1. ปัจจัยในการเกิดอุบัติเหตุในเมืองไทยเกิดจากคน รถ ถนน และสิ่งแวดล้อม แต่เกิดจากคน มากกว่า 90% ข้อใดเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากคนมากที่สุด? 2. เทคนิคในการขับรถให้ปลอดภัยมีหลักการอยู่กี่ข้อ? 3. หลักการมองกระจกที่ถูกต้องในสภาวะปกติ ต้องมองกระจกทุกๆ กี่วินาที? ข้อสอบใบขับขี่พร้อมเฉลยที่เกี่ยวข้อง1.การขับรถขณะฝนตก ข้อใดที่ผู้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ 2. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร 3. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด
ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ 4. การจับพวงมาลัยนิ้วมือควรอยู่ในลักษณะใด 5. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร 6. ขณะขับรถขึ้นทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับควรปฏิบัติอย่างไร 7. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฏิบัติอย่างไร 8.เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลําดับแรก 9. ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง 10. ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร 11. การหยุดรถบนทางลาดชัน ควรปฏิบัติตามลําดับอย่างไรจึงจะปลอดภัย 12. การหมุนพวงมาลัยรถ ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร 13. การหยุดรถอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร 14. รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน(รถไม่ใช้เบรก ABS) จะมีผลอย่างไร 15. ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร 16. ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 17. ในขณะที่กําลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 18. ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร 19. การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร 20. การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร 21. ถ้ารถเสียหลักลื่นไถลพร้อมเสียการทรงตัว ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลําดับแรก 22 การจอดรถชิดขอบทาง ล้อหน้าควรอยู่ในลักษณะใด 23. การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร 24. การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด 25. ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง 26. หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 27. การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มือขวาและซ้ายของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตําแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา 28. เมื่อขับรถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร 29. เมื่อขับรถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร 30. จากรูป หากท่านต้องการที่จะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. ลดความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังทุกครั้งก่อนถึงทางแยก ข. ระวังรถด้านซ้ายเพราะอยู่ใกล้ช่องทางของเรา ค. ระวังรถทางขวาเพียงอย่างเดียว และขับต่อไป ง. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม 31. จากรูป หากท่านต้องการที่จะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอรถและให้รถทางขวามือขับผ่านไปก่อน ข. ขับรถต่อไปได้เลยเพราะเราคือทางเอก ค. ขับด้วยความเร็วเท่าเดิม ง. เร่งเครื่องยนต์เพื่อขับผ่านไปก่อน 32. จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. หยุครถให้ห่างเพื่อความปลอดภัย ข. ขับไปในช่องทางขวาเพื่อเลี้ยวได้เลย ค. เลี้ยวพร้อมกับรถคันหน้าได้ทันที ง. ชะลอรถเนื่องจากรถคันหน้าจะเลี้ยวซ้าย 33. จากรูป หากท่านพบเห็นสัญญาณจราจรเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. เร่งความเร็วและขับผ่านไป ข. บีบแตรและขับผ่านไป ค. ค่อยๆ เหยียบเบรกย้ําๆ เพื่อเตือนรถข้างหลังระวังและเตรียมหยุด ง. เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถทันที 34.
จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. ลดความเร็ว และระมัดระวังรถด้านซ้าย รวมทั้งคนเดิมข้ามถนน ข. เลี้ยวซ้ายได้ทันที ค. เร่งความเร็วเพื่อให้สามารถเลี้ยวได้เร็ว ง. บีบแตรก่อนทําการเลี้ยวรถ 35. จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. ขับตามรถคันหน้าให้ชิดและทําการเลี้ยวทันที ข. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว ง. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนรถด้านหลัง 36. จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. ควรเลี้ยวให้ทันเนื่องจากมีรถคันใหญ่ขวางรถฝั่งตรงข้าม ข. เร่งความเร็วเพื่อเลี้ยวขวาทันที ค. หยุดรอในตําแหน่งที่จะเลี้ยวและให้รถด้านตรงข้ามผ่านไปก่อน ง. ขับรถไปในช่องทางด้านขวาเพื่อทําการเลี้ยว 37. จากรูป หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวา ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ชะลอรถ หยุดให้คนเดินถนนข้ามทางก่อน ข. ขับตามรถคันหน้าให้ชิดและทําการเลี้ยวทันที ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ามถนนด้วยความรวดเร็ว ง. ขับรถออกในช่องทางขวาเพื่อทําการเลี้ยว 38. จากรูป หากท่านต้องการขับตรงไป ท่านควรระมัดระวังและปฏิบัติอย่างไร ก. บีบแตรเพื่อให้รถคันหน้าเร่งความเร็ว ข. ขับต่อไปด้วยความเร็วเท่าเดิม ค. ลดความเร็วลง และให้ทางแก่รถที่เลี้ยวออกมา ง. เปิดไฟฉุกเฉินและขับผ่านไปด้วยความรวดเร็ว 39
จากรูป รถคันใดอยู่ในจุดบอดของรถคันสีขาว ก. รถ ค. ข. รถ ก. และรถ ข. ค. รถ ข. และรถ ค. ง. รถ ก. และรถ ค. 40. ด้วยสาเหตุใด ผู้ขับขี่จะต้องหันหน้ามองไปทางด้านข้างก่อนทําการเปลี่ยนช่องจราจร ก.
