โครงการ กลว้ ยฉาบธญั พชื นางสาวสุภสั รา จดั ทาโดย เสนอ อาจารยน์ พิ ร จทุ ยั รตั น์ รายงานนี้เปน็ ส่วนหน่งึ ของการศึกษา รายวิชา โครงการ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 วิทยาลยั อาชวี ศึกษาชลบรุ ี โครงการ กลว้ ยฉาบธญั พชื นางสาวสุภสั รา จดั ทาโดย เสนอ อาจารยน์ พิ ร จทุ ยั รตั น์ รายงานนี้เปน็ ส่วนหน่งึ ของการศึกษา รายวิชา โครงการ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 วิทยาลยั อาชวี ศึกษาชลบรุ ี ค ใบรบั รองโครงการ วิทยาลยั อาชีวศึกษาชลบรุ ี โครงการ โดย นางสาวสุภสั รา ใจกล้า รหัสนกั ศกึ ษา 63302010014 นางสาวจุรีรตั น์ พวงจันทร์ รหัสนกั ศึกษา 63302010016 นักศึกษาระดับชัน้ ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสงู (ปวส.) ชนั้ ปีที่ 2 สาขาวชิ าการบญั ชี พิจารณาเห็นชอบโดย ............................................................. แผนกวิชาบญั ชี คณะบริหารธุรกจิ ง ชือ่ ผลงาน โครงการกลว้ ยฉาบธัญพชื บทคดั ยอ่ การดาเนนิ โครงการ กลว้ ยฉาบธญั พืช วตั ถปุ ระสงค์การศึกษา 1. เพื่อพัฒนาผลติ ภัณฑ์กล้วยฉาบ ผลการดาเนนิ
งานโครงการ จ รับประทานมีความพงึ พอใจในระดับมาก คณุ ภาพของผลิตภัณฑโ์ ดยรวมมีความพึงพอใจในระดับมาก และ ด้านคณุ ภาพบรรจภุ ัณฑ์
โดยรวมมคี วามพงึ พอใจในระดบั มากท่สี ุด มีคา่ เฉลี่ย 4.93 และเมือ่ ด้านส่งเสริมการจัดจาหน่าย โดยรวมมคี วามพงึ พอใจในระดับมากที่สดุ มีค่าเฉล่ีย 4.86 และเมือ่ คาสาคัญ กล้วยหอม กล้วยฉาบ ธญั พืช ฉ กิตตกิ รรมประกาศ การศึกษาโครงการเร่ือง “กล้วยฉาบธัญพืช” ในคร้ังนี้ สามารถสาเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์ด้วย ขอขอบคณุ พระคณุ บิดา มารดา และเพ่ือนๆ ทกุ คนทไ่ี ด้ให้คาปรึกษาแนะนาช่วยเหลือสนบั สนุน คุณค่าและประโยชน์ของโครงการนี้ ผู้จัดทาขอมอบเป็นกตัญญูกตเวทิตาแด่บุพการี บูรพา- สภุ ัสรา ใจกล้า สารบญั ช ใบรบั รองโครงการ หน้า สารบญั (ตอ่ ) ซ บทท่ี 3 วิธีการดาเนนิ การศกึ ษา หน้า สารบญั ตาราง ฌ ตารางท่ี 1 แสดงความถี่และรอ้ ยละของกล่มุ เปา้ หมายจาแนกตามเพศ
หน้า ญ สารบญั ภาพ หน้า 1 บทท่ี 1 บทนำ ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญของปญั หำ ในแต่ละปีกลว้ ยมผี ลผลิตเป็นจำนวนมำกเกษตรกรจงึ ตอ้ งหำวิธีถนอมอำหำรไม่ให้กล้วยเน่ำเสีย จงึ ไดแ้ นวคดิ กำรนำกลว้ ยฉำบมำพฒั นำ โดยกำรเปล่ียนจำกกำรใช้กล้วยน้ำว้ำเป็นกล้วยหอม และ ดังน้ันคณะผู้จดั ทำโครงกำรจงึ พัฒนำผลิตภัณฑ์กล้วยฉำบใหม้ ปี ระโยชน์
คุณภำพ คุณค่ำ และ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงกำร 1. เพอื่ พัฒนำผลิตภณั ฑก์ ล้วยฉำบธญั พชื ขอบเขตของกำรศกึ ษำ 1. ขอบเขตด้ำนเนอ้ื หำ ศกึ ษำทำงดำ้ นผลิตภณั ฑ์กลว้ ยฉำบธญั พืช โดยกำรนำกลว้ ยหอมมำใช้ 2 2. ดำ้ นกลุ่มเป้ำหมำย บคุ คลทัว่ ไปในชุมชนหนองรี ซอยเขำดิน ตำบลหนองรี อำเภอเมอื ง 3. ขอบเขตด้ำนเวลำและสถำนท่ี ประโยชน์ท่ีคำดวำ่ จะได้รบั 1. ไดผ้ ลิตภัณฑก์ ลว้ ยฉำบธัญพชื นิยำมศัพทเ์ ฉพำะ 1. กลว้ ยหอม กลว้ ยหอมอดุ มไปด้วยแร่ธำตแุ ละสำรอำหำรต่ำงๆ ทีร่ ่ำงกำยควรไดร้ ับ และให้ 2. ธญั พืช คำท่เี อำไวเ้
