เคลือบฟลูออไรด์
ฟัง ๆ แล้วแอบน่าเบื่อใช่ไหมคะ แต่อยากบอกว่าเขาสำคัญเอาเรื่องเลยนะคะ เพราะมันสามารถป้องกันฟันไม่ให้ฟันของเราผุ หลายคนอาจจะพอรู้มาบ้างแล้วบ้างแต่อาจจะไม่ได้รู้ว่า มันมีกี่แบบ เขาทำกันยังไง หรือทำไมเราต้องทำด้วย ต้องมาคิดแล้วคิดอีกว่าถ้าฉันทำไปแล้วฉันจะได้อะไรกลับคืนมาบ้าง และใครที่สามารถทำได้ ดังนั้นในบทความเราจะทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน ว่าฟลูออไรด์เนี่ย สำคัญขนาดไหน พร้อมแล้วเริ่มกันเลย เคลือบฟลูออไรด์ (Fluoride Application) คือ การใช้ฟลูออไรด์ที่มีความเข้มข้นสูงมาเคลือบบนผิวฟัน โดยทันตแพทย์จะขัดฟันหรือแปรงฟันของเราให้สะอาดก่อน แล้วค่อยทำการเคลือบ
เพื่อที่ฟลูออไรด์จะสามารถเคลือบกับผิวฟันได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพที่สุด ฟลูออไรด์ คือ สารประกอบของแร่ฟลูออรีน ซึ่งสามารถเจอได้ทั่วไปจากน้ำ และอาหารในบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ ปลา เป็นต้น ฟลูออไรด์จะช่วยให้ฟันแข็งแรง รวมทั้งรักษาฟันผุในระยะแรก ๆ ได้ดีอีกด้วย ในปัจจุบันฟลูออไรด์ที่ใช้ในการป้องกันผุ มี 2 รูปแบบคือ แบบรับประทานได้ในรูปแบบเม็ดและแบบน้ำ, ชนิดเคลือบผิวฟัน เช่น ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก และน้ำยาฟลูออไรด์แบบเข้มข้นที่ใช้ในคลินิก เนื่องจากชั้นนอกสุดของฟันจะมีแร่ธาตุแคลเซียม ซึ่งทำหน้าที่เคลือบบริเวณผิวฟันให้แข็งแรง มีการสูญเสียแร่ธาตุ (Demineralization) ตัวนี้ไป แต่ ! ก็จะมีการคืนแร่ธาตุ (Remineralization) กลับมาใหม่ทุกวันเหมือนกัน โดยจะได้จากการทานอาหาร
หรือจากฟลูออไรด์อื่น ๆ เช่น ยาสีฟัน ซึ่งใน 2 กระบวนการนี้จะช่วยสร้างความสมดุลของฟันด้วยตัวมันเองค่ะ แต่ถ้าหากเราสูญเสียแคลเซียมมากเกินไป อาจทำให้ฟันผุได้ ฟลูออไรด์จึงเป็นตัวที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับฟัน ป้องกันไม่ให้เกิดฟันผุ ด้วยการเร่งคืนแคลเซียมที่สำคัญกลับไปเคลือบฟัน อย่างเช่น ฟลูออไรด์ แคลเซียม หรือฟอสเฟต ช่วยยับยั้งแบคทีเรียไม่ให้ทำลายฟัน และยังเป็นการดูแลสุขภาพช่องปากแบบหนึ่งนอกเหนือจากการทำความสะอาดช่องปากด้วยการแปรงฟัน การบ้วนน้ำยาบ้วนปาก
และการใช้ไหมขัดฟันที่เป็นเพียงการดูแลเบื้องต้นเท่านั้น ทำไมต้องเคลือบฟลูออไรด์ใช้แค่ยาสีฟันไม่ได้หรอ?