปิดไม่ติดหรือต้องการกู้ข้อมูลสามารถปรึกษาเราได้ฟรี ได้ที่ศูนย์กู้ข้อมูล CR Data Recovery ศูนย์กู้ข้อมูล Harddisk อันดับหนึ่งที่กู้ข้อมูลได้สำเร็จมากที่สุดด้วยวิศวะทางด้าน Harddisk ที่เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและทันสมัยที่สุด ปรึกษาและส่งตรวจเช็คอาการเสียและประเมิณราคาได้ฟรีที่ LINE ID: @crecover หรือ โทรสายด่วน: 093-093-5553

ติดต่อสอบถาม

นโยบายรักษาความลับ:

ทุกข้อมูลจะเป็นความลับ 100 % ข้อมูลที่กู้ขึ้นมาได้จะถูกเก็บเป็นความลับและปลอดภัย เราคือศูนย์กู้ข้อมูลที่เน้นความจริงใจและซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญ เราได้ให้บริการแก่ลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชนชั้นนำมากกว่า 100 บริษัทในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง, บริษัททางกฏหมาย, ธนาคารและองค์กรต่างๆ เป้าหมายของเราคือช่วยให้ข้อมูลของคุณกลับมาและปกป้องความลับและข้อมูลให้ปลอดภัย

10 วิธีป้องกันไวรัส คอมพิวเตอร์

กู้ข้อมูลฮาร์ดดิส WD ( Western Digital )

หนึ่งในฮาร์ดดิสยี่ห้อดังที่เป็นที่นิยมคือ WD ซึ่งเป็นฮาร์ดดิสที่มีความคงทนสูง ใช้งานได้ดี แต่บางครั้งในการใช้งานอาจจะมีโชคร้ายให้เกิดปัญหาซึ่งทำให้ตัว Harddisk ปัจจัยของของความเสียหายเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุมาก ไม่ว่าจะมาจากการไฟฟ้ากระชาก ไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีการกระแทกตกหล่น

Read more

https://www.crecover.com/wp-content/uploads/ฮาร์ดดิส-WD-Internal.jpg 783 900 admin https://www.crecover.com/wp-content/uploads/CR-Data-Recovery-Crecover-LOGO.png admin2019-10-30 15:20:382020-06-06 22:14:38กู้ข้อมูลฮาร์ดดิส WD ( Western Digital )

ขั้นตอนในการกู้ข้อมูล

โทรปรึกษาและแจ้งอาการเพื่อให้ทางศูนย์กู้ข้อมูลประเมิณราคาและอัตราความสำเร็จในการกู้ข้อมูล ติดต่อโทร: 062-919-7966

วิธีการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ได้อย่างไร

วิธีการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์(Computer Virus Protection) 1. ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสใหม่ๆ อยู่เสมอ (Install Antivirus Program) 2. สแกนไวรัสในเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์โดยใช้โปรแกรมจากข้อ 1 (Scan Virus at least 1 time/week)

ข้อใดเป็นการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุด

1.ดาวน์โหลดหรือติดตั้งซอฟต์แวร์ที่น่าเชื่อถือจากแหล่งที่ถูกต้อง ไม่โหลดจากเว็บไซต์ที่ดูมีพิรุธหรือเว็บไซต์มืดต่างๆ 2.ตั้งค่าระบบป้องกันให้ทำงานทันทีที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ 3.อัพเดทฐานข้อมูลไวรัสในโปรแกรมป้องกันสม่ำเสมอทุกวัน 4.อย่าตั้งค่าให้โปรแกรมอีเมล์เปิดไฟล์แนบอัตโนมัติทันทีหลังจากที่เปิดดูอีเมล์

โปรแกรมป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ มีอะไรบ้าง

13 โปรแกรมสแกนไวรัสยอดนิยม และน่าใช้งาน ที่ควรมีติดเครื่อง.
Windows Defender..
Avast..
ESET NOD32..
McAfee..
Avira..
Bitdefender Antivirus..
Kaspersky Security Cloud Free..

ไวรัสคอมพิวเตอร์ 10 ชนิดมีอะไรบ้าง

ประเภทของไวรัสบนคอมพิวเตอร์.
1. หนอน (Worm) ... .
2. บูตไวรัส (Boot Virus) ... .
3. มาโครไวรัส (Macro Virus) ... .
4. ม้าโทรจัน (Trojan Horse) ... .
5. สเทลต์ไวรัส (Stealth Virus) ... .
6. โพลีมอร์ฟิกไวรัส (Polymorphic Virus) ... .
7. ไฟล์ไวรัส (File Virus).