หลังจาก มี เพศ สั ม พัน แล้ว กี่วันถึงจะมีอาการ

สูตินารีแพทย์ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นนับระยะการตั้งครรภ์ตั้งแต่วันแรกของรอบเดือนครั้งล่าสุด เนื่องจากการตกไข่และการปฏิสนธิเป็นเรื่องยากที่จะระบุได้แม่นยำ แต่การสังเกตสัญญาณทางกายภาพในช่วงรอบเดือนจะระบุได้ง่ายกว่า ดังนั้น ในทางการแพทย์ การตั้งครรภ์ 1 สัปดาห์คือการอยู่ในช่วงมีประจำเดือนและยังไม่ได้ตั้งครรภ์ คุณแม่จะเริ่มอุ้มท้องทารกก็ต่อเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 หรือ 3 ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของรอบเดือนคุณแม่

ถ้าคุณแม่เพิ่งค้นพบว่าตนเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์ คุณแม่อาจจะคิดว่านี่คือการตั้งครรภ์สัปดาห์แรก แต่ความจริงแล้วมันอาจจะเป็นสัปดาห์ที่ 4 - ใช่ค่ะ ! (สูตินารีแพทย์จะสามารถประเมินตรงส่วนนี้ให้คุณแม่ได้อย่างละเอียด เมื่อเข้าไปฝากครรภ์ครั้งแรกนะคะ) คุณแม่สามารถข้ามไปอ่านช่วงสัปดาห์ที่ 4 ได้เลยค่ะ

อาการเมื่อตั้งครรภได้ 1 สัปดาห์

เมื่อตั้งครรภ์ได้ 1 สัปดาห์ ให้คุณแม่ทราบไว้ก่อนว่านี่คือระยะเริ่มต้น คุณแม่จะมีอาการคล้ายกับเวลามีรอบเดือนปกติ เพราะยังไม่ถือว่าเป็นการตั้งครรภ์จริงๆค่ะ อาการเหล่านี้อาจมีระยะเวลาตั้งแต่ 3-7 วัน ซึ่งจะมีอาการได้ดังนี้

  • มีเลือดออกทางช่องคลอด เกิดจากการที่เยื่อบุโพรงมดลูกเดิมที่ร่างกายสร้างไว้เพื่อรับการตั้งครรภ์ได้ถูกผลัดออกมา
  • มีอาการปวดหลังส่วนล่างและปวดท้อง การที่เยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดออกมาได้นั้น มดลูกจะมีการบีบตัว ทำให้คุณแม่มีอาการปวดหลังและปวดท้องได้
  • อาการบวม ฮอร์โมนที่แปรปรวนอาจทำให้ท้องป่องในช่วงก่อนและช่วงมีประจ าเดือนได้
  • อารมณ์แปรปรวน ฮอร์โมนที่ผิดปกติสามารถทำให้คุณแม่รู้สึกหงุดหงิดและอารมณ์ไม่ดี
  • ปวดหัว คุณแม่หลายท่านอาจมีอาการไมเกรนช่วงมีประจำเดือนซึ่งเกิดจากฮอร์โมนเช่นกัน (ไม่แปลกใจเลยใช่มั้ยคะ) การประคบเย็น ยาแก้ปวด และการออกกำลังกายเบาๆจะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้ค่ะ

ท้องของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ 1 สัปดาห์

ในท้องของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ 1 สัปดาห์ (อย่าลืมว่าตอนนี้คุณแม่ยังไม่ได้อุ้มท้องทารกอยู่จริง ๆ นะคะ) ร่างกายของคุณแม่กำลังกำจัดเยื่อยุโพรงมดลูกของเดือนที่แล้วทิ้งไปและกำลังเริ่มสร้างใหม่ ซึ่ง (ถ้าโชคดี!) จะเป็นที่ฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิของเดือนถัดไป

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ: ไข่ของมนุษย์เป็นเซลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย โดยที่ไข่หนึ่งใบนั้นมีขนาดเล็กกว่าเมล็ดพริกป่นเสียอีก ร่างกายของผู้หญิงจะมีไข่ตกเพียง 1 ฟอง (หรืออาจจะเป็น 2 ฟอง แต่ค่อนข้างพบได้ยาก) ในช่วงระหว่างวันที่ 10 และ 19 ของรอบเดือน หรือประมาณ 14 วันก่อนประจำเดือนรอบใหม่จะมา หลังจากไข่ตก จะมีเวลา 12-24 ชั่วโมงสำหรับการปฏิสนธิ หากคุณสามีและภรรยามีเพศสัมพันธ์กันก่อนวันไข่ตกจะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ค่ะ เพราะอสุจิสามารถอยู่ได้ร่างกายได้นานถึง 6 วันเลยทีเดียว

