เทคโนโลยีเครือข่ายไร้สาย ประเภทเครือข่ายไร้สาย แบบเฉพาะกลุ่ม แบบโครงสร้างเครือข่าย มาตราฐาน IEEE 802.11 ตารางคุณสมบัติมาตราฐาน 802.11 ภาพ : ช่องสัญญาณเครือข่ายไวเลสแลน ภาพ : ช่องสัญญาณที่ความถี่แตกต่างกัน อ้างอิง : http://en.wikipedia.org/wiki/IEEE_802.11 ระบบเครือข่ายไร้สายใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าผ่านอากาศ เพื่อรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point) โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้อาจเป็นคลื่นความถี่วิทยุ (Radio) หรืออินฟาเรด (Infrared) ก็ได้ การสื่อสารผ่านเครือข่ายไร้สายมีมาตราฐาน IEEE802.11 เป็นมาตราฐานกำหนดรูปแบบการสื่อสาร ซึ่งมาตราฐานแต่ละตัวจะบอกถึงความเร็วและคลื่นความถี่สัญญาณที่แตกต่างกันในการสื่อสารข้อมูล เช่น 802.11b และ 802.11g ที่ความเร็ว 11 Mbps และ 54 Mbps ตามลำดับ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาได้จาก มาตราฐาน IEEE802.11 ขอบเขตของสัญญาณคลอบคุลพื้นที่ประมาณ 100 เมตร ในพื้นที่โปรง และประมาณ 10-30 เมตร ในอาคาร ซึ่งระยะทางของสัญญาณมีผลกระทบมาจากสิ่งรอบข้างหลายๆ อย่าง เช่น โทรศัพท์มือถือ ความหนาของกำแพง เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ต่างๆ รวมถึงร่างกายมนุษย์ด้วยเช่นกัน สิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อการใช้งานเครือข่ายไร้สายทั้งสิ้น การเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายมี 2 รูปแบบ คือแบบ Ad-Hoc และ Infrastructure รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาได้จาก รูปแบบเครือข่ายไร้สาย การใช้งานเครือข่ายไร้สายของผู้ใช้บริการทั่วไปจะเป็นแบบ Infrastructure คือมีอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point) ของผู้ให้บริการเป็นผู้ติดตั้งและกระจายสัญญาณให้ผู้ใช้ทำการเชื่อมต่อ โดยผู้ใช้บริการจะต้องมีอุปกรณ์รับส่งสัญญาณขอเรียกว่า "การ์ดไวเลสแลน" เป็นอุปกรณ์รับส่งสัญญาณทำหน้าที่รับส่งสัญญาณจากเครื่องคอมพิวเตอร์ผู้ใช้ไป Access Point ของผู้ให้บริการ สรุปการเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายเป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายของเครื่องคอมพิวเตอร์เข้าสู่ระบบเครือข่ายไร้สาย เหมือนกับระบบแลน (LAN) มีสายปกติ ซึ่งแตกต่างที่อุปกรณ์ทางกายภาพในการเชื่อมต่อเครือข่ายไวเลสแลนไม่ต้องใช้สายสัญญาณแต่อย่างใด โดยการใช้งานเครือข่ายไร้สายสามารถใช้บริการต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตได้ปกติ เว้นแต่ว่าผู้ดูแลระบบเครือข่ายนั้นๆ จะปิดบริการบางบริการเพื่อความปลอดภัยของเครือข่ายได้เช่นกัน ซึ่งเครือข่ายไร้สายช่วยให้การเชื่อมต่อง่ายขึ้น ประหยัดค่าสายสัญญาณ และใช้งานได้ทุกที่ที่สัญญาณเครือข่ายไร้สายไปถึง... ระบบเครือข่ายไร้สายใช้แม่เหล็กไฟฟ้าผ่านอากาศ เพื่อรับส่งข้อมูลข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์เครือข่าย โดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านี้อาจเป็นคลื่นวิทย (Radio) หรืออินฟาเรด (Infrared) ก็ได้รูปแบบเครือข่ายไร้สาย 1. การเชื่อมต่อแบบกลุ่มส่วนตัว(Ad-Hoc) การเชื่อมต่อแบบ Ad-Hoc เป็นการเชื่อมต่อที่ประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปที่ติดตั้งการ์ดแลนไร้สาย (หรือ Centrino Notebook) ทำการเชื่อมต่อสื่อสารกันโดยตรงไม่ต้องผ่านอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point) โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อแบบนี้สามารถสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลได้เช่น แชร์ไฟล์ เครื่องพิมพ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ การสนทนาแบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ และเล่นเกมส์แบบวงแลนได้ ซึ่งช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อกันได้โดยไม่ต้องมีสายสัญญาณ แต่การเชื่อมต่อแบบ Ad-Hoc จะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับเครือข่ายมีสายสัญญาณได้ นอกจากจะทำการติดตั้งอุปกรณ์ Acces Point เพื่อให้ Access Point ทำการเชื่อมต่อและส่งข้อมูลไปเครือข่ายมีสายแทน 2. การเชื่อต่อแบบกลุ่มโครงสร้าง (Infrastructure) การเชื่อมต่อแบบ Infrastructure เป็นการเชื่อมต่อที่มีอุปกรณ์กระจายสัญญาญ (Access Point) เป็นตัวกลาง (ดังภาพด้านประกอบ) ทำหน้าที่รับส่งสัญญาณและข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ไร้สายของเครือข่ายไร้สายไปสู่เครือข่ายมีสาย หากสังเกตุจะพบว่า Access Point มีการทำงานเหมือนอุปกรณ์ฮับ (HUB) ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบมีสาย และที่สำคัญหากมีการเข้าใช้งานเครือข่ายไร้สายของเครื่องลูกข่ายในจำนวนมากต่อหนึ่ง Access Point จะมีผลทำให้ความเร็วของการสื่อสารเครือข่ายไร้สายช้าลงด้วยเช่นกัน ปัจจุบันเครือข่ายไร้สายแบบ Infrastructure ได้รับความนิยมสูง และเป็นเครือข่ายที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้านความ ความปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนข้อมูล เครือข่ายไร้สายช่วยให้เกิดความสะดวกมากขึ้นเพราะไม่ต้องเดินสายสัญญาณสำหรับเครื่องลูก เปลี่ยน เคลื่อนย้าย ขยายขนาดของเครือข่ายไร้สายได้ตลอดเวลา ด้วยความสะดวกสบายของเครือข่ายไร้สายทำให้เครือข่ายไร้สายได้รับการ ยอมรับจากผู้ใช้มากขึ้นและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน มาตรฐานเครือข่ายไร้สาย IEEE 802.11 IEEE 802.11f มาตรฐานนี้เป็นที่รู้จักกันในนาม IAPP (Inter Access Point Protocol) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ออกแบบมา ที่ออกแบบมาสำหรับจัดการกับผู้ใช้งานที่เคลื่อนที่ข้ามเขตการให้บริการของ Access Point ตัวหนึ่งไปยัง Access Point เพื่อให้บริการในแบบโรมมิงสัญญาณระหว่างกัน มาตรฐาน IEEE 802.11k มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานที่ใช้จัดการการทำงานของระบบเครือข่ายไร้สาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดการการใช้งานคลื่นวิทยุให้มีประสิทธิภาพโดยมีฟังก์ชันการเลือกช่องสัญญาณ การโรงมิงและการควบคุมกำลังส่งการร้องขอและปรับแต่งค่าให้เหมาะสม มาตรฐาน IEEE 802.11n มาตรฐานนี้เป็นมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครือข่ายไร้สายที่คาดหมายว่าจะเข้ามาแทนที่มาตรฐาน IEEE 802.11a มาตรฐาน IEEE 802.11b และมาตรฐาน IEEE 802.11g ที่ใช้งานกันในปัจจุบันโดยให้อัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลในระดับ 100 เมกะบิตต่อวินาที อุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบของระบบเครือข่ายไร้สาย 1. PCI Cardเป็นการ์ดที่ไว้ใช้สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพีซี ซึ่งไม่ได้รองรับ การทำงานระบบเครือข่ายไร้สายให้สามารถใช้งานร่วมกับระบบไร้สายได้ 2. PCMCIA Card ทำหน้าที่เหมือนกับ PCI Card แต่ PCMCIA Cardเป็นการ์ด ที่ใช้งานสำหรับครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊กที่ไม่สามารถใช้งานระบบเครือข่าย ไร้สายได้ 3. USB Adapter เป็นการ์ดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ ทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ แบบพีซีและแบบโน้ตบุ๊กทำหน้าที่ เหมือนกับ PCI Card และ PCMCIA Card 4. Wireless Signal Booter เป็นอุปกรณ์เครือข่ายไร้สายที่ใช้เพิ่มระยะทาง และประสิทธิภาพการทำงานของ Access Point โดยการเพิ่มกำลังส่งของ สัญญาณเพื่อให้ได้รัศมีการใช้งานที่มากขึ้น 5. Wireless Bridge เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้เชื่อมต่อเครือข่าย 2 เครือข่ายให้สื่อสารกันได้ซึ่งมีทั้งแบบติดตั้งภายนอก ซึ่งใช้เชื่อมต่อเครือข่าย ระหว่างอาคารและแบบที่ติดตั้งภายในอาคาร 8.Wireless PrintServer เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องพิมพ์ เพื่อให้มีความสามารถในแบบไร้สายซึ่งมีทั้งรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับใช้งาน กับเครื่องพิมพ์ที่มีพอร์ต Parallel พอร์ต USB หรือทั้งสองพอร์ตร่วมกัน 9.PoE (Power over Ethernet) Adapter เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมา สำหรับแก้ไข ข้อยุ่งยากในการเดินสายไฟฟ้าเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไร้สายโดยใช้วิธีการจ่ายไฟ ผ่านสายนำสัญญาณ UTP ที่ยังมีคู่สายที่ยังไม่ถูกนำมาใช้งานมาทำหน้าที่แทน ประโยชน์เครือข่ายไร้สาย - มหาวิทยาลัยสามารถใช้เครือข่ายไร้สายโดยนักศึกษาสามารถเข้าถึงบทเรียน Online ต่างๆ ได้ สามารถ สืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต จากจุดใดจุดหนึ่งของสถาบันได้ และนักศึกษาไม่จำเป็นต้องรอเข้าใช้ห้องบริการคอมพิวเตอร์ ของสถาบัน สามารถใช้จากจุดใดก็ได้ที่สัญญาณเครือข่ายไร้สาย ไปถึงช่วยให้นักศึกษาสามารถใช้งานได้สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น - ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายลดค่าใช้จ่ายในการเดินสายสัญญาณให้เข้าถึงจุดบริการต่างๆ มากขึ้น และสามารถให้บริการในจุดบริการ ที่สายสัญญาณไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน - ผู้บริหารจัดการระบบเครือข่าย สามารถเผ้าตรวจสอบระบบ และปรับเปลี่ยนแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเครือข่ายจากจุดก็ได้ ทำให้สะดวก และรวดเร็วต่อการจัดการมากขึ้น ข้อดีของการใช้งานระบบเครือข่ายไร้สาย 1. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน (Installation flexibility) ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือโน้ตบุ๊ค กันเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊คมีขนาดเล็กลงจนสามารถนำติดตัวไปใช้ที่ต่าง ๆ ได้ แต่การนำคอมพิวเตอร์ แบบโน้ตบุ๊คต่อกับเน็ตเวิร์คมีสาย ทำได้ไม่สะดวก แต่สำหรับเน็ตเวิร์คไร้สายจะประกอบด้วย การ์ดไคลแอนต์ซึ่งเป็นแผงวงจร ขนาดเล็กที่ต่อเข้ากับโน้ตบุ๊คเท่านั้นและส่วนที่เป็น Access Point ซึ่งเป็นจุด เชื่อมต่อที่นำไปวางไว้ที่ใดก็ได้หรือจะติดยึดกับฝาผนัง ฝ้า เพดาน 2. ความคล่องตัว (Mobility improves productivity and service) ในบางครั้งการเคลื่อนย้ายของผู้ใช้อาจไม่เฉพาะเจาะจง อยู่ในที่ทำงานอย่างเดียว อาจครอบคลุมไปยังที่ต่าง ๆ เช่น เจ้าหน้าที่ ห้องสมุดสามารถสำรวจทรัยากรสารนิเทศภายในห้องสมุด แบบระบบออนไลน์ผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์แบบโน้ตบุ๊คกับเครื่องอ่านบาร์โค้ด ส่วนผู้ใช้ห้องสมุดสามารถย้ายจากที่นั่งได้โดย สัญญาณเครือข่ายจะไม่หยุดชะงัก เป็นต้น 3. การขยายเครือข่าย (Scalability) ระบบเครือข่ายแบบไร้สายทำให้เครือข่ายขององค์กรสามารถปรับขนาดและความ เหมาะสมได้ง่ายไม่ยุ่งยากในเรื่องการเดินสายสื่อสารซึ่งมีปัญหาในเรื่องสถานที่ การปรับปรุงสถานที่เพื่อเดินสายสัญญาณเป็นเรื่อง ไม่พึงปรารถนา 4. การติดตั้งง่ายและรวดเร็ว(Installation speed and simplicity) ระบบเครือข่ายไร้สายสามารถครอบคลุมพื้นที่เล็ก ๆ โดยมี การเชื่อมโยงระหว่างอาคารได้ด้วยระบบแบบจุดไปจุด ทำให้ดำเนินการได้เร็วและสะดวกต่อการติดตั้งเพราะไม่ต้องเดินสายไฟ |