Body fat calculator คํานวณ

เมื่อมาถึงการติดตามการลดน้ำหนักส่วนใหญ่ของเราไว้วางใจในระดับที่จะบอกให้เราทราบว่าเราได้สูญเสียหรือได้รับน้ำหนัก แต่ขนาดไม่สามารถบอกคุณได้ว่าคุณมีไขมันมากหรือเท่าไหร่ที่คุณได้หายไป รู้สัดส่วนร่างกายของคุณสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังสูญเสียไขมันและกล้ามเนื้อไม่ เครื่องคิดเลขไขมันนี้ร่างกายจะทำให้คุณประมาณการของร่างกายไขมันร้อยละของคุณขึ้นอยู่กับการวัดของคุณ


Body Fat หมวดหมู่WomenMenการจัดหมวดหมู่10-12%2-4%ไขมันที่จำเป็น14-20%6-13%นักกีฬา21-24%14-17%ออกกำลังกาย25-31%18-25%ยอมรับได้> 32%> 26%อ้วน


คำเตือน : ถ้าคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับอาหารหรือยาการออกกำลังกายของคุณรวมถึงไขมันในร่างกายของคุณให้ปรึกษาแพทย์ของคุณ

ความอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่มีแนวโน้มว่ามีคนไทยจำนวนมากเป็นโรคอ้วนพุ่งสูงขึ้นทุกปี ด้วยพฤติกรรมการกินตามใจปากและไม่ค่อยออกกำลังกาย แต่ไม่ได้มีเพียงคนรูปร่างอ้วนท้วมชัดเจนเท่านั้นที่มีไขมันส่วนเกินสะสมในร่างกาย เพราะคนที่อาจดูเหมือนรูปร่างสมส่วนก็สามารถมีไขมันส่วนเกินได้ ดังนั้นผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือกระชับหุ่นให้ฟิตแอนด์เฟิร์ม ควรรู้จักเช็คค่ามาตรฐานไขในร่างกายว่าปกติต้องเท่าไหร่

ค่ามาตรฐานไขมันในร่างกายคืออะไร

ค่ามาตรฐานไขมันในร่างกาย (Body Fat Percentage) คือ สัดส่วนไขมันในร่างกายทั้งไขมันจำเป็นและไขมันส่วนเกินที่คิดเป็นร้อยละเมื่อเทียบกับน้ำหนัก เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัมและมีปริมาณไขมันในร่างกายหนัก 10 กิโลกรัม หมายความว่ามีค่ามาตรฐานไขมันในร่างกาย 20% ทั้งนี้คนที่มีรูปร่างใกล้เคียงกันอาจมีปริมาณไขมันในร่างกายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ชีวิตประจำวัน

ทำไมต้องวัดค่ามาตรฐานไขมันในร่างกาย

การวัดค่ามาตรฐานไขมันในร่างกายช่วยทำให้วางแผนลดน้ำหนักได้อย่างถูกวิธี ไม่เกิดปัญหาไขมันในร่างกายลดลงแต่กล้ามเนื้อยังคงอยู่ ไม่ทำให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ สามารถออกกำลังกายและควบคุมอาหารเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อสร้างซิกซ์แพ็กได้ บ่งบอกถึงปริมาณไขมันหน้าท้องที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้าย และบอกสมดุลปริมาณน้ำในร่างกายที่ควรเพียงพอต่อการทำงานของระบบและอวัยวะภายในร่างกาย

วิธีเช็คค่ามาตรฐานไขมันในร่างกาย

ค่ามาตรฐานไขมันในร่างกาย (Body Fat Percentage) สามารถคำนวณได้หาค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันได้ดังนี้

(1.2 x ดัชนีมวลกาย(BMI)) + (0.23 x อายุเป็นปี) – 16.2 = % ปริมาณไขมันในร่างกายสำหรับผู้ชาย

(1.2 x ดัชนีมวลกาย(BMI)) + (0.23 x อายุเป็นปี) – 5.4 = % ปริมาณไขมันในร่างกายสำหรับผู้หญิง

เมื่อได้ค่าเปอร์เซ็นต์ไขมันแล้วสามารถทราบปริมาณไขมันในร่างกายโดยมีวิธีคำนวณดังนี้

น้ำหนัก x เปอร์เซ็นต์ไขมัน / 100 = มีไขมันในร่างกายหนัก XX กิโลกรัม

ค่ามาตรฐานไขมันในร่างกายตามปกติต้องเท่าไหร่

  • ผู้ชายน้อยกว่า 5% และผู้หญิงน้อยกว่า 15% มีปริมาณไขมันน้อยในระดับวิกฤติ

มีรูปร่างผอมติดกระดูก เป็นอันตรายต่อระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ในระยะยาว

  • ผู้ชาย 5-8% และผู้หญิง 15-18% มีปริมาณไขมันน้อยมาก

มีรูปร่างเพรียวบางและเห็นกล้ามเนื้อชัดเจน สำหรับผู้หญิงที่ออกกำลังกายเพิ่มกล้ามเนื้อหน้าท้องจะมีซิกซ์แพ็ก

  • ผู้ชาย 9-12% และผู้หญิง 19-22% มีปริมาณไขมันน้อย

มีรูปร่างเพรียวบางกระชับและมีกล้ามเนื้อ สำหรับผู้ชายที่ออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้าท้องจะยิ่งเห็นซิกซ์แพ็กชัดเจนขึ้น

  • ผู้ชาย 13-20% และผู้หญิง 23-30% มีปริมาณไขมันตามมาตรฐานปกติ

มีรูปร่างสมส่วน เห็นสัดส่วนร่างกายชัดเจนแต่ยังไม่เห็นกล้ามเนื้อมาก สุขภาพยังอยู่ในเกณฑ์ดี

  • ผู้ชาย 21-30% และผู้หญิง 31-40% มีปริมาณไขมันส่วนเกินในร่างกาย

มีรูปร่างท้วมและมีชั้นไขมันหนาหุ้มกล้ามเนื้อ ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

  • ผู้ชาย 30% ขึ้นไป และผู้หญิง 40% ขึ้นไป มีปริมาณไขมันมากในระดับวิกฤติ

มีรูปร่างอ้วนกลม เห็นเซลลูไลท์บนผิวหนังชัดเจน และมีไขมันส่วนเกินตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย

Body fat calculator คํานวณ
ค่ามาตรฐานไขมันปกติจะมีรูปร่างสมส่วน

ค่ามาตรฐานไขมันในร่างกายต่างกับค่า BMI อย่างไร

หลายคนที่อยากเริ่มต้นลดน้ำหนักคงคุ้นเคยกันดีกับการวัดค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) เพื่อใช้ประเมินภาวะอ้วนและผอมเบื้องต้น โดยคำนวณจากน้ำหนักและส่วนสูงมาหาดัชนีมวลกาย แล้วนำมาเทียบกับตารางค่า BMI ว่าอยู่ภาวะอ้วนและผอมในระดับใด แต่ไม่สามารถวัดมวลกล้ามเนื้อหรือมวลไขมันได้ ส่วนค่ามาตรฐานไขมันในร่างกาย (Body Fat Percentage) จะสามารถวัดมวลไขมันทั้งหมดในร่างกายได้ ทำให้สามารถวางแผนออกกำลังกายลดน้ำหนักได้ถูกวิธี เพราะการลดน้ำหนักที่ถูกต้องควรลดปริมาณไขมันไม่ใช่ลดปริมาณกล้ามเนื้อ และช่วยไม่ให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ (Yoyo Effect)

หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์ม ดูดไขมันเพียงจุดละ 12,500 บาท ที่ The Skin Clinic

วัดค่ามาตรฐานไขมันในร่างกายและออกกำลังกายอย่างถูกวิธีแล้ว แต่หลังลดน้ำหนักบางคนอาจมีปัญหาไขมันส่วนเกินที่ลดได้ยากในบางบริเวณของร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง เพื่อให้หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มมากกว่าเดิม ขอแนะนำบริการดูดไขมันที่ The Skin Clinic ดูแลรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมัน ใช้เครื่อง Quadrostar (Laser lipolysis) เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการดูดไขมันลดกระชับสัดส่วนจากประเทศเยอรมัน คุณภาพดี ผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์กรอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน มีแผลขนาดเล็กมาก สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