ชีวิตและการศึกษาในวัยเด็ก อาจารย์เฉลิมชัยเป็นลูกคนที่3 มีพ่อเป็นคนจีน ชื่อ ฮั่วชิว แซ่โค้ว (ภายหลังเปลี่ยนเป็นนายไพศาล) แม่เป็นคนอำเภอพะเยา (อดีตเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดเชียงราย) ชื่อ พรศรี อยู่สุข แม่ไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุลจนบัดนี้ ชีวิตตอนเด็ก ๆ เป็นคนเกเร ไม่ตั้งใจเรียน แต่มีความชอบวาดรูป จึงตั้งเป้าที่จะเรียนเพาะช่างและมหาวิทยาลัยศิลปากรให้ได้ ซึ่งสามารถเข้าเรียนได้ และเรียนได้อย่างดีเยี่ยม จนได้รับรางวัลเหรียญทอง จากการประกวดงานระดับชาติ ในสมัยที่ยังเรียนอยู่ชั้นปีที 4 และได้จบการศึกษาจาก คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากรในที่สุด มีอยู่ครั้งนึงที่ได้รับทุนเดินทางไปดูงานต่างประเทศ (ระหว่างปี พ.ศ. 2524 – 2526) เป็นทุนของสถาบันและองค์กรต่างๆ หลายครั้ง เมื่อครั้งที่ได้ไปประเทศอังกฤษ ได้เห็นโบสถ์ที่วัดไทย วัดพุทธปทีป ในกรุงลอนดอน ซึ่งสร้างโดยรัฐบาลนายกฯเกียงศักดิ์ ก็รู้สึกมีความศรัทธา อาจารย์เฉลิมชัยจึงเสนอตัวเพื่อขอเขียนรูปถวายเป็นพุทธบูชา โดยไม่คิดค่าจ้างร่วมกับเพื่อนรุ่นน้องชื่อ ปัญญา วิจินธนสาร โดยใช้ชีวิตกว่า 4 ปีอยู่ที่นั่นท่ามกลางความยากลำบากต่างๆ นานา มีปัญหาสารพัด ผู้คนทะเลาะกัน พระไม่ลงรอยกับกรรมการ ไม่มีเงิน ไม่มีแรง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้อธิษฐานกับหลวงพ่อดำที่อยู่ที่นั่นว่า "เหนื่อยเหลือเกินแล้ว ท้อที่สุด แต่อยากทำให้เสร็จ ขอแลกด้วยชีวิตก็ยอม" และหลังจากนั้น อาจารย์ก็ได้พบกับพลเอกเปรมที่มาเยี่ยมที่ลอนดอนพอดี การทำงานนั้นจึงได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจาก พลเอกเปรม จนสำเร็จ และอาจารย์เฉลิมชัยจึงมีความรู้สึกว่า หลวงพ่อดำจะประธานให้แต่โชค และไม่ต้องการชีวิตของอาจารย์ตอบแทน เมื่อกลับมาเริ่มต้นชีวิตที่เมืองไทย ด้วยเงินติดกระเป๋าเพียง 4000 บาท แต่ด้วยฝีมือการวาดภาพที่เข้าขั้นสามารถทำเงินได้มหาศาลภายในเวลาอันสั้น ช่วงนี้เป็นช่วงที่อาจารย์เฉลิมชัยบอกว่าเกลียดตัวเองที่สุด เพราะเต็มไปด้วยกิเลส ลุ่มหลง กามารมณ์ แต่หลังจากติดบ่วงทางโลกได้ 2-3 ปี อาจารย์เฉลิมชัย ก็เริ่มหันเข้าสู่ธรรมะ บวชและออกธุดงค์อยู่ตามป่าช้า และหลังจากสึกออกมาก็ไม่เคยทำความเลวใดอีกเลย อาจารย์เฉลิมชัย ได้มีโอกาสถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยร่วมในทีมวาดรูปประกอบหนังสือพระมหาชนก เลยมีความประทับใจ และรู้สึกว่าชีวิตนี้พร้อมจะถวาย เพื่อสร้างงานซักชิ้นไว้คู่พระบารมี นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง และเป็นประธานกลุ่ม ศิลปไทย 23 โดยภาพจิตกรรมของอาจารย์เฉลิมชัยเป็นการนำเอาจิตวิญญาณของยุคสมัยมาผนวกให้เข้ากับศิลปะโบราณ ที่สืบทอดกันมาหลายช่วยอายุคน เกิดเป็นจิตกรรมไทยร่วมสมัยที่เปี่ยมไปด้วยพลัง และเขายังศึกษาเรื่องราวของความเชื่อของไทย และความเชื่อทางพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ เพื่อจะนำมาถ่ายทอดให้คนยุคปัจจุบันได้รู้จักและเข้าใจ งานของเขามีความละเอียดปาณีต และงดงามสดใสด้วยสีสมัยใหม่ จากกลุ่มศิลปไทย 23 นี้เอง จึงเกิดมีแนวนิยมจิตกรรมไทยแนวพุทธศาสนาขึ้นมาใหม่ แบะมีศิลปินที่ยึดแนวนี้ต่อมาจำนวนมาก บันเทิง "อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์" น้ำตาคลอ ผู้ว่าฯเชียงรายถูกย้ายไปกระบี่ กระทบงานศิลปะ16 พ.ย. 2565 เวลา 10:21 น.1.7k
|