อาการท้องผูกแน่นท้อง ขับถ่ายได้ไม่ดี แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดาและสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนก็จริง แต่อาจจะเกินปัญหาต่างๆ ตามมามากมาย เพราะทำให้สารพิษรวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ จากที่ร่างกายได้รับเข้าไปนั้นถูกกำจัดออกไม่หมด ดังนั้นแล้ววิธีการดีท็อกซ์ลำไส้จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยซัพพอร์ตร่างกายของคนเราให้สามารถทำหน้าที่ในการกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือสารพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
สำหรับวันนี้เราก็มีอีกหนึ่งตัวช่วยมานำเสนอซึ่งนั่นก็คือการดีท็อกซ์ด้วยการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติเข้ามาช่วยนั่นเองค่ะ ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมุนไพรที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักหรือคุ้นหูกันเป็นอย่างดีเลยทีเดียว นอกจากนี้แล้วสมุนไพรที่เราเลือกมาในวันนี้ก็มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานและหลากหลายราคาให้ได้เลือกกันด้วยนะคะ
แต่ก่อนที่เราจะไปเริ่มกันนั้นก็อยากจะชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้กับการดีท็อกซ์รวมถึงมาศึกษาวิธีการเลือกซื้อสมุนไพรสำหรับนำไปใช้ดีท็อกซ์กันก่อนเลยแล้วกันนะคะ
ดีท็อกซ์ (Detox) คืออะไร? ()
ดีท็อก (Detox) หรือ Detoxification คือการกำจัดสารพิษหรือการล้างเอาสิ่งแปลกปลอมที่ตกค้างออกจากร่างกายนั่งเองค่ะ โดยสารพิษเหล่านี้ก็อาจจะมาจากอาหารหรือน้ำดื่ม จากสารเคมีที่ใช้ปลูกพืชผักหรือเตรียมอาหาร หรือแม้แต่จากอากาศที่เราหายใจเข้าไปเองก็เช่นกัน การดีท็อกจะช่วยให้ร่างกายสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถช่วยดูแลสุขภาพในด้านต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
สำหรับวิธีการดีท็อกซ์ก็มีอยู่หลาย ๆ วิธีค่ะ ไม่ว่าจะเป็น การอดอาหาร, การเลือกกินอาหารบางประเภท รวมถึงการใช้สมุนไพรในการดีท็อกด้วยเช่นกันค่ะ การใช้สมุนไพรเป็นตัวช่วยในการดีท็อกซ์ก็จะเป็นดื่มเอาเครื่องดื่มหรือชาที่มีส่วมผสมของสมุนไพรหลายชนิดเข้าไปในร่างกายเพื่อช่วยขจัดสารพิษหรือสารตกค้างซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่รวดเร็ว ใช้เวลาไม่นาน และค่อนข้างที่จะสะดวก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วมันก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนจะเหมาะกับการทำดีท็อกซ์เสมอไปนั่นเองค่ะ แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการดีท็อกซ์ก่อนเสมอ
เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร
* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *
สมุนไพรดีท็อก ยี่ห้อไหนดี?
