ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล

อาหารไทยหลากหลายเมนูนั้น ถือได้ว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่า และมีรสชาติอร่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมนู ต้ม แกงนั้น ก็เรียกว่าเป็นเมนูโปรดประจำใจของใครหลายคนเลยทีเดียว และนอกจากจะอร่อยแล้ว เมนูต้มและแกงบางเมนูก็ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แถมยังแคลอรี่น้อย ทำให้มีรูปร่างดีได้อีกด้วย ลองมาดู 6 อันดับเมนูต้มและแกงแคลฯ น้อยกัน

6. ต้มแซ่บซี่โครงหมู 160 กิโลแคลอรี่

เริ่มต้นกันที่เมนูคลาสสิคที่ไม่ว่าร้านอาหารอีสานที่ไหนก็ต้องมี ซึ่งเมนูต้มแซ่บนี้จะให้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 160 กิโลแคลอรี่ ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็มาจากซี่โครงหมูนั่นเอง แต่ทั้งนี้เมนูนี้ก็ยังได้ประโยชน์จากผักสมุนไพรอย่าง ผักชี, ข่า และตะไคร้ ช่วยบรรเทาอาการจากหวัด และโรคภูมิแพ้ได้ดีทีเดียว

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล
© รูปต้นฉบับ: knorr

5. แกงส้มกุ้งสด 135 กิโลแคลอรี่

สำหรับเมนูนี้ค่อนข้างโดนใจคนหลายภาคเพราะเป็นเมนูที่มีรสชาติเปรี้ยว แซ่บลงตัว แถมยังมีกุ้งสดอีกด้วย ซึ่งเมนูนี้จะให้พลังงานอาหารอยู่ที่ 135 กิโลแคลอรี่ โดยประโยชน์ที่ได้รับนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะมาจากผักที่ใส่ลงไป เช่น ดอกแค, หัวไชเท้า, ผักกาด, หรืออย่างภาคใต้บางแห่งก็นิยมใส่สับปะรดลงไปด้วย เป็นเมนูที่อุดมไปด้วยวิตามินซีอย่างแท้จริง

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล
© รูปต้นฉบับ: goodlifeupdate

4. ต้มส้มปลาทู 130 กิโลแคลอรี่

อีกหนึ่งเมนูเปรี้ยวแซ่บที่ต้องลอง ซึ่งเมนูนี้ให้พลังงานอยู่ที่ 130 กิโลแคลอรี่ โดยวัตถุดิบหลักก็คือ ปลาทูและสมุนไพรที่ใส่ลงไปด้วยนั่นเอง ซึ่งหลัก ๆ แล้ว จะเป็นขิง ทำให้คนที่ชอบรับประทานเมนูนี้ได้รับทั้งสารอาหารอย่างโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง และยังได้ประโยชน์จากสมุนไพรช่วยขับลมอย่างขิงอีกด้วย

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล
© รูปต้นฉบับ: kapook

3. ต้มไก่บ้านยอดมะขาม 120 กิโลแคลอรี่

เมนูพื้นบ้านที่อาจจะหาทานได้ยากแล้วในปัจจุบัน แต่สำหรับเมนูนี้ต้องบอกเลยว่าให้พลังงานไม่มาก เพราะอยู่ที่ 120 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ซึ่งนอกจากปริมาณแคลอรี่ที่น้อยแล้ว ประโยชน์ของเมนูนี้ก็ยังมีมากเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะขาม ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลัก ที่ให้สรรพคุณในการช่วยขับถ่าย ขับลม อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการสร้างไขมันไม่ดีในร่างกายอีกด้วย

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล
© รูปต้นฉบับ: knorr

2. ต้มโคล้งปลาย่าง 110 กิโลแคลอรี่

สำหรับเมนูนี้ ต้องบอกเลยว่ารสชาติแซ่บแบบกลมกล่อมลงตัว แถมยังมีกลิ่นปลาย่างหอม ๆ อีกด้วย ซึ่งต้มโคล้งปลาย่างนั้น จะให้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 110 กิโลแคลอรี่ ค่อนข้างเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่อยากทานอาหารรสจัด แต่ยังได้รูปร่างที่ดีอยู่ ซึ่งนอกจากจะแคลฯ ต่ำแล้ว เมนูนี้ก็ยังมีส่วนประกอบของผักสมุนไพรหลายชนิดที่ให้ประโยชน์กับร่างกายอีกด้วยนะ