จะทําให้สามารถเปลี่ยนช่องจราจรได้รวดเร็วมากขึ้น 41. ข้อใดคือความหมายที่ถูกต้องของจุดบอด 42. ถ้าเครื่องดับขณะกําลังเคลื่อนที่ออกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลําดับแรก 43. การขับขี่ขึ้นหรือลงทางลาดชัน ควรใช้เกียร์ใด 44. ในการขับขี่ลงทางลาดชัน
ผู้ขับขี่ควรใช้เกียร์ต่ําเนื่องจากสาเหตุใด 45. เพราะเหตุใดจึงไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในขณะขับขี่ลงทางลาดชัน ก. จะทําให้เสียเวลาในการเดินทาง 46. ในการขับขี่ลุยน้ำ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 47. เหตุใดขณะขับรถลุยน้ําจึงต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย 48. ท่านควรปฏิบัติอย่างไรขณะขับรถผ่านบริเวณน้ําท่วม 49. หลังจากขับรถผ่านบริเวณน้ําท่วม ท่านควรทดสอบระบบใดต่อไปนี้ 50. ข้อใดต่อไปนี้คือประโยชน์สูงสุดของการชะลอรถด้วยเครื่องยนต์ในขณะลงทางลาดชัน ก. ลงทางลาดชันด้วยความปลอดภัย 51.เพราะเหตุใดรถจึงลื่นไถลได้ง่ายขณะฝนตกใหม่ๆ 52. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติเมื่อขับขี่ในขณะฝนตกหนัก 53. ข้อใดต่อไปนี้ปฏิบัติได้ถูกต้องสําหรับการขับขี่ในเวลากลางคืน 54. หลังจากเกิดอุบัติเหตุผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติสิ่งใดเป็นอันดับแรก 55.
หากมีผู้บาดเจ็บหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ท่านควรปฏิบัติอย่างไรหากตัวท่านมิได้รับบาดเจ็บ 56. ข้อใดถูกต้องเกี่ยวกับการขับขี่อย่างประหยัดน้ำมัน 57. หากกําลังขับขี่รถอยู่บนถนน แล้วฝนเริ่มตก ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 58. เมื่อขับรถในเวลากลางคืน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 59. ก่อนการขับรถเป็นระยะทางไกลๆ ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 60. จากสถานการณ์ดังรูป
หากต้องการจะเคลื่อนที่ต่อไป ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไรเป็นลําดับแรก ก. เปิดสัญญาณไฟ ข. ตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านขวา ค. บีบแตรให้สัญญาณ ง. ลดกระจกแล้วโบกมือขอทาง 61.