สัญญาณแรกที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์จะไม่เกิดขึ้นทันทีนะคะ ในความจริงแล้ว ผู้หญิงหลายๆคนรอบเดือนขาดไปจนถึงสัปดาห์ที่ 4 ถึงจะเริ่มรู้สึกว่าร่างกายนั้น "ไม่ปกติ" แต่อาการทั่วไปที่พบได้ในสัปดาห์แรกหลังการปฏิสนธินั้นอาจมีอาการคัดหรือเจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และปัสสาวะบ่อยๆค่ะ

เมื่อตั้งครรภ์ได้ 1 สัปดาห์ (หรือเป็นที่รู้กันว่ากำลังจะตั้งครรภ์!) คุณแม่อาจจะอยากเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการอุ้มท้องใช่ไหมคะ ซึ่งการเริ่มต้นที่ดีคือ คุณแม่ควรตั้งท้องขณะที่มีน้าหนักตัวเหมาะสมและไม่มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ และคุณแม่ยังควรลดการบริโภคคาเฟอีนลง ดื่มกาแฟไม่เกินหนึ่งหรือสองแก้วต่อวัน (แก้วละไม่เกิน 8 ออนซ์นะคะ!)

การอัลตราซาวนเมื่อตั้งครรภได้ 1 สัปดาห์

คุณแม่จะยังไม่ได้รับการอัลตราซาวน์เมื่อตั้งครรภ์สัปดาห์แรกนะคะ แต่ถ้าพยายามตั้งครรภ์มาสักระยะหนึ่งแล้วและได้พบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยาก คุณแม่อาจได้รับการอัลตราซาวน์เพื่อตรวจดูเนื้องอกหรือดูว่ามีถุงไข่ (ซึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นไข่) กี่ถุงอยู่ในรังไข่ และ/หรือเพื่อประเมินความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก ในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้น คุณหมออาจมีการรักษาต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้นค่ะ

เทคนิคตรวจสอบการตั้งครรภ์ผ่านทาง "ที่ตรวจครรภ์" "ตรวจเลือด" และ "ตรวจปัสสาวะ" ใช้หลักการที่ตรวจหาฮอร์โมนเอชซีจี (Human Chorionic Gonadotropin หรือ hCG) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกิดจากตัวอ่อนหลังการปฏิสนธิ 6 วันขึ้นไป

ระดับปริมาณฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) บ่งบอกการตั้งครรภ์และอายุครรภ์คร่าวๆ ได้ ฮอร์โมนนี้มีความยาวของกรดอะมิโน 237 ตัว ชุดน้ำยาในที่ตรวจครรภ์ อ่านผลได้จากการดักจับฮอร์โมนเอชซีจี ส่วนวิธีการตรวจตั้งครรภ์ด้วยวิธีทางห้องปฏิบัติการ จะใช้ชุดน้ำยาตรวจสอบที่จับส่วนประกอบย่อยของฮอร์โมนเอชซีจี (hCG) ที่มีอยู่ 2 ส่วน ได้แก่

  • อัลฟ่า เอชซีจี (Alpha Subunit หรือ Alpha-hCG) มีความยาวของกรดอะมิโน 92 ตัว
  • เบต้า เอชซีจี (Beta Subunit หรือ Beta-hCG) มีความยาวของกรดอะมิโน 145 ตัว

ตรวจครรภ์เร็วสุดกี่วันรู้ผล

หลังจาก มี เพศ สั ม พัน แล้ว กี่วันถึงจะมีอาการ

ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ทำให้เราทราบผลการตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุด 12-14 วัน โดยวิธีเจาะเลือดตรวจครรภ์ ซึ่งเป็นการศึกษาปริมาณ เบต้า เอชซีจี (Beta-hCG) หลังจากการปฏิสนธิและเลี้ยงตัวอ่อนในหลอดทดลองด้วยวิธี IVM (IN Vitro Oocyte Maturation) ทำให้สามารถสรุประยะเวลาการยืนยันผลการตั้งครรภ์ได้ดังนี้