Easy Bomb น้ำสมุนไพรดีท็อกซ์
ราคา 99 บาท*
สมุนไพรดีท็อกซ์แบบที่สามารถดื่มได้ง่ายและสะดวก โดยผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีท็อกซ์ตัวนี้ก็จะมาในรูปแบบน้ำที่ผสมสมุนไพรมาเบ็ดเสร็จเรียบร้อย สามารถดื่มได้ทันทีไม่จำเป็นต้องต้มเองค่ะ ส่วนผสมทั้งหมดก็ล้วนมาจากสมุนไพรธรรมชาติทั้งหมด 6 ชนิด แล้วก็ยังปราศจากส่วนผสมของน้ำตาลหรือสารกันบูดด้วยนะคะ ดังนั้นรสชาติที่ได้จึงเป็นรสชาติที่มาจากธรรมชาติล้วน จะมีความเปรี้ยวนิด ๆ ไม่มีรสขม แล้วก็ไม่มีปัญหาเรื่องของกลิ่นเหม็นจากสมุนไพรด้วยเช่นกัน
ปริมาณ240 มล.ประเภทสมุนไพรแบบน้ำส่วนประกอบมะขามป้อม, ดอกกระเจี๊ยบ, ดอกเก๊กฮวย, พุทราจีน, ดอกคำฝอย, ใบเตยดูได้ที่ Shopee
FITNE สมุนไพรชง กลิ่นดั้งเดิม
ราคา 149 บาท*
และคงจะไม่มีใครไม่รู้จักกันนะคะสำหรับยาชงสมุนไพร ตราฟิตเน่ ซึ่งผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็ถือว่ามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางเลยทีเดียว จริง ๆ แล้วผลิตภัณฑ์ของแบรนด์นี้ก็มีให้เลือกกันเยอะแยะมากมายหลากหลายรสชาติ แต่รสที่เราเลือกมาแนะนำกันในวันนี้ก็คือกลิ่นดั้งเดิม ซึ่งก็จะมีกลิ่นความหอมแบบคลาสสิกของยาชงสมุนไพร ช่วยให้ผ่อนคลายและดื่มได้ง่ายมากขึ้น ยาชงสมุนไพรตัวนี้มีส่วนผสมหลัก ๆ ที่มาจากสมุนไพร 2 ชนิดค่ะ ได้แก่ ใบมะขามแขกและฝักมะขามแขกจากธรรมชาติ ซึ่งทั้งสองต่างก็มีคุณสมบัติเป็นยาระบายอ่อน ๆ
ปริมาณ40 ซอง (ซองละ 2 กรัม)ประเภทสมุนไพรชงดื่มส่วนประกอบใบมะขามแขก, ฝักมะขามแขกดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
Mc.Plus ไฟเบอร์มะขาม
ราคา 179 บาท*
เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีนะคะกับ Mc.Plus ไฟเบอร์มะขาม เพราะว่านอกจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะมีขายทางออนไลน์แล้วก็ยังมีขายตามร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ด้วยเช่นกัน โดยส่วนผสมหลัก ๆ ก็จะมาจากผงมะขามและส่วนผสมอื่น ๆ อีกหลากหลายตัว
ตัวผลิตภัณฑ์จะมาในรูปแบบผงและบรรจุมาในซองขนาดเล็กซึ่งก็เป็นปริมาณที่เหมาะสำหรับการดื่มในหนึ่งครั้งนั่นเองค่ะ สำหรับการใช้งานเองก็ง่ายเพียงแค่ฉีกซองแล้วผสมลงในน้ำเย็นก็เป็นอันเรียบร้อย ในส่วนของรสชาตินี่ถือว่าอร่อยเลยทีเดียว เพราะจะมีความเปรี้ยวและหวานนิด ๆ จึงสามารถจิบได้เรื่อย ๆ ไม่มีฝืนเลยแม้แต่น้อย แถมกลิ่นเองก็เป็นกลิ่นของมะขาม อันนี้เราว่าน่าจะเป็นกลิ่นที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอย่างแน่นอนเลยค่ะ
ปริมาณ6 ซอง (ซองละ 18 กรัม)ประเภทสมุนไพรชงดื่มส่วนประกอบผงมะขาม, ผงมะขามป้อม, ผงผักโขม, ผงสมอไทย และอื่น ๆดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
เครื่องดื่มสมุนไพรชีววิถีตรีผลา
ราคา 290 บาท*
เครื่องดื่มสมุนไพรชีววิถีตรีผลาเป็นการรวมเอาคุณประโยชน์ของผลไม้ทั้ง 3 อย่างมาผสมกันค่ะ โดยได้แก่ สมอไทย, มะขามป้อมและสมอภิเภกซึ่งหลัก ๆ แล้วตรีผลาก็จะมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลาย ๆ ด้าน สำหรับผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็จะมาในรูปแบบของเครื่องดื่มสูตรเข้มข้นที่มาใน 2 รสชาติ คือรสชาติหวานและรสชาติธรรมดา ดังนั้นใครอยากจะลองแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามต้องการเลยค่ะ