รียกพชื ท่ีมีลักษณะเปน็ เมล็ดและอุดมุ ไปด้วยสำรอำหำรท่ีมีประโยชน์ 3. เมลด็ ฟกั ทอง เนือ้ ฟักทองที่มำกคุณค่ำ สำมำรถนำมำประกอบอำหำรทั้งคำวและหวำน เมล็ด 4. เมลด็ ทำนตะวนั ประกอบไปดว้ ยวติ ำมินและสำรอำหำรท่มี ีคุณคำ่ หลำยชนดิ เช่น มที องแดง 3 5. บรรจภุ ัณฑ์ ใชเ้ พอ่ื กำรบรรจุสินค้ำโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมยั และทำให้เกดิ ควำมเสยี หำยกับ 4 บทที่ 2 เอกสาร ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทเี่ ก่ียวขอ้ ง การดาเนนิ การโครงการ กลว้ ยฉาบธญั
พชื ณ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาชลบรุ ี และชมุ ชนหนองรี 1. จุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาอธบิ ายรายวชิ า 1. จุดประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า และคาอธบิ ายรายวิชา 1.1 จดุ ประสงค์รายวิชา กระบวนการวางแผน ดาเนนิ งาน แกป้ ัญหา ประเมินผล ทารายงานและนาเสนอผลงาน ความคดิ รเิ ร่ิม สรา้ งสรรค์และสามารถทางานรว่ มกับผอู้ นื่ 5 1.2 สมรรถนะรายวิชา 1.3 คาอธบิ ายรายวิชา ปัญหา การประเมนิ ผล การจัดทารายงานและการนาเสนอผลงาน โดยปฏิบตั ิจดั ทาโครงสรา้ งและหรอื 2. แนวคิดการวิเคราะหก์ ารตลาดแบบการจัดองค์กรอตุ สาหกรรม การวเิ คราะห์การตลาดทาใหท้ ราบถึงสาเหตุของปัญหาและเห็นแนวทางในการแก้ไขสาหรบั การวิเคราะห์การจัดองคก์ รอตุ สาหกรรมหรือการวเิ คราะห์โครงสร้างการตลาดได้อาศัย โครงสรา้ งการตลาด คือ ลักษณะการจัดองคก์ รทชี่ ้ีให้เหน็ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งผูข้ ายในตลาดที่มี 6 2.1 ปัจจยั
ท่ีกาหนดลักษณะโครงสร้างการตลาดคือ พฤตกิ รรมของหน่วยธรุ กิจ หมายถงึ แบบแผนที่หน่วยธุรกิจจะปฏบิ ัติ เพ่อื ปรับตวั เองเข้ากบั ตลาด 2.2 พฤตกิ รรมการดาเนินงานของหน่วยธรุ กิจ ไดแ้ ก่ ผลการดาเนินงาน หมายถึง ผลพวงทางเศรษฐกิจจากอตุ สาหกรรม ซ่ึงไดม้ าจากผลรวมของหน่วย 2.3 ผลการดาเนินงานในด้านตา่ ง ๆ มีดงั น้ี ผลิตโดยเปรยี บเทยี บกับตน้ ทนุ ของความกา้ วหน้า 7 3. แนวคิดเก่ยี วกบั การขอรบั รองมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ชมุ ชน 3.1
วัตถุประสงค์โครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ชุมชนขนึ้ โดยมีระยะเวลาดาเนนิ การ 5 ปี วงเงินงบประมาณ 112,475,000 บาทเพ่อื รองรบั การพัฒนา 3.1.1 สง่ เสริมและพัฒนาคณุ ภาพของผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชนใหไ้ ด้รบั
การรับรองและแสดง 3.1.2 เพอ่ื ส่งเสริมด้านการตลาดของผลติ ภณั ฑ์ให้เปน็ ท่ยี อมรบั อยา่ งแพร่หลายและสร้าง 3.1.3 เพอื่ เนน้ ใหม้ กี ารพัฒนาแบบยงั่ ยนื อกี ทั้งสนบั สนุนนโยบายเรง่ ด่วนของรัฐบาลใน 3.1.3.1 แนวทางทเี่ ชือ่ มโยงผลติ ภัณฑ์จากชมุ ชนสตู่ ลาดผู้บรโิ ภคทัง้ ในประเทศและ 1) เป็นการนาภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ ของไทยสู่สากล 8 3) เป็นการผลักดันผลิตภัณฑใ์ หเ้