ตรวจเลือดรู้ผล 14 วัน หลังปฏิสนธิ

การตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์เป็นวิธีตรวจ hCG และยืนยันผลโดยนักเทคนิคการแพทย์ ด้วยวิธีการตรวจจากฮอร์โมน Beta-hCG ซึ่งจะทราบผลหลังจากปฏิสนธิตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป ใช้เวลารอฟังผล 1 วัน

ที่ตรวจครรภ์รู้ผล 14 วันขึ้นไปหลังปฏิสนธิ

ในกรณีที่สาวๆ ใช้ที่ตรวจครรภ์ แม้ว่าจะเห็นขึ้นขีดจางหรือขีดสีเข้ม แต่ผู้หญิงส่วนมากไม่ทราบว่าผ่านการปฏิสนธิมากี่วันแล้ว จะเป็นการตรวจด้วยวิธีการประมาณจากวันแรกที่ประจำเดือนขาด

หลังจาก มี เพศ สั ม พัน แล้ว กี่วันถึงจะมีอาการ

ปัจจุบันที่ตรวจครรภ์มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 10 บาทถึงหลักร้อย แต่ความแม่นยำของการใช้ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม แบบหยด หรือแบบปัสสาวะผ่าน ชนิดของที่ตรวจครรภ์ที่มีราคาสูงมาจากการตรวจหาปริมาณฮอร์โมนเอชซีจี ในระดับ Beta-hCG ได้ แต่อย่างไรก็ดี ผู้ใช้มักต้องซื้อมากกว่า 1 อันเพื่อยืนยันผล เพราะมีโอกาสเกิดผลบวกลวง จากการรับประทานยาบางอย่าง หรืออุปกรณ์การตรวจผิดพลาด และไม่สามารถยืนยันอายุครรภ์ได้จากที่ตรวจครรภ์ได้แม่นยำเท่าการตรวจเลือดและการทำอัลตราซาวนด์ แต่นิยมที่ตรวจครรภ์ใช้เพราะสามารถรู้ผลด้วยตัวเองตั้งแต่ที่บ้าน 

การตรวจครรภ์ต้องจะแม่นยำนั้น กำหนดจากวันที่ประจำเดือนมาวันแรก ยกตัวอย่างเช่น สาวๆ ที่ประจำเดือนมาทุกวันที่ 16 แล้วเดือนนั้นประจำเดือนไม่มา ก็ต้องใช้เกณฑ์วันที่ 16 เป็นตัวนับว่าควรจะใช้ที่ตรวจครรภ์เมื่อไหร่?

เพราะฉะนั้นการใช้ “ที่ตรวจครรภ์” หลังจากมีเพศสัมพันธ์ 1-2 วันจะไม่ทราบว่าตั้งครรภ์หรือไม่ แต่จะตรวจแม่นยำในปัสสาวะแรกของวัน (ช่วงเช้า) ของการตั้งครรภ์ 8-14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์  

หลังจาก มี เพศ สั ม พัน แล้ว กี่วันถึงจะมีอาการ

การใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจผ่านปัสสาวะ ทำให้ว่าที่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องตรวจเลือดต่อทุกราย เมื่อฝากครรภ์คุณหมอจะพิจารณายืนยันการตั้งครรภ์ สรุปอายุครรภ์ด้วยวิธีการอัลตราซาวนด์ต่อไป

สรุปได้ว่า เราสามารถทราบผลการตั้งครรภ์ได้เร็วสุด 14 วัน การตรวจการตั้งครรภ์ที่รู้ผลเร็วสุดคือการตรวจเลือด แต่การใช้ที่ตรวจครรภ์จะประหยัดและไม่ต้องเจ็บตัวเจาะเลือด จึงนิยมมากกว่า

สุดท้ายนี้ไทยรัฐออนไลน์มีคำแนะนำแก่สาวๆ ที่คาดว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่ ควรระมัดระวังเรื่องอาหารและการใช้ยา รวมถึงการรักษาด้วยวิธีการเอกซเรย์ แต่อดใจรอไม่นานเมื่อทราบผลว่าท้องหรือไม่ท้องอย่างแน่ชัดแล้ว รีบฝากครรภ์เพื่อวางแผนร่วมกับแพทย์เพื่อดูแลเจ้าตัวเล็กต่อไป