Apple watch 5 ก บ iphone 5

Apple Watch อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ iPhone หรือ iPad ตั้งแต่เปิดตัว Apple Watch Series 1 จนมาถึง Series 5 ด้วยความสามารถที่ช่วยดูแลในเรื่องสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

รุ่นล่าสุดของ Apple Watch ที่ Apple เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน มาพร้อมกับความสามารถที่มากขึ้นทั้งการแสดงผล การทำงาน และเพิ่มตัวเลือกวัสดุตัวเรือนเข้ามาอีกด้วย

Apple Watch Series 5 นี้มาพร้อมกับฟีเจอร์สำคัญคือมีหน้าจอ LTPO OLED Retina ที่แสดงผลตลอดเวลา, ชิพ S5 ที่เร็วกว่า ชิพ S3 ถึง 2 เท่า ยังมีชิพ W3 เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อไร้สายให้ดียิ่งขึ้น และมีเข็มทิศในตัว เพิ่มตัวเรือนไทเทเนียมและเซรามิกให้เลือก ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท

• วัสดุตัวเรือน Apple Watch รุ่นนี้ Apple มีวัสดุตัวเรือนให้เลือกมากถึง 4 แบบนั่นคือสแตนเลสสตีล สีธรรมชาติ สีทอง และสี space black, อะลูมิเนียม สีเงิน, สีทอง และ สีเทา space grey, ไทเทเนียม สีธรรมชาติ และสี space black และนำเซรามิกสีขาวกลับมาขายอีกครั้ง
• หน้าจอ Retina มีให้เลือก 2 ขนาดได้แก่ 40mm และ 44mm รุ่นนี้ Apple ได้พัฒนาให้หน้าจอของ Apple Watch ติดสว่างได้ตลอดเวลาโดยยังคงระยะการใช้งานได้ทั้งวัน 18 ชั่วโมง มีโหมดหรี่แสงหน้าจอเมื่อไม่ได้ใช้งานนาน ๆ

• การเชื่อมต่อ มีให้เลือกด้วยกันสองแบบคือ GPS และ GPS + Cellular (มีซิมอินเทอร์เน็ตในตัว สามารถใช้เปล่า ๆ โดยไม่ต้องพกคู่กับ iPhone ได้)
• แบตเตอรี่ ที่สามาถใช้ได้ตลอดทั้งวันยาวนานถึง 18 ชั่วโมง ยาวนานกว่า Series 4 ถึง 10% ซึ่งเทียบเป็นเวลาที่ใช้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เปิดเพลงฟังแบบออฟไลน์ได้นาน 10 ชั่วโมง, ฟังเพลงแบบสตรีมมิ่ง 7 ชั่วโมง, ออกกำลังกาย Indoor (แบบไม่ใช้ GPS) ได้นาน 10 ชั่วโมง หรือออกกำลังกายข้างนอก (แบบเปิด GPS) ได้นานถึง 6 ชั่วโมง และใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง ในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0 % ถึง 80%
• เข็มทิศ Apple เลือกใส่เข็มทิศลงมาใน Apple Watch ทำให้ Apple Watch ใช้งานได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การใช้งานร่วมกับแผนที่เพื่อนำทาง, ใช้กับแอปดูดาว และมีแอปเข็มทิศเพื่อใช้ค้นหาทิศทางเหมือนกับ iPhone

• แผนที่ ที่ทำงานร่วมกับเข็มทิศที่คอยบอกว่ากำลังหันหน้าไปทางทิศไหน ซึ่งเมื่อเรากำลังใช้งานเส้นทางเลี้ยวต่อเลี้ยว Apple Watch จะสะกิดเบาๆ ที่ข้อมือเพื่อช่วยให้เราอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องโดยที่ไม่ต้องก้มมอง

• สายนาฬิกา นอกจากจะมีตัวเรือนให้เลือกวัสดุแล้ว ก็ยังมีสายให้เลือกด้วยเช่นกัน Apple ทำสายสำหรับ Apple Watch ออกมาให้เลือกมากถึง 4 แบบ นั่นก็คือ Sport Band, Sport Loop, หนัง และสแตนเลสสตีล และซีรีส์พิเศษที่ทำร่วมกับ Nike และ Hermès

นอกจากสเปคตัวเครื่องที่สามารถใช้แทนนาฬิกาปกติได้แล้วนั้น Apple Watch ยังมีฟีเจอร์ที่เด่น ๆ ในการช่วยดูแลและปรับสมดุลสุขภาพของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ, การออกกำลังกาย รวมไปถึงตรวจจับอุบัติเหตุ อีกด้วย

สุขภาพ

• คอยตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน ซึ่งสามารถเปิดดูได้ตอลดทั้งวันและแจ้งเตือนทันทีเมื่อมีอัตราการเต้นสูงหรือต่ำผิดปกติ
• มีการติดตามรอบประจำเดือนสำหรับผู้หญิงและเก็บข้อมูลเพื่อให้เห็นภาพรวมของสุขภาพได้มากขึ้น
• มีการแจ้งเตือนทันทีเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียงดังเกินไปซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อหู
• ตัวช่วยหายใจเพื่อให้เราหยุดพักทำงานหนัก ๆ แล้วมาโฟกัสกับความสงบมากขึ้นเพื่อเพิ่มสมาธิระหว่างวัน
• ตรวจจับการล้มได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น Apple Watch จะแจ้งเตือนการล้มอย่างรุนแรง และให้เราสามารถโทรหาบริการฉุกเฉินได้
• Apple ใส่ฟีเจอร์ใหม่ ที่ชื่อว่า International Emergency Calling ทำให้ตัว Apple Watch สามารถใช้ระบบโทรศัพท์ฉุกเฉินได้ทั่วโลก โดย Apple เคลมว่าสามารถใช้งานได้ถึง 150 ประเทศ แม้ว่า iPhone จะไม่ได้อยู่กับตัวก็ตาม

ออกกำลังกาย

• สามารถ ตั้งเป้าหมาย ในการออกกำลังกายได้แบบเฉพาะเจาะจง ดูผลสรุป เมื่อออกกำลังกายเสร็จแล้ว จากนั้นยังคอย ติดตามแนวโน้ม ต่อ ๆ ไปได้อีกด้วย
• ปกติ Apple Watch จะมีการนับขั้นบันไดที่เราได้ขึ้นและลง แต่ใน Apple Watch Series 5 สามารถแสดงความสูงและต่ำจริง ๆ ที่เรายืนอยู่นับจากพื้นดิน เช่น เดินขึ้นเขาหรือลงหุบเขาก็สามารถเช็คได้ว่าเราอยู่สูงและต่ำเท่าไหร่
• สามารถจับคู่ Apple Watch กับเครื่องออกกำลังกายที่รองรับได้ เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลต่าง ๆ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว และแคลอรี่ 
• ฟีเจอร์ วงแหวนกิจกรรม ที่คอยตรวจจับและรายงานผลรายวันเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย และการยืน

ราคา

• Apple Watch Series 5 และรุ่น Nike + (ตัวเรือนอะลูมิเนียม)
  • 40mm รุ่น GPS สาย Sport Band / Sport Loop ราคา 13,400 บาท
  • 44mm รุ่น GPS สาย Sport Band / Sport Loopราคา 14,400 บาท
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Band / Sport Loop ราคา 16,900 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Band / Sport Loop ราคา 17,900 บาท

• Apple Watch Series 5 (ตัวเรือนสแตนเลสสตีล)
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Loop ราคา 22,400 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Loop ราคา 23,900 บาท
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Milanese Loop ราคา 23,900 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Milanese Loop ราคา 25,400 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Leather Loop ราคา 25,400 บาท
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Modern Buckle ราคา 25,800 บาท

• Apple Watch Series 5 Hermès (ตัวเรือนสแตนเลสสตีล)
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Simple Tour ราคา 40,900 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Simple Tour ราคา 42,400 บาท
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Double Tour ราคา 45,900 บาท

• Apple Watch Series 5 Edition
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Loop ตัวเรือนไทเทเนียม ราคา 25,400 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Loop ตัวเรือนไทเทเนียม ราคา 26,900 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Leather Loop ตัวเรือนไทเทเนียม ราคา 28,400 บาท
  • 40mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Loop ตัวเรือนเซรามิก ราคา 41,400 บาท
  • 44mm รุ่น GPS + Cellular สาย Sport Loop ตัวเรือนเซรามิก ราคา 42,900 บาท

ข่าวลือ Apple Watch รุ่นต่อไป

อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่า Apple จะเริ่มวางจำหน่ายเมื่อไหร่ แต่มีความเป็นไปได้ว่าในช่วงเดือนกันยายน Apple อาจจะเปิดตัว Apple Watch Series 6 รุ่นใหม่เหมือนทุก ๆ ปี ซึ่งก็มีข่าวลือออกมาถึงความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในรุ่นถัดไปมากมาย

• WatchGeneration เว็บไซต์สัญชาติฝรั่งเศสได้ออกมารายงานว่า Apple อาจจะเปิดตัว Apple Watch Series 5 สีแดง (PRODUCT)RED รุ่นใหม่ล่าสุด ในปี 2020 ที่จะถึงนี้
• Apple ได้ยื่นจดสิทธิบัตรใหม่เกี่ยวกับเซ็นเซอร์ Touch ID บน Apple Watch ซึ่งจะถูกใส่ไว้บนปุ่ม Digital Crown นั่นหมายความว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนา Touch ID บน Apple Watch อยู่ก็เป็นได้
• Apple Watch Series 6 หรือ Apple Watch รุ่นปี 2020 นั้นอาจจะมีการเปลี่ยนเเปลงวัสดุแผงวงจรให้มาเป็นเเบบ Liquid Crystal Polymer ซึ่งใน Apple Watch Series 5 และรุ่นก่อนหน้านั้นใช้วัสดุเเบบ Polyimide โดยคาดว่ามีฟีเจอร์หลัก ๆ ดังนี้
• Apple Watch Series 6 มาพร้อมประสิทธิภาพที่เร็วเเรงกว่าเดิมยิ่งขึ้น
• กันน้ำได้ดียิ่งขึ้น
• ปรับปรุงความรวดเร็วในการเชื่อมต่อทั้ง Wi-Fi และ Cellular
• มีฟีเจอร์ตรวจจับการนอน
• ใช้หน้าจอแบบ MicroLED