เมื่อต้องขับรถเข้าใกล้ทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้น ข้อใดต่อไปนี้กล่าวถูกต้อง ก. ชะลอรถและควรเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถตลอดเวลา ข. เพิ่มความเร็วเพื่อให้ผ่านไปได้เร็ว ค. บีบแตรเตือนเพื่อความปลอดภัย ง. เปิดกระจกเพื่อฟังเสียงสัญญาณเตือนรถไฟ 62. เมื่อขับผ่านทางที่มีป้ายเตือนว่า “ระวังทางข้างหน้าหินหล่นทับเส้นทางบ่อย” หรือป้ายเตือนดังในรูป ท่านควรปฏิบัติ อย่างไร ก. ชะลอความเร็วลง ขับขี่ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น ข. รีบเร่งความเร็วเพื่อผ่านไปอย่างรวดเร็ว ค. ไม่ต้องทําอะไร เพราะ โอกาสที่จะเกิดยาก ง. หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น 63. เมื่อพบว่าไฟไหม้เครื่องยนต์ขณะขับรถ ผู้ขับรถควรปฏิบัติอย่างไร 64. สิ่งใดต่อไปนี้มีผลทําให้รถเปลืองน้ำมัน 65. ปัจจัยใดต่อไปนี้มีผลต่อการเกิดสถานการณ์อันตรายมากที่สุด 66. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการขับรถอย่างปลอดภัย 67. จากรูป หากท่านต้องการแซงรถข้างหน้าแล้วกลับช่องทางเดินรถด้านซ้าย ท่านจะต้องให้สัญญาณไฟอย่างไร ก. ตรวจสอบความปลอดภัยแล้วเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาก่อนแซง ข. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขณะแซง ค. เปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาก่อนและตามด้วยสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายขณะแซง ง. ไม่จําเป็นต้องเปิดสัญญาณไฟหากรถคันหน้าขับด้วยความเร็วต่ํา 68. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อ รถคันหน้าหยุด 69.
สถานการณ์ใดใช้ไฟฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม 70. รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกกะทันหัน (รถที่ไม่มีระบบเบรก ABS) จะมีผลอย่างไร 71. การหยุดรถอย่างกะทันหัน (รถที่ไม่มีระบบเบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร 72. ข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้องในการเบรกฉุกเฉิน 73. การจอดรถลักษณะใดที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ 74.รูปใดต่อไปนี้ ห้ามจอด ก. รูป 1 และรูป 2 ข. รูป 2 และรูป3 ค. รูป 1 และรูป 3 ง. ทั้งรูป 12 และ 3 75. หากท่านจอดรถชิดขอบทางทางด้านซ้ายอยู่ และต้องการที่จะเคลื่อนตัวออก ท่านควรปฏิบัติอย่างไร 76. เมื่อฝนเริ่มตกหนักในขณะที่ท่านขับรถอยู่ในเขตที่จํากัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท่านควรปฏิบัติอย่างไร 77. สาเหตุใดต่อไปนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทําให้เกิดการชนท้าย 78. การขับรถทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้ามากเกินไป จะเกิดผลเสียอย่างไรกับสภาพการจราจร 79. เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่ต้องทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้าเป็นระยะเท่าใด 80. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้องในการขับขี่ 81. การเปลี่ยนช่องทางจราจร ควรปฏิบัติอย่างไร 82. หากท่านเห็นรถบรรทุกที่อยู่ข้างหน้าเปิดไฟเลี้ยวซ้ายแต่กําลังเคลื่อนไปทางขวา
ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. รักษาระยะห่างไว้และรอให้รถใหญ่เคลื่อนไปในทิศทางที่แน่นอน ข. ขับเข้าไปใกล้ๆ เพื่อเตรียมแซง ค. ให้เข้าใจว่าผู้ขับขี่รถใหญ่นั้นเปิดสัญญาณไฟผิด ง. เตรียมแซงเมื่อรถใหญ่เริ่มชะลอความเร็ว 83. จากรูปรถคันสีน้ําเงิน หรือรถคันสีเขียว มีสิทธิที่จะได้ไปก่อน ก. รถคันสีน้ําเงิน ข. รถคันสีเขียว ค. รถคันไหนไปก่อนก็ได้ ง. มีสิทธิที่จะไปพร้อมๆ กัน 84.
กรณีที่ท่านเห็นรถคันอื่นให้สัญญาณเพื่อเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางการเดินรถ ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร 85. จากรูปรถคันใดจะต้องให้ทาง ก. รถคันสีขาว ข. รถคันสีแดง ค. รถที่มีความเร็วสูงกว่า ง. รถที่มีความเร็วต่ํากว่า 86.รูปใดแสดงการกลับรถที่ถูกต้อง ก. รูป 1 ข. รูป 2 ค. รูป3 ง. รูป 1 และ รูป 3 87.
ข้อใดต่อไปนี้เป็นการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้อง 88. จากรูป หากรถที่ท่านกําลังจะแซงเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอความเร็วและรอจนกว่ารถคันหน้าเลี้ยวผ่านไป ข. เพิ่มความเร็วของรถและแซงผ่านไป ค. ให้สัญญาณไฟสูงเพื่อบอกให้รู้ว่าจะแซงผ่านไปก่อน ง. ให้สัญญาณแตรเพื่อบอกให้รู้ว่าจะแซงผ่านไปก่อน 89.