ข้าสู่การผลิตที่มมี าตรฐานและไดร้ ับการ 4) เปน็ การสร้างผลติ ภัณฑโ์ ดยใช้แรงงานและทรพั ยากรในทอ้ งถนิ่ ตอ่ มา 3.1.3.2 กรมส่งเสรมิ อุตสาหกรรมเป็นผปู้ ระสานงานและสนบั สนุนขอ้ มลู ของการ 1) พิจารณากาหนด แก้ไข และยกเลกิ มาตรฐานผลิตภัณฑช์ มุ ชน 9 3.1.3.3 สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ุตสาหกรรม คือ ผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรมจะกาหนดมาตรฐาน โดยมีขอ้ กาหนดที่เหมาะสมกบั สภาพของผลิตภัณฑ์เป็นที่ 2) การรับรองมาตรฐานผลติ ภัณฑช์ มุ ชน ควบคมุ คุณภาพโดยเปดิ กวา้ งในเรอื่ งวธิ ีการตรวจสอบรบั รองเพ่อื ให้สามารถรองรบั ผลติ ภัณฑ์ท่ีหลากหลาย ข. ไม่นาขอ้ กฎหมายมาเป็นข้อจากดั ในการรับรองผลติ ภณั ฑ์ 10 3.2 การดาเนนิ งานของสานักงานมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์
ุตสาหกรรม วนั ที่ 28 พฤศจกิ ายน 2545 เพ่ือพจิ ารณากาหนดแนวทางขั้นตอนการปฏิบัติงานในด้านการกาหนด 3.2.2 จัดใหม้ กี ารประชุมสมั มนาเชิงปฏบิ ตั กิ ารเร่ือง “ รับฟังขอ้
มูลและข้อคิดเห็นด้านการ 3.2.3 การเปิดให้บรกิ ารรบั รองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เร่มิ ต้นการเปดิ รบั คาขอ 11 3.2.3.1 สง่ เสริมและพัฒนาคณุ ภาพของผลติ ภัณฑ์ชุมชน ให้ไดร้ บั การรบั รองและ 1) เปน็ ผู้ผลติ ในชมุ ชนของโครงการหนงึ่ ตาบล หนึง่ ผลิตภัณฑ์ ไดร้ บั การ 2) เปน็ กลมุ่ หรอื สมาชิกของกลุม่ เกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ หรอื กลุม่ อน่ื ๆ 3.2.3.2 การรบั รองคุณภาพผลิตภัณฑ์ชมุ ชน ประกอบด้วยการดาเนินการ ดังนี้ พิจารณาออกใบรับรอง ตวั อย่างทไ่ี ด้รบั การรบั รองจากสถานท่จี าหนา่ ยเพื่อตรวจสอบ สานักงานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม หรือจังหวดั พร้อมหลกั ฐานและเอกสารต่าง ๆ ตามแบบที่ 4) เมื่อไดร้ ับคาขอแลว้ สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ุตสาหกรรมจะนดั 5) ประเมนิ ผลการตรวจสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนท่ีได้ 6) ใบรับรองผลติ ภัณฑ์ มีอายุ 3 ปี นับตั้งแต่วันท่รี
ะบใุ นใบรบั รอง ก. ผ้ไู ดร้ ับการรับรองตอ้ งรักษาไวซ้ ง่ึ คุณภาพตามมาตรฐานผลติ ภัณฑ์ 12 ข. การประเมินผลการตรวจสอบตัวอยา่ งทส่ี มุ่ ซื้อ เพือ่ ตรวจติดตามผล 9) การตรวจตดิ ตามผลทาอยา่ งน้อยปีละ 1 ครัง้ ก. ผ้ไู ดร้ บั การรบั รองขอยกเลกิ ใบรับรอง 13 3.3.3 เป็นการส่งเสรมิ และพฒั นาคุณภาพผลิตภณั ฑ์ เพ่อื ยกระดบั ให้มกี ารปรบั ปรุงการ 3.3.4 เปน็ การสง่ เสรมิ ด้านการตลาดให้เป็นทย่ี อมรับ และเพ่ิมความเชอ่ื ถอื ของผู้ซื้อใน 3.4 หลักเกณฑม์ าตรฐานผลิตภณั ฑ์ชมุ ชน มาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ ดงั นี้ สะอาด ผ้บู ริโภค กาหนด มสี นิม และไม่มรี อยบบุ หรอื บวม ที่ไม่พึงประสงค์ ข้อบกพร่องนน้ั ต้องเป็นทย่ี อมรบั ได้ 14 3.4.2.4 ผ้ผู ลติ ตอ้ งศึกษารายละเอียดแหล่งทม่ี าของวตั ถดุ บิ และขนั้ ตอนการแปรรปู 3.4.2.5 ผ้าและผลติ ภัณฑ์จากผา้ ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะทางตามชนดิ ของผลิตภัณฑ์ 15 3.4.4.5 วตั ถดุ บิ และอุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการผลิตตอ้ งสะอาด 16 3.5.3 สาเหตุทตี่ ้องมกี ารควบคุมคุณภาพในระบบการผลิต เพราะปัจจยั ตา่ ง ๆ ดงั น้ี 3.5.4 การควบคุมคุณภาพในระบบการผลิต มาตรฐานทกี่ าหนดไว้ มาตรฐาน คอื ขอ้ กาหนดหรือสง่ิ ทีน่ ามาใชใ้ นการเปรียบเทียบ ซ่ึงอาจเปน็ 3.5.4.1 ข้อกาหนดคุณภาพ 3.5.4.2 ข้อกาหนดการตรวจสอบ ขอ้ กาหนดการสมุ่ ตัวอยา่ ง สุม่ ตวั อยา่ งจานวนของตวั อยา่ ง การยอมรับหรอื ปฏบิ ัติส่งิ ท่ีตรวจว่าอยา่ งไรจงึ ยอมรับไดอ้ ย่างไรจึงไม่ 3.5.5 มาตรการในการควบคุมคุณภาพในระบบการผลติ ท่ตี ้องทาเปน็ ประจาเพอื่ ให้ 17 3.5.5.1 ควบคุมวัตถุดบิ ด้วยการตรวจสอบวัตถดุ
ิบทุกชนิด โดยการตรวจสอบทกุ ชิน้ 3.5.5.2 ควบคมุ กระบวนการผลติ ด้วยการควบคุมกระบวนการผลิตเพอ่ื ให้ได้ 3.5.5.3 ตรวจสอบผลติ ภัณฑ์สาเร็จรูป ด้วยการตรวจสอบผลติ ภัณฑส์
าเร็จรูปทกุ ชนิ้ 3.5.6 ประโยชนข์ องการควบคมุ คุณภาพ มดี งั นี้ 4. ทฤษฎีกลยุทธก์ ารตลาด (4Ps) และ (8Ps),กลยทุ ธ์ตลาดออนไลน์ 4.1 กลยุทธก์ ารตลาด 4Ps เกดิ จากหลักแนวคดิ ที่ว่า ก่อนทจี่ ะมาทาธุรกิจหรอื การตลาด ควรที่ 18 4.1.1 กลยุทธผ์ ลิตภณั ฑ์ (Product
Strategy) คือ สนิ คา้ บริการที่ธุรกิจสร้างข้นึ เพือ่ ตอบ 4.1.2 กลยุทธร์ าคา (Price Strategy) คือ ราคาหรือสิง่ ท่ีลูกคา้ ตอ้ งจ่ายเพ่อื แลกกบั การได้ 4.1.2.1 นโยบายราคาเพียงราคาเดียว (One Price Policy) เป็นการเสนอขายสนิ ค้า 4.1.2.2 นโยบายราคาทีแ่ ตกต่างกนั (Variable Price Policy) มเี หตุมากจากความ 4.1.2.3 นโยบายกาหนดราคาขายแบบแพ็กเกจ (Multiple Unit Package Pricing 19 4.1.2.4 นโยบายกาหนดราคาตามสายราคา (Price Lining-Policy) เปน็ รูปแบบการ 4.1.2.5 นโยบายกาหนดราคาเชงิ จติ วทิ ยา (Psychological-Pricing Policy) ธรุ กจิ 4.1.2.6 นโยบายกาหนดราคาจามจานวน (Unit Pricing-Policy) เป็นรูปแบบการ 4.1.3 กลยุทธช์ อ่ งทางการจดั จาหน่าย (Place Strategy) คือ ชอ่
งทางท่ีลูกค้าจะสามารถ 4.1.4 กลยุทธก์ ารสง่ เสรมิ การตลาด (Promotion Strategy) คือ การขายสนิ คา้ หรือ 4.1.4.1 การโฆษณา (Advertsing)
อาจจะใช้คาพดู หรอื ข้อความ โดยมีความหมาย 20 4.1.4.2 การขายโดยตรง (Direct Sales) เปน็ การขายโดยเข้าไปติดต่อถึงตวั ลกู คา้ 4.1.4.3 การสง่ เสรมิ การขายทางด้านลูกค้า (Consumer Promotion) เปน็ รปู
แบบ 4.1.4.4 การบริการ (Service) เปน็ รปู แบบการใหบ้ ริการทั้งกอ่ น และหลังการขาย 4.2 ทฤษฏกี ลยุทธก์ ารตลาด (8Ps) กลยทุ ธ์ทางการตลาดสมัยใหมซ่ ง่ึ เป็นส่วนผสมทางการตลาด 4.2.1 กลยุทธผ์ ลติ ภัณฑ์ (Product Strategy) กลยทุ ธใ์ นสว่ นแรกน้จี ะเป็นเร่อื งท่เี กี่ยวข้อง 4.2.2 กลยุทธร์ าคา (Price Strategy) การกาหนดราคาของผลติ ภณั ฑ์สินคา้ ถอื เป็นกลยทุ ธ์ 21 คานึงถึงปัจจัย ของตน้
ทุนการผลิตบวกกับผลกาไรที่ต้องการจะไดจ้ ากการขายผลิตภัณฑ์แล้วจึงทาการ 4.2.3 กลยุทธช์ อ่ งทางการจัดจาหนา่ ย (Place Strategy)
ชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ยเปน็ หนึ่ง 4.2.4 กลยุทธก์ ารสง่ เสริมการตลาด (Promotion Strategy) ในบรรดาการใชย้ ารักษาโรค 4.2.5 กลยุทธบ์ รรจภุ ณั ฑ์ (Packaging Strategy) ในเลอื กซือ้ สนิ ค้าสิ่งทีป่ รากฏต่อสายตา 4.2.6 กลยุทธก์ ารใช้พนักงานขาย (Personal Strategy) พนกั งานขายเปน็ หน่งึ ในปจั จัย 22 เอาใจใส่ลกู คา้ เปน็ อยา่ งดี จะทาใหผ้ ู้บริโภคมีทศั นคติท่ดี ี ต่อสนิ ค้าของคุณไปดว้ ย
และสามารถนาไปสกู่ าร 4.2.7 กลยุทธข์ า่ วสาร (Public Relation Strategy) ในปัจจบุ นั เปน็ ยุคแหง่ การสือ่ สาร 4.2.8 กลยุทธ์การใชพ้ ลัง (Power Strategy) เป็นเรื่องที่แน่นอนวา่ คุณจะไมใ่ ชผ่ ู้เดียวทท่ี า 4.3 กลยทุ ธ์ตลาดออนไลน์ จะเริม่ เข้ามามีบทบาทกับการทาธรุ กิจมากข้ึน ไมว่ า่ จะเปน็ ธุรกิจ 4.3.1 ช่องทางการขายหรือจาหน่ายสินคา้ (Channels) มีบทบาทต่อการเลือกซือ้ สินคา้ เป็น 4.3.2 การส่ือสารกบั ลกู ค้าหรอื ผู้ติดตามบนชอ่ งทางออนไลนข์ องคณุ เปน็ อีกหน่ึงกลยุทธ์ทดี่ ี 23 4.3.3 Omni Channel Marketing อกี หน่ึงกลยุทธ์ทไ่ี ม่ควรมองข้าม เพราะเป็นกลยทุ ธท์ ่ี 4.3.4 การซือ้ โฆษณาบน Search Engine อยา่ ง Google และ Social Media รูปแบบ 4.3.5 กลยุทธก์ ารกาหนดราคา (Price Strategic) เปน็ สิง่ สาคญั ทตี่ ้องคานึงในกรณีท่มี ี 4.3.6 คอนเทนต์ (Content) ท่ดี สี อดคลอ้ งกับสนิ ค้าและบรกิ าร แน่นอนวา่ การเลอื กซื้อ 4.3.7 Online Influencer มีบทบาทกบั ธรุ กจิ ที่ต้องการกระแสนยิ ม
ก่อนหน้านี้ได้มีการ 24 4.3.8
กลยุทธ์การศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย (Customer Behavior) การ 4.3.9 การอัพเดทขอ้ มลู ที่สดใหม่ (Information Updates) นอกจากจะยังเป็นตัวแปร 5. การบรโิ ภคและทฤษฎีพฤติกรรมผบู้ รโิ ภค (Buyer Behavior’s Model) 5.1 การบริโภค (Consumption) หมายถึง มนษุ ยก์ ็เช่นเดยี
วกบั สัตวโ์ ลกโดยทั่วไป ที่มีความหวิ 5.1.1 ส่งิ เร้า (stimuli) ในทางทางการตลาด ได้แก่ ส่ิงทเ่ี ราเรียกวา่ สว่ นประสมทาง 5.1.2 กล่องดา (black box) คาคานเ้ี ป็นนามธรรม โดยสมมตวิ ่ากล่องดาเปน็ ที่รวมเอา 25 ทางบวก กระบวนการตดั สนิ ใจซอื้ ทางาน จนกระท่ังมีการซอ้ื เกดิ ขนึ้ ตามมา ถ้าตอบสนองเป็นไปในทางลบ 5.1.3 การตอบสนอง (response) เป็นผลลัพธ์จากอทิ ธพิ ลของปัจจยั และกลไกการทางาน 5.2 พฤติกรรมของผู้บริโภค (Consumer Behavior) หมายถงึ การแสดงออกของแตล่ ะบุคคลท่ี 5.2.1 ประโยชนข์ องการศึกษาพฤติกรรมผบู้ รโิ ภค ผบู้ ริโภค สินคา้ ของผบู้ ริโภคในสงั คมไดถ้ กู ตอ้ งและสอดคล้องกับความสามารถในการตอบสนองของธุรกจิ มากย่งิ ขึน้ ผบู้ รโิ ภค ใหต้ รงกับชนดิ ของสินคา้ ทตี่ อ้ งการ คแู่ ขง่ ขัน 26 5.2.3.1 ปจั จัยทางวฒั นธรรม เปน็ ปัจจยั ข้นั พ้นื ฐานทส่ี ดุ ในการกาหนดความตอ้ งการ 1) ชนั้ ท่ี 1 Upper-Upper Class ประกอบดว้ ยผู้ทมี่ ชี ่อื เสียงเกา่ แกเ่ กิดมา 2) ชั้นที่ 2 Lower –Upper Class เปน็ ชน้ั ของคนรวยหนา้ ใหม่ บุคคล 3) ชั้นท่ี 3 Upper-Middle Class ประกอบด้วยชายหญิงท่ีประสบ 4) ชั้นท่ี 4 Lower-Middle Class เป็นพวกทีเ่ รียกวา่ คนโดยเฉลี่ย 5) ชนั้ ท่ี 5 Upper-Lower Class เป็นพวก จนแตซ่ ่อื สตั ย์ ได้แก่ชนช้ัน 6) ชัน้ ที่ 6 Lower-Lower Class ประกอบดว้ ยคนงานทีไ่ มม่ คี วามชานาญ 5.2.3.2 ปัจจยั ทางสังคม เปน็ ปัจจยั ทีเ่ กยี่ วขอ้
งในชีวติ ประจาวนั และมอี ิทธพิ ลต่อ 1) กลุม่ อ้างอิง หมายถึงกลมุ่ ใด ๆ ทมี่ ีการเก่ียวขอ้ งกนั ระหวา่ งคนในกลมุ่ 2) ครอบครัว เป็นสถาบนั ที่ทาการซอื้
เพ่ือการบรโิ ภคทส่ี าคญั ท่สี ุด นกั การ 27 3) บทบาททางสถานะ บุคคลท่จี ะเกี่ยวขอ้ งกบั หลายกลุ่ม เชน่ ครอบครวั 5.2.3.3 ปัจจยั ส่วนบคุ คล การตัดสนิ ใจของผ้ซู ือ้ มกั ไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากคุณสมบัติสว่ น 5.2.3.4 ปัจจยั ทางจิตวทิ ยา
การเลือกซื้อของบคุ คลไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากปจั จัยทาง 5.2.4 กระบวนการตัดสนิ ใจของผู้ซ้อื ปญั หาหรือความต้องการของตนเอง ข้นั แรกจะค้นหาข้อมูลจากแหลง่ ภายในกอ่ น เพือ่ นามาใชใ้ นการประเมินทางเลือก หากยังได้ข้อมลู ไม่ 5.2.4.3 ขั้นท่ี 3 การประเมินผลทางเลอื ก ผู้บรโิ ภคจะนาข้อมูลที่ได้รวบรวมไวม้ า 5.2.4.4 ข้ันที่ 4 การตัดสินใจเลอื กทางเลือกทดี่ ีที่สดุ หลังการประเมนิ ผู้ประเมนิ จะ 5.2.4.5 ขั้นที่ 5 การประเมินภายหลังการซอื้ เปน็ ขัน้ สุดทา้ ยหลังจากการซ้ือ 28 6. แนวคิดการออกแบบบรรจุภณั ฑ์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์
(Packaging Design) หมายถึง การกาหนดรปู แบบและโครงสรา้ งของ 6.1 วัตถปุ ระสงคข์ องการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ ประหยัดและมีประสทิ ธิภาพ แขนงศิลปะเขา้ มาสร้างคณุ ลักษณะ เชน่ มีเอกลกั ษณ์ลกั ษณะพเิ ศษทด่ี งึ ดดู และสรา้ งการจดจา ตลอดจน 6.2 ความสาคัญของบรรจภุ ัณฑ์ ผลติ ภัณฑ์เหล่านน้ั มใิ หเ้
สียหายจากการปนเป้ือนจากฝุน่ ละออง แมลง คน ความชืน้ ความรอ้ น แสงแดด 6.2.2 ใหค้ วามสะดวกในเรือ่ งการขนสง่ การจัดเก็บมคี วามรวดเร็วในการขนส่ง เพราะ 6.2.3 สง่ เสริมทางดา้ นการตลาด บรรจภุ ัณฑเ์ พือ่ การจดั จาหนา่ ยเปน็ สิง่ แรกท่ีผบู้ รโิ ภคเห็น 6.3 หนา้ ทแ่ี ละประโยชน์ของบรรจภุ ัณฑ์ 29 6.3.2 การทาหนา้ ที่คมุ้ ครองป้องกนั ตวั ผลิตภัณฑ์ ไม่ใหส้ นิ ค้าเสยี รูปแตกหกั
ไหลซึม 6.4.1.1 บรรจุภณั ฑเ์ ฉพาะหน่วย (Individual Package) คอื บรรจุภัณฑท์ ี่สัมผัสอยู่ 6.4.1.2 บรรจภุ
ัณฑช์ ้นั ใน (Inner Package) คือบรรจภุ ณั ฑ์ท่ีอยูถ่ ัดออกมา เปน็ ช้ันท่ี 6.4.1.3 บรรจภุ ัณฑช์ น้ั นอกสดุ (Out