ปริมาณ1000 มล.ประเภทสมุนไพรแบบน้ำส่วนประกอบมะขามป้อม, สมอไทย, สมอพิเภกดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีการเลือกซื้อสมุนไพรดีท็อกซ์ ()
1. ส่วนผสม
ผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ส่วนใหญ่ในวันนี้ก็ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมหลัก ๆ ที่มาจากสมุนไพรธรรมชาติด้วยกันทั้งสิ้น แต่สิ่งสำคัญคือคุณจำเป็นต้องทราบว่าในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ประกอบด้วยสมุนไพรตัวไหนบ้าง โดยทางแบรนด์ควรจะมีการบอกถึงรายละเอียดส่วนนี้อย่างชัดเจน เพราะนอกจากนี่จะแสดงถึงความน่าเชื่อถือแล้วนั้น มันก็ยังทำให้ทราบค่ะว่าหากว่าทานเข้าไปแล้วจะมีอาการแพ้หรือมีปฏิกิริยาระหว่างยากับผลิตภัณฑ์หรือไม่ โดยส่วนผสมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและถือว่ามีส่วนช่วยในเรื่องของการระบบขับถ่ายนั้นก็ได้แก่
- ปอกะบิดมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยแก้บิด แก้ปวดท้อง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
- มะขามแขกมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยบรรเทาอาหารท้องผูก ช่วยขับลม ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น โดยส่วนที่ใช้ก็มักจะมาจากใบและฝักของมะขามแขก
- ใบเตย นอกจากจะใส่กลิ่นที่หอมแล้วนั้นมันก็ยังมีสรรพคุณในการปรับสมดุลร่างกายและยังเป็นยาขับปัสสาวะได้ด้วยเช่นกัน
- สมอไทยก็เป็นหนึ่งในตรีผลา โดยผลจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้ปัญหาท้องผูก แก้บิด ช่วยขับลมและช่วยดูแลลำไส้
- มะขามป้อมมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกายได้ทั่วทุกส่วน และยังสามารถช่วยบรรเทาปัญาท้องผูกได้ดี แล้วก็ยังเป็นหนึ่งในตรีผลาด้วยเช่นกัน
- สมอพิเภกก็จัดอยู่ในตรีผลาเช่นกันค่ะ ตัวนี้จะมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้นและช่วยแก้ปัญหาท้องร่วง ท้องเดินได้
- กระเจี๊ยบเป็นสมุนไพรที่ช่วยล้างพิษในระบบปัสสาวะและยังสามารถแก้กระหายได้ดี
- มะตูมมีสรรพคุณในการแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยแก้ปัญหาท้องร่วง ขับลมแล้วก็ช่วยระบายด้วยเช่นกัน
- ดอกคำฝอยมีส่วนช่วยขับเหงื่อและยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ ด้วยค่ะ
2. ประเภทของผลิตภัณฑ์
สำหรับประเภทของผลิตภัณฑ์เราก็จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ประเภทหลัก ๆ ค่ะ โดยใช้หลักการแบ่งตามรูปแบบของผลิตภัณฑ์นั่นเอง โดยทั้ง 3 ประเภทต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียดังนี้
- สมุนไพรต้มดื่ม : ข้อดีของผลิตภัณฑ์ในประเภทแรกเลยคือราคาไม่ได้สูงมากจนเกินไปค่ะ อีกทั้งยังมีตัวเลือกที่หลากหลาย โดยคุณสามารถเลือกได้ทั้งในเรื่องของปริมาณและส่วนประกอบของสมุนไพรในผลิตภัณฑ์ แล้วอีกอย่างคือปริมาณที่ได้ก็ค่อนข้างเยอะอีกด้วย แต่แน่นอนค่ะว่าข้อเสียเปรียบเลยคือมันค่อนข้างที่จะยุ่งยากและใช้เวลา ดังนั้นในเรื่องของความสะดวกก็ถือว่าตอบโจทย์ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
- สมุนไพรชงดื่ม : ข้อดีของผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ก็คือเรื่องของความสะดวกในการพกพาไปดื่มยังที่ต่าง ๆ นั่นเอง เพราะสมุนไพรแบบชงส่วนใหญ่จะแบ่งบรรจุมาในรูปแบบซองขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ก็แนะนำให้เลือกที่สามารถละลายน้ำได้ง่ายหรือหากว่าละลายได้ทั้งน้ำร้อนหรือน้ำเย็นก็จะสะดวกมากขึ้นค่ะ แต่ถ้าหากใครที่ต้องการส่วนผสมที่จัดหนักจัดเต็มอัดแน่นไปด้วยสมุนไพรเน้น ๆ เหมือนกับสมุนไพรประเภทแรกก็อาจจะหาซื้อได้ยากเล็กน้อย
- สมุนไพรแบบน้ำ : สำหรับประเภทนี้ก็จะมีส่วนผสมของสมุนไพรที่หลากหลายเช่นกันค่ะ โดยตัวสมุนไพรจะผ่านการสกัดออกในรูปแบบน้ำเบ็ดเสร็จ ข้อดีของประเภทนี้คือสะดวก รวดเร็ว พกพาง่าย ทั้งยังลดขั้นตอนการต้มที่ยุ่งยากและช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยทีเดียว แต่สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อาจต้องทำความเข้าใจวิธีการดื่มกันสักเล็กน้อย เพราะบางเจ้าคุณสามารถดื่มได้เลยทันที ในขณะที่บางเจ้าก็อาจต้องผสมน้ำร้อนก่อนนำมาดื่มนั่นเองค่ะ
3. ความสะดวกในการใช้งาน
สำหรับในข้อนี้ใครที่ต้องการสมุนไพรแบบต้มก็อาจจะต้องตรวจสอบสักเล็กน้อยนะคะว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการนั้นมีถุงต้มสมุนไพรมาให้หรือไม่ เพราะว่าในส่วนนี้จะทำให้คุณใช้งานได้สะดวกขึ้น เพราะสามารถทำความสะอาดตัวสมุนไพรและใส่ถุงนำลงไปต้มได้เลยทันที โดยที่ไม่ต้องเตรียมผ้าขาวบางให้เสียเวลานั่นเอง ในขณะที่บางแบรนด์ก็อาจจะมีถ้วยตวงสำหรับดื่มมาให้ด้วย อันนี้ก็จะยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่เลยค่ะ
4. บรรจุภัณฑ์
บรรจุภัณฑ์ถือเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็จริง แต่มันก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสมุนไพรที่ผ่านการอบแห้ง หากว่าบรรจุภัณฑ์ปิดได้ไม่สนิทหรือเกิดการฉีกขาดก็อาจทำให้สมุนไพรเสื่อมสภาพได้ โดยเราขอแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปิดได้มิดชิด แข็งแรง และแน่นหนา เพื่อที่ว่าสมุนไพรจะยังคงประสิทธิภาพเอาไว้ได้ดีที่สุดนั่นเอง หากว่าตัวผลิตภัณฑ์มาในรูปแบบของเหลวก็ควรตรวจสอบให้แน่ใจค่ะว่าไม่มีการรั่วหรือซึมออกจากตัวบรรจุภัณฑ์
5. ความปลอดภัย
สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือเรื่องของความปลอดภัยค่ะ โดยเราขอแนะนำให้เลือกซื้อจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ มีข้อมูลรายละเอียดของสินค้าที่ชัดเจนทั้งในทางช่องทางออนไลน์หรือบนตัวผลิตภัณฑ์เองก็ตาม อาทิเช่น ข้อมูลของสินค้า, วิธีการต้มดื่ม, ปริมาณที่แนะนำ, ข้อมูลของส่วนผสม, ข้อมูลของผู้ผลิตสินค้า ตลอดจนเครื่องหมายรับรองคุณภาพและความปลอดภัยอย่างอย. ด้วยนั่นเองค่ะ
คำแนะนำสำหรับการใช้สมุนไพรดีท็อกซ์ ()