ข้อใดต่อไปนี้กล่าวได้ถูกต้องเกี่ยวกับการแซงรถคันหน้าที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วที่ใกล้เคียงกัน 90. หากท่านขับรถด้วยความเร็ว 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่ท่านรู้สึกว่าเร็วเกินไป ท่านควรปฏิบัติอย่างไร 91. การขับขี่ในทางลักษณะใดที่ไม่จําเป็นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว 92. การเปิดไฟสูงในสถานการณ์ใดถูกต้อง 93.
เมื่อรถของท่านเสียบริเวณกลางถนน ท่านควรปฏิบัติอย่างไร 94. ท่านควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินในกรณีใด 95. ข้อใดต่อไปนี้กล่าวไม่ถูกต้องสําหรับการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดเวลา 96. การหยุดรถในสถานการณ์ใดจะใช้ระยะทางมากกว่าปกติ 97. สิ่งใดเป็นปัจจัยที่ทําให้การเบรกด้อยประสิทธิภาพ 98. หากท่านจอดรถในทางเดินรถหรือบนไหล่ทางในเวลากลางคืน ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร 99.
จากรูป เมื่อท่านพบรถประจําทางเปิดไฟเลี้ยวขวาเพื่อออกจากป้ายรถเมล์ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ไม่ต้องสนใจและขับแซงรถประจําทางไปในทันที ข. ชะลอความเร็วและให้รถประจําทางไปก่อน ค. บีบแตรหรือกะพริบไฟสูง ง. เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน เพื่อบอกให้รถประจําทางไปก่อน 100. จากรูป หากท่านต้องการแซงบนถนนที่มีรถวิ่งสวนมา ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ขับแซงไปได้เลยโดยไม่ต้องสนใจรถที่สวนมา ข. หากท่านคิดว่าท่านขับได้เร็วกว่ารถที่สวนมาแล้ว จึงทําการแซงได้ทันที ค. หยุดรอให้รถที่ขับสวนมาผ่านไปก่อนแล้วค่อยขับแซง ง. หากคิดว่าถนนมีความกว้างพอจึงแซงไปได้เลย 101. ท่านกําลังขับขี่ผ่านบริเวณที่มีรถจอดอยู่ข้างทาง แต่ท่านสังเกตเห็นลูกบอลกลิ้งออกมา ท่านควรปฏิบัติอย่างใด ก. ขับรถด้วยความเร็วเท่าเดิมและให้สัญญาณไฟสูง ข. ขับรถด้วยความเร็วเท่าเดิมและให้สัญญาณแตร ค. ลดความเร็วลงและเตรียมที่จะหยุดรถ ง. จอดรถและโบกมือให้เด็กไปเก็บลูกบอล 102. จากรูป ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้องเกี่ยวกับการแซง ก. รถคันหลังไม่สามารถแซงคันหน้าได้ ข. รถคันหลังสามารถแซงได้หากไม่มีคนข้ามถนน ค. รถคันหลังสามารถแซงได้หากไม่มีรถสวนมา ง. รถคันหลังสามารถแซงได้หากไม่มีป้ายหยุคบนขอบทาง 103.
เมื่อท่านขับรถเข้าใกล้รถที่จอดอยู่ข้างทาง ท่านควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด 104. เมื่อท่านขับรถเข้าใกล้รถที่จอดอยู่ข้างทาง ท่านควรปฏิบัติอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด 105. ในการขับขี่ท่านควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมใดมากที่สุด 106. เมื่อท่านขับรถผ่านถนนที่มีน้ําท่วมขังแล้ว ท่านควรปฏิบัติอย่างไร 107. การขับขี่ผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร 108. จากรูปรถคันสีน้ําเงิน
หรือรถคันสีเขียวมีสิทธิที่จะผ่านไปก่อน ก. ให้รถคันสีเขียวไปก่อน ข. ให้รถคันสีน้ําเงินไปก่อน ค. รถคันไหนไปก่อนก็ได้ หากมีความเร็วสูงกว่า ง. รถคันไหนไปก่อนก็ได้ หากมาถึงก่อน 109. จากรูป
หากท่านต้องการที่จะเลี้ยวขวาที่ทางแยกรูปตัว T ท่านจะต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ให้ทั้งรถทางขวาและซ้ายไปก่อน ข. ให้รถทางขวาไปก่อน ค. ให้รถทางซ้ายไปก่อน ง. เลี้ยวขวาได้ทันที 110. จากรูป
เมื่อท่านขับรถมาถึงทางแยกพบสัญญาณไฟเขียว แต่เกิดจราจรติดขัดในเส้นทางที่ท่านจะสัญจร ท่านควร ปฏิบัติอย่างไร ก. ขับรถเข้าไปต่อคันหน้า ข. รอจนกว่ารถข้างหน้าของท่านจะเคลื่อนตัว แล้วจึงขับรถเข้าไปต่อคันหน้า ค. ขับรถเข้าไปตรงกลางแยก แล้วรอจนกว่ารถข้างหน้าจะเคลื่อนตัว ง. พยายามขับแทรกไปทางขวาของรถคันหน้า 111. จากรูปรถคันสีฟ้าและรถคันสีเหลืองต้องการจะเลี้ยวขวาเพื่อไปเลี้ยวซ้ายในซอยที่ 1 รถคันใดอยู่ในตําแหน่งที่เหมาะสม ก. รถคันสีฟ้า ข. รถคันสีเหลือง ค. เหมาะสมทั้งคู่ ง. ไม่เหมาะสมทั้งคู่ 112. จากรูปรถคันสีแดงและรถคันสีเหลืองต้องการไปในทิศทางเดียวกัน รถคันใดมีสิทธิไปก่อนเมื่อมีสัญญาณให้หยุดทั้ง สองทิศทาง ก. รถคันสีเหลือง ข. รถคันสีแดง ค. คัน ใดก็ตามที่มาถึงทางแยกก่อน ง. คันใดก็ตามที่ขับด้วยความเร็วที่สูงกว่า 113. หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีแดงที่บริเวณทางร่วมทางแยก ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร 114.
หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีเหลืองที่บริเวณทางร่วมทางแยก ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร 115. จากรูป ในกรณีที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร รถคันสีแดงหรือรถคันสีเหลืองมีสิทธิที่จะได้ไปก่อน ก. รถที่มาถึงทางแยกก่อน ข. รถคันสีแดง ค. รถคันสีเหลือง ง. รถที่มีความเร็วสูงกว่า 116. จากรูป หากรถคันสีแดง และรถคันสีเหลืองต้องการจะเลี้ยวขวาในเวลาเดียวกัน รถคันใดจะมีสิทธิไปก่อน ก. สามารถไปได้ในเวลาเดียวกัน ข. รถคันสีแดง ค. รถคันสีเหลือง ง. รถที่มีความเร็วสูงกว่า 117. การขับขี่ในบริเวณชุมชนที่ถูกต้อง ควรปฏิบัติอย่างไร 118. ในการขับขี่ภายในชุมชน ผู้ขับขี่ไม่จําเป็นต้องใส่ใจกับสิ่งใด 119. เมื่อขับขี่เข้าใกล้บริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 120. เมื่อขับรถเข้าใกล้บริเวณทางม้าลาย แต่ไม่มีคนข้ามทางม้าลาย ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 121. หากท่านกําลังขับขี่เข้าสู่วงเวียน
และพบรถขนาดใหญ่ที่กําลังเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายแต่ตัวรถค่อยๆ เคลื่อนตัวไป ทางขวา ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. รักษาระยะห่างไว้ ข. ให้สัญญาณแตร ค. แซงไปทางด้านซ้าย ง. ขับตามรถใหญ่ 122.
ข้อใดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติในการขับขี่ผ่านวงเวียน (การขับขี่ผ่านวงเวียน) 123. ข้อใดเป็นการขับรถเข้าทางโค้งอย่างปลอดภัย 124.
หากรถคันสีเหลืองต้องการมุ่งหน้าตรงผ่านวงเวียน จะต้องเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเพื่อออกจากวงเวียนที่ตําแหน่งใด 125. จากรูป หากท่านกําลังขับตามหลังคนขี่จักรยาน แต่ท่านต้องการที่จะเลี้ยวซ้าย ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอความเร็วจนกว่าจักรยานจะผ่านทางเลี้ยว ข. พยายามแซงจักรยานก่อนที่จะถึงทางเลี้ยว ค. จอดรถเพื่อรอจนกว่าคนขี่จักรยานจะผ่านทางเลี้ยว ง. ทําการเลี้ยวโดยไม่ต้องสนใจจักรยาน 126. สิ่งใดที่ท่านควรระวังเป็นพิเศษเมื่อพบรถโดยสารจอดอยู่ในถนนฝั่งตรงข้าม 127.