Package) คือบรรจุภัณฑ์ท่เี ป็นหนว่ ยรวม 30 6.4.2 แบ่งตามวัตถุประสงค์ของการใช้ ผบู้ ริโภคซอ้ื ไปใชไ้ ป อาจมีชนั้ เดียว หรือหลายช้ันก็ได้ ซึง่ อาจเป็น Primary Package หรือ Secondary 6.4.2.2 บรรจุภณั ฑเ์ พ่อื การขนสง่ (Transportation Package) เปน็ บรรจุภณั ฑ์ท่ี 6.4.3 แบง่ ตามความคงรปู (Glass Ware) เซรามิก (Ceramic) พลาสตกิ จาพวก Thermosetting ขวดพลาสตกิ สว่ นมากเป็น 6.4.3.2 บรรจุภณั ฑ์ประเภทรูปทรงกึ่งแขง็ ตวั (Semi Rigid Forms) ได้แก่ บรรจุ 6.4.3.3 บรรจภุ ณั ฑป์ ระเภทรูปทรงยืดหยุ่น (Flexible Forms) ไดแ้ ก่ บรรจุภณั ฑ์ท่ี 6.4.4 แบง่ ตามวสั ดบุ รรจภุ ัณฑ์ทใ่ี ช้ 31 บรรจภุ ณั ฑ์ สามารถขยับเปน็ ส่อื โฆษณาระยะยาว ส่วนองค์ประกอบทีส่ าคญั บนบรรจุภัณฑอ์
ย่างน้อยที่สุด 6.5.1 ช่ือสนิ ค้า 32 และต้องรูน้ า้ หนกั หรอื ปรมิ าณหรอื ความหนาแน่นสาหรับสินค้าทเี่ ป็นของแหง้ ประเภทของสนิ ค้าคุณสมบตั ิ 6.7.2 ตลาดเป้าหมา ตอ้ งศึกษาความต้องการของลูกค้าเป้าหมายเพ่อื จะไดเ้ ลอื กบรรจภุ ัณฑ์ 6.7.3 วธิ จี ดั จาหน่าย การจาหน่ายโดยตรงจากผูผ้ ลิตไปสู่ผบู้ ริโภคยอ่ มต้องการบรรจภุ ณั ฑ์ 6.7.4 การขนสง่ มีหลายวธิ ี และใช้พาหนะต่างกัน รวมท้งั ระยะในการขนส่ง ความทนทาน 6.7.5 การเก็บรักษา การเลอื กบรรจภุ ณั ฑ์จะต้องพิจารณาถึงวธิ ีการเก็บรกั
ษา สภาพของ 6.7.6 ลักษณะการนาไปใชง้ าน ตอ้ งนาไปใชง้ านไดส้ ะดวกเพอื่ ประหยดั เวลา แรงงาน และ 6.7.7 ตน้ ทนุ ของบรรจุภัณฑ์ เปน็ ปจั จัยทีจ่ ะตอ้ งคานงึ ถึงเปน็ อย่างมาก และต้องคานงึ ถึง 33 6.7.8 ปญั หาด้านกฎหมาย บทบญั ญตั ดิ า้ นกฎหมายเกี่ยวกับบรรจุภัณฑท์ ่ีปรากฏชันเจน 7. ทฤษฎีกลไกราคา 7.1 ราคาสนิ ค้า คอื มูลคา่ ของสินค้าและบรกิ ารท่ีผปู้
ระกอบการทาการผลิตได้และนามา 7.1.1 กาหนดมูลคา่ ของสนิ ค้า ในการซ้อื ขายแลกเปลี่ยนท่ใี ช้เงินเปน็ สือ่ กลาง ราคาจะทา 7.1.2 กาหนดปริมาณสินค้า ในการซอ้ื ขายแลกเปล่ียนกันนน้ั ถา้ สินค้ามรี าคาถูก ผ้ซู ้ือจะ 7.1.3 กาหนดปรมิ าณการผลิตของผู้ประกอบการ ในระบบเศรษฐกิจแบบผสม ซึง่
การ 7.2 กลไกราคา (price mechanism) หมายถงึ ตัวกาหนดการจดั สรรทรพั ยากรในระบบ 34 7.2.1 อุปสงค์ (Demand) คือ ปริมาณความต้องการซอ้ิ สนิ คา้ และบริการของผ้ซู ้อื ใน 7.2.2 อุปทาน (supply) คือ ปรมิ าณความต้องการเสนอขายสินค้าและบริการของผู้ขายใน ตลาดในความหมายทางเศรษฐศาสตร์ จะกวา้ งกวา่ ความหมายทั่วๆ ไปทีเ่ ปน็ สถานทท่ี ี่มีผ้ขู าย องคป์ ระกอบของตลาดจะประกอบดว้ ย ผูซ้ ้อื ผขู้ าย สินคา้ และ ราคา ซงึ่ อาจจะมพี ่อคา้ คน ระบบตลาดขึน้
อยู่กบั กลไกราคา ซึง่ ราคาตลาดถูกกาหนดโดยปฏสิ มั พนั ธ์ (Interaction) 35 ราคาตลาดดงั กล่าวเปน็ ราคาดุลยภาพ และราคาตลาดนจ้ี ะเปล่ยี นแปลงไปถา้ อุปสงคห์ รอื อปุ
ทานเปลี่ยน 8. แนวความคิดของหลักการบญั ชีตน้ ทุน ต้นทนุ เป็นมูลคา่ ของทรพั ยากรทใ่ี ชใ้ นการผลติ หรือการใหบ้ ริการ เปน็ ส่วนที่เรียกวา่ มูลค่าของ 7.1 คา่ ใช้จ่าย (Expense) หมายถึง ต้นทนุ ในการใหไ้ ด้รายไดส้ าหรบั ช่วงระยะเวลาใดๆ เชน่ 7.2 ต้นทนุ (Cost) หมายถึง คา่ ใช้จ่ายที่จา่ ยไปสาหรบั ปัจจยั ทางการผลิตเพื่อใหเ้ กดิ ผลผลิต 7.2.1 ตน้ ทนุ คือ ค่าใช้จา่ ยท่ีจ่ายไปแลว้ เกิดผลผลติ หรือบรกิ าร่ที่เป็นสนิ ทรัพย์ 36 ขาย ประมาณการผลกาไร และใชใ้ นการตัดสนิ ใจการลงทนุ และการขยายงาน ในดา้ นการควบคุม จะใช้ใน 7.3 ความสูญเสีย คอื คา่ ใชจ้ ่ายท่ีจา่ ยไปแล้วเกิดผลไดน้ อ้ ยกวา่ หรือค่าเสียหายท่ีต้องจา่ ยโดยไม่มี 9. งานวิจยั ท่เี กีย่ วข้อง เจนยุทธ ศรหี ริ ัญ (2559) การออกแบบบรรจุภณั ฑก์ ล้วยแผ่นทอดกรอบสาหรับกลมุ่ รฐั วิสาหกิจ นายจักรกฤษณ์ ศรีธง และคณะผูจ้ ดั ทา สาขาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี าหารคณะ 37 เชน่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับแข็ง และโรคเบาหวาน เป็นต้น การที่จะกาจดั สารอนุมูลอสิ ระ 38 บทท่ี 3 วธิ ีการดาเนนิ การศึกษา การดาเนนิ โครงการกล้วยฉาบธัญพืช เป็นการพฒั นาผลติ ภัณฑก์ ลว้ ยฉาบธญั พชื เพื่อเพ่มิ มูลคา่ 1. ประชากรและกลุม่ ตวั อยา่ ง 1. ประชากรและกลมุ่ ตวั อย่าง บริษทั รบั จ้างท่ัวไป และอาชีพอื่น ๆ จานวน 30 คน
ในชมุ ชนหนองรี ซอยเขาดนิ ตาบลหนองรี อาเภอ 2. เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการศึกษา มาตราส่วนประมาณ และแบบสอบถามปลายปิดและปลายเปิด จานวน 3 ตอนมีรายละเอยี ด ดงั นี้ ส่วนประมาณ 5
ระดบั 39 3. ขัน้ ตอนในการสรา้ งเคร่ืองมือ การสรา้ งเครอื่ งมือจากแบบสอบถาม ซงึ่ มีรายละเอียดแบง่ เปน็ 3 ตอน ดังน้ี ตอนที่ 1 ข้อมูลพน้ื ฐานทวั่ ไป ข้อ 1 เพศ ข้อ 2 อายุ ข้อ 3 สถานะ ตอนท่ี 2 ศึกษาความพงึ พอใจผลิตภัณฑก์ ล้วยฉาบธญั พืช ลักษณะแบบสอบถามเปน็ แบบมาตรา ส่วนประมาณ 5 ระดบั ดังนี้ ระดับ 5 หมายถงึ ระดับมีความพอใจมากที่สดุ ระดบั 4 หมายถงึ ระดับมีความพงึ พอใจมาก ระดบั 3 หมายถงึ ระดบั มคี วามพอใจปานกลาง ระดบั 2 หมายถึง ระดบั มคี วามพึงพอใจน้อย ระดบั 1 หมายถึง ระดบั ความพงึ พอใจนอ้ ยท่สี ดุ โดยกาหนดเกณฑ์การแปลความหมายข้อมลู ท่ีเป็นคา่ เฉลีย่ ตา่ งๆ คือ คะแนนค่าเฉลี่ย ระดบั การแปลผล 4.51 – 5.00 หมายถงึ มีความพงึ พอใจมากที่สุด 3.51 – 4.50 หมายถงึ มีความพึงพอใจมาก 2.51 – 3.50 หมายถงึ มีความพงึ พอใจปานกลาง 1.51 – 2.50 หมายถงึ มีความพงึ พอใจนอ้ ย 1.00 – 1.50 หมายถึง มีความพงึ พอใจน้อยที่สุด ตอนท่ี 3 เปน็ แนวคาถามปลายเปิดสาหรบั ผูต้ อบแบบสอบถามแสดงความคิดเหน็ เพิม่ เติมและให้ ขอ้ เสนอแนะตา่ งๆ 40 4. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ตนเอง และขอรบั แบบสอบถามคนื ดว้ ยตนเอง 5. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลและสถิตทิ ใ่ี ชใ้ นการศึกษา คะแนนที่ไดม้ าจากแบบสอบถาม หาค่ารอ้ ยละ(Percentage) คา่ เฉลย่ี (Arithmetic Mean) ส่วน เบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation S.D.) โดยใชส้ ูตร ดังนี้ 5.1 ค่ารอ้ ยละ P = 100 เม่ือ p แทน ร้อยละ F แทน ความถ่ที ีต่ ้องการแปลงคา่ ให้เป็นร้อยละ n แทน จานวนความถท่ี ้ังหมด 5.2 ค่าเฉล่ยี ̅ = ∑ เมื่อ ̅ 5.3 ส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน √ ∑ 2 − (∑ )2 S.D. = (
−1) |