1. สมุนไพรดีท็อกซ์ไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก
ข้อแรกที่อยากจะให้ทำความเข้าใจกันก่อนนั้นก็คือสมุนไพรต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นยาลดน้ำหนักแต่อย่างใดค่ะ เหตุที่ทำให้เราน้ำหนักลดลงนั้นอาจมาจากสาเหตุที่ว่าสมุนไพรดีท็อกซ์ส่วนใหญ่มีคุณสมบัติที่ทำให้ร่างกายขับน้ำและของเสียออกทางปัสสาวะและอุจจาระ นี่จึงทำให้น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้คุณรู้สึกเบาและสบายตัวมากขึ้นเพียงเท่านั้นค่ะ แล้วอีกอย่างการดีท็อกซ์เองก็ยังไม่สามารถช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินด้วยเช่นกัน
ดังนั้นแล้วเราจึงไม่แนะนำให้ใช้สมุนไพรดีท็อกซ์ในการลดน้ำหนัก เพราะถึงอย่างไรก็ดีวิธีการที่ปลอดภัยและยั่งยืนกว่าในการลดน้ำหนักเพื่อหุ่นสวยและช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรง นั่นก็คือการออกกำลังกาย การพักผ่อนที่เพียงพอ การดื่มน้ำและการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์นั่นเอง
2. ควรดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ
สำหรับปริมาณในการดื่มและความถี่เราขอแนะนำให้ปฏิบัติตามที่ทางแบรนด์นั้น ๆ แนะนำอย่างเคร่งครัดหรือถ้าหากไม่แน่ใจก็ให้ปรึกษากับทางแบรนด์ก่อนได้ค่ะ เพราะในกรณีถ่ายของเสียบ่อยเกินไปก็อาจทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะขาดน้ำและเมื่อนาน ๆ เข้าก็อาจเป็นอันตรายได้ค่ะ
3. เก็บรักษาให้ถูกวิธี
ข้อต่อมาคือคุณควรเก็บรักษาสมุนไพรดีท็อกซ์ให้ถูกวิธีค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมุนไพรแบบแห้งจำเป็นมากที่จะต้องปิดบรรจุภัณฑ์ให้มิดชิด หลีกเลี่ยงแสงแดดและความร้อน ตลอดจนความชื้นด้วยเช่นกัน
4. ควรต้มตามวิธีที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์
ในแต่ละแบรนด์ก็จะมีการระบุถึงวิธีการต้มสมุนไพรที่แตกต่างกันค่ะ ทั้งในเรื่องของระยะเวลาในการต้มและปริมาณของน้ำ เนื่องจากส่วนผสมและปริมาณของผลิตภัณฑ์นั้นแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแนะนำว่าควรเลือกใช้ปริมาณน้ำและระยะเวลาที่ได้ระบุไว้จะดีที่สุดนะคะ
นอกจากนี้แล้วสิ่งที่เราอยากจะเพิ่มเติมนั่นก็คือในการต้มควรที่จะล้างทำความสะอาดสมุนไพรให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่ติดมากับสมุนไพรด้วยนั่นเองค่ะ รวมถึงภาชนะสำหรับต้มและภาชนะสำหรับใส่น้ำสมุนไพรหลังจากต้มเสร็จก็ควรที่จะทำความสะอาดให้เรียบร้อยเสียก่อนหรืออาจจะเลือกใช้เป็นภาชนะใหม่เลยก็ได้ค่ะ
5. ไม่ควรใช้สมุนไพรดีท็อกซ์ติดต่อกันเป็นเวลานาน
สิ่งหนึ่งที่ถือว่าสำคัญมากเช่นกันนั่นก็คือเรื่องของระยะเวลานั่นเองค่ะ ซึ่งก็ขอออกตัวก่อนว่าแต่ละคนนั้นมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุหรือน้ำหนัก เป็นต้น ฉะนั้นอาจจะใช้เวลา 3 หรือ 5 วัน บ้างก็อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า ทว่าการดีท็อกซ์ไม่ควรทำติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยในระหว่างการทำดีท็อกซ์ควรมีการเว้นช่วหรือทำแค่บางช่วงเท่านั้น เนื่องจากร่างกายของคงเรานั้นมีอวัยวะและระบบต่าง ๆ ที่พร้อมทำหน้าที่กำจัดสารพิษหรือสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากร่างกายอยู่แล้ว ถ้าหากว่าเราดีท็อกซ์มากเกินไปก็จะเป็นการรบกวนการทำงานของของร่างได้ ดังนั้นแล้วนอกจากจะใช้วิธีการดีท็อกซ์เพียงอย่างเดียวเราขอแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นการลดการนำเข้าของสารพิษด้วยการหันมาทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ก็จะดีกว่านะคะ
6. ไม่ต้มสมุนไพรซ้ำ
สมุนไพรดีท็อกซ์แบบต้มดื่มสามารถต้มได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะคะ ไม่สามารถนำมาต้มซ้ำใหม่ได้ โดยหลังจากที่ต้มเสร็จแล้วกากที่เหลือจะต้องกรองออกและใช้ดื่มแค่เฉพาะน้ำสมุนไพรเท่านั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าสมุนไพรดีท็อกซ์ 1 ถุงมีการบรรจุสมุนไพรมาในปริมาณที่พอดีกับปริมาณน้ำที่ใช้ต้ม ประสิทธิภาพการทำงาน ตลอดจนระยะเวลาในการดื่มเพื่อช่วยดีท็อกซ์
7. ควรแช่ตู้เย็นเพื่อยืดอายุ
หลังจากที่ต้มสมุนไพรแล้วกรองเอากากสมุนไพรออกเรียบร้อยแล้ว ก็แนะนำให้ตั้งไว้สักครู่เพื่อให้สมุนไพรเย็นตัวลง จากนั้นก็นำใส่ขวดแล้วแช่ในตู้เย็นเพื่อเป็นการยืดอายุให้สามารถเก็บได้นานยิ่งขึ้น แต่ถ้าหากพบการเปลี่ยนแปลงที่ดูผิดปกติ อย่างเช่น น้ำสมุนไพรมีรสชาติเปรี้ยวกว่าปกติหรือเกิดฟองก็อาจหมายถึงน้ำสมุนไพรเสียก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วแนะนำว่าให้เก็บรักษาน้ำสมุนไพรให้ถูกวิธีและก่อนดื่มทุกครั้งก็อย่าลืมตรวจสอบรสชาติรวมถึงลักษณะของน้ำสมุนไพรด้วยนะคะ
บทส่งท้าย
สุดท้ายนี้เราก็ขอฝากเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยค่ะว่าการที่จะมีหุ่นสวยและมีสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการดีท็อกซ์และก็ไม่ควรฝากความหวังทั้งหมดไว้กับการดีท็อกซ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะถึงอย่างไรก็แล้วแต่การดูแลสุขภาพกายตลอดจนสุขภาพจิตให้สมบูรณ์แข็งแรงก็ยังคงถือเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดอยู่ดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์, การงดสูบบุหรี่, การออกกำลังกาย, การรักษาน้ำหนักและรูปร่างให้แข็งแรง และวิธีการอื่น ๆ อีกหลากหลายวิธีที่คุณน่าจะเคยได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการดูแลรักษาสุขภาพสุดคลาสสิกที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงและช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวได้อย่างแน่นอน
สมุนไพรถึงแม้ว่าฟังดูอาจจะเป็นมิตรและดูเหมือนไม่มีอันตรายก็จริง แต่สมุนไพรก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ ดังนั้นแล้วแนะนำว่าให้ปฏิบัติความคำแนะนำในการใช้สมุนไพรอย่างเคร่งครัด และถ้าหากว่าใครที่มีโรคประจำตัวหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เราได้กล่าวไปข้างต้นก็ขอย้ำอีกครั้งว่าจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนนะคะ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอตัวลากันไปแล้วกลับมาเจอกันใหม่ในบทความถัดไปนะคะ บ๊าย 🙂