เฉลย ใบงานที่ 2.2 เรื่อง ปัญหาสังคมไทย

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 การออกแบบการจดั การเรยี นรู้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม การราอยอวชิกาแบหบนก้าาทรี่พจลดั เกมาือรงเรรียหนัสรวู้ิชกาลมุ่ สสา3ร1ะก1า0ร1เรียนรู้ สรังะคดมับศกึชษ้นั ามศัธายสมนศาแกึ ลษะาวปัฒีทน่ี า4ธรรม รายวิชา หน้าทพี่ ลเมือง รหสั วชิ า ส31101 ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 จดั ทาโดย นางณจิภัดาททาิพโดย์ยมลู แกว้ ตนาาแงหณนิภ่งาทพิพนกัยง์ ามนูลรแาชกกว้ าร ตาแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 ตาบลชโรา่ งงสเเคราียน่ิงนกั รบารอชิหาปาเรภรงะอาชแนามกนแ่ าุเจรค่มศรกึาษะหาจพ์งั 3หิเ1ศวษดั เชยี งใหม่ สตาานบักลงชา่านงกเาคริ่งศึกอษาาเภขนั้อแพม้นื แ่ฐจาน่ม จงักหระวั ทดรเชวงียศงกึใหษมาธ่ กิ าร สังกัดสานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพิเศษ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 รายวิชา สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม คาอธบิ ายรายวชิ า ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 40 ชว่ั โมง รหสั วิชา ส 31101 ภาคเรยี นที่ 1 คาอธิบายรายวิชา จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ศึกษากฎหมายแพ่งเก่ียวกับตนเอง และครอบครัว กฎหมายแพ่งเกี่ยวกับนิติกรรม สัญญา กฎหมายอาญา มีความรู้ความเข้าใจในเคร่ืองมือทางภูมิศาสตร์อิทธิพลของสภาพภูมิศาสตร์ซ่ึงทาให้เกิดปัญหาทางกายภาพ หรือภัย พิบัติ ทางธรรมชาติ ในประเทศไทย และภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกโดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ คิดหา เหตแุ ละผล แล้วทาการสารวจตรวจสอบข้อมูล เพือ่ ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถนาเสนอสื่อสารส่ิง ทเี่ รยี นรู้ มาปรับใช้ในชีวิตประจาวันพร้อมท้ังเห็นคุณค่าของการปฏิบัติตนเพ่ือให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์เกิดความ รกั และหวงแหนชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ และเปน็ บคุ คลแหง่ การเรยี นรูท้ มี่ ีคุณภาพ มาตรฐาน / ตวั ช้ีวัด ส 2.1 เข้าใจและปฏิบตั ติ นตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมทด่ี ีงาม และธารงรกั ษาประเพณแี ละวฒั นธรรม ไทย ดารงชวี ิตอยู่ร่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอยา่ งสันติสุข ส 2.1 ม.4-6/1 วเิ คราะห์และปฏิบัติตนตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ครอบครัว ชุมชน ประเทศชาติ และสังคมโลก ส 2.1 ม.4-6/2 วเิ คราะห์ความสาคัญของโครงสรา้ งทางสังคม การขดั เกลาทางสังคม และการเปลยี่ นแปลงทาง สังคม ส 2.2 เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปจั จบุ ัน ยดึ มนั่ ศรทั ธา และธารงรักษาไวซ้ ึ่งการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ ส 2.2 ม.4-6/1 วเิ คราะห์ปญั หาการเมืองทสี่ าคัญในประเทศ จากแหลง่ ข้อมูลต่างๆ พร้อมทั้งเสนอแนวทางแก้ไข ส 2.2 ม.4-6/2 เสนอแนวทาง ทางการเมอื งการปกครองที่นาไปส่คู วามเขา้ ใจและการประสานประโยชน์ ร่วมกนั ระหว่างประเทศ ส 5.1 เขา้ ใจลักษณะของโลกทางกายภาพ และความสมั พันธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมผี ลตอ่ กนั และกันในระบบของธรรมชาติ ใช้แผนที่ และเครื่องมือทางภมู ิศาสตร์ ในการค้นหา วิเคราะห์ สรปุ และใช้ข้อมลู ภูมสิ ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ส 5.1 ม.4-6/1 ใชเ้ ครอ่ื งมือทางภมู ศิ าสตร์ในการรวบรวม วิเคราะห์และนาเสนอข้อมูล ภูมิสารสนเทศอย่างมี ประสทิ ธิภาพ ส 5.1 ม.4-6/2 วเิ คราะหอ์ ิทธิพลของสภาพภูมศิ าสตรซ์ งึ่ ทาใหเ้ กดิ ปญั หาทางกายภาพหรอื ภัยพิบัติทาง ธรรมชาตใิ นประเทศ ไทยและภูมิภาคตา่ ง ๆ ของโลก โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ส 5.2 เขา้ ใจปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษย์กบั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพทีก่ ่อให้เกิดการสรา้ งสรรค์วัฒนธรรม มีจติ สานกึ และมีสว่ นร่วมในการอนุรกั ษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพ่ือการพัฒนาทยี่ ัง่ ยนื ส 5.2 ม.4-6/1 วิเคราะหส์ ถานการณ์และวกิ ฤตการณ์ดา้ นทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อมของประเทศ ไทยและโลก ส 5.2 ม.4-6/2 ระบมุ าตรการป้องกนั และแก้ไขปัญหาบทบาทขององค์การและการประสานความรว่ มมอื ทั้งใน ประเทศและนอกประเทศเก่ียวกับกฎหมายสิง่ แวดลอ้ มการจดั การทรพั ยากร ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ผงั มโนทศั น์ รายวชิ า สังคมศกึ ษา รหัสวิชา ส 31101 ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 ช่อื หน่วย 1 สังคมมนุษย์ ช่ือหนว่ ย 2 วฒั นธรรมไทย จานวน 5 ชัว่ โมง : 5 คะแนน จานวน 6 ชั่วโมง : 5 คะแนน ชอ่ื หน่วย 7 กฏหมายในชีวิตประจาวัน รายวิชาหน้าท่ีพลเมือง ชอื่ หนว่ ย 3 พลเมืองดีของ ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ประเทศชาติและสงั คมโลก จานวน 8 ชัว่ โมง : 3 คะแนน จานวน 40 ชว่ั โมง จานวน 5 ชว่ั โมง : 2 คะแนน ชอ่ื หนว่ ย 6 รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย ชอื่ หนว่ ย 5 ระบอบการเมอื งการปกครอง ช่อื หน่วย 4 สทิ ธมิ นษุ ยชน จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน จานวน 6 ชัว่ โมง : 5 คะแนน จานวน 5 ชวั่ โมง : 5 คะแนน โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ผงั มโนทศั น์ รายวชิ าหนา้ ที่พลเมือง รหสั วชิ า ส 31101 ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เร่ือง สงั คมมนษุ ย์ จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน ชือ่ เร่ือง โครงสรา้ งทางสังคมและการขัดเกลาทางสงั คม จานวน 3 ชวั่ โมง : 3 คะแนน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง สังคมมนุษย์ จานวน 5 ชั่วโมง ช่ือเร่อื ง การเปลยี่ นแปลงทางสงั คม การแก้ปัญหา และแนวทางการพฒั นาสังคม จานวน 2 ชวั่ โมง : 2 คะแนน แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง สังคมมนุษย์ แผนจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง โครงสรา้ งทางสังคมและการขดั เกลาทาง สังคม รายวชิ า หน้าทพ่ี ลเมอื งฯ รหสั วิชา ส 31101 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2562 น้าหนักเวลาเรียน 1.0 (นน./นก.) เวลาเรยี น 40 ช่วั โมง/สปั ดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 3 ช่วั โมง ................................................................................................................. ......................................... 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจทคี่ งทน) การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งปกตสิ ขุ นนั้ จะต้องมีการจดั ระเบียบสงั คมและมีสถาบนั ทางสงั คม ชว่ ยทาหน้าที่ขดั เกลาทางสงั คม 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัดชัน้ ป/ี ผลการเรียนร้/ู เป้าหมายการเรียนรู้ มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรักษา ประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชวี ติ อยู่ร่วมกันในสงั คมไทยและสังคมโลกอย่างสันติสขุ ตวั ช้วี ัด ม.4 6/2 วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของโครงสรา้ งทางสังคม การขัดเกลาทางสังคม และการเปล่ยี นแปลง ทางสงั คม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge (นกั เรยี นตอ้ งรู้อะไร) นักเรยี นสามารถเขียน องคป์ ระกอบและความสาคัญในการอย่รู ่วมกันเปน็ สงั คมได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิอะไรได้) นักเรยี นสามารถอธบิ ายโครงสรา้ งและความสาคญั ของการจดั ระเบียบทางสังคมได้ 3.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง) นักเรยี นมีความสนใจ ใฝ่รู้ มีความรบั ผดิ ชอบต่องานที่ไดร้ บั มอบหมายตามเวลาที่กาหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. คณุ ลกั ษณะของวิชา - ความรับผิดชอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคล้อง กบั ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรียนรู้นี้ ) โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 - ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง การจดั ระเบียบทางสังคม - ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง ระบบคุณคา่ ของสงั คม - ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง บรรทัดฐานหรือปทัสถานทางสังคม - ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง สถานภาพและบทบาท ภาระงาน – ให้นกั เรียนศึกษาความรู้ จากหนังสือเรียน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ชวั่ โมงท่ี 1 (ความสามารถในการวเิ คราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / เทคนิคการสืบค้น) - ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น/ขน้ั ตั้งคาถาม 1.ให้นกั เรียนดภู าพ พ่อแม่ และลูก (วยั แรกเกิด) แล้วให้นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายเกี่ยวกับคาถาม ต่อไปนี้ 1) ทารกแรกเกิดในระยะเริ่มต้นของชวี ติ จะต้องไดร้ ับการเล้ียงดูอย่างไรบ้าง และมีใครเป็นผู้ช่วยเหลอื แนวคาตอบ ตอ้ งกนิ นม ต้องขบั ถ่าย ต้องอาบน้า สระผม เชด็ สะดอื ฉดี วัคซนี เปล่ียนเสื้อผ้าและมี บดิ ามารดา ญาติพ่นี ้อง แพทย์ พยาบาล พีเ่ ลย้ี ง เป็นผ้ชู ่วยเหลือ 2) นักเรยี นคิดวา่ เปน็ ไปได้หรือไม่ทม่ี นษุ ยจ์ ะดารงชวี ติ ตามลาพงั โดยไม่เกยี่ วข้องกบั ผู้อ่นื เลย แนวคาตอบ คงเป็นไปไดย้ าก เพราะมนุษยต์ ้องดารงชวี ิตด้วยปจั จัย 4 เพอื่ ตอบสนอง ความตอ้ งการ พ้ืนฐานด้านชวี ภาพ กายภาพ และการให้ได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ ต้องอาศัยพึง่ พาผอู้ ื่นเป็นสว่ นใหญ่ - ขั้นสอน 1. ครนู าภาพบา้ นทีส่ วยงามมาใหน้ ักเรยี นดู และสนทนาเชงิ วิเคราะหใ์ นประเด็นเหลา่ น้ี เช่น - โครงสรา้ งบา้ น ประกอบด้วยอะไรบ้าง มีความสัมพันธก์ ันอย่างไร และมปี ระโยชน์ต่อสมาชกิ ของบา้ นอย่างไร - ในทัศนะของนักเรยี นคาว่า บ้านสวยงาม กบั บ้านนา่ อยู่ ต่างกนั อย่างไร - สมาชกิ ของบา้ นควรมพี ฤติกรรมอย่างไรต่อบ้านที่สวยงาม เพอ่ื ใหเ้ ปน็ บา้ นท่นี ่าอยู่ และนักเรียน กบั คนในบา้ น ไดก้ ระทาหรือไม่ - พฤตกิ รรมทีท่ าให้บ้านไร้ความงามและไมน่ ่าอยู่เปน็ อยา่ งไร นักเรยี นได้กระทาหรือไม่ กระทาอยา่ งไร เป็น เพราะเหตุใด 2. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรียนเขา้ ใจวา่ บ้านเปรียบเหมือนสังคมหรือโลกท่ีมีสมาชิกอาศยั อยู่ โครงสร้างและ องค์ประกอบของบ้านมีประโยชน์ งดงามนา่ อยู่ ดงั น้ัน ถ้าสมาชกิ ในครอบครวั ต่างปฏิบัตติ ามบทบาทหนา้ ท่ีก็สง่ ผลตอ่ บ้าน ชุมชน สังคม และโลกให้น่าอย่เู ช่นกนั 3. ครใู ห้นักเรียนดแู ผนภมู ิองคป์ ระกอบโครงสร้างทางสังคม และอธิบายใหน้ ักเรียนเข้าใจลกั ษณะ การจัด ระเบยี บทางสังคมและสถาบันทางสังคม โครงสร้างทางสงั คม โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 การจดั ระเบยี บทางสงั คม สถาบนั ทางสังคม ¬ ระบบคุณคา่ ของสงั คม ¬ สถาบนั ครอบครวั ¬ บรรทัดฐานหรือปทสั ถานทางสังคม ¬ สถาบนั เศรษฐกิจ ¬ สถานภาพและบทบาท ¬ สถาบันการเมืองการปกครอง ¬ สถาบันการศึกษา ¬ สถาบนั ศาสนา ¬ สถาบันนนั ทนาการ ¬ สถาบนั สื่อสารมวลชน 4. ใหน้ ักเรยี นรวมกนั เปน็ กลุ่ม กล่มุ ละ 6 คน และให้จับคู่กันเปน็ 3 คู่ แต่ละคู่ศึกษาความร้เู รือ่ ง การจดั ระเบียบทางสงั คม จากหนังสอื เรยี น คู่ละ 1 เร่ือง ดังนี้ ค่ทู ่ี 1 ศกึ ษาเร่ือง ระบบคุณคา่ ทางสงั คม คทู่ ่ี 2 ศกึ ษาเรอื่ ง บรรทัดฐานหรือปทสั ถานทางสังคม ค่ทู ี่ 3 ศกึ ษาเรอ่ื ง สถานภาพและบทบาท 5. ให้แตล่ ะคผู่ ลดั กันศึกษาค้นคว้าตามหวั ข้อที่กาหนดไว้ และผลดั กันเล่าเรือ่ งรอบวงในประเด็นท่สี าคัญ ของหวั ข้อที่ตนได้รับมอบหมายใหเ้ พือ่ นในกลุม่ ฟงั จนครบทุกเรื่อง 6. ครสู ่มุ เรียกนกั เรยี น 2 - 3 คู่ สนทนาซักถามเกีย่ วกบั องค์ประกอบของการจัดระเบยี บทางสังคม โดยครคู อยอธบิ ายเพิ่มเติม - ข้ันสรุป ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความรู้เร่ือง การจัดระเบียบทางสังคม ชัว่ โมงท่ี 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกันคดิ ชว่ ยกันเรยี น) - ข้ันนาเข้าสู่บทเรียน/ขัน้ ตัง้ คาถาม 1. ครสู นทนากับนักเรียนเกยี่ วกบั ความจาเปน็ ทตี่ ้องมีสถาบันทางสังคม แล้วให้นักเรยี นช่วยกันเขียน ความรเู้ ดมิ เกีย่ วกับสถาบนั ทางสังคม ลงในกระดาษ และนามาติดที่กระดานหน้าชัน้ เรียนใหถ้ กู ต้อง ครูอธิบายเพ่มิ เติม - ขั้นสอน 1. ให้นกั เรียนรวมกล่มุ กัน กลุม่ ละ 6 คน และให้ทุกคนมีหมายเลขประจาตวั 1-6 ตามลาดับ แล้วให้ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 นักเรียนแต่ละคนท่ีมีหมายเลขเดียวกันไปรวมกันเป็นกลุ่มใหม่ และศึกษาความรู้จากหนังสือเรียน และทาใบงานที่ กาหนดให้ ดงั น้ี กล่มุ หมายเลข 1 ทาใบงานที่ 1.1 เร่อื ง สถาบันครอบครวั กลุ่มหมายเลข 2 ทาใบงานท่ี 1.2 เรื่อง สถาบนั เศรษฐกจิ กลมุ่ หมายเลข 3 ทาใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง สถาบนั การเมืองการปกครอง กลมุ่ หมายเลข 4 ทาใบงานที่ 1.4 เรือ่ ง สถาบันการศึกษา กลุ่มหมายเลข 5 ทาใบงานที่ 1.5 เรื่อง สถาบนั ศาสนา กลุ่มหมายเลข 6 ทาใบงานท่ี 1.6 เร่อื ง สถาบันนนั ทนาการ 2. นกั เรียนแต่ละกลุ่มศกึ ษาความรูจ้ ากหนงั สอื เรียน และรว่ มกนั สรปุ ความรู้ จากการศึกษาค้นควา้ และชว่ ยกนั ตอบคาถามในใบงานทีแ่ ต่ละกลุ่มได้รับ ทาความเข้าใจเนอ้ื หาให้ชัดเจนในประเด็นที่สาคัญที่เป็นความรูใ้ หม่ 3. ให้นกั เรียนกล่มุ ใหม่กลับเข้าสู่กลุ่มเดมิ และนาข้อมูลความรทู้ ีไ่ ดร้ บั จากการศกึ ษาและทาใบงาน กลับไปขยายผลใหเ้ พ่ือนกลุ่มเดมิ ของตนฟัง 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มแลกเปลีย่ นเรยี นรซู้ ่งึ กนั และกนั จนครบทกุ เร่ือง และย้าเตือนให้ทุกคนต้งั ใจฟัง ขอ้ มูล 5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั คิดรูปแบบการนาเสนอผลงานให้นา่ สนใจ ซึ่งสามารถนาเสนอได้ หลากหลายรปู แบบ แล้วให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานท่ีหนา้ ชนั้ เรียน 6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันทาใบงานที่ 1.7 เรอ่ื ง การปฏิบัติตนเพ่ือเปน็ สมาชิกที่ดขี องสถาบนั ทาง สังคม แล้วออกมานาเสนอผลงานที่หนา้ ชั้นเรียน - ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกนั สรุปความรจู้ ากการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ซึ่งกนั และกนั แลว้ บนั ทึกข้อสรุปลงในสมดุ ชว่ั โมงท่ี 3 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกนั คิดช่วยกนั เรยี น) - ข้ันนาเขา้ ส่บู ทเรียน/ขั้นต้งั คาถาม 1. ครใู ห้นกั เรียนดูภาพการกระทาทไี่ ม่เหมาะสมของเยาวชน เชน่ เล่นการพนัน เท่ยี วสถานบนั เทิง เสพสารเสพติด ฯลฯ แลว้ ร่วมกันอภปิ รายถึงสาเหตุ-ผลของการกระทา รวมทง้ั การมีสว่ นร่วมของ องค์กรทางสังคมต่างๆ ในการขัดเกลา เพ่ือให้เยาวชนไดป้ รับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เหมาะสม - ขนั้ สอน 1. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่าจะมกี จิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้เทคนคิ หมวกหกใบ และอธิบายถึง ลกั ษณะพืน้ ฐานของหมวกหกใบ ครชู ี้แจงบทบาท หนา้ ที่ ข้ันตอน กติกาการอภปิ รายให้นกั เรยี นเขา้ ใจ 2. ครูอธิบายรายละเอียดของประเด็นที่จะอภปิ รายเก่ียวกับการขดั เกลาทางสงั คม 3. ครอู ธิบายขนั้ การสาธิตการใช้หมวกหกใบ ดงั นี้ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 1) ครูขออาสาสมัครนักเรียน 6 คน สาธิตวธิ ีการใชห้ มวกหกใบตามสีของหมวก พร้อมอธิบาย แนะนาตัวอย่างเพ่ือสร้างความเข้าใจ 2) ครูสาธิตวธิ ีการใชห้ มวก ดงั น้ี (1) หมวกฟา้ เรมิ่ ต้นดว้ ยการนาอภิปรายและเป็นผูส้ รปุ ภาพรวมขั้นตอนสุดทา้ ยดว้ ย (2) หมวกขาว เสนอข้อมูล ข้อเท็จจริง (เช่น เรอื่ งนไี้ ด้ข้อมูลมาดว้ ยวธิ ีใด) (3) หมวกแดง แสดงความรสู้ ึก อารมณ์ (เช่น ร้สู ึกอย่างไรกับเรอื่ งนี้) (4) หมวกดา บอกขอ้ บกพร่อง จุดออ่ น โทษหรือผลเสีย (เช่น เรือ่ งนี้จะเกดิ ผลเสยี อะไรบา้ ง) (5)หมวกเหลือง เสนอขอ้ คิดที่เป็นประโยชน์ (เชน่ เรื่องนมี้ ขี ้อดอี ย่างไร ทาอยา่ งไรจงึ จะเกดิ ประโยชน)์ (6) หมวกเขียว เสนอแนวทางพัฒนา หรอื ปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงต่อไป (เช่น มวี ธิ ีการใดทจี่ ะทาใหม้ ันดขี ้นึ ) 4. ข้นั การฝกึ ปฏิบตั ิ ครใู ห้นักเรียนรวมกลมุ่ กัน กลุม่ ละ 6 คน ศกึ ษาความร้เู รื่อง การขดั เกลาทาง สังคมจากหนงั สือเรียน และทาใบงานที่ 1.8 เรื่อง ข่าวปัญหาเดก็ และเยาวชนสมยั ใหม่ 5. ให้นักเรียนเลือกใช้หมวกคนละ 1 ใบ และเร่ิมต้นฝกึ ปฏิบตั แิ สดงข้อคดิ เสนอข้อดขี ้อเสีย และแนวทาง การแก้ไขพฒั นา ตามประเดน็ ในใบงาน - ข้นั สรปุ ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สรุปผลการอภปิ รายเกี่ยวกบั ปัญหาของเดก็ และเยาวชนสมัยใหม่ และการขัดเกลาทางสังคม และเสนอผลการอภิปรายตอ่ ชั้นเรยี น จากนน้ั ครูและนักเรยี นช่วยกันเสนอแนะเพ่มิ เติม 9. ส่อื การเรยี นการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ รายการส่ือ จานวน สภาพการใช้สือ่ 1. แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 1 ชดุ ขน้ั ตรวจสอบความรู้เดิม 2. ส่อื หนา้ ท่ีพลเมืองppt. 1 ชดุ ขั้นสรา้ งความสนใจ 3. กิจกรรมท่ี 1 การจัดระเบยี บทางสงั คม 1 ชุด ข้นั สร้างความสนใจ 3. หนังสอื เรียน 1 ชุด ขนั้ ขยายความรู้ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 10. การวัดผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วธิ วี ดั เคร่อื งมอื วัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน ใบงานที่ 1.1-1.8 เกณฑก์ ารให้คะแนน ตรวจใบงานท่ี เขียน องค์ประกอบ ใบงานที่ 1.1-1.8 1.1-1.8 -เขียนองค์ประกอบ และความสาคัญใน และความสาคัญในการ การอยรู่ ว่ มกนั เปน็ อยู่รว่ มกันเปน็ สังคมได้ สงั คมได้ ครบถ้วนได้ 4 : ดีมาก - เขยี นองค์ประกอบ และความสาคญั ในการ อยรู่ ่วมกันเปน็ สังคมได้ สว่ นมาก 3 : ดี -เขยี นองคป์ ระกอบ และความสาคัญในการ อย่รู ว่ มกันเป็นสังคมได้ บางสว่ น 2 : พอใช้ -เขยี นองค์ประกอบ และความสาคญั ในการ อย่รู ว่ มกนั เป็นสงั คม ไม่ได้เลย 1 : ปรับปรุง สามารถอธิบาย การสงั เกต แบบสังเกต แบบสังเกต - อธิบายโครงสรา้ งและ โครงสรา้ งและ การสงั เกต แบบสงั เกต แบบสังเกต ความสาคญั ของการจัด ความสาคัญของการ ระเบยี บทางสังคมได้ จดั ระเบียบทางสังคม ครบถว้ นได้ 4 : ดมี าก ได้ - อธิบายโครงสรา้ งและ ความสาคญั ของการจัด มีความสนใจ ใฝร่ ู้ มี ระเบยี บทางสังคมได้ ความรับผดิ ชอบต่อ งานทไี่ ด้รับ ส่วนมาก 3 : ดี - อธิบายโครงสรา้ งและ ความสาคัญของการจัด ระเบยี บทางสังคมได้ ครบถ้วนไดบ้ างส่วน 2 : พอใช้ - อธบิ ายโครงสรา้ งและ ความสาคัญของการจดั ระเบียบทางสงั คมไมไ่ ด้ เลย 1 : ปรบั ปรงุ - มคี วามสนใจ ใฝ่รู้ มี ความรบั ผิดชอบต่องาน ทีไ่ ด้รับมอบหมายตาม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 มอบหมายตามเวลา เวลาทก่ี าหนด 4: ดีมาก ที่กาหนด - มคี วามสนใจ ใฝร่ ู้ มี ความรับผิดชอบต่องาน ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ส่วนมากสง่ งานตาม เวลาที่กาหนด 3: ดี - มีความสนใจ ใฝ่รู้ มี ความรับผดิ ชอบต่องาน ท่ีไดร้ ับมอบหมายตาม เวลาที่กาหนดนอ้ ย 2: พอใช้ -ไมม่ คี วามสนใจใฝร่ ู้ไม่ มีความรบั ผิดชอบตอ่ งานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ตามเวลาทกี่ าหนด 1: ปรบั ปรุง 11. จุดเน้นของโรงเรียน การบรู ณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครู ผเู้ รียน 1. ความพอประมาณ พอดดี ้านเทคโนโลยี พอดดี า้ นจิตใจ 2. ความมีเหตุผล ร้จู ักใช้เทคโนโลยมี าผลติ ส่ือท่เี หมาะสม มีจิตสานกึ ทีด่ ี เอ้ืออาทร ประนีประนอม นึก และสอดคล้องเนอื้ หาเปน็ ประโยชน์ต่อ ถึงประโยชนส์ ่วนรวม/กลุ่ม ผู้เรยี นและพฒั นาจากภูมปิ ญั ญาของผู้เรียน ไมห่ ยดุ น่ิงทห่ี าหนทางในชีวิต หลดุ พน้ จาก - ยึดถือการประกอบอาชพี ด้วยความถกู ตอ้ ง ความทกุ ขย์ าก (การค้นหาคาตอบเพอ่ื ให้ สุจรติ แมจ้ ะตกอยูใ่ นภาวะขาดแคลน ใน หลดุ พ้นจากความไม่ร)ู้ การดารงชีวิต 3. มภี มู คิ มุ กันในตวั ทด่ี ี ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ ภูมิปัญญา : มีความรู้ รอบคอบ และ 4. เงอ่ื นไขความรู้ ระมดั ระวงั ระมดั ระวัง สร้างสรรค์ 5. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม ความรอบรู้ เรอื่ ง สังคมมนุษย์ ความรอบรู้ เร่อื ง สังคมมนษุ ย์ กรณที ี่ ท่ีเก่ียวข้องรอบดา้ น ความรอบคอบทจี่ ะนา เกดิ งาน ปรมิ าณทเ่ี กีย่ วข้อง สามารถนา กจิ กรรม ความรเู้ หลา่ น้นั มาพจิ ารณาให้เช่ือมโยงกัน ความรเู้ หลา่ นัน้ มาพจิ ารณาให้เชอื่ มโยงกัน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น เพื่อประกอบการวางแผน การดาเนนิ การจัด สามารถประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั หนว่ ยสังคมมนุษย์ กจิ กรรมการเรยี นรใู้ ห้กับผ้เู รยี น - รวบรวมฐานขอ้ มูลโรงเรียน มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มีความ มคี วามตระหนักใน คณุ ธรรม มคี วาม ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมีความอดทน มคี วามเพยี ร ใชส้ ติปญั ญาในการดาเนินชีวิต ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนินชวี ติ ครู ผู้เรียน หนว่ ยสังคมมนุษย์ หนว่ ยสงั คมมนุษย์ - ลงมือปฏบิ ตั ิขอ้ มลู พนั ธุ์พชื ในโรงเรียน - รวบรวมพนั ธพุ์ ชื ในโรงเรยี น ส่ิงแวดล้อม ครู ผ้เู รยี น หน่วยสังคมมนุษย์ หน่วยสงั คมมนษุ ย์ หนว่ ยสังคมมนุษย์ การเลอื กใชแ้ ละรวบรวมพันธพ์ุ ืชใน กระบวนการรวบรวมพันธพ์ ชื ในโรงเรียน เสนอแนะการรวบรวมพนั ธุพ์ ืชในโรงเรยี น โรงเรยี น ลงชือ่ ..................................................ผู้สอน ( นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว ) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง สถาบันครอบครัว คาชี้แจง ใหส้ มาชิกหมายเลข 1 ศกึ ษาความรู้ เรื่อง สถาบันครอบครวั จากหนงั สอื เรยี น และรว่ มกันอภิปราย ตามหวั ข้อทกี่ าหนดให้ 1. จงอธิบายความสาคัญของสถาบันครอบครัว 2. สมาชิกของสถาบนั มบี ทบาทสาคัญต่อการพฒั นาประเทศอย่างไร ใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง สถาบันเศรษฐกจิ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 คาช้แี จง ใหส้ มาชกิ หมายเลข 2 ศึกษาความรู้ เรอื่ ง สถาบันเศรษฐกิจ จากหนงั สือเรยี น และร่วมกันอภปิ ราย ตามหวั ข้อทกี่ าหนดให้ 1. จงอธิบายความสาคญั ของสถาบนั เศรษฐกิจ 2. สมาชกิ ของสถาบนั มีบทบาทสาคญั ตอ่ การพฒั นาประเทศอยา่ งไร ใบงานที่ 1.3 เร่ือง สถาบนั การเมืองการปกครอง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 คาชีแ้ จง ใหส้ มาชิกหมายเลข 3 ศึกษาความรู้ เรอ่ื ง สถาบนั การเมืองการปกครอง จากหนงั สอื เรยี น และร่วมกันอภิปรายตามหัวข้อทก่ี าหนดให้ 1. จงอธิบายความสาคญั ของสถาบนั การเมืองการปกครอง 2. สมาชกิ ของสถาบนั มีบทบาทสาคญั ตอ่ การพฒั นาประเทศอยา่ งไร ใบงานท่ี 1.4 เร่อื ง สถาบันการศึกษา คาช้ีแจง ให้สมาชกิ หมายเลข 4 ศึกษาความรู้ เร่อื ง สถาบันการศึกษา จากหนงั สือเรียน และรว่ มกัน โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 อภิปรายตามหวั ขอ้ ที่กาหนดให้ 1. จงอธิบายความสาคญั ของสถาบนั การศกึ ษา 2. สมาชกิ ของสถาบนั มีบทบาทสาคญั ตอ่ การพฒั นาประเทศอยา่ งไร ใบงานท่ี 1.5 เร่ือง สถาบนั ศาสนา โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 คาช้แี จง ใหส้ มาชิกหมายเลข 5 ศกึ ษาความรู้ เร่อื ง สถาบนั ศาสนา จากหนงั สอื เรียน และรว่ มกนั อภปิ รายตามหัวขอ้ ที่กาหนดให้ 1. จงอธิบายความสาคญั ของสถาบนั ศาสนา 2. สมาชกิ ของสถาบนั มีบทบาทสาคญั ตอ่ การพฒั นาประเทศอยา่ งไร ใบงานท่ี 1.6 เรื่อง สถาบนั นนั ทนาการ คาช้ีแจง ให้สมาชิกหมายเลข 6 ศกึ ษาความรู้ เรื่อง สถาบันนนั ทนาการ จากหนังสอื เรียน และร่วมกนั อภปิ รายตามหัวขอ้ ทก่ี าหนดให้ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 1. จงอธิบายความสาคญั ของสถาบนั นนั ทนาการ 2. สมาชิกของสถาบนั มีบทบาทสาคญั ตอ่ การพฒั นาประเทศอยา่ งไร ใบงานที่ 1.7 เรื่อง การปฏิบัตติ นเพือ่ เปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของสถาบนั ทางสังคม คาชแ้ี จง สมาชิกแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั คดิ แนวทางการปฏิบตั ิตนทีแ่ สดงถงึ การเปน็ สมาชิกท่ดี ีของสถาบันทางสังคม โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 สมาชิกแตล่ ะคนปฏิบตั ติ นตามขอ้ กาหนดของกล่มุ เปน็ เวลา 2-3 สปั ดาห์ หรือตามความเหมาะสม ตวั อยา่ งพฤตกิ รรมท่ีกลมุ่ ร่วมกนั กาหนด เชน่ 1. 2. 3. 4. ประเมินผลกำรปฏิบัติ พ5ฤ. ตกิ รรมท่กี ำหนด ลำดับท่ี พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติ ลงช่ือผู้รับรอง ดี พอ ปรับ ใช้ ปรุง มำก ดี ลงช่ือ ผ้รู ายงาน (หมายเหตุ พิจารณาตามการปฏิบตั ิของนกั เรียน ใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน) ใบงานที่ 1.8 เรอื่ ง ข่าวปัญหาเดก็ และเยาวชนสมัยใหม่ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนอา่ นขา่ วดงั ตอ่ ไปนี ้แล้ววเิ คราะห์ตามประเดน็ คาถามที่กาหนดให้ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 นายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ปัจจบุ นั สภาพปัญหาเกิดขนึ ้ ในเดก็ และเยาวชนมีแนวโน้มสงู ขนึ ้ อยา่ งมาก ปัญหาท่ีพบมากได้แก่ 1. ปัญหายาเสพติด พบว่าเด็ก เยาวชนมีแนวโน้มติดสารเสพติดเพ่ิมขึน้ ผ้ทู าผิดกฎหมายมีอายุน้อยลง มี พฤติกรรมการสบู บุหร่ี ตงั้ แต่อายุ 15 ปี ส่วนความผิดเกี่ยวกับสารเสพติด 3 ลาดบั แรกได้แก่ แอมแฟตามีน สาร ระเหยและกญั ชา 2. ปัญหาการติดเกม ในเด็กและเยาวชนมีแนวโน้มสูงขึน้ เด็กใช้อินเทอร์เน็ตเพ่ือการบนั เทิงมากกว่า การศึกษา โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 10-14 ปี ชอบเล่นเกมออนไลน์มากที่สดุ และเล่นตลอดวนั จนเสียสุขภาพ เกิด ปัญหาการเก็บกด อารมณ์ฉุนเฉียว พฤติกรรมก้าวร้าวหรือใช้ความรุนแรงในการตดั สินแก้ไขปัญหา บางรายนดั พบ เพ่ือซือ้ ขายอาวุธท่ีใช้ต่อส้กู ันในเกมหรือแลกของรางวลั กนั จนเป็นเหตนุ าไปส่กู ารทาร้ายร่างกายทะเลาะวิวาทกัน และเกิดคดีอาชญากรรมตา่ งๆ ท่ีปรากฏเป็นขา่ ว 3. ปัญหาการมีเพศสมั พนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร พบวา่ วยั รุ่นไทยมีคา่ นยิ มการมีเพศสมั พนั ธ์ตงั้ แตอ่ ายุ ยงั น้อย มีแนวโน้มตงั้ ครรภ์กอ่ นวยั อนั สมควร คือ อายตุ า่ กวา่ 20 ปี โดยไมไ่ ด้คดิ วางแผนและนาไปสปู่ ัญหาการทา แท้ง ปัญหาการตดิ เชือ้ เอดส์ในกลมุ่ วยั รุ่นเพิ่มมากขนึ ้ 4. ปัญหาการมวั่ สมุ ของเยาวชนในหอพกั เป็นปัญหาท่ีเพ่ิมขึน้ ทกุ วนั เพราะวยั รุ่นส่วนใหญ่ท่ีมาเช่าหอพกั อย่รู วมกนั มีความเป็นอิสระ ไม่มีผ้ปู กครองดแู ล ทาให้หลายคนประพฤติตนไมเ่ หมาะสม มีการมว่ั สมุ กนั เลน่ การ พนนั เสพยาเสพตดิ และจบั คอู่ ยรู่ ่วมกนั ระหวา่ งหญิง-ชาย ปัญหาตา่ ง ๆ จาเป็นต้องได้รับความร่วมมือในการปอ้ งกนั แก้ไขจากทกุ ภาคสว่ น ที่มา : http://www.m-society.go.th/news_detail.php?newsid=2663 ประเดน็ คำถำม 1. ปัญหาท่ีเดก็ และเยาวชนมีพฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม มีปัญหาใดบ้าง โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 2. ผลของการกระทาเป็นอย่างไร 3. ปัญหาเหลา่ นี ้สง่ ผลกระทบตอ่ สงั คมอย่างไร 4. แนวทางในการแก้ไขปัญหา ควรปฏิบตั อิ ยา่ งไร แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ช่อื – สกลุ ความรว่ มมอื การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ การร่วม รวม ลาดับ ความคดิ เหน็ ความคิดเหน็ ทางาน ปรับปรุง 20 ผลงานกล่มุ ท่ี ของผรู้ บั การ ประเมิน 43214321432143214321 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน ดีมาก = 4 ............../.................../................ ดี = 3 พอใช้ = 2 หมายเหตุ ครอู าจใช้วธิ ีการมอบหมายให้หวั หน้ากลุ่ม ปรบั ปรงุ = 1 เปน็ ผู้ประเมิน หรอื ให้ตัวแทนกล่มุ ผลัดกันประเมิน หรอื ใหม้ ีการประเมินโดยเพื่อน โดยตัวนกั เรียนเอง เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ตามความเหมาะสมก็ได้ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ แผนการจัดการเรยี นรู้ท2่ี 17 – 20 ดมี าก 13 – 16 ดี โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 9 – 12 พอใช้ 5–8 ปรบั ปรงุ

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เรือ่ ง สังคมมนุษย์ แผนจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง การเปล่ยี นแปลงทางสังคม การแกป้ ัญหา และแนวทางการพฒั นาสงั คม รายวิชา หนา้ ทพี่ ลเมืองฯ รหสั วชิ า ส 31101 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนักเวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ช่วั โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 2 ชัว่ โมง ................................................................................................................. ......................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจท่คี งทน) สังคมไทยมกี ารเปลย่ี นแปลงไปตามกระแสโลกาภิวตั น์ ซงึ่ มผี ลท้ังทางบวกและทางลบซง่ึ ผลกระทบทางลบ อาจก่อใหเ้ กิดปญั หาสงั คมตามมา ดงั นั้นประชาชนทุกคนตอ้ งร่วมกนั แกไ้ ขและช่วยกันสร้างแนวทางในการพฒั นาสงั คม เพือ่ สร้างรากฐานทางสงั คมท่ีเข้มแขง็ 2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วดั ชน้ั ป/ี ผลการเรยี นร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยู่รว่ มกันในสงั คมไทยและสงั คมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ ตัวช้ีวดั ม.4-6/2 วเิ คราะห์ความสาคัญของโครงสร้างทางสงั คม การขัดเกลาทางสงั คมและการเปลี่ยนแปลงทาง สังคม 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนื้อหาสาระหลัก : Knowledge (นกั เรียนตอ้ งรู้อะไร) นกั เรียนสามารถเขยี นสาเหตุของการเปลยี่ นแปลงทางสังคม 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรยี นสามารถปฏิบตั อิ ะไรได)้ นกั เรยี นสามารถอธิบายสาเหตปุ ัญหาสงั คมไทย และแนวทางการพัฒนาสังคมได้ 3.3 คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude (นักเรียนควรแสดงพฤติกรรมการเรยี นอะไรบ้าง) นักเรยี นมคี วามสนใจ ใฝร่ ู้ มีความรบั ผิดชอบต่องานท่ีไดร้ บั มอบหมายตามเวลาท่ีกาหนด 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.1 ความสามารถในการส่ือสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. คุณลักษณะของวชิ า - ความรับผิดชอบ - กระบวนการรายบุคคล /กลุ่ม 6. คุณลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งม่ันในการทางาน 7. ช้นิ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคล้อง กบั ตัวชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรยี นรู้นี้ ) - ใบกจิ กรรมที่ 1 เร่ือง การเปลย่ี นแปลงในสงั คม โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 - ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง สงั คมยุคโลกาภิวตั น์ ภาระงาน – ให้นกั เรยี นศึกษาความรู้ จากหนังสอื เรยี น 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ใชเ้ วลา 2 ชั่วโมง ชวั่ โมงที่ 1 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรยี นรู้ / เทคนิคการสบื ค้น) - ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น/ขั้นตั้งคาถาม 1.ให้นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ภาพการเดนิ ทางของคนไทยในอดตี และสนทนาซักถามในประเด็นดงั ต่อไปน้ี 1) ในอดีตคนไทยเดินทางโดยเรือแจว เกวียน สตั ว์พาหนะ ปัจจบุ นั คนไทยเดินทางโดยพาหนะใดบ้าง ผลของการเปล่ียนแปลงวิธเี ดนิ ทางมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร 2) สาเหตทุ ่ที าให้สังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปจากอดตี มีอะไรบ้าง และส่งผลตอ่ การพฒั นาอย่างไร 2. ครูและนักเรยี นชว่ ยกนั สรุปความหมายและลักษณะการเปลยี่ นแปลงทางสงั คม - ข้ันสอน 1. ให้นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5-7 คน ตามความสมคั รใจหรือคละกนั ตามความสามารถ เพ่อื ศึกษาความรู้ เร่ือง การเปลยี่ นแปลงในสังคม จากหนังสอื เรียน และทาใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง สังคมยุคโลกาภวิ ัตน์ โดยให้แต่ละกลุม่ กาหนดภาระหนา้ ท่ีของสมาชิกในกลุ่ม ดงั น้ี - หัวหน้ากลุ่ม มีหนา้ ทีน่ าทางความคดิ เสนอความคดิ ประสานความคิด กระตุน้ ให้สมาชิกคดิ และแบ่งหน้าท่ี ในการทาใบงาน - สมาชกิ กลมุ่ รบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 2 คน ตอ่ 1 หัวข้อ - เลขานุการกลมุ่ มหี นา้ ทป่ี ระสานงานการดาเนินงาน และรวบรวมผลงาน 2. ใหส้ มาชิกแต่ละกล่มุ ระดมพลังสมอง วางแผนการทางานและแบ่งหน้าทคี่ วามรบั ผดิ ชอบตามหัวข้อในใบงาน กาหนดเวลาการทากิจกรรมให้เสรจ็ ตามความเหมาะสม 3. หัวหน้ากลุ่มและสมาชกิ ในกลุม่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบและประเมนิ ผลการดาเนินงาน และนามาวเิ คราะห์รว่ มกนั ตามหวั ขอ้ ที่กาหนดใหใ้ นใบงาน เมื่อประเมนิ ผลงานเสร็จแล้ว ถ้าหากมขี ้อมลู ไม่เพียงพอ ใหแ้ บง่ หนา้ ที่กนั ไปคน้ คว้า ขอ้ มลู เพ่ิมเติม เพื่อใหง้ านเสร็จตามเวลาที่กาหนด 4. สมาชกิ กลุม่ นาผลงานทีเ่ สร็จแล้วมาพิจารณาประเมนิ ผลในภาพรวม ปรับปรงุ แก้ไขให้สมบูรณ์ ตามความ เหมาะสม แลว้ ส่งตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงานตอ่ ชั้นเรียน - ขั้นสรุป ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรุปบทเรียน และเพิ่มเตมิ ในประเด็นสาคัญ ครชู ่นื ชมผลงานนกั เรียน ชัว่ โมงท่ี 2 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกันคิดชว่ ยกนั เรยี น) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 - ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น/ขัน้ ต้ังคาถาม 1. ครูทบทวนความรู้เดมิ เก่ยี วกบั ผลเสียที่เกดิ จากการเปล่ียนแปลงในสังคม ทาให้เกิดปัญหาสงั คมตามมา และให้นักเรียนชว่ ยกนั อภปิ รายปญั หาของสังคมไทยท่กี าลังประสบอยู่ โดยเขยี นช่ือปัญหาบนกระดาน - ข้นั สอน 1. ให้นักเรียนแบง่ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-7 คน ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ศึกษาคน้ ควา้ เรือ่ ง ปัญหาสังคมไทยและแนว ทางการแก้ไขปัญหา จากหนงั สือเรยี น และทาใบงานท่ี 2.2 เรื่อง ปัญหาสงั คมไทย โดยให้นักเรียนร่วมกันคิดว่า เรื่อง ใดบา้ งท่ีเปน็ ปัญหาสงั คมอยใู่ นขณะนั้น จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มร่วมกันตัดสนิ ใจ เลือกปัญหาสาคญั 1 ปัญหา ทีส่ มาชิกใน กลุม่ คิดว่าสามารถมสี ่วนรว่ มในการป้องกนั แกไ้ ขปญั หาได้ แลว้ ชว่ ยกนั วิเคราะห์และตอบคาถามตามหวั ข้อในใบงาน 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานท่ีหน้าชั้นเรียน แลว้ ช่วยกันสรุปประเดน็ ปัญหาสาคัญท่ีตอ้ ง ร่วมมอื กันแก้ไขอย่างเร่งด่วน 3. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ชว่ ยกันทาแผนผังความคดิ เร่ือง สังคมมนุษย์ โดยวิเคราะห์ลักษณะสงั คม มนุษยใ์ ห้ครอบคลุมหวั ข้อ ต่อไปน้ี 1) ความสาคญั ของการอยรู่ ่วมกันเปน็ สงั คม 2) โครงสรา้ งทางสงั คม 3) การขดั เกลาทางสังคม 4) การเปลย่ี นแปลงในสงั คม - ขน้ั สรปุ ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรจู้ ากการแลกเปลีย่ นเรียนรซู้ ึ่งกนั และกนั แลว้ บนั ทึกข้อสรุปลงในสมดุ 9. สอ่ื การเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้ รายการส่ือ จานวน สภาพการใช้ส่อื 1. ส่ือหน้าท่พี ลเมืองppt. 1 ชุด ขัน้ สรา้ งความสนใจ 2. กจิ กรรมท่ี 2 การเปลี่ยนแปลงสงั คม 1 ชุด ข้ันสร้างความสนใจ 3. หนงั สือเรยี น 1 ชุด ขั้นขยายความรู้ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรยี นรู้ วิธีวัด เครอ่ื งมอื วัดฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑก์ ารให้คะแนน โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 สามารถเขียนสาเหตุ ใบงานท่ี 2.1 ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ของการเปลยี่ นแปลง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ทางสังคม แบบประเมนิ แผนผัง ตรวจแบบประเมิน แบบประเมนิ แผนผัง รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สามารถอธบิ ายสาเหตุ ความคิด แผนผงั ความคิด ความคดิ ปญั หาสงั คมไทย และ แนวทางการพัฒนา การสังเกต แบบสงั เกต แบบสงั เกต สงั คมได้ มีความสนใจ ใฝร่ ู้ มี ความรับผดิ ชอบต่องาน ทไ่ี ด้รบั มอบหมายตาม เวลาทกี่ าหนด 11. จุดเน้นของโรงเรยี น การบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งและกิจกรรมสวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผูเ้ รยี น 1. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดดี ้านจิตใจ 2. ความมีเหตุผล รู้จักใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตสื่อทเ่ี หมาะสม มจี ิตสานึกท่ีดี เอ้ืออาทร ประนีประนอม นกึ และสอดคลอ้ งเน้อื หาเปน็ ประโยชน์ตอ่ ถงึ ประโยชน์สว่ นรวม/กลมุ่ ผเู้ รยี นและพัฒนาจากภมู ิปญั ญาของผู้เรยี น ไม่หยดุ น่งิ ที่หาหนทางในชวี ติ หลดุ พน้ จาก - ยดึ ถอื การประกอบอาชีพดว้ ยความถูกต้อง ความทกุ ข์ยาก (การค้นหาคาตอบเพือ่ ให้ สจุ รติ แมจ้ ะตกอยูใ่ นภาวะขาดแคลน ใน หลดุ พ้นจากความไมร่ ู้) การดารงชีวิต 3. มีภูมคิ มุ กนั ในตวั ทดี่ ี ภมู ิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภมู ปิ ญั ญา : มีความรู้ รอบคอบ และ 4. เง่ือนไขความรู้ ระมัดระวงั ระมดั ระวัง สร้างสรรค์ 5. เงอื่ นไขคณุ ธรรม ความรอบรู้ เรื่อง การเปลย่ี นแปลง ความรอบรู้ เร่อื ง การเปลยี่ นแปลงทาง ทางสงั คม ทเี่ กยี่ วข้องรอบดา้ น ความ สงั คม กรณที ี่เกดิ งาน ปริมาณท่เี กย่ี วข้อง รอบคอบท่ีจะนาความรเู้ หล่านั้นมาพจิ ารณา สามารถนาความรู้เหลา่ นน้ั มาพิจารณาให้ ให้เชื่อมโยงกนั เพ่ือประกอบการวางแผน เช่ือมโยงกนั สามารถประยกุ ตใ์ ช้ใน การดาเนินการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ใู ห้กับ ชวี ติ ประจาวัน ผเู้ รยี น มีความตระหนกั ใน คุณธรรม มีความ มีความตระหนักใน คณุ ธรรม มคี วาม ซอื่ สตั ยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ซอื่ สัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพยี ร ใช้สตปิ ญั ญาในการดาเนนิ ชีวิต ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชวี ติ กิจกรรม ครู ผู้เรียน สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยสงั คมมนุษย์ หน่วยสงั คมมนุษย์ หนว่ ยสงั คมมนษุ ย์ - รวบรวมฐานข้อมูลโรงเรียน - ลงมือปฏบิ ัตขิ ้อมลู พนั ธพ์ุ ืชในโรงเรียน - รวบรวมพันธพ์ุ ชื ในโรงเรียน ส่ิงแวดล้อม ครู ผู้เรยี น หนว่ ยสังคมมนุษย์ หนว่ ยสังคมมนษุ ย์ หน่วยสังคมมนุษย์ การเลือกใชแ้ ละรวบรวมพันธพุ์ ืชใน กระบวนการรวบรวมพนั ธพ์ ืชในโรงเรยี น เสนอแนะการรวบรวมพันธ์พุ ืชในโรงเรียน โรงเรียน ลงชื่อ..................................................ผสู้ อน ( นางณภิ าทิพย์ มูลแกว้ ) แบบประเมนิ แผนผงั ความคิด เร่อื ง สังคมมนุษย์ กลุม่ ท่ี.................................................. สมาชกิ ของกลุ่ม 1............................................ 2. .............................................................................. โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 3............................................. 4. .............................................................................. 5............................................. 6. .............................................................................. ลาดับ รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน ท่ี 4321 1 ความสาคัญของการอยรู่ ่วมกันเป็นสังคม รวม 2 โครงสรา้ งทางสังคม 3 การขัดเกลาทางสังคม 4 การเปลยี่ นแปลงในสงั คม ลงช่ือ..............................................................................ผปู้ ระเมิน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีมาก = 4 ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรับปรุง = 1 เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 13-16 ดีมาก 9-12 ดี 5-8 พอใช้ 1-4 ปรับปรุง ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง สงั คมยุคโลกาภวิ ัตน์ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 คาส่ัง ใหน้ กั เรยี นอา่ น เรื่อง สังคมยุคโลกาภวิ ัตน์ แล้ววิเคราะหต์ ามหัวข้อต่อไปนี้ 1. สาเหตขุ องการเปล่ยี นแปลงของสงั คมไทย มเี ร่ืองใดบ้างประมาณ 5-6 เรือ่ ง และนาขอ้ ความ มาเขียนลงในตารางวเิ คราะห์ ขอ้ 1 2. วิเคราะห์ประเภทของการเปล่ยี นแปลงในสังคมโดยขีดเครอ่ื งหมาย  ลงในตารางวิเคราะห์ ข้อ 2 3. บอกผลดแี ละผลเสีย ของการเปลี่ยนแปลงในสงั คมโดยเขยี นตอบในตารางวิเคราะห์ ข้อ 3, 4 4. บอกปจั จยั ท่ีทาใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงในสงั คมโดยขีดเครอ่ื งหมาย  ลงในตารางวิเคราะห์ ข้อ 5 ปจั จุบันสงั คมไทยอยู่ทา่ มกลางกระบวนการโลกาภิวัตน์ (Globalization) หรือ โลกไร้พรมแดน ซง่ึ เช่ือมโยงส่วนต่างๆ ของโลกเขา้ เป็นอันหนึ่งอนั เดียวกนั ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยกี ารสอื่ สาร และสารสนเทศ ทรัพยากรของประเทศดเู หมอื นจะเหมาะกบั การเกษตรกรรมมากกว่าอตุ สาหกรรมส่งออก การผลติ สินคา้ เนน้ ความจาเปน็ มากกว่าสินค้าฟ่มุ เฟอื ย ส่วนนโยบายการพฒั นาประเทศของรฐั บาลทกุ ชุดก็จะเนน้ การเตบิ โต เน้นผลกาไร สงู สดุ ตามระบบการผลติ เหมือนประเทศพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ NICS (Newly Industrialized Countries) ซึง่ เท่ากับ ผลักดนั ใหเ้ กิดการเอารัดเอาเปรียบ เกดิ ชอ่ งว่างระหว่างคนรวยคนจนสภาพแวดลอ้ ม ค่านิยมทเ่ี นน้ ความม่ังคง่ั และเสพ สุขทางวัตถุ ทาให้คนฉ้อฉลในทุกวงการ พรอ้ มทีจ่ ะทาทุกอยา่ งเพ่ือเงนิ อานาจ ไม่มจี รรยาบรรณ ไม่มีมโนธรรม อทิ ธพิ ลของโทรทัศน์ วทิ ยุ คอมพวิ เตอร์ และสอื่ มวลชนเข้ามามีอิทธิพลต่อวิถีชวี ิตประจาวนั พวกเด็กจะถูก สภาพแวดล้อมเหลา่ น้กี ล่อมเวลาใหเ้ ขาต้องแก่งแย่ง แขง่ ขัน ชิงดชี งิ เด่น มีของดยี ี่ห้อดัง แตง่ กายแฟช่ันแปลกๆ ทาสีผม บริโภคอาหารจานเดียว (Fast Food) ใช้เวลาว่างเดนิ ตามห้างสรรพสนิ ค้า ฯลฯ สภาพเหล่านี้จะนาพาเดก็ รนุ่ ใหม่ไปสู่ การเอาแตใ่ จ มงุ่ หาความเฉพาะตัว เหน็ แก่ตัวไม่แครผ์ ู้คนรอบข้าง ใช้ชวี ิตรว่ มกบั ผู้อื่นไมเ่ ป็น และเป็นคนแขง็ กระดา้ ง ในดา้ นสิทธิสตรไี ทย มโี อกาสทดั เทียมชายมากข้ึน องค์การสหประชาชาติ กาหนดใหว้ ันที่ 8 มนี าคม เปน็ วันระลกึ สตรี สากล ประเทศไทยได้วางแผนในการพฒั นาสตรีต้งั แต่ปี 2524 สนบั สนนุ ใหส้ ตรเี ขา้ มามบี ทบาทพฒั นาเศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรมของสงั คมและนานาชาติ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 การเปลยี่ นแปลงท่นี ่าสนใจขณะนี้ได้แก่ความเปน็ สากลของภาษาองั กฤษ ซ่งึ เปน็ ภาษาหลกั (Mother Language) ใช้กันทว่ั โลก ในประเทศไทยผ่านธุรกจิ ป้ายช่อื รา้ น อาคาร สว่ นใหญก่ ็เขยี นเปน็ ภาษาอังกฤษ แมแ้ ต่ดารา นกั แสดง กไ็ ดน้ าเสนอดาราลูกคร่ึงเปน็ ตวั หลัก การเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ เราจะมองเห็นว่าก้าวหน้าเด่นชัด การขยายตวั ของประชากรของเมอื ง และการ สอ่ื สารและเทคโนโลยีกเ็ หมือนกัน แตผ่ ลร้ายท่ตี ามมา คือ สภาพแวดลอ้ มที่ดีงามถกู ทาลาย มีการตัดไม้ทาลายป่า สัตว์ พืช แหลง่ น้า แร่ธาตถุ ูกทาลายมากขึ้น การใช้รถยนต์ใช้พลังงาน ใช้ตูเ้ ยน็ แอร์ สเปรย์ จะมีการปลอ่ ยสารพิษไปทาลาย โอโซนมากข้ึน คุณภาพชีวติ ลดลงมากกวา่ จะทาให้ชีวิตมคี วามสขุ ขึน้ ยงิ่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวมากกย็ งิ่ มีโสเภณี มี โรคเอดสม์ ากตามมา พฤติกรรมทางวฒั นธรรม สงั คม ประเพณี ศีลธรรม จริยธรรม แม้แต่ภาษาซงึ่ ล้วนเป็นเอกลกั ษณข์ องชาติ เรา ตอ้ งดแู ลไม่ใหส้ ญู สลายไป การดารงชีวิตของคนเป็นสง่ิ ทด่ี งี าม อปุ ถัมภ์เกอ้ื กูลกัน มีจิตใจดมี คี วามออ่ นโยนอ่อนน้อม และมชี ีวิตท่เี รยี บง่าย ซง่ึ หาได้ยากในสงั คมขนึ้ การเปลย่ี นแปลงทีเ่ กิดขน้ึ เราไม่อาจตา้ นกระแสโลกได้ และการเปล่ยี นแปลงก็ไมใ่ ช่ส่ือเลวรา้ ยเสมอไป เราคง ขวางกระแสใหญข่ องโลกาภิวัตน์ทัง้ หมดไมไ่ ด้ ในแงด่ ผี ลกระทบจากโลกาภวิ ตั นใ์ ห้ประโยชน์ต่อคนไทยเปน็ ความทนั สมัย ไม่โงเ่ ขลา ลา้ หลัง เมืองไทยนับจาก ค.ศ.2000 เราจะก้าวส่สู หัสวรรษใหม่ทม่ี กี ารแขง่ ขนั กันสงู เกิดปญั หาหลายประการ ตามมา ขณะเดียวกนั เราก็ต้องชว่ ยกันประคบั ประคองใหแ้ ก้ปัญหาตา่ งๆ ตลอดจนกาหนดแนวทางบารงุ รักษาดุลยภาพ แหง่ ชีวิตของคนไทยให้ดารงความเปน็ ไทยในสงั คมยุคโลกาภิวัตนใ์ หไ้ ด้ 1. สาเหตุของการ 2. ประเภทของการ 3. ผลดขี องการ 4. ผลเสยี ของ 5. ปจั จัยท่ีทาใหเ้ กิดการ เปลย่ี นแปลง เปลยี่ นแปลง เปล่ียนแปลง การเปลีย่ นแปลง เปลี่ยนแปลง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 สังคม วฒั นธรรม ภายใน ภายนอก ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง ปัญหาสังคมไทย คาชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั คิดวา่ เร่อื งใดบ้างท่เี ปน็ ปัญหาสงั คมอยู่ในขณะน้นั แล้วเลือกปัญหาสาคัญ 1 ปญั หา มาวิเคราะห์และตอบคาถามตามหวั ข้อทก่ี าหนด โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ลาดับที่ ปัญหาสังคม ผลเสยี ตอ่ สงั คม วิธกี ารแกไ้ ข 1. ปัญหาท่ีสง่ ผลกระทบทาให้เกิดความเสยี หายตอ่ สงั คมมากทสี่ ดุ คอื 2. กลมุ่ นกั เรยี นมีความสนใจในการมสี ่วนรว่ มปอ้ งกนั แก้ไขปญั หาไดโ้ ดยการจัดทาโครงงานเร่ือง 3. แนวทางการพัฒนาสงั คมตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ท่กี ลมุ่ นักเรียนนามาปรับใช้ ในการทาโครงงานได้แกเ่ ร่ืองใด แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ลำดับ ช่ือ – สกุล ควำมร่ วมมอื กำรแสดง กำรรับฟัง กำรตงั้ ใจ กำรร่ วม รวม ท่ี ของผ้รู ับกำร ควำมคดิ เหน็ ควำมคดิ เหน็ ทำงำน ปรับปรุง ผลงำนกลุ่ม 20 คะแนน โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 43214321432143214321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ดมี าก = 4 ............../.................../................ ดี = 3 พอใช้ = 2 ปรับปรุง = 1 เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ หมายเหตุ ครูอาจใช้วธิ ีการมอบหมายใหห้ วั หน้ากลุม่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ เปน็ ผู้ประเมนิ หรอื ให้ตัวแทนกล่มุ ผลัดกนั ประเมิน หรือให้มีการประเมินโดยเพอื่ น โดยตวั นกั เรยี นเอง 17 – 20 ดีมาก ตามความเหมาะสมก็ได้ 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ แบบประเมินข้อสอบ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 5–8 ปรับปรุง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ า หน้าท่ีพลเมือง วฒั นะรรมและการดาเนินชีวติ ในสงั คม รหัสวิชา ส 31101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 คาชีแ้ จง ให้ผปู้ ระเมินทาเคร่ืองหมาย ลงช่องว่างตามหัวขอ้ ต่างๆ ต่อไปน้ี ตามความคดิ เหน็ ท่ีตรงความจรงิ มากท่สี ุด โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชวี ิตอยรู่ ว่ มกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างสนั ตสิ ุข ตัวชีว้ ัด ม.4 6/2 วิเคราะห์ความสาคัญของโครงสรา้ งทางสงั คม การขัดเกลาทางสังคม และการเปลี่ยนแปลง ทางสังคม ข้อท่ี 1 คาถาม การกระทาใดถอื วา่ เปน็ การขดั เกลาทางสงั คมโดยทางอ้อม (การวิเคราะห์) ก. ดวงจิตรนาวฒั นธรรมตะวนั ตกเข้ามา ข. คุณยายสอนให้สวยรู้จกั ทาความเคารพผูใ้ หญ่ ค. คณุ ครูให้นักเรยี นทางานเป็นกลุ่มเพ่อื ฝึกความเป็นประชาธปิ ไตย ง. ดวงใจและเพื่อนสามารถรอ้ งเพลงตามจงั หวะที่ฟงั จากวิทยุได้ถูกต้อง จ. ในขณะรบั ประทานอาหารรว่ มกัน คณุ แม่จะบอกให้เคี้ยวอาหารหมดปากกอ่ นท่ีจะพดู ข้อที่ 2 คาถาม ข้อใดอธิบายลกั ษณะของสังคมไทยได้ถูกตอ้ งท่ีสุด (การนาไปใช้) ก. โทรศพั ท์มือถอื ทาให้ภาษาไทยวิบัติมากข้ึน ข. ศนู ยร์ วมจิตใจของคนไทยคอื สถาบันพระมหากษตั ริย์ ค. เปน็ สงั คมท่ีมกี ารเปลย่ี นแปลงแบบคอ่ ยเป็นค่อยไป ง. ภาพยนตรเ์ กาหลมี ีอิทธพิ ลต่อการดาเนินชวี ิตของคนปัจจบุ ันมากขึน้ จ. กฎระเบยี บและกติกาของกลุ่มคนทม่ี ีการเปล่ยี นแปลงตลอดเวลา รายการประเมิน ใช่ ไมใ่ ช่ ควรแก้ไข 1. เน้อื หาในแบบทดสอบ มีความสอดคล้องตรงตามตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้  2. ความชัดเจนของคาถาม (โจทย์) ใชภ้ าษาในการตัง้ คาถาม เหมาะสม ชัดเจนไม่คลุมเครอื  3. ขอ้ สอบมกี ารวัด ตรงตามตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ (ระบทุ า้ ยข้อสอบ)  4. ข้อสอบมกี ารวัดระดับพฤติกรรม ตรงตามตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ (ระบุพฤติกรรมท่ที ้ายข้อสอบ )  5. รูปภาพ/สถานการณ์ตรงตามตวั ชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้  โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 6. รปู ภาพ/สถานการณ์ตรง ตรงกบั คาถาม(โจทย)์ และคาตอบ  7. ความชดั เจนของคาตอบ (ตัวเลอื ก) มีคาตอบแน่นอนเปน็ คาตอบเดียว  8. ตัวเลอื กทีเ่ ปน็ คาตอบ(ถกู ) ตัวเลือกท่ี………. มีความเหมาะสม  9. ตัวเลือกทเ่ี ปน็ ตัวลวง คาตอบ(ผดิ ) ตวั เลอื กท่ี………. มคี วามเหมาะสม  10. ตัวเลอื กทีเ่ ป็นตวั ลวง คาตอบ(ผดิ ) ตวั เลอื กที่………. มีความเหมาะสม  11. ตัวเลือกที่เป็นตัวลวง คาตอบ(ผดิ ) ตวั เลือกท่ี………. มคี วามเหมาะสม  12. ตัวเลือกทเี่ ป็นตัวลวง คาตอบ(ผดิ ) ตัวเลือกท่ี………. มคี วามเหมาะสม  13. ข้อความตัวเลอื กในขอ้ ทดสอบมอี านาจจาแนกได้  14. เนือ้ หาในข้อสอบมคี วามยากงา่ ยทีเ่ หมาะสม  15. ความเหมาะสมของข้อสอบกบั คะแนน หลกั เกณฑก์ ารคิดคะแนน  มสี ัดสว่ นชดั เจน เหมาะสม 16. ความเหมาะสมของขอ้ สอบกบั เวลา เน้อื หาการทดสอบมีความ  เหมาะสมกบั ระยะเวลาทก่ี าหนด ลงชื่อ..................... ................................. ผแู้ ทนประเมนิ (นางสาวศริ ิมา เมฆปัจฉาพิชิต) วันท่ี 2 / เมษายน / 2562 แบบประเมินข้อสอบ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวิชา หน้าที่พลเมือง วัฒนะรรมและการดาเนินชีวติ ในสงั คม รหัสวชิ า ส 31101 ชั้น มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 คาชแ้ี จง ใหผ้ ู้ประเมินทาเครื่องหมาย ลงชอ่ งวา่ งตามหัวข้อตา่ งๆ ต่อไปน้ี ตามความคิดเห็นที่ตรงความจริงมากท่ีสุด มาตรฐาน/ตัวชี้วดั /ผลการเรียนรู้ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงาม และธารงรักษา ประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชีวิตอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมไทยและสังคมโลกอยา่ งสนั ตสิ ขุ ตวั ชวี้ ัด ม.4 6/2 วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของโครงสรา้ งทางสงั คม การขัดเกลาทางสังคม และการเปลีย่ นแปลง ทางสงั คม ข้อที่ 2 คาถาม ข้อใดอธิบายลักษณะของสังคมไทยได้ถกู ตอ้ งท่ีสดุ (การนาไปใช)้ ฉ. โทรศพั ท์มือถือทาใหภ้ าษาไทยวบิ ัตมิ ากขนึ้ ช. ศูนย์รวมจติ ใจของคนไทยคอื สถาบันพระมหากษัตริย์ ซ. เปน็ สังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ฌ. ภาพยนตร์เกาหลีมีอิทธพิ ลต่อการดาเนนิ ชีวติ ของคนปัจจุบันมากข้ึน ญ. กฎระเบียบและกติกาของกลุ่มคนทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา รายการประเมิน ใช่ ไมใ่ ช่ ควรแก้ไข 1. เนอื้ หาในแบบทดสอบ มคี วามสอดคล้องตรงตามตวั ช้วี ัด/ผลการเรียนรู้  2. ความชัดเจนของคาถาม (โจทย์) ใชภ้ าษาในการต้ังคาถาม เหมาะสม ชัดเจนไม่คลุมเครอื  3. ขอ้ สอบมีการวดั ตรงตามตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ (ระบทุ า้ ยข้อสอบ)  4. ข้อสอบมีการวดั ระดับพฤติกรรม ตรงตามตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ (ระบุพฤตกิ รรมที่ท้ายขอ้ สอบ )  5. รปู ภาพ/สถานการณต์ รงตามตวั ชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้  6. รูปภาพ/สถานการณ์ตรง ตรงกบั คาถาม(โจทย)์ และคาตอบ  7. ความชัดเจนของคาตอบ (ตัวเลอื ก) มีคาตอบแนน่ อนเปน็ คาตอบเดยี ว  8. ตัวเลอื กทเ่ี ปน็ คาตอบ(ถกู ) ตัวเลอื กท่ี………. มีความเหมาะสม  9. ตัวเลือกท่ีเปน็ ตัวลวง คาตอบ(ผดิ ) ตวั เลือกที่………. มคี วามเหมาะสม  10. ตัวเลือกท่เี ป็นตัวลวง คาตอบ(ผิด) ตวั เลือกท่ี………. มคี วามเหมาะสม  11. ตวั เลอื กที่เปน็ ตัวลวง คาตอบ(ผิด) ตวั เลอื กที่………. มคี วามเหมาะสม  12. ตวั เลือกทเ่ี ป็นตวั ลวง คาตอบ(ผิด) ตวั เลอื กที่………. มคี วามเหมาะสม  13. ข้อความตวั เลือกในข้อทดสอบมีอานาจจาแนกได้  โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 14. เนือ้ หาในข้อสอบมีความยากงา่ ยท่เี หมาะสม  15. ความเหมาะสมของข้อสอบกบั คะแนน หลักเกณฑ์การคดิ คะแนน  มสี ัดส่วนชัดเจน เหมาะสม  16. ความเหมาะสมของขอ้ สอบกบั เวลา เน้อื หาการทดสอบมคี วาม เหมาะสมกับระยะเวลาทีก่ าหนด ลงชือ่ ..................... ................................. ผูแ้ ทนประเมนิ (นางสาวศิรมิ า เมฆปจั ฉาพิชติ ) วันท่ี 2 / เมษายน / 2562 วชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื ง ข้อสอบ เวลา 30 นาที รหสั วิชา ส 31101 เรอ่ื ง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 สงั คมมนุษย์ คาชแี้ จง ใหผ้ เู้ รียนเลือกคาตอบท่ถี ูกทีส่ ุดเพียงคาตอบเดียว โดยวงกลมล้อมรอบตัวเลือกนั้น (ข้อละ 1 คะแนน) 1. เพราะเหตุใด มนษุ ย์จึงต้องอยู่รวมกนั เป็นสังคม (ความเข้าใจ) โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่ีพลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ก. เพอื่ ถ่ายทอดวัฒนธรรม ข. เพ่อื สร้างความเจรญิ ให้กับสงั คม ค. เพ่ือความพอใจของตนเอง ง. เพื่อสรา้ งความเป็นอนั หน่ึงอันเดียวกนั ในสงั คม จ. เพือ่ สนองความต้องการพนื้ ฐานของมนุษย์ 2. ขอ้ ใดจัดเป็นสงั คม (ความเขา้ ใจ) ก. สพุ จน์นงั่ อ่านหนงั สือการ์ตูนริมนา้ ข. สุชาตยิ นื รอรถเมล์สาย 113 ทีป่ ้ายรถเมล์ ค. นารหี ัวเราะเสยี งดงั เม่ือดูรายการชิงร้อยชิงล้าน ง. สุรพี รเปิดดูโทรทัศน์ท่หี ้องรับแขก จ. วิชยั ชวนแม่ไปเที่ยวทสี่ นามหลวงในงานสัปดาห์วสิ าขบูชา 3. ขอ้ ใดสอดคล้องกับคากลา่ วท่วี ่า “มนษุ ยเ์ ปน็ สัตว์สังคม” (การวิเคราะห์) ก. มนุษย์ตอ้ งอยรู่ วมกันเป็นกลุ่มเพอื่ พง่ึ พาอาศัยกัน ข. มนษุ ย์สามารถปรับตวั เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี ค. มนษุ ย์ต้องด้ินรนเพื่อต่อส้กู ับความอยรู่ อดของชวี ิต ง. มนษุ ย์ไมจ่ าเปน็ ตอ้ งด้ินรนเพื่อต่อสกู้ บั ความอยรู่ อด จ. มนุษย์สามารถใช้สมองและรว่ มมอื กนั ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 4. สถาบันศาสนาควรมีบทบาทรว่ มกบั รฐั บาล ในเร่ืองใด (ความจา) ก. ควบคุมและระงับข้อขัดแย้งท่ีเกิดขน้ึ ข. ทว้ งตงิ วิจารณน์ โยบายทไี่ มเ่ หมาะสมของรัฐ ค. ปลูกฝงั คา่ นยิ ม จรยิ ธรรม ความเปน็ พลเมืองดีแก่ประชาชน ง.สนับสนนุ ศาสนาใดศาสนาหนึ่ง จ. ใหค้ วามรว่ มมือกับรฐั อบรมสมาชิกให้มีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การปกครองของรฐั 5. สถาบนั พืน้ ฐานแรกสุดของสงั คมที่ทาหน้าที่อบรมและขัดเกลาให้สมาชกิ คือ สถาบนั ใด (ความจา) ก. สถาบันครอบครวั ข. สถาบนั เศรษฐกิจ ค. สถาบันการศึกษา ง. สถาบนั ศาสนา จ. สถาบนั ครอบครวั และสถาบันการศึกษา 6. “โครงสร้างของสังคม” คอื ขอ้ ใด (ความเขา้ ใจ) ก. สิ่งที่เป็นองค์ประกอบค้าจุนสังคม ข. อดุ มการณข์ องสังคมเพ่ือความมั่นคงถาวร ค. วัตถุประสงค์ท่ีวางไว้เพื่อใหบ้ รรลถุ งึ เป้าหมาย ง. ความจงรกั ภกั ดี ต่ออุดมการณข์ องตนเองและสังคม จ. ความสัมพันธอ์ ย่างมีแบบแผนท่เี กอ้ื หนุนและโยงใยต่อกันและกนั 7. นายนพพรปฏิบตั ติ ามระเบียบของโรงเรยี นอยา่ งเคร่งครัด เขาปฏบิ ตั ิตามข้อใด (การนาไปใช้) ก. คา่ นยิ มทางสงั คม ข. บรรทัดฐานทางสงั คม ค. สถานภาพทางสังคม ง. ศีลธรรมจรรยา จ. ค่านยิ มทางสังคมและศลิ ธรรมจรรยา 8. ขอ้ ใดไมใ่ ช่วิถีประชา (การวเิ คราะห)์ ก. วัยรุ่นชอบใส่เส้อื ยดื กางเกงยนี ส์ ข. นักเรยี นพดู จาไม่สุภาพจะถูกตเิ ตยี นเสมอ ค. นกั เรียนชอบหลับในขณะเรียนหนงั สอื ง. ห้ามสบู บุหร่บี นรถประจาทาง ปรบั 2,000 บาท โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทีพ่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 จ. ชาวพุทธสวดมนตไ์ หว้พระเพือ่ ทาจติ ใจให้สงบ 9. ขอ้ ใดถือเปน็ สถานภาพที่ไดม้ าด้วยความสามารถ (ประเมินคา่ ) ก. นายบรรหาร ศลิ ปอาชา เปน็ คนจงั หวัดสุพรรณบุรี ข. สัญญาเป็นลกู คนโตพ่อจึงมอบกจิ การให้เขาดแู ล ค. หม่อมเจา้ ชาตรเี ฉลิม ยุคล สร้างภาพยนตรอ์ ิงประวตั ศิ าสตร์ ง. พรทพิ ย์ นาคหิรัญกนก ไดร้ ับคัดเลือกเปน็ นางงามจกั รวาล จ. บรรจุ เปน็ ทีย่ อมรบั จากเพื่อนร่วมงานวา่ เปน็ ผู้ทที่ างานยอดเยย่ี มแห่งปี 10. ข้อใดถือว่า เป็นการทาผิดจารตี หรือกฎศลี ธรรม (การวิเคราะห์) ก. ลกู อกตัญญู ข. การเขียนหนงั สือดว้ ยมอื ซา้ ย ค. การหลีกเลยี่ งการเสียภาษี ง. การไมท่ าพธิ ีเจิมรา้ นคา้ ที่เปิดใหม่ จ. ไมเ่ ข้าร่วมงานแต่งงาน 11. องค์กรใดที่มีบทบาทสาคัญที่สุด ในกระบวนการขดั เกลาทางสงั คม (ความจา) ก. วดั ข. โรงเรียน ค. ครอบครัว ง. สือ่ มวลชน จ. มูลนิธเิ ด็ก 12.การกระทาใดถือวา่ เป็นการขดั เกลาทางสังคมโดยทางอ้อม (การวเิ คราะห์) ก. ดวงจิตรนาวัฒนธรรมตะวนั ตกเข้ามา ข. คุณยายสอนให้สวยรจู้ กั ทาความเคารพผู้ใหญ่ ค. คุณครใู หน้ ักเรยี นทางานเป็นกลุ่มเพื่อฝึกความเป็นประชาธปิ ไตย ง. ดวงใจและเพื่อนสามารถรอ้ งเพลงตามจังหวะท่ีฟงั จากวิทยุไดถ้ กู ต้อง จ. ในขณะรับประทานอาหารรว่ มกัน คณุ แมจ่ ะบอกให้เคีย้ วอาหารหมดปากก่อนท่จี ะพูด 13. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ “การจัดระเบยี บทางสังคม” ได้อย่างชัดเจนทส่ี ดุ (สรา้ งสรรค์) ก. กฎระเบยี บและกติกาของกล่มุ คนท่ีมีการเปล่ียนแปลงตลอดเวลา ข. ปฏิบัติตามกฎระเบยี บท่ตี กลงเฉพาะบคุ คลหรือกล่มุ คนบางกลุ่มเทา่ น้นั ค. ความสัมพนั ธข์ องสมาชกิ ในแต่ละสังคมซ่งึ มีความผกู พนั ธก์ ันอย่างแน่นแฟน้ ง. การอยรู่ ่วมกนั ของกลุม่ คนในแตล่ ะสังคมซ่ึงมีการดาเนนิ ชีวิตไมแ่ ตกต่างกนั จ. วธิ ีการทค่ี นในสังคมกาหนดขึ้นเพื่อใหเ้ ป็นระเบยี บกฎเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกนั 14. ขอ้ ใดอธบิ ายลักษณะของสังคมไทยได้ถกู ต้องทีส่ ุด (ความเขา้ ใจ) ก. โทรศพั ท์มือถือทาให้ภาษาไทยวบิ ัติมากข้ึน ข. ศนู ยร์ วมจิตใจของคนไทยคือสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ค. เปน็ สงั คมที่มีการเปลย่ี นแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป ง. ภาพยนตร์เกาหลีมีอทิ ธพิ ลต่อการดาเนนิ ชวี ติ ของคนปจั จุบันมากขน้ึ จ. กฎระเบียบและกติกาของกลุ่มคนทีม่ ีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลา 15. สถาบันใดในสังคมไทยมีบทบาทสาคญั ท่สี ุด ทจ่ี ะทาให้สมาชกิ ในสงั คมเป็นพลเมอื งดตี ามที่สงั คมคาดหวงั (ความจา) ก. สถาบนั ครอบครวั ข. สถาบนั การศึกษา ค. สถาบันการเมือง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพ่ี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ง. สถาบันศาสนา จ. สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ 16. ปญั หาสังคมตา่ งๆ ทเี่ กิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน มีสาเหตุพ้นื ฐานมาจากข้อใด (ความเข้าใจ) ก. วฒั นธรรมตะวนั ตกหล่งั ไหลเขา้ มา ข. ความบกพร่องของผู้บริหารประเทศ ค. จานวนการเพิ่มของจานวนประชากร ง. การบรหิ าร การดูแล จากครอบครัว จ. ความเสอ่ื มโทรมทางศลี ธรรม จริยธรรม ค่านิยมท่ีดี 17. ปัญหายาเสพติดเปน็ ปัญหาตอ่ สังคมหลายๆ ดา้ น ข้อใดไมใ่ ช่ปัญหาท่เี กยี่ วเนือ่ งกบั ปัญหายาเสพตดิ (การวิเคราะห์) ก. ปญั หาอาชญากรรม ข ปญั หาทาร้ายรา่ งกาย ค. ปญั หาความยากจน ง. ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มเป็นพษิ จ. ปัญหาความรนุ แรงในครอบครัว 18. การกระทาในขอ้ ใด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและกลายเปน็ ปัญหาส่งิ แวดลอ้ มทีส่ าคัญในสังคมไทย (การวเิ คราะห์) ก. การจราจรตดิ ขดั ข. การตัดไม้ทาลายป่า ค. การสรา้ งโรงงานอุตสาหกรรมมาก ง. การใชว้ สั ดอุ ุปโภคบรโิ ภคไม่เหมาะสม จ. เกิดจากการท้ิงขยะไม่ถกู ท่ีถูกทาง 19. ปญั หาการทุจรติ ซ่ึงถือเป็นปญั หาท่ีสาคญั ระดบั ชาติ ข้อใดเปน็ แนวทางการแก้ไขทสี่ าคญั (สรา้ งสรรค)์ ก. สอนใหภ้ มู ิใจในศักด์ศิ รีของตนเอง ข. รณรงคใ์ ห้คนในสังคมรังเกียจการทุจริต ค. รณรงคใ์ ห้ยดึ หลักเศรษฐกิจพอเพียง ง. แจ้งความผ้ทู ่ีกระทาผิด หรือฟ้องร้องตอ่ ผู้ทีท่ ุจริต ง. ปลกู ฝังค่านิยมให้เห็นประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ส่วนตน 20. “หลังจากเกิดเหตุการณส์ ึนามิ ทาให้หมบู่ ้านบางหมบู่ ้านกลายเป็นหมู่บา้ นรา้ ง” ข้อความน้แี สดงถึงการเปล่ยี นแปลง ทางสงั คมทเี่ กดิ ขึ้นจากปัจจยั ใด (ความเขา้ ใจ) ก. ปจั จยั ครอบครวั ข. ปจั จยั ทางสังคม ค. ปจั จัยทางเศรษฐกิจ ง. ปจั จยั ทางธรรมชาติ จ. ปัจจัยทางวัฒนธรรม แบบประเมินข้อสอบ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าหน้าทีพ่ ลเมือง รหสั วชิ า ส 31101 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง สงั คมมนุษย์ ชอ่ื – สกลุ ครูผู้สอน นางณภิ าทพิ ย์ มลู แก้ว ******************************************************************** คาช้แี จง ใหผ้ ู้ประเมินทาเครอ่ื งหมาย ⁄ ลงในช่องว่างหวั ขอ้ ตา่ งๆ ตอ่ ไปนี้ ตามความคดิ เหน็ ทีต่ รงความจริงทสี่ ดุ ขอ้ สอบท่ี รายการประเมนิ ข้อสอบมกี ารวดั ตรงตาม ข้อสอบมกี ารวดั ระดับ สอดคลอ้ ง ไม่สอดคล้อง ไมส่ อดคล้อง ขอ้ ควรแกไ้ ข ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้(ระบุทา้ ย พฤตกิ รรมตรงตามตัวชวี้ ัด/ผล (1) (0) (-1) ขอ้ ) การเรียนรู(้ ระบุทา้ ยขอ้ ) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าทพ่ี ลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ใช่ ไมใ่ ช่ ใช่ ไมใ่ ช่ 1 1⁄ ⁄ 1 2⁄ ⁄ 1 3⁄ ⁄ 1 4⁄ ⁄ 1 5⁄ ⁄ 1 6⁄ ⁄ 1 7⁄ ⁄ 1 8⁄ ⁄ 1 9⁄ ⁄ 1 10 ⁄ ⁄ 1 11 ⁄ ⁄ 1 12 ⁄ ⁄ 1 13 ⁄ ⁄ 1 14 ⁄ ⁄ 1 15 ⁄ ⁄ 1 16 ⁄ ⁄ 1 17 ⁄ ⁄ 1 18 ⁄ ⁄ 1 19 ⁄ ⁄ 1 20 ⁄ ⁄ 1 เกณฑ์การประเมนิ ลงช่อื ..................... ................................. ผู้ประเมิน (นางสาวศิริมา เมฆปัจฉาพิชติ ) วันท่ี 2 / เมษายน / 2562 ความเหมาะสมของเครื่องมือวดั และประเมินผล ความสอดคล้องของเครอ่ื งมอื วัด และประเมนิ ผล คะแนนระหวา่ ง 1-7 ระดับคณุ ภาพ ต้องปรบั ปรงุ คะแนนระหวา่ ง 8-14 ระดับคุณภาพ พอใช้ คา่ ความสอดคล้องตอ้ ง คะแนนระหวา่ ง 15-20 ระดบั คณุ ภาพ ดี มีค่า ตั้งแต่ 0.50 ข้ึนไป โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรอ่ื ง วัฒนธรรมไทย แผนจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง รกั วฒั นธรรม รายวิชา หน้าท่ีพลเมืองฯ รหัสวิชา ส 31101 ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 นา้ หนกั เวลาเรยี น 1.0 (นน./นก.) เวลาเรียน 40 ชวั่ โมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ 3 ชวั่ โมง ................................................................................................................. ......................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจท่คี งทน) ประเทศไทย มีวัฒนธรรมซง่ึ ใช้เป็นแนวทางและวิถีปฏิบตั ิต่อกันในสังคมไทย ส่งผลต่อบุคลิกลักษณะของคนไทย และความเปน็ เอกลกั ษณข์ องชาติไทย 2. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั ชัน้ ป/ี ผลการเรียนรู้/เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ส 2.1 เข้าใจและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมที่ดีงาม และธารงรักษา ประเพณแี ละวัฒนธรรมไทย ดารงชีวติ อยรู่ ่วมกันในสังคมไทยและสงั คมโลกอย่างสนั ติสุข ตัวชี้วัด ม.4 6/5 วิเคราะห์ความจาเปน็ ท่จี ะต้องมีการปรบั ปรุงเปล่ียนแปลงและอนุรักษ์วฒั นธรรมไทย และเลือก รับวฒั นธรรมสากล 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลกั : Knowledge (นักเรยี นต้องรู้อะไร) นกั เรียนสามารถเขียน ลกั ษณะและความสาคัญของวัฒนธรรมไทยได้ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process (นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ิอะไรได)้ นักเรียนสามารถอธบิ ายความหมายความสาคัญของวฒั นธรรมได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (นักเรยี นควรแสดงพฤติกรรมการเรียนอะไรบ้าง) นกั เรียนมีความสนใจ ใฝร่ ู้ มีความรับผดิ ชอบต่องานท่ไี ด้รบั มอบหมายตามเวลาท่ีกาหนด 4. สมรรถนะสาคัญของนักเรยี น 4.1 ความสามารถในการสื่อสาร 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. คุณลกั ษณะของวชิ า - ความรบั ผิดชอบ - กระบวนการกลมุ่ 6. คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 7. ชิน้ งาน/ภาระงาน : (ใหส้ อดคล้อง กบั ตัวช้วี ัด /ผลการเรยี นรู้ ในแผนการเรยี นรู้นี้ ) - ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ความสาคญั