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล
© รูปต้นฉบับ: readerth

1. แกงเลียงกุ้งสด 104 กิโลแคลอรี่

อันดับ 1 ของเรา ยกให้เป็นเมนูที่เรียกว่าทั้งมีประโยชน์มาก และอร่อยมากอย่าง แกงเลียงกุ้งสด ซึ่งเมนูในให้พลังงานเพียง 104 กิโลแคลอรี่ สาว ๆ ที่อยากลดน้ำหนักต้องหัดทำเมนูนี้กันไว้เลย และแม้ว่าจะเป็นเมนูแคลฯ ต่ำขนาดนี้ แต่สรรพคุณทางยานั้นมีมากทีเดียว เพราะแกงเลียงจะประกอบไปด้วย บวบ ฟักทอง ตำลึง และเห็ด ซึ่งล้วนแต่เป็นผักที่มีประโยชน์ และมีกากใยมาก ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหารได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ

ต้ม แซ่ บ เครื่อง ใน หมู กี่ แค ล
© รูปต้นฉบับ: seefah

ทั้ง 6 อันดับเมนูต้ม และแกงที่เราจัดอันดับมาฝากกันก็เป็นเมนูที่มีทั้งความอร่อย และมีประโยชน์ แถมยังช่วยรักษาหุ่นได้ดีอีกด้วยนะ ซึ่งถ้าจะให้ดีก็ควรทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ก็จะช่วยให้อิ่มแบบพอดีไม่ต้องกินจุกจิกเพิ่มเติมภายหลังด้วย

แซ่บกันต่อ…

เกาเหลาเล้งกี่แคล

ข้อมูลโภชนาการ, แคลอรี่, พลังงาน และสารอาหาร ใน ต้มเล้งแซ่บ ในปริมาณ 1 มีพลังงานทั้งหมด 433.5 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 43.1 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 17.9 กรัม, ไขมัน 22.4 กรัม เราสามารถดูรายละเอียดข้อมูลอื่นๆ เข่น เกลือโซเดียม, คอเลสเตอรอล, วิตามิน, ไขมันอิ่มตัว, ไขมันไม่อิ่มตัว, น้ำตาล, กากไยอาหาร ฯลฯ ได้จากตารางด้านล่างครับ

เกาเหลากระดูกหมูกี่แคล

ข้อมูลโภชนาการ, แคลอรี่, พลังงาน และสารอาหาร ใน เกาเหลาหมูตุ๋น ในปริมาณ 1 มีพลังงานทั้งหมด 372 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 21 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 18.1 กรัม, ไขมัน 23.8 กรัม เราสามารถดูรายละเอียดข้อมูลอื่นๆ เข่น เกลือโซเดียม, คอเลสเตอรอล, วิตามิน, ไขมันอิ่มตัว, ไขมันไม่อิ่มตัว, น้ำตาล, กากไยอาหาร ฯลฯ ได้จากตารางด้านล่างครับ

หมูกะดูกอ่อนกี่แคล

ซี่โครงอ่อน.

ต้มแซ่บกระดูกอ่อนกี่แคลอรี่

เริ่มต้นกันที่เมนูคลาสสิคที่ไม่ว่าร้านอาหารอีสานที่ไหนก็ต้องมี ซึ่งเมนูต้มแซ่บนี้จะให้พลังงานอยู่ที่ประมาณ 160 กิโลแคลอรี่ ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็มาจากซี่โครงหมูนั่นเอง แต่ทั้งนี้เมนูนี้ก็ยังได้ประโยชน์จากผักสมุนไพรอย่าง ผักชี, ข่า และตะไคร้ ช่วยบรรเทาอาการจากหวัด และโรคภูมิแพ้ได้ดีทีเดียว