บัตรประจำตัวประชาชนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการขึ้นเครื่องบินเลยแหละ เพื่อเอาไปเช็คอินก่อนเดินทางนั่นเอง แต่หลายคนอาจจะลืมหยิบมาจากบ้านหรือว่าหายระหว่างทางไปสนามบิน เรื่องแบบนี้มันก็เกิดขึ้นได้เสมอใช่มั้ยคะ Show หลายคนจึงมีคำถามว่าหากเกิดแบบนี้แล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง สามารถเดินทางได้มั้ย หรือต้องทิ้งตั๋วไปเลย มาค่ะเรามีวิธีที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาบอกกัน บอกเลยว่าง่ายนิดเดียว 1.ใบแจ้งความกรณีต้องรีบเดินทางแล้วจริงๆ แวะสถานีตำรวจเพื่อแจ้งบัตรประชาชนหาย จากนั้นใช้ใบแจ้งความยื่นต่อพนักงานเพื่อเช๊คอินได้เลย สะดวกสุดๆ ยอมเสียเวลาเดินไปหาตำรวจก็สามารถเดินทางได้แล้ว
2.พาสปอร์ตพาสปอร์ตถือเป็นตัวช่วยอันดับแรกที่สามารถช่วยเราได้ เนื่องจากภายในเล่มก็มีข้อมูลครบทุกอย่างรวมทั้งใบหน้าสวย หล่อของเราด้วย จึงใช้แทนบัตรประชาชนได้เลย แล้วต้องเป็นตัวจริง เล่มจริงเท่านั้น 3.บัตรนักศึกษา/บัตรข้าราชการใครเป็นนักศึกษาอยู่อาจจะสบายใจหน่อยเพราะ บัตรนักศึกษาที่มีใบหน้าของเรานั่นสามารถใช้แทนกรณีบัตรประชาชนหายได้ด้วย ส่วนผู้ใหญ่ก็สามารถใช้บัตรประจำตัวข้าราชการแทนได้เหมือนกัน เนื่องจากมีข้อมูลและรูปตรงกับเจ้าตัว 4.ใบขับขี่แน่นอนว่าหลายคนคงต้องพกใบขับขี่ติดตัวกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นใบขับขี่รถยนต์ หรือ ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ เนื่องจากมีใบหน้าของเราและข้อมูลพื้นฐานอยู่ ก็สามารถใช้แทนได้เหมือนกัน แล้วต้องใช้ตัวจริงนะคะ 5.สำเนาบัตรประชาชนกรณีไม่มีบัตรอย่างอื่นเลยให้เราถ่ายเอกสารบัตรประชาชนแล้วยื่นให้กับพนักงานได้ ส่วนใครที่ไม่มีสำเนาเก็บไว้เลยก็สามารถไปแจ้งกับอำเภอเพื่อขอคัดลอกสำเนาบัตรประชาชนได้ค่ะ แต่ในเมื่อไปถึงอำเภอแล้วก็ควรทำใหม่เลยนะ ^^” ทั้งหมดนี้สามารถใช้แทนบัตรประชาชน กรณีลืมหรือว่าหายและสามารถใช้ได้กับเส้นทางการบินในประเทศเท่านั้นค่ะ อย่างไรก็ตามก่อนจะเดินทางควรตรวจสอบให้ดีทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยและไม่เสียเวลาด้วย ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัยนะคะ ^^ จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนายสมคิด พุ่มพวง ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรม นางรัศมี มุลิจันทร์ ได้ที่สถานีรถไฟปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยพลเมืองดีช่วยชี้เบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ แต่อีกด้านมีการตั้งคำถามถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ขายตั๋วของการรถไฟ ที่ไม่มีการตรวจบัตรประชาชนหรือสังเกตผู้มาซื้อตั๋วรถไฟ จนปล่อยให้นายสมคิด ขึ้นรถไฟไปแล้วเกือบ 4 ชั่วโมง และตั้งข้อสังเกตว่าถ้าหากนายสมคิด ลงรถไประหว่างทางอาจจะยังจับตัวไม่ได้ วันที่ 20 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ แต่ไม่พบพนักงานที่ขายตั๋วในวันดังกล่าวเพราะไม่ได้เข้าเวร เนื่องจากช่วงกลางวันจะมีพนักงานขายตั๋วเข้าเวร 3 คน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 18.00 น. กะกลางคืนเข้าเวรตั้งแต่เวลา 18.00 – 06.00 น. แต่เพื่อนพนักงานขายตั๋วให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะพนักงานขายตั๋วด้วยกันรู้สึกเสียใจและน้อยใจที่ถูกโซเชียลตำหนิแบบเสียหาย ขอชี้แจงว่าพนักงานทำหน้าที่ตามระเบียบข้อกำหนดของการรถไฟ คือ การขายตั๋วขบวนธรรมดาไม่ต้องขอดูบัตรประชาชนจากผู้ที่มาซื้อตั๋ว