ของวัฒนธรรม - ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย ภาระงาน – ใหน้ ักเรียนศึกษาความรู้ จากหนงั สอื เรียน 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ช่วั โมงที่ 1 (ความสามารถในการวเิ คราะห์ / ใฝเ่ รยี นรู้ / เทคนิคการสบื คน้ ) - ข้ันนาเข้าส่บู ทเรียน/ขน้ั ตงั้ คาถาม - ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนยกตัวอย่างวฒั นธรรมไทยท่ีนักเรียนชอบ พรอ้ มบอกเหตผุ ลประกอบ ยกตวั อย่างหลากหลาย เช่น ประเพณลี อยกระทง การแต่งกายชุดไทย การแห่เทียนพรรษา อาหารไทย ราไทย ดนตรีไทย ภาษาไทย - ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเหน็ ความสาคัญของวฒั นธรรมไทย - ขั้นสอน ข้นั สรุป ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง ความหมาย ความสาคญั ประเภทของวัฒนธรรมและลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย ชวั่ โมงท่ี 2-3 (ความสามารถในการวิเคราะห์ / ใฝ่เรียนรู้ / ช่วยกนั คิดช่วยกนั เรยี น) - ขน้ั นาเข้าส่บู ทเรียน/ขัน้ ต้งั คาถาม ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนกั เรียนดว้ ยการตัง้ คาถามให้นักเรียนตอบ ดงั นี้ 1) วัฒนธรรมมคี วามหมายวา่ อยา่ งไร 2) วัฒนธรรมมคี วามสาคัญอย่างไร 3) วฒั นธรรมมีกปี่ ระเภท อะไรบ้าง 4) วฒั นธรรมไทยมีลกั ษณะสาคญั อย่างไร - ขน้ั สอน ครูให้นักเรียนกลุ่มเดิมเรียกว่า กลุ่มบ้าน (Home Groups) และให้สมาชิกในกลุ่มเลือกหมายเลขประจาตัว ตั้งแต่หมายเลข 1-4 ตามลาดับ แล้วให้แต่ละกลุ่มแยกย้ายกันไปหาสมาชิกที่มีหมายเลขเดียวกัน เรียกว่า กลุ่ม ผ้เู ชย่ี วชาญ (Expert Groups) สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญแต่ละหมายเลขร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง วัฒนธรรมในภูมิภาคต่างๆ ของไทย จาก หนังสอื เรยี นและแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ และทาใบงาน ดังน้ี -หมายเลข 1 ทาใบงานท่ี 1.3 เร่ือง วฒั นธรรมท้องถน่ิ ภาคเหนือ -หมายเลข 2 ทาใบงานที่ 1.4 เร่อื ง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคกลาง -หมายเลข 3 ทาใบงานที่ 1.5 เรอ่ื ง วฒั นธรรมท้องถ่ินภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ -หมายเลข 4 ทาใบงานท่ี 1.6 เรือ่ ง วัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ ภาคใต้ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าทพี่ ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 สมาชกิ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงานทกี่ ลุ่มรับผดิ ชอบ และทาความเขา้ ใจจน กระจา่ งชัดเจนแล้วแยกย้ายกันกลบั ไปกลุ่มเดมิ ซงึ่ เรยี กว่า กลมุ่ บ้าน (Home Groups) สมาชกิ กลมุ่ บา้ นแต่ละหมายเลขผลดั กันเลา่ ความรู้จากใบงานทตี่ นศกึ ษามาใหแ้ กส่ มาชกิ หมายเลขอน่ื ฟงั และผลดั กัน ซกั ถามจนมคี วามเข้าใจชดั เจนดีทกุ คน - ข้ันสรุป ครูสุ่มเรยี กนกั เรียนบางคนในกล่มุ ออกมาเฉลยคาตอบของใบงาน ทุกใบงานตามความเหมาะสม จากน้ัน ช่วยกันสรปุ ความรู้เก่ยี วกบั ลักษณะสาคัญของวฒั นธรรมไทยในแตล่ ะภมู ิภาค 9. สอื่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ รายการส่อื จานวน สภาพการใช้สื่อ 1. สื่อหน้าที่พลเมืองppt. 1 ชุด ขนั้ สรา้ งความสนใจ 2. กจิ กรรมที่ 1.1-1.6 1 ชุด ขัน้ สรา้ งความสนใจ 3. หนังสอื เรียน 1 ชดุ ข้นั ขยายความรู้ 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลักฐานการเรียนรู้ วธิ วี ัด เคร่ืองมอื วดั ฯ ประเด็น/ การเรียนรู้ ชิ้นงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้คะแนน ใบงานที่ 1.1-1.6 ตรวจใบงานท่ี สามารถเขียน ลกั ษณะ 1.1-1.6 ใบงานท่ี 1.1-1.6 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ และความสาคญั ของ การสังเกต วฒั นธรรมไทยได้ แบบสงั เกต แบบสงั เกต ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ การสังเกต สามารถอธิบาย แบบสงั เกต แบบสังเกต ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ความหมายความสาคัญ ของวัฒนธรรมได้ สนใจ ใฝร่ ู้ มคี วาม รับผดิ ชอบตอ่ งานที่ ได้รับมอบหมายตาม เวลาทีก่ าหนด โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าท่พี ลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 11. จดุ เนน้ ของโรงเรียน การบูรณาการปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและกจิ กรรมสวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ครู ผเู้ รยี น 1. ความพอประมาณ พอดีดา้ นเทคโนโลยี พอดดี า้ นจติ ใจ 2. ความมีเหตุผล รูจ้ กั ใชเ้ ทคโนโลยมี าผลิตสอ่ื ทีเ่ หมาะสม มีจติ สานกึ ทด่ี ี เออ้ื อาทร ประนีประนอม นกึ และสอดคลอ้ งเนือ้ หาเป็นประโยชน์ตอ่ ถึงประโยชน์ส่วนรวม/กล่มุ ผเู้ รยี นและพฒั นาจากภูมิปญั ญาของผ้เู รยี น ไม่หยดุ น่งิ ทีห่ าหนทางในชวี ิต หลดุ พน้ จาก - ยึดถอื การประกอบอาชีพด้วยความถกู ต้อง ความทกุ ขย์ าก (การคน้ หาคาตอบเพือ่ ให้ สจุ รติ แม้จะตกอยใู่ นภาวะขาดแคลน ใน หลุดพน้ จากความไม่รู้) การดารงชีวิต 3. มีภมู คิ มุ กันในตัวท่ดี ี ภูมิปัญญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ ภูมปิ ญั ญา : มคี วามรู้ รอบคอบ และ 4. เง่อื นไขความรู้ ระมดั ระวงั ระมัดระวงั สร้างสรรค์ 5. เงื่อนไขคุณธรรม ความรอบรู้ เร่อื ง วฒั นธรรมไทย ท่ี ความรอบรู้ เรอื่ ง วฒั นธรรมไทย กรณีที่ เก่ยี วข้องรอบด้าน ความรอบคอบทจ่ี ะนา เกดิ งาน ปริมาณท่ีเกย่ี วข้อง สามารถนา กจิ กรรม ความรู้เหลา่ น้นั มาพิจารณาให้เชอ่ื มโยงกนั ความรูเ้ หลา่ นน้ั มาพิจารณาใหเ้ ช่อื มโยงกนั สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน เพือ่ ประกอบการวางแผน การดาเนินการจดั สามารถประยกุ ตใ์ ช้ในชีวิตประจาวัน หนว่ ยวฒั นธรรมไทย กจิ กรรมการเรียนรใู้ ห้กับผู้เรียน - รวบรวมฐานข้อมลู โรงเรยี น มคี วามตระหนกั ใน คณุ ธรรม มคี วาม มีความตระหนกั ใน คณุ ธรรม มีความ ซ่ือสัตยส์ จุ รติ และมีความอดทน มคี วามเพียร ซอื่ สัตยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มคี วามเพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชวี ติ ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชวี ิต ครู ผูเ้ รียน หน่วยวัฒนธรรมไทย หนว่ ยวัฒนธรรมไทย - ลงมอื ปฏบิ ตั ิขอ้ มลู พันธพุ์ ชื ในโรงเรยี น - รวบรวมพนั ธ์พุ ืชในโรงเรยี น สิง่ แวดล้อม ครู ผู้เรยี น หน่วยวฒั นธรรมไทย หนว่ ยวัฒนธรรมไทย หนว่ ยวฒั นธรรมไทย การเลือกใช้และรวบรวมพนั ธพ์ุ ืชใน กระบวนการรวบรวมพันธ์พืชในโรงเรียน เสนอแนะการรวบรวมพันธุ์พืชในโรงเรียน โรงเรียน ลงช่ือ..................................................ผู้สอน ( นางณภิ าทพิ ย์ มูลแก้ว ) โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ความสาคญั ของวฒั นธรรมไทย ตอนท่ี 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนผงั ความคิด เร่ือง ความสาคญั ของวฒั นธรรม ใช้ประโยชน์ ต่อการดารงชีวติ ควำมสำคัญ ก่อให้เกดิ ความเป็ น ของ อันหนึ่งอันเดียวกัน วัฒนธรรม ทาหน้าที่หล่อหลอม บุคลกิ ภาพ โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าที่พลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ตอนที่ 2 คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งประเภทของวฒั นธรรมในกรอบที่วา่ ง ประเภทของวัฒนธรรม การจดั ประเภทตามลักษณะที่ การจัดประเภทตามเนอื้ หา มองเหน็ หรือสัมผัสได้       ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหน้าท่ีพลเมืองฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความสาคญั ของวัฒนธรรมไทย ตอนที่ 1 คาชแี้ จง ให้นักเรยี นเขียนแผนผังความคิด เรอ่ื ง ความสาคัญของวัฒนธรรม เปน็ เปา้ หมาย กาหนดพฤตกิ รรม ในการดารงชีวติ ของมนุษย์ ใช้ประโยชน์ ควบคมุ สงั คม ร่วมมือกนั อนรุ กั ษ์ ต่อการดารงชีวิต วฒั นธรรม ตอบสนองความต้องการ ดา้ นร่างกายและจิตใจ ความผกู พนั ควำมสำคัญ ก่อให้เกิดความเป็ น ของ อันหน่ึงอันเดียวกัน วัฒนธรรม ทาหน้าท่ีหล่อหลอม ความเชื่อ บุคลกิ ภาพ กิริยาทา่ ทาง ความสนใจ การแตง่ กาย การพึ่งพา จิ ตสานึกเป็ น อาศยั กนั พวกเดียวกนั ทศั นคติ ความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ โดย นางณิภาทิพย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหน้าที่พลเมอื งฯ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ตอนที่ 2 คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนยกตวั อยา่ งประเภทของวฒั นธรรมในกรอบท่ีวา่ ง ประเภทของวัฒนธรรม การจดั ประเภทตามลกั ษณะ การจัดประเภทตามเน้ือหา ท่มี องเห็นหรือสัมผัสได้ วฒั นธรรมทาง วฒั นธรรมทา คติธรรม วตั ถธุ รรม เนติธรรม  สหธรรม วตั ถุ   งอวตั ถุ ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง  ความเมตตา  บ้าน  กฎหมาย  มารยาทใน  หนงั สอื  คา่ นยิ ม  ความกรุณา  รถยนต์  กฎศลี ธรรม  แวน่ ตา  มารยาท  ความ  โทรทศั น์  จารีต การพบ  รถยนต์  ปรัชญา ผ้ใู หญ่  โทรทศั น์  ความเชื่อ กตญั ญู  หนงั สอื  เครื่องแต่ง  มารยาทใน  ความขยนั  ความอดทน กาย การเข้า  ถนน สงั คม (หมายเหตุ นกั เรียนสามารถยกตวั อย่างเป็นอย่างอืน่ ได้ตามความเหมาะสม ให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผูส้ อน) โดย นางณิภาทพิ ย์ มลู แก้ว กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม