แพ็กเกจผ่าตัดโรคทางนรีเวช รายการแพคเกจจำนวนวันนอน รพ. (คืน)ราคา (บาท)การผ่าตัดรังไข่และท่อนำไข่ 3 126,000 การผ่าตัดมดลูก, รังไข่ และเลาะถุงน้ำรังไข่ทางหน้าท้อง 3 168,000 การผ่าตัดเฉพาะก้อนเนื้องอกมดลูกออก และเลาะถุงน้ำรังไข่ หรือตัดรังไข่ 3 176,000 การผ่าตัดผ่านกล้องทางหน้าท้อง (เลาะพังผืด,เจาะฟองไข่,จี้เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่) 1 131,000 การผ่าตัดมดลูกผ่านกล้อง หรือผ่าตัดมดลูกและตัดรังไข่ผ่านกล้อง 2 240,000 การผ่าตัดเลาะเนื้องอกมดลูกผ่านกล้อง 2 240,000 การผ่าตัดผ่านกล้องเลาะเนื้องอกมดลูก และเลาะถุงน้ำรังไข่ หรือตัดรังไข่ 2 300,000 การผ่าตัดมดลูกผ่านกล้องและเลาะถุงน้ำรังไข่ 2 300,000
โปรโมชั่นสุขภาพดี 4 ว้าว! เมื่อผ่าตัดที่นอนโรงพยาบาลอย่างน้อย 1 คืน และมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป
เงื่อนไขการรับบริการ:
โรงพยาบาลราชวิถี” ชวนคนไทยร่วมบริจาคซื้อเครื่องมือแพทย์และสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ กับโครงการ “รพ.ราชวิถี ดีต่อใจ ได้ต่อบุญ” รพ.ราชวิถี ชวนคนไทยร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพลังแห่งการให้ครั้งสำคัญกับโครงการ ‘รพ.ราชวิถี ดีต่อใจ ได้ต่อบุญ’ ระดมทุนจัดซื้อเครื่องมือแพทย์และสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถีแห่งใหม่ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ป่วยที่ด้อยโอกาสจากทั่วประเทศให้ทั่วถึง รองรับกว่า 1,500,000 ชีวิตต่อปี ภายใต้แนวคิด “โรงพยาบาลที่อาจลืม” ชี้เป็นโรงพยาบาลที่พึ่งของคนไทยทุกกลุ่มทั้งประเทศจากทุกภูมิภาค รับส่งต่อผู้ป่วยใหญ่ที่สุดของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แต่เป็นโรงพยาบาลที่คนส่วนใหญ่นึกไม่ถึง เผยยังขาดแคลนเครื่องมือแพทย์อยู่อีกมาก อาทิ เครื่องช่วยหายใจ เตียงผ่าตัด โคมไฟผ่าตัด เครื่องอัลตร้าซาวน์ เครื่องล้างไต ห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) และเตียงผู้ป่วย มั่นใจโรงพยาบาล ยังคงศักยภาพ ความเชี่ยวชาญ พร้อมมุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับสากลเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนต่อไป ชูความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆทั้งผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ผ่าตัดทางกล้องและผ่าตัดแบบแผลเล็กกลับบ้านได้เร็ว ตามพระราชดำริด้านสาธารณสุข “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา” ดังนั้น จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันบริจาคฯ คาดเปิดให้บริการได้กลางปีหน้า นพ.มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลราชวิถี เปิดเผยว่า ราชวิถีเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดให้บริการด้านการแพทย์และดูแลสุขภาพคนไทยมากว่า 66 ปี โดยถือกำเนิดครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2494 โดยมีชื่อว่า “โรงพยาบาลหญิง” เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเฉพาะสตรีและเด็กแห่งแรกของประเทศไทยต่อมาในปี 2519 ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรคทั่วไป ไม่จำกัดเฉพาะ เพศและอายุอีกต่อไปโดย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม พระราชทานนามใหม่ว่า” โรงพยาบาลราชวิถี” ปัจจุบัน เป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รับส่งต่อผู้ป่วยโรคที่มีความซับซ้อนจากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร และมีความเชี่ยวชาญให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางด้วยการฝึกอบรมแพทย์ ผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพสู่สังคมไทย เพื่อหวังให้คนได้รับการรักษาที่ดีมีคุณภาพ และเข้าถึงการรักษาได้อย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกฐานะหรือชนชั้น “โรงพยาบาลราชวิถี อาจเป็นโรงพยาบาลที่หลายคนอาจลืมหรือนึกไม่ถึงว่าจะขาดแคลน แต่ในความเป็นจริงเราเป็นโรงพยาบาลที่พึ่งของคนไทยทั้งประเทศจากทุกภูมิภาคโดยเฉพาะผู้ป่วยด้อยโอกาส รองรับผู้ป่วยนอกมากกว่า 1,000,000 ชีวิตต่อปี และผู้ป่วยในอีกกว่า 40,00 ชีวิตต่อปี กับขนาด 1,200 เตียง และหมอเพียง 250 คน และจำนวนผู้ป่วยยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลในปี พ.ศ. 2559 พบว่า แพทย์ 1 คน ต้องดูแลผู้ป่วยในถึง 161 คน ส่วนผู้ป่วยนอก แพทย์ 1 คนต้องดูแลผู้ป่วยนอกถึง 3,996 คนสูง ซึ่งเป็นภาระที่หนักมากกว่าโรงเรียนแพทย์อื่นๆอีกหลายแห่ง บางครั้งหมอเราต้องทำงานติดต่อกันกว่า 32 ชั่วโมง แต่โรงพยาบาลราชวิถีเองก็ทำการรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถ เพื่อหวังให้ผู้ป่วยหายจากความทุกข์ และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่เคยปฏิเสธการรักษาผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่ส่งต่อมาจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ และผู้ป่วยในของโรงพยาบาลราชวิถีเอง ประกอบกับการตอบรับนโยบายโครงการประกันสุขภาพจากทางภาครัฐ จึงทำให้พื้นที่เดิมของโรงพยาบาลเกิดความแออัด และอาจทำให้ผู้ป่วยต้องรอเพื่อทำการรักษาค่อนข้างนาน ประกอบกับอาคารต่างๆ ที่เปิดทำการรักษามาเป็นเวลานานจึงทำให้ทรุดโทรมลงตามกาลเวลา เราจึงจำเป็นต้องขยายสถานที่และนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ดีและรวดเร็วขึ้น หมอและบุคคลากรก็ไม่โหลดจนเกินไป” ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวและเสริมว่า อาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถีแห่งใหม่ เป็นอาคารสูง 25 ชั้น งบประมาณในการก่อสร้าง1,935 ล้านบาท โดยได้รับงบประมาณจากรัฐบาล และเงินรายได้ของโรงพยาบาลสมทบในการก่อสร้าง โดยอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณกลางปี พ.ศ. 2561 จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดีขึ้น ช่วยลดความแออัดในการมารอรับบริการเนื่องจากการขยายสถานที่ และจำนวนเตียงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบด้วย ห้องผู้ป่วยนอกทุกสาขาโรค ศูนย์การตรวจและรักษาโรคเฉพาะทางครบวงจรตามมาตรฐานสากล ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ ศูนย์ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ศูนย์ไตเทียมเทคโนโลยีใหม่ และศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellent) อีก 8 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านหัวใจและหลอดเลือด ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการผ่าตัดทางกล้องศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านสูตินารีเวช ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านอุบัติเหตุ ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(NCD) ศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ และศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านจอประสาทตา ซึ่งจะสามารถรองรับผู้ป่วยนอกได้เพิ่มขึ้นจากปีละ 1 ล้านเป็น1.5 ล้านคน หรือวันละประมาณ 6,000 คน มีเตียงรองรับผู้ป่วยในได้ 400 เตียง ผู้ป่วยวิกฤติได้รับการดูแลที่ดีขึ้นเนื่องจากมีเตียง ICU เพิ่มอีก 64 เตียง และห้องผ่าตัดเพิ่ม 11 ห้อง นอกจากนี้ จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย ครบวงจร การนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วย อาทิ การผ่าตัดทางกล้อง และการผ่าตัดแบบแผลเล็ก กลับบ้านได้เร็ว รวมถึงการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ ที่มองเห็นแบบระบบ 3 มิติ เป็นการผ่าตัดแบบความละเอียดสูงควบคุมโดยศัลยแพทย์ ลดภาวะแทรกซ้อนในการผ่าตัดได้หลายโรค เช่น การผ่าตัดรักษามะเร็งช่องปาก ลำคอ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งนรีเวช มะเร็งตับและทางเดินน้ำดี และการผ่าตัดกระดูกสันหลังและคอ โดยต้องใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท อีกทั้ง ยังมีการนำระบบ IT มาใช้ เพื่อลดขั้นตอนและระยะเวลารอคอย ซึ่งเป็นปัญหาหลักของโรงพยาบาลรัฐ ที่ผู้มารับบริการต้องการให้แก้ไขมากที่สุด เพื่อให้การดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยได้เต็มศักยภาพ และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น การทำประวัติ ทำทะเบียนผู้ป่วย นัดหมาย จองเตียงออนไลน์ เรียกคิวตรวจผ่านมือถือ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลราชวิถียังขาดแคลนงบประมาณอีกกว่า 500 ล้านบาท ในการก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ และการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ รพ.ราชวิถีแห่งใหม่นี้ อาทิ เครื่องช่วยหายใจ (ราคาประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อเครื่อง) เครื่องอัลตร้าซาวน์ (ราคาประมาณ 6.8 ล้านบาทต่อเครื่อง) เตียงผู้ป่วยแบบไฟฟ้า (ราคาประมาณ 6 หมื่นบาทต่อเตียง) เตียงผ่าตัด (ราคาประมาณ 1.7 ล้านบาทต่อเตียง) โคมไฟผ่าตัด (ราคาประมาณ 2.8 ล้านบาทต่อโคม) เครื่องไตเทียม (ราคาประมาณ 1.6 ล้านบาทต่อเครื่อง) เครื่องควบคุมอุณหภูมิกายสำหรับผู้ป่วยวิกฤติ (ราคาประมาณ 9 แสนบาทต่อเครื่อง) เป็นต้น โดยการบริจาคสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี โดย “บริจาคสมทบทุนอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี” และ โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี“ศูนย์การแพทย์ราชวิถี ในมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” ทางธนาคารต่างๆ ดังนี้ - ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาโรงพยาบาลราชวิถี บัญชีเลขที่ 051-2-69056-1- ส่งเงินทางธนาณัติ ในนาม มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” ปณ.ราชเทวี 10401- เช็ค สั่งจ่ายในนาม “ศูนย์การแพทย์ราชวิถี ในมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี”- บริจาคผ่าน บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด (ร้าน Seven Eleven) (กรณีโอนเงินบริจาคผ่านะนาคาร ขอให้ส่งสำเนาสลิปฝากเงินได้ที่ เบอร์แฟกซ์ 02-354-7996 หรือส่ง E-mail : [email protected] ระบุชื่อ-นามสกุลผู้บริจาค พร้อมที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เเละระบุวัตถุประสงค์ของการบริจาค เพื่อมูลนิธิฯ จะได้จัดส่งใบเสร็จรับเงินให้ท่าน เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ประจำปีนั้น) ในช่วงรณรงค์หารายได้สมทบทุนศูนย์การแพทย์ราชวิถีนี้ มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีร่วมกับโรงพยาบาลราชวิถีได้กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับการบริจาคไว้ว่า “ผู้บริจาคซึ่งถือเป็นผู้อุปการคุณของมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี” นอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการบริจาคแล้ว ยังจะได้รับการจารึกชื่อไว้ในอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อสอบถามได้ที่มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี โทรศัพท์ 0-2354-7997-9 |