และในวันนั้นตามที่ปรากฎในวงจรปิดก็ใช้เวลาขายตั๋วต่อผู้โดยสาร 1 คน ไม่ถึง 1 นาที จึงไม่มีเวลาที่จะไปจ้องมองหน้าใคร โดยเฉพาะนายสมคิดที่ปิดบังใบหน้ามาอย่างมิดชิด “บางทีการขายตั๋วโดยสารจะไปมองหน้าผู้โดยสารมากเกินไปก็เกิดความไม่พอใจ เราจะไปก้าวก่ายเขามากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะเราเป็นฝ่ายให้บริการต้องทำพอเหมาะพอควร อย่างผู้โดยสารถ้าเขาปิดแมสมาจะไปขอเขาเปิดดูก็กระทบสิทธิส่วนบุคคล” “เราทำหน้าที่แค่ขายตั๋ว ไม่ได้ทำหน้าที่จับคนร้าย ที่มาบอกว่าทอนเงินให้ผู้โดยสาร อยู่กับผู้โดยสารมากที่สุด ขายตั๋วจริงๆ แล้วอยู่กับผู้โดยสารไม่ถึง 1 นาทีต่อคน ” ด้านนายบรรจง จันทร นายสถานีรถไฟบุรีรัมย์ กล่าวว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบ ขอชี้แจงดังนี้ 1.ระเบียบของการรถไฟแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการจำหน่ายตั๋วชั้นสามกับรถโดยสารธรรมดาและซื้อตั๋วในวันเดินทางไม่ต้องแสดงบัตรประชาชน 2.ผู้ต้องหาใส่หมวกสวมหน้ากากอนามัยปิดใบหน้า จึงไม่สามารถมองเห็นใบหน้าที่ชัดเจน 3.ระยะเวลาที่มาซื้อตั๋วใช้เวลาหน้าช่องจำหน่ายตั๋วเพียง 1 นาที ซึ่งไม่มีเวลาที่จะทันได้สังเกตความผิดปกติ อย่างไรก็ตามได้สอบถามพนักงานที่จำหน่ายตั๋วแล้วเหตุที่ไม่ได้สังเกตและเฝ้าระวัง เพราะไม่ได้ติดตามข่าวสารจากทางสื่อต่างๆ รวมทั้งไม่ได้รับแจ้งจากผู้เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังผู้ต้องหารายนี้ด้วย ซึ่งสถานีรถไฟบุรีรัมย์ยินดีน้อมรับคำติชมและจะนำไปปรับปรุงการทำงานเพื่อให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจสูงสุด ต่อมา เจ้าหน้าที่สาวของการรถไฟ ที่ขายตั๋วให้กับนายสมคิด พุ่มพวง กล่าวทั้งน้ำตาถึงการที่ถูกวิจารณ์ว่า รู้สึกน้อยใจ เพราะขายตั๋วไม่มีเวลาที่จะไปจ้องมองหน้าใคร โดยเฉพาะนายสมคิด ที่ปิดบังใบหน้ามาอย่างมิดชิด ที่จริงแล้วก่อนที่จะมาถึงคนขายตั๋ว ผ่านเจ้าหน้าที่มาหลายฝ่าย และผ่านมาตั้งหลายจังหวัด ซึ่งจังหวัดเหล่านั้นใกล้กับจุดที่เกิดเหตุด้วยซ้ำ อยากให้สังคมเห็นใจ เพราะถ้ารู้ก็อยากจะได้ 50,000 บาทเหมือนกัน ทำไมซื้อตั๋วรถไฟต้องใช้บัตรประชาชนตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป การจองตั๋วโดยสารรถไฟ ต้องแสดง "บัตรประชาชน" หรือเอกสารราชการที่มีเลขประจำตัวประชาชน ชาวต่างชาติแสดงหนังสือเดินทาง (ยกเว้น ตั๋วชั้น 3 ที่ซื้อในวันเดินทาง) ทั้งนี้การออกตั๋วทุกครั้งจะระบุชื่อผู้โดยสารและเลขประจำตัวประชาชนของผู้โดยสารทุกครั้งเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามหรือผู้โดยสารทำ ...
ให้คนอื่นซื้อตั๋วรถไฟได้ไหมคุณสามารถที่จะให้บุคคลอื่นไปรับตั๋วรถไฟแทนคุณได้ เพียงแค่คุณยืนยันตัวตนผ่านทางฝ่ายบริการลูกค้า (Support Function) เพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวลูกค้าและทางเราเอง บุคคลที่จะเดินทางมารับตั๋วแทนคุณจะต้องเซ็นลายเซ็นตอนที่มารับตั๋ว
ซื้อตั๋วรถไฟใช้สำเนาบัตรประชาชนได้ไหมข่าวประชาสัมพันธ์ จากเพจสถานีรถไฟกรุงเทพ แจ้งว่าตั้งแต่วันเปิดเทอม (16 พฤษภาคม 2556) เป็นต้นไป การสำรองตั๋วโดยสารรถไฟล่วงหน้า จะต้องแสดงบัตรประชาชน หรือเอกสารราชการอื่นๆ ที่มีเลขบัตรประชาชนด้วย ยกเว้นตั๋วชั้น 3 ที่ซื้อในวันเดินทาง
จะขึ้นรถไฟต้องเตรียมอะไรบ้างโดยแสดงบัตรประชาชนพร้อมกับกรอกเอกสารรับรองความจำเป็นในการเดินทาง (แบบ ต.8-คค/รฟท) และจะต้องมีหนังสืออนุญาตการเดินทางจากทางจังหวัดออกนอกพื้นที่มาแสดงด้วย แต่หากผู้โดยสารไม่มีเอกสารดังกล่าว จะไม่สามารถซื้อตั๋วโดยสารรถไฟได้
|