เนื่องจากในยาสีฟันจะมีปริมาณฟลูออไรด์น้อยกว่า และเป็นปริมาณความเข้มข้นที่จำกัดมาแล้ว ถ้าเราใช้ให้ถูกวิธีและในปริมาณที่เหมาะสมมันก็จะไม่อันตรายกับปากเรา แต่ปริมาณฟลูออไรด์ที่ทันตแพทย์ใช้จะมีปริมาณมากและมีความเข้มข้นมากกว่า สรุปคือ ปริมาณฟลูออไรด์ที่ทันตแพทย์ใช้กับปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันไม่เท่ากัน การเคลือบฟลูออไรด์จึงสามารถป้องกันฟันผุในระยะแรกได้มากกว่า เคลือบฟลูออไรด์จำเป็นหรือไม่ อันตรายไหม ? คลิปนี้มีคำตอบ 👇 ฟลูออไรด์แบบไหนที่นิยมใช้กัน1. ฟลูออไรด์ เจล (fluoride gel)เหมาะสำหรับเด็ก ๆ ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไป แนะนำให้เคลือบทุก ๆ 6 เดือน เพราะฟลูออไรด์ชนิดนี้สามารถป้องกันผุได้ดีและช่วยป้องกันไม่ให้ฟันแท้ของเด็ก ๆ ผุจนหมดไปก่อนนั่นเอง หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ตามสามารถช่วยได้เหมือนกันค่า แต่ ! ยกเว้นในกรณีที่เด็กคนนั้นหรือคนที่เกิดฟันผุได้ง่าย ทันตแพทย์จะแนะนำให้เคลือบบ่อยกว่าเพื่อน 2. ฟลูอไรด์วานิช (fluoride varnish)เหมาะสำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปี และสำหรับคนที่ฟันผุได้ง่ายและคนที่มี โดยเฉพาะฟันที่มีจุดสีขาว (white spot lesion) บนผิวฟัน ที่เป็นสัญญาณของฟันผุ ถ้าทำการเคลือบบนผิวฟันหลาย ๆ รอบแล้ว จะทำให้เกิดผลึกแคลเซียมขึ้น ช่วยให้หยุดรอยผุบนฟันไม่ให้ลุกลามต่อ ซึ่งฟลูออไรด์ชนิดนี้สามารถป้องกันฟันผุในฟันแท้ได้ 46 % และฟันน้ำนมเคลือบฟลูออไรด์ได้ 33 % ประโยชน์ของฟลูออไรด์ ช่วยอะไรได้บ้าง?✔ ช่วยให้โครงสร้างของฟันน้ำนมและฟันแท้แข็งแรงขึ้น ทำให้สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดหรือเชื้อแบคทีเรียในช่องปากได้ดียิ่งขึ้น ✔ ช่วยยับยั้งการทำงานของแบคทีเรียที่อยู่ในปากที่เป็นต้นเหตุของฟันผุ ✔ ช่วยป้องกันฟันผุ เช่น คนที่ฟันเริ่มผุในระยะแรก ๆ ให้เคลือบบริเวณฟันด้วยฟลูออไรด์ที่มีความเข้มข้นสูง ฟลูออไรด์จะช่วยเข้าไปสะสมในเนื้อฟันที่ผุ เพื่อหยุดรอยผุของฟันได้ ✔ ช่วยทำให้สารเคลือบฟันของฟันแท้ที่ขึ้นมาแล้วแข็งขึ้น ✔ ช่วยในการเติมแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่ทำให้ฟันของเราแข็งแรงขึ้น ใครทำได้บ้าง และเด็กกี่ขวบถึงเคลือบฟลูออไรด์ได้แน่นอนที่สุด! หลายคนมักเข้าใจผิดว่าฟลูออไรด์มีประโยชน์ในการช่วยให้ฟันของเด็กๆ แข็งแรงเท่านั้น แต่ความจริงคือ! มีงานวิจัยค้นพบว่าฟลูออไรด์ที่ผสมอยู่ในยาสีฟัน หรือในน้ำยาบ้วนปาก รวมถึงชนิดเพื่อการรักษา ล้วนมีประสิทธิภาพที่ช่วยป้องกันฟันผุให้กับคนทุกวัย สรุปคือ สามารถป้องกันไม่ให้ฟันผุทั้งกับผู้ใหญ่และเด็ก แล้วเด็กกี่ขวบถึงเคลือบฟลูออไรด์ได้ บอกเลยว่าสามารถทำได้เลยถึงแม้อายุจะน้อยกว่า 6 ขวบก็ตาม หรือคนที่ต้องการให้ฟันมีสุขภาพดี ควรเคลือบอย่างสม่ำเสมอ โดยทันตแพทย์จะเป็นผู้ทำการเคลือบลงไปที่ฟันของคุณโดยตรง ถือว่าสะดวก ปลอดภัย สามารถดูแลฟันให้สวยได้อย่างยาวนาน เตรียมตัวยังไงดี ก่อนจะไปเคลือบฟัน
ขั้นตอนเคลือบฟลูออไรด์ เริ่มทำอะไรบ้าง?
ขั้นตอนการฟลูออไรด์เจล (fluoride gel)หากทำความสะอาดปากเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเลือกใช้ถาดฟลูออไรด์ให้เหมาะสมกับจำนวนฟัน แล้วค่อยใส่ฟลูออไรด์เจลลงไปในถาดประมาณ ⅓ ของความสูงของถาด หลังจากนั้นจะครอบฟันทั้งฟันบนและฟันล่าง โดยให้กัดไว้ประมาณ 4 นาที และในขณะทำการเคลือบที่ฟันอยู่จะมีการดูดน้ำลายตลอดเวลาด้วย เคลียร์ฟลูออไรด์ในช่องปากให้มากที่สุด ขั้นตอนการทำฟลูออไรด์วานิช (fluoride varnish)หลังจากที่ขัดฟันสะอาดแล้ว สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี หมอฟันเด็กจะแปรง หรือขัดฟันของเด็กให้แห้งสะอาด แล้วทาฟลูออไรด์บาง ๆ บนผิวฟัน โดยจะใช้พู่กันในการทาด้านซอกฟัน แล้วด้านที่ใช้บดเคี้ยวอาหาร โดยจะเน้นบริเวณที่มีจุดสีขาว ๆ บนผิวฟัน เพื่อให้แคลเซียมขฃจะสามารถป้องกันฟันที่ผุได้ และระหว่างที่ทาฟลูออไรด์อยู่ทันตแพทต์จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนเหงือก เพราะอาจทำให้ระคายเคืองต่อช่องปากได้ ฟันน้ำนมเคลือบฟลูออไรด์ หลังเคลือบฟลูออไรด์ ต้องดูแลยังไง ไม่ให้เสียของ !
เคลือบฟลูออไรด์ ราคาแพงไหม?ค่าบริการทางทันตกรรมจะขึ้นอยู่กับประเภทของการรักษา โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 400 บาท สามารถดูราคาเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://www.teethtalk-clinic.com/อัตตราค่าบริการ-teethtalk-dental-clinic/ ควรเคลือบฟลูออไรด์บ่อยแค่ไหน ถึงจะเอาอยู่โดยปกติแล้ว ทันตแพทย์จะแนะนำให้ทำทุก ๆ 6 เดือน แต่สำหรับใครที่มีปัญหาฟันผุมาก อาจแนะนำให้เคลือบทุก ๆ 3 เดือนแทน แต่อย่างไรก็ตามจะขึ้นอยู่ทันตแพทย์เป็นคนพิจารณาตามความจำเป็นให้ค่ะ หรือสามารถเลือกเคลือบได้ตามนี้
เคลือบฟันที่บ้านเองได้ไหม? อันตรายหรือเปล่า?อันตรายค่ะ เพราะหากได้รับสารฟลูออไรด์ที่มีความเข้มข้นสูงเข้าไปในปากปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ปวดหัว ท้องเสีย อาเจียนหนัก จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ยิ่งเป็นเด็กที่ยังมีแค่ฟันน้ำนมเคลือบฟลูออไรด์ได้ ก็ต่อเมื่ออยู่ในความรับผิดชอบของทันตแพทย์เท่านั้น ดังนั้นไม่ควรใช้ฟลูออไรด์เองเด็ดขาด เพราะหากเกิดปัญหาภายในช่องปากขึ้นมาคงไม่คุ้มเงิน และไม่คุ้มกับเวลาที่จะเสียไปเพราะปัญหาที่ตามมาอย่างแน่นอน สรุปคือ การเคลือบฟลูออไรด์สามารถช่วยป้องกันไม่ให้ฟันผุได้ แต่ถึงแม้ว่าจะเคลือบฟันเป็นประจำก็ตาม อย่าลืมดูแลช่องปากให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยการแปรงฟัน 2 ครั้งต่อวัน และใช้น้ำยาบ้วนปาก ไหมขัดฟัน ให้ปากสะอาดยิ่งขึ้น เพราะหากปล่อยละเลยโดยไม่ดูแลอะไรเลย ก็อาจไม่เป็นผล และอาจทำให้ฟันผุรุนแรงจนถึงขั้นต้องอุดฟัน ถอนฟัน หรือทำการรักษารากฟันแทน ดังนั้นเชื่อเถอะ กันไว้ดีกว่าแก้ เพื่อฟันของเราจะแข็งแรงอยู่กับเราไปนาน ๆ แบบไม่พึ่งฟันปลอมเร็วเกินไป หากเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่รู้จะเคลือบฟันที่ไหนดี Teeth Talk พร้อมให้บริการด้วยเต็มใจ และทันตแพทย์ที่มากประสบการณ์ ดูแลคนไข้เหมือนคนในครอบครัว หรือถ้ามีคำถามเกี่ยวกับการฟันสามารถทักมาสอบถามกันได้เลยนะคะที่ช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้ ก่อนฟันจะพังรีบมาป้องกันได้ที่ Teeth Talk นะคะ สามารถเลือกรับบริการได้ทั้ง 3 สาขา ดังนี้
บทความเพิ่มเติมเด็กจำเป็นต้องเคลือบฟลูออไรด์ไหม– ฟลูออไรด์ชนิดเคลือบโดยทันตแพทย์ ไม่มีข้อกำหนดที่ชัดเจนว่า ควรเริ่ม และหยุดเคลือบฟลูออไรด์ เมื่ออายุเท่าใด แต่เนื่องจากเด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี โอกาสกลืนฟลูออไรด์จากการเคลือบสูง ตั้งแต่ 3 ปี ถึง 15- 16 ปี ยกเว้นในกรณีที่เป็นกลุ่มที่มีระดับ ความเสี่ยงต่อโรคฟันผุสูง ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป
เคลือบฟลูออไรด์เด็กกี่เดือนโดยปกติแล้วควรจะเคลือบฟลูออไรด์นทุกๆ 6 เดือน ยกเว้นในช่วงเวลาหรือกรณีที่ลูกน้อยมีความเสี่ยงต่ออาการฟันผุได้ง่าย คุณหมออาจจะนัดให้ทำการเคลือบฟันบ่อยมากขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันอาการฟันผุก่อนวัยที่จะตามมา นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่สามารถที่จะเติมฟลูออไรด์ให้กับลูกน้อยที่บ้านได้ ผ่านการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ ใช้ยาสีฟันและน้ำยา ...
เคลือบฟลูออไรด์ กี่ขวบ ราคาการเคลือบฟลูออไรด์เป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้กับฟันซึ่งสามารถทำได้ในเด็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปที่เริ่มมีฟันซี่แรกขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มเคลือบฟลูออไรด์ตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป เพื่อป้องการกลืนฟลูออไรด์ นอกจากนี้ ผู้อายุหรือผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุเพราะแปรงฟันได้ไม่สะอาดนักก็สามารถเคลือบฟลูออไรด์ได้ รวมทั้ง ...
เคลือบฟลูออไรด์ปีละกี่ครั้งฟลูออไรด์ที่ทันตแพทย์ใช้ มีกี่ประเภท
ฟลูออไรด์ที่ทันตแพทย์เคลือบในเด็กปกติ ที่ควรได้รับการเคลือบฟันทุก ๆ 6 เดือน ยกเว้นกรณีที่เด็กมีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้ง่าย ทันตแพทย์จะพิจารณาเพิ่มความถี่ในการเคลือบฟลูออไรด์ให้บ่อยขึ้น
|