ดังรูปในกรณีที่รถสีน้ําตาลมาจากทางหลักและรถสีน้ําเงินออกมาจากซอยซึ่งเป็นทางรอง รถคันใดต้องหยุดให้ทาง ก. รถคันสีน้ําตาล ข. รถคันสีน้ําเงิน ค. รถคันใดก็ได้ ง. รถคันที่มีความเร็วต่ํากว่า 128.
ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการแซง 129. เมื่อท่านเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองในขณะที่ท่านกําลังจะขับขี่ผ่านทางแยกในเวลาเช้าตรู่ที่ ไม่มีการจราจรอยู่ในบริเวณรอบๆ ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ขับต่อไปด้วยความเร็วคงที่ ข. ชะลอความเร็วและเตรียมหยุดรถ ค. ขับต่อไปด้วยความเร็วสูงขึ้น ง. ชะลอความเร็วลงและขับผ่านไป 130. ในขณะที่ท่านกําลังหยุดรอสัญญาณไฟอยู่ที่ทางแยก แล้วไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียว
ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ตรวจสอบการจราจรรอบๆ ข้างก่อน จากนั้นจึงออกรถ ข. ขับรถผ่านทางแยกไปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้รถคันหลังเสียเวลา ค. รอจนกว่ารถคันข้างหลังของท่านจะให้สัญญาณแตร แล้วจึงออกรถ ง. ปฏิบัติอย่างไรก็ได้ แล้วแต่ผู้ขับขี่ 131. จากรูป ผู้ขับขี่รถคันสีแดงควรปฏิบัติอย่างไร ก. บีบแตรเพื่อเตือนให้รถคันอื่นรับรู้ ข. มองกระจกข้าง ให้สัญญาณ และเปลี่ยนช่องทางเมื่อปลอดภัย ค. เร่งความเร็วขึ้นและแซงโดยไม่ต้องมองกระจกข้าง ง. เร่งความเร็วไปข้างหน้าและรีบเปลี่ยนช่องจราจร 132. จากรูป ผู้ขับขี่รถคันสีแดงควรระมัดระวังรถคันใดมากที่สุด ก. รถจักรยานยนต์ ข. รถคันสีน้ําเงิน ค. รถคันสีเขียว ง. ไม่จําเป็นต้องระวังรถคันใดเลย 133.
ข้อใดเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักการขับรถอย่างปลอดภัย 134. หลักการขับรถเข้าโค้งที่ถูกต้องควรปฏิบัติเช่นไร 135. เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบอะไรเป็นอันดับแรก 136. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถขณะฝนตกคือข้อใด 137. ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร 138.ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใด จึงจะปลอดภัยเมื่อ รถคันหน้าหยุด 139. ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรทําอย่างไร 140. ข้อใดคือการใช้ไฟฉุกเฉินที่ถูกต้อง 141.
การใช้เกียร์เพื่อขึ้นและลงเขาข้อใดถูก 142. อะไร ไม่ใช่เป้าหมายในการขับรถอย่างปลอดภัย 143.
เหตุใดจึงห้ามเปิดไฟสูงขณะที่ขับรถตามคันหน้าหรือรถที่วิ่งสวนทางมา 144. การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร 145. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก 146. ในการข้ามทางรถไฟรางคู่ที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อรถไฟผ่านไปแล้วผู้ขับรถควรระวังสิ่งใดต่อไปนี้ 147. ในการขับรถข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกันเมื่อคันด้านหน้าขับข้ามทางรถไฟไปแล้วท่านควรปฏิบัติอย่างไร 148. เมื่อท่านขับรถที่มีน้ําหนักบรรทุกมาก ข้อใดถูกต้องมากที่สุด 149. เมื่อท่านขับรถที่บรรทุกสิ่งของที่มีความสูงจะมีผลอย่างไร 150. สิ่งใดที่ไม่มีผลต่อระยะการเบรกรถ 151. ข้อใดถูกต้องที่สุดในการควบคุมความเร็วของรถ 152. ข้อใดปฏิบัติไม่ถูกต้องเมื่อรถของท่านจอดเสียกลางถนนหลวง 153. ก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ที่ดีควรเตรียมความพร้อมของตนเองอย่างไร 154. ข้อใดเป็นการเตรียมความพร้อมของรถก่อนขับรถ 155. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร 156. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ 157.
การจับพวงมาลัยนิ้วมือ ควรอยู่ในลักษณะใด 158. เมื่อผู้ขับขี่ขับรถเสียหลักบนถนนเปียกลื่น ควรปฏิบัติอย่างไร 159. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฏิบัติอย่างไร 160. ขณะฝนตกใหม่ๆ รถมักลื่นไถล เพราะเหตุใด 161. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก 162. เพื่อความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลําดับแรก 163. ในขณะขับรถลุยน้ํา ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 164. หลังจากขับรถลุยน้ํา ผ้าเบรกเปียกมีวิธีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร 165. เหตุใดขณะขับรถลุยน้ําจึงต้องเลี้ยงคลัตช์และเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกติเล็กน้อย 166. ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง 167. การขับรถผ่านบริเวณน้ําท่วม ควรปฏิบัติอย่างไร 168. เพื่อความปลอดภัยก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร 169. ข้อใดเป็นปัจจัยสําคัญที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด 170. พฤติกรรมการขับรถข้อใดถือว่าไม่ปลอดภัย 171. ก่อนออกรถจากไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติอย่างไรให้ปลอดภัยมากที่สุด 172. ภายหลังออกรถไปประมาณ 3 ถึง 4 เมตร ควรทดสอบระบบใด 173. การขับรถขึ้นทางลาดชัน ควรใช้เกียร์อย่างไร 174. ในขณะที่ขับรถอยู่ มีกลิ่นเหม็นไหม้ แอร์เริ่มไม่เย็น
เครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ควรปฏิบัติอย่างไร 175. ขณะขับรถเครื่องยนต์เกิดความร้อนสูง ควรปฏิบัติอย่างไร 176. ในการขับรถทางไกล ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมของร่างกายอย่างไร 177. การขับรถในทางลักษณะใด ที่ไม่จําเป็นต้องเปิดไฟเลี้ยว 178. การหมุนพวงมาลัยรถ
ขณะจอดรถอยู่กับที่จะมีผลอย่างไร 179. การหยุดรถอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร 180.
รถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน (รถไม่มีเบรก ABS) จะมีผลอย่างไร 181. ก่อนขับรถเข้าโค้งหรือมุมเลี้ยว ควรใช้ความเร็วอย่างไร 182. ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร 183. ยางที่หมดอายุจะมีลักษณะอย่างไร 184. ในขณะขับรถ ยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 185. ในขณะที่กําลังขับรถ ถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิดผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 186. ข้อใดเป็นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร 187. ลมยางล้อหน้าอ่อน จะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร 188. การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร 189. การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร 190. ข้อใดไม่ใช่การมองที่ถูกวิธีในขณะขับรถ 191. การเข้าเกียร์ถอยหลังขณะรถยังไม่หยุดนิ่งมีผลเสียอย่างไร 192. การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด 193. การตรวจลมยางควรตรวจเมื่อใด 194.
ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ที่ถูกต้อง 195. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมือฝนตกหนัก 196. หากเกิดฝนตกหนักจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัติอย่างไร 197. ข้อใดที่ทําให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขึ้นจึงสามารถหยุดรถได้ 198. ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ 199. การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มือซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ ควรอยู่ในตําแหน่งลักษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา 200. ข้อใดไม่มีผลให้ระยะการหยุดรถ (ระยะเบรก) ยาวขึ้น 201. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมื่อใด 202. การฝึกขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร 203. เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก 204. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด 205. หลังจากขับรถลุยน้ํา เมื่อเราขึ้นที่แห้งแล้วควรปฏิบัติเช่นไรเป็นอันดับแรก 206. ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร 207. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อ รถคันหน้าหยุค 208. ข้อใดผิด 209. ท่านควรหมุนพวงมาลัยลักษณะใดในการเลี้ยงรถ 210. เมื่อเห็นผู้ขับขี่เกิดอุบัติเหตุควรปฏิบัติเช่นไร 211. การขับรถทางไกลเมื่อรู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบัติอย่างไร 212. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก |