Editร ปใน iphone แล้ว ไม เก็บ file original

รูปภาพ iCloud ทำงานกับแอปรูปภาพเพื่อเก็บรูปภาพและวิดีโอของคุณอย่างปลอดภัยใน iCloud และอัปเดตอยู่เสมอใน iPhone, iPad, iPod touch, Mac, Apple TV และ iCloud.com

• วิธีการทำงานของรูปภาพ iCloud
• เปิดใช้รูปภาพ iCloud
• จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณแก้ไขหรือลบรูปภาพ
• ดาวน์โหลดสำเนารูปภาพและวิดีโอของคุณ
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพียงพอ

วิธีการทำงานของรูปภาพ iCloud

รูปภาพ iCloud จะเก็บรูปภาพและวิดีโอที่คุณถ่ายทั้งหมดไว้ใน iCloud โดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงคลังของคุณจากอุปกรณ์เครื่องใดก็ได้ ทุกเวลาที่คุณต้องการ การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณทำกับคอลเลกชั่นบนอุปกรณ์เครื่องหนึ่งจะไปปรากฏบนอุปกรณ์เครื่องอื่นด้วย รูปภาพและวิดีโอของคุณจะได้รับการจัดระเบียบเป็นปี เดือน วัน และรูปภาพทั้งหมดและความทรงจำและผู้คนทั้งหมดของคุณจะได้รับการอัปเดตในทุกเครื่อง ดังนั้น คุณจึงสามารถค้นหาช่วงเวลา สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนที่คุณต้องการได้อย่างรวดเร็ว

โดยเวลาที่ใช้ในการแสดงผลรูปภาพและวิดีโอบนอุปกรณ์ทุกเครื่องที่คุณมี รวมถึงใน iCloud.com อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเร็วอินเทอร์เน็ต

เปิดใช้รูปภาพ iCloud

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ตั้งค่า iCloud และลงชื่อเข้าใช้บัญชี iCloud ด้วย Apple ID เดียวกันบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ หากคุณมี PC คุณต้องมี Windows 7 หรือใหม่กว่า และ iCloud สำหรับ Windows

บน iPhone, iPad หรือ iPod touch

1. ไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ]
2. แตะ iCloud
3. แตะรูปภาพ จากนั้นเปิดใช้รูปภาพ iCloud

บน Mac ของคุณ

1. เลือกเมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ
2. คลิก Apple ID 
3. คลิก iCloud ในแถบด้านข้าง จากนั้นเลือกรูปภาพ 

หากคุณมี macOS รุ่นก่อนหน้า ให้ไปที่การตั้งค่าระบบ > iCloud คลิกตัวเลือกถัดจากรูปภาพ จากนั้นเลือกรูปภาพ iCloud

บน Apple TV 4K และ Apple TV HD

1. ไปที่การตั้งค่า > ผู้ใช้และบัญชี
2. เลือก iCloud
3. เปิดใช้รูปภาพ iCloud

บน PC ที่ใช้ Windows

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคุณแก้ไขหรือลบรูปภาพ

รูปภาพและวิดีโอของคุณจะถูกจัดเก็บใน iCloud ในรูปแบบดั้งเดิมที่ระดับความละเอียดสูงสุด ซึ่งรวมถึง HEIF, JPEG, RAW, PNG, GIF, TIFF, HEVC และ MP4 รวมถึงรูปแบบไฟล์พิเศษที่คุณจับภาพด้วย iPhone หรือ iPad เช่น สโลว์โมชั่น ไทม์แลปส์ วิดีโอ 4K ไปจนถึง Live Photos รูปภาพและวิดีโอที่คุณถ่ายด้วยอุปกรณ์เหล่านี้จะอยู่ในรูปแบบ HEIF และ HEVC เมื่อคุณแก้ไขหรือลบรูปภาพหรือวิดีโอ การกระทำนั้นจะมีผลต่ออุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ

การแก้ไขจะแสดงบนอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ

เมื่อคุณ แก้ไขในแอปรูปภาพบน iPhone, iPad หรือ iPod touch หรือ บน Mac ของคุณ รูปภาพนั้นจะอัปเดตโดยอัตโนมัติในทุกอุปกรณ์ของคุณ รวมทั้ง Apple TV ด้วย ซึ่งหากคุณครอบตัดหรือปรับความอิ่มสีของรูปภาพจาก iPhone คุณก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเมื่อเปิดดูรูปภาพในคลังจาก Mac รูปภาพและวิดีโอต้นฉบับของคุณจัดเก็บไว้ใน iCloud ซึ่งคุณสามารถกลับมายังรูปภาพและวิดีโอต้นฉบับนี้ได้ทุกเมื่อ และสามารถแปลงกลับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่คุณทำไว้

รูปภาพนั้นจะลบออกจากอุปกรณ์ทุกเครื่องของคุณ

รูปภาพและวิดีโอที่คุณลบบนอุปกรณ์เครื่องหนึ่งจะถูกลบจากทุกที่ที่คุณใช้รูปภาพ iCloud รูปภาพและวิดีโอจะยังคงอยู่ในโฟลเดอร์ที่เพิ่งลบล่าสุดเป็นเวลา 30 วันก่อนที่จะถูกลบโดยถาวร

ดาวน์โหลดสำเนารูปภาพและวิดีโอของคุณ

เมื่อคุณเปิดรูปภาพ iCloud รูปภาพและวิดีโอของคุณจะอัปโหลดไปยัง iCloud โดยอัตโนมัติ โดยไฟล์เหล่านั้นจะไม่มีการทำสำเนาในข้อมูลสำรอง iCloud ของคุณ ดังนั้นคุณควรเก็บสำเนาข้อมูลสํารองของคลังไว้ ใช้ขั้นตอนด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดสำเนารูปภาพและวิดีโอของคุณไปยัง Mac หรือ PC ของคุณ หรือคุณสามารถส่งออกคลังของคุณไปยัง Mac หรือ PC ได้

ดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอของคุณจาก iCloud.com

ดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอจาก iPhone, iPad หรือ iPod touch

1. เปิดแอปรูปภาพ แล้วเลือกรูปภาพหรือวิดีโออย่างน้อยหนึ่งรายการ 
2. แตะปุ่มแชร์ 
   
3. แตะ AirDrop แล้วเลือกอุปกรณ์ที่คุณต้องการแชร์ด้วย ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ AirDrop

ดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอจาก Mac ของคุณ

1. บน Mac ของคุณ ให้เปิดแอปรูปภาพ
2. เลือกรูปภาพหรือวิดีโออย่างน้อยหนึ่งรายการ 
3. ลากคอนเทนต์ไปยังเดสก์ท็อปของคุณ หรือกด Control ค้างไว้แล้วคลิกและเลือกแชร์ > AirDrop

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเนื้อที่เก็บข้อมูลเพียงพอ

หากคุณต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud เพิ่มเติม

เมื่อคุณสมัครใช้ iCloud คุณจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5 GB โดยอัตโนมัติ หากคุณต้องการพื้นที่เพิ่ม คุณสามารถซื้อพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud เพิ่มเติมได้ โดยแผนจะเริ่มต้นที่ 50 GB ในราคา $0.99 (USD) ต่อเดือน หากคุณเลือกแผน 200 GB หรือ 2 TB คุณสามารถแชร์พื้นที่จัดเก็บข้อมูลกับครอบครัวได้ ดูวิธีซื้อพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iCloud เพิ่มเติม 

หากคุณต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในอุปกรณ์เพิ่มเติม

รูปภาพ iCloud เก็บรูปภาพและวิดีโอทั้งหมดของคุณในเวอร์ชั่นต้นฉบับที่มีความละเอียดสูง  หากต้องการประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ คุณสามารถเปิดปรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เหมาะสมได้

หากคุณเปิดปรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เหมาะสม รูปภาพ iCloud จะจัดการขนาดของคลังบนอุปกรณ์ของคุณโดยอัตโนมัติ โดยรูปภาพและวิดีโอดั้งเดิมจะจัดเก็บไว้ใน iCloud และจัดเก็บรูปภาพและวิดีโอเวอร์ชั่นประหยัดเนื้อที่ไว้บนอุปกรณ์ ทั้งนี้คลังของคุณจะได้รับการปรับให้เหมาะสมเมื่อคุณต้องการเนื้อที่เพิ่มเท่านั้น ซึ่งจะเริ่มจากรูปภาพและวิดีโอที่คุณเปิดดูน้อยที่สุด คุณสามารถดาวน์โหลดรูปภาพและวิดีโอดั้งเดิมผ่าน Wi-Fi หรือเซลลูลาร์ได้ในเวลาที่คุณต้องการ

หากคุณเปิดดาวน์โหลดต้นฉบับ รูปภาพ iCloud จะเก็บรูปภาพและวิดีโอความละเอียดสูงสุดตามต้นฉบับบน iCloud และบนอุปกรณ์ของคุณ

บน iPhone, iPad หรือ iPod touch ให้ทำดังนี้

1. ไปที่การตั้งค่า > [ชื่อของคุณ] > iCloud
2. แตะรูปภาพ
3. เลือก ปรับเนื้อที่เก็บข้อมูลของ [อุปกรณ์] ให้เหมาะสม
   
   

บน Mac ของคุณ

1. เปิดแอปรูปภาพและคลิก รูปภาพ ในแถบเมนู
2. คลิก การตั้งค่า
3. ไปที่แท็บ iCloud และเลือกการตั้งค่าเนื้อที่เก็บข้อมูล

หยุดการอัปโหลดคลังไปยัง iCloud แบบชั่วคราว

เมื่อคุณเปิดใช้รูปภาพ iCloud เวลาที่ใช้เพื่ออัปโหลดรูปภาพและวิดีโอไปยัง iCloud จะขึ้นอยู่กับขนาดของคอลเลกชั่นและความเร็วอินเทอร์เน็ตของคุณ หากคอลเลกชั่นรูปภาพและวิดีโอมีขนาดใหญ่ การอัปโหลดจะใช้เวลานานกว่าปกติ คุณสามารถดูสถานะและหยุดการอัปโหลดชั่วคราวได้เป็นเวลาหนึ่งวัน

• บน iPhone iPad หรือ iPod touch ให้เปิดแอปรูปภาพ ไปที่แท็บคลัง แล้วแตะรูปภาพทั้งหมด จากนั้นให้เลื่อนลงไปด้านล่างสุดของหน้าจอ
• บน Mac ของคุณ ให้เปิดแอปรูปภาพ เลือกคลังในแถบด้านข้าง แล้วคลิกรูปภาพทั้งหมดในรายการแท็บในแถบเครื่องมือ เลื่อนไปยังด้านล่างสุดของรูปภาพ แล้วคลิกหยุดพัก

ดูเพิ่มเติม

• กลับมาดูช่วงเวลาโปรดและช่วงเวลาที่ลืมเลือนอีกครั้งได้จากคลังรูปภาพ โดยใช้คุณสมบัติความทรงจำ
• ดูข้อมูลช่วยเหลือเกี่ยวกับรูปภาพ iCloud
• ดูสิ่งที่ควรทำ หากคุณไม่มีรูปภาพในแอปรูปภาพ
• ดูเกี่ยวกับการลบรูปภาพบน iPhone, iPad หรือ iPod touch ของคุณ 

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผลิตโดย Apple หรือเว็บไซต์อิสระที่ Apple ไม่ได้ควบคุมหรือทดสอบไม่ถือเป็นการแนะนำหรือการรับรองใดๆ Apple จะไม่รับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือก ประสิทธิภาพการทำงาน หรือการใช้งานเว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่น Apple ไม่รับรองความถูกต้องหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของบริษัทอื่น โปรดติดต่อผู้จำหน่ายหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

วันที่เผยแพร่: 1 กุมภาพันธ์ 2565