คำถาม 5: หนูมีเลือดออกจากช่องคลอดคล้ายประจำเดือน แต่ประจำเดือนหมดไปแล้ว เลือดออกมา 13 วันแล้ว แล้วหนูกินยาคุมแบบรายเดือนด้วยคะ วันนี้กินอยู่นะคะ หนูอยากทราบว่าเป็นอะไรคะ Show
คำตอบ 5: ภาวะเลือดออกจากช่องคลอดที่เกิดขึ้นจากการกินยาเม็ดคุมกำเนิด แบ่งง่ายๆ เป็น 2 แบบ คือ
หนึ่ง: เลือดออกมากจนต้องใช้ผ้าอนามัย (breakthrough bleeding) สอง: เลือดออกกะปริดกะปรอย ปริมาณไม่มากไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัย (spotting) กลไกการเกิดเลือดออกยังไม่รู้แน่ชัดครับ แต่พอจะอธิบายว่าการกินยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมที่มีทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเทอโรนที่จำหน่ายทั่วไป จะให้ฮอร์โมน 2 ตัวนี้เข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง โดยจะไปมีผลต่อเยื่อบุผนังมดลูกและหลอดเลือดทั้งการหนาขึ้นหรือบางตัวลง และส่งผลต่อการฝ่อหรือขยายของต่อมต่างๆ ภายในผนัง ดังนั้นสาเหตุที่มีเลือดออกเป็นทั้งจากการเปราะแตกของหลอดเลือดและการเปลี่ยนแปลงของผนังมดลูกจากการตอบสนองต่อฮอร์โมน การมีเลือดกะปริดกะปรอยขณะกินยา สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ที่เพิ่งเริ่มกินยาเม็ดคุมกำเนิดใหม่ๆโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนแรก ซึ่งเป็นปัญหาข้างเคียงจากการกินยาที่พบบ่อยได้ถึง 20-30%แต่ไม่เป็นอันตรายครับ หลังจากกินไปแล้ว 3 เดือน อาการเลือดออกจะดีขึ้นได้เอง หรือพบน้อยกว่า 10% ลุงหมอแนะนำว่า ขอให้ใช้ยาคุมนี้ไปสัก 3 เดือน ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยา เพื่อให้ประสิทธิภาพการคุมกำเนิดไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีแนวทางป้องกันและจัดการภาวะเลือดออกในระหว่างการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดมีดังนี้
ลุงหมอขอแนะนำว่า ถ้ามีเลือดออกมาก ควรหยุดยาชุดนั้นแล้วเริ่มต้นชุดใหม่ หรือ ถ้ายังมีเลือดออกผิดปกติอยู่นานและมากผิดปกติ ควรหยุดกินยาคุมไปก่อน เพื่อหาสาเหตุที่เลือดออกนอกเหนือจากยาคุม มีอาการของโรคที่ทำให้เลือดออกผิดปกติได้ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หนองในเทียม หรือตกขาวผิดปกติ การตั้งครรภ์ในมดลูก หรือ ตั้งครรภ์นอกมดลูก หรืออาจเป็นมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก เนื้องอกที่ปากมดลูก มดลูก หรือรังไข่ ยาคุมกำเนิด ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน มีหน้าที่ช่วยป้องกันการตกไข่ สร้างสภาวะในช่องคลอดให้ไม่เหมาะกับการตั้งครรภ์ เช่น ทำให้มูกบริเวณปากมดลูกข้นและหนาขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าถึงไข่ได้ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง เพื่อป้องกันการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว ซึ่งฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดอาจยับยั้งการสร้างฮอร์โมนตามปกติของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับรอบเดือน จึงส่งผลต่อการมีประจำเดือน บางคนอาจมีประจำเดือนน้อยลง บางคนอาจไม่มีประจำเดือน หรือบางคนอาจมีภาวะขาดประจำเดือน (Amenorrhea) ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือขาดหายไป หยุดกินยาคุมแต่ประจำเดือนไม่มา เกิดจากอะไรการหยุดกินยาคุมกำเนิดอาจมีโอกาสที่ประจำเดือนจะมาช้าได้ เนื่องจากฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดจะเข้าไปยับยั้งการผลิตฮอร์โมนตามปกติที่เกี่ยวข้องกับรอบเดือน เมื่อหยุดกินยาคุมกำเนิดร่างกายอาจต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวให้เป็นปกติและเริ่มควบคุมกระบวนการตามธรรมชาติด้วยตัวเองอีกครั้ง ทั้งนี้ ประจำเดือนมาช้าอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้ หยุดกินยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มา สาว ๆ ก็คงรู้สึกเป็นกังวลใจแล้ว ไหนจะยังมีปัญหาคาใจเรื่องยาคุมกำเนิดอื่น ๆ อีก วันนี้เรามาไขความกระจ่างในทุกประเด็นคำถามกัน1.หยุดกินยาคุมตอนไหนได้บ้าง 2.หยุดกินยาคุมกลางแผงเลยได้ไหม ? 3.หยุดกินยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มา แบบนี้ผิดปกติหรือเปล่า ? อย่างไรก็ตาม การหยุดกินยาคุมอาจส่งผลกระทบในรอบเดือนถัด ๆ ไปได้ เนื่องจากยาคุมกำเนิดมีผลทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนถูกควบคุม ซึ่งก็ทำให้ประจำเดือนมาอย่างสม่ำเสมอ ทว่าเมื่อเลิกกินยาคุมไป ฮอร์โมนเพศในร่างกายก็จะหลั่งตามธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้ในบางคน แต่ไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงอะไรหรอก เพียงแต่ก็จะคาดคะเนวันที่ประจำเดือนจะมาได้ยากกว่าเดิมเท่านั้น 4.อาการหลังหยุดกินยาคุม จะเป็นอย่างไรบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม หลังหยุดกินยาคุมกำเนิด ประจำเดือนต้องมาทุกเดือน ไม่ว่าจะมาน้อยมามาก เพราะหากหยุดกินยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มา ก็ควรทดสอบการตั้งครรภ์ไว้ได้เลย แต่แม้ว่าหลังหยุดกินยาคุมไปในช่วงแรก ประจำเดือนจะผิดปกติไปบ้าง ทว่าหลังหยุดกินยาคุมไปประมาณ 1-3 เดือน รอบเดือนจะเข้าร่องเข้ารอยเหมือนเดิม คือมาในปริมาณเท่าเดิม หรือใกล้เคียงปริมาณเดิม และมาในช่วงใกล้เคียงกับรอบเดือนก่อน ๆ อีกทั้งอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยจะไม่มีอีกแล้ว แต่หากหยุดกินยาคุมไปแล้วประจำเดือนไม่มา และตรวจแล้วไม่พบว่าตั้งครรภ์ หรือประจำเดือนหายไปนานกว่า 2 เดือน กรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงนะคะ 5.หยุดกินยาคุมกี่เดือนถึงจะท้อง ? 6.หยุดกินยาคุม 1 เดือน แล้วจะเริ่มกินใหม่ได้เมื่อไร แต่สำหรับเคสที่หยุดกินยาคุมกำเนิดมานาน แต่อยากกลับมากินยาคุมใหม่อีกครั้ง ให้กินเหมือนเริ่มกินยาคุมครั้งแรก กล่าวคือ เริ่มกินยาคุมเม็ดแรกในวันแรกที่มีประจำเดือน หรือภายใน 5 วันของการมีประจำเดือน ทว่าหากไม่ได้กินยาคุมกำเนิดภายใน 5 วันของการมีประจำเดือน ในช่วง 7 วันแรกของการกินยาคุมกำเนิด ก็ควรใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ อย่างการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย 7.หยุดกินยาคุมช่วงเว้น 7 วัน หรือช่วงกินยาหลอก จะต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นอีกไหม ? อย่างไรก็ดี อยากย้ำเพิ่มอีกนิดนะคะว่า ยาเม็ดคุมกำเนิดช่วยยับยั้งการตั้งครรภ์ได้เท่านั้น แต่ไม่ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด และไม่มีวิธีคุมกำเนิดแบบไหนให้ผลป้องกันได้ 100% เต็ม โดยเฉพาะหากกินยาไม่สม่ำเสมอ ลืมกินบ้าง กินไม่ตรงเวลาบ้าง เป็นต้นขอขอบคุณข้อมูลจาก TAGS
คลังความรู้กินยาคุมหมดแผงแล้ว ประจําเดือนไม่มาเพราะอะไรกินยาคุมหมดแผงแล้ว ประจําเดือนไม่มาเพราะอะไร หมอ ควรตรวจสอบการกินยาคุม ว่ากินอย่างถูกต้องหรือไม่ เพราะถ้าลืมกินยาคุมก็ยังมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้หากมีเพศสัมพันธ…
10 อาหารที่สาว ๆ ควรเลี่ยง เพราะเสี่ยงทำให้มีตกขาวเยอะอาการตกขาวเป็นสิ่งที่สาวๆ ทุกคนต้องเจอ เพราะเป็นกลไกที่ปกติของร่างกาย ยิ่งเวลาใกล้มีประจำเดือนตกขาวก็จะมีมากขึ้น เนื่องจากร่างกายเรามีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเล็กน… |