Forecasting Love and Weather เรื่อง ย่อ Pantip

สวัสดีมิตรรักแฟนซีรีส์ชาวเกาหลีค่ะ ในช่วงนี้เทรนด์ซีรีส์เกาหลีกำลังมาแรง ผู้เขียนจะไม่รีวิวซีรีส์เกาหลีก็คงจะไม่ได้ ดังนั้นในช่วงนี้เราจะอาศัยอยู่ในเกาหลีแบบยาว ๆ แล้วค่อยเดินทางกลับประเทศจีนอีกครั้งนะคะ สำหรับซีรีส์ที่เราจะมารีวิวกันวันนี้เป็นซีรีส์ที่หลาย ๆ คนรอคอย นั่นก็คือซีรีส์เรื่อง “พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง (Forecasting Love and Weather)”

ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่ได้รับความสนใจมาก ๆ ตั้งแต่เปิดตัวนักแสดงเพราะเป็นการประกบคู่กันครั้งแรกของ “ซงคัง”ลูกรัก Netflix และ “พัคมินยอง” นักแสดงสาวเจ้าบทบาท อีกทั้งซีรีส์เรื่องนี้ยังเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่นำเสนอเรื่องราวของกรมอุตุนิยมวิทยาค่ะ ด้วยพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่และความน่าสนใจของตัวละครทำให้ซีรีส์ติด 1 ใน Top 10 ของซีรีส์ใน Netflix ค่ะ ตอนนี้เราไปดูกันค่ะว่าซีรีส์เรื่องนี้มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง?

เรื่องย่อ พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง (Forecasting Love and Weather)

พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง (Forecasting Love and Weather) บอกเล่าเรื่องราวโรแมนติก ดราม่าที่เกิดขึ้นในสำนักกรมอุตุวิทยาของเกาหลี จินฮากยอง (พัคมินยอง) เป็นผู้ชำนาญด้านการพยากรณ์อากาศและเป็นหัวหน้าทีมชั้นนำ เธอเป็นคนที่เก่งและมีความสามารถมากแต่การที่เธอมุ่งมั่นอยู่กับสิ่งเดียวมากเกินไป ทำให้เธอไม่เคยรู้เลยว่าฮันกีจุน (ยุนพัค) แฟนหนุ่มที่คบกันมา 10 ปีและกำลังจะแต่งงานกันอีกไม่กี่วันได้นอกใจเธอไปแล้ว แน่นอนว่าตั้งแต่คบกันมา 10 ปี ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะกันเลย มันเลยไม่มีสัญญาณบอกเหตุว่าฮันกีจุนกำลังจะนอกใจ ในวันที่จินฮากยองกำลังติดต่อเพื่อจัดการกับงานแต่งงานที่จะถึง ก็ปรากฏว่าฮันกีจุนไม่ได้ดำเนินการหรือจ่ายเงินอะไรสักอย่าง ทำให้จินฮากยองเกิดความสงสัยและในวันนั้นลูกเห็บก็เกิดตกขึ้นมาโดยไม่คาดฝันและไม่มีสัญญาณว่าจะตกลงมาแต่น้อย

ซึ่งอันที่จริงแล้วสัญญาณเล็ก ๆ ของลูกเห็บตกนี้ อีชีอู (ซงคัง) นักพยากรณ์อากาศในศูนย์ปริมณฑลได้คำนวณไว้แล้ว แต่ไม่มีใครเชื่อในความสามารถของเขาเลย อีชีอูมีไอคิวสูงถึง 150 และมีความสามารถในการพยากรณ์อากาศชั้นเลิศ แต่สัญญาณเล็ก ๆ ที่เขามองเห็นมักถูกสำนักงานใหญ่มองข้ามอยู่เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์ลูกเห็บตกขึ้นมาหัวหน้าใหญ่ก็ตำหนิจินฮากยอง จินฮากยองก็รู้สึกแย่ที่ไม่ได้เชื่อคำพูดของนักพยากรณ์อากาศในศูนย์ปริมณฑล แต่ต่อมาอีชีอูก็ได้เข้ามาทำงานในสำนักงานใหญ่แบบชั่วคราวและได้ทำงานร่วมกับจินฮากยองทำให้การพยากรณ์อากาศเป็นไปในทางที่ดีขึ้น แน่นอนว่าตอนที่อีชีอูเข้ามาทำงาน จินฮากยองได้เลิกรากับแฟนหนุ่มไปแล้ว ส่วนความลับที่ใครไม่เคยรู้เลยก็คือฮันกีจุนได้แต่งงานกับแชยูจิน (ยูรา) นักข่าวประจำสำนักกรมอุตุวิทยา ซึ่งนักข่าวสาวคนนี้ก็เป็นแฟนเก่าของอีชีอูด้วย สรุปเลยว่าทั้งฮันกีจุนและแชยูจินต่างนอกใจแฟนของตัวเองเพื่อมาแต่งงานกัน

เมื่ออีชีอูได้ทำงานร่วมกับจินฮากยองเขารู้สึกสนใจเธอมาก เพราะเธอเป็นคนที่มุ่งมั่นในการทำงานและมีเสน่ห์มาก จนวันหนึ่งทั้งคู่ก็ได้รู้ว่าแฟนเก่าของตัวเองได้แต่งงานกัน ทำให้ทั้งคู่ได้เปิดใจกันมากขึ้น ซึ่งอีชีอูก็ได้เล่าวีรกรรมที่เขาได้เข้าไปป่วนงานแต่งงานของฮันกีจุนและแชยูจินให้จินฮากยองฟัง ทั้งคู่ต่างหัวเราะเพราะพูดคุยกันอย่างถูกคอจนสุดท้ายด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้ทั้งคู่ได้นอนด้วยกันแบบไม่ได้ตั้งใจ หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาทั้งคู่ก็ตกลงกันว่าจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่แล้วอีชีอูก็อยากสานความสัมพันธ์ขึ้นมา จินฮากยองก็เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้เพราะต่างคนก็ต่างไม่มีใคร แต่เธอเข็ดกับรักในที่ทำงานเลยตกลงกันว่าจะเลิกรากันทันทีหากมีคนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ความสัมพันธ์แบบลับ ๆ ที่ไม่ค่อยลับจะเป็นไปอย่างไรต้องไปติดตามชมกันค่ะ

ข้อมูลทั่วไปของซีรีส์ Forecasting Love and Weather : พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง

เหตุผลที่ต้องดู พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง (Forecasting Love and Weather)?

คำเตือน : มีสปอยล์

1. มีตัวละครที่น่าสนใจมาก

จินฮากยอง (พัคมินยอง)

จินฮากยองเป็นสาวสวยที่อายุ 36 ปี เธอเป็นคนที่สวยและเก่งมาก ความเก่งและความฉลาดของเธอทำให้เธอได้กลายเป็นผู้ชำนาญการด้านพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลี รวมถึงยังได้เป็นหัวหน้าทีมพยากรณ์อากาศส่วนกลางที่อายุน้อยที่สุดด้วยค่ะ ในเรื่องของการทำงานจินฮากยองเป็นคนที่มีระเบียบมาก แต่ก็สามารถแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้เป็นอย่างดี นิสัยของจินฮากยองคือเป็นคนที่เย็นชาและเข้มงวดมาก ทำให้ผู้ร่วมงานทุกคนเกรงกลัวเธอเป็นอย่างมาก

นักแสดงที่ได้รับบทบาทนี้คือ “พัคมินยอง”ค่ะ พัคมินยองเป็นนักแสดงสาวที่ได้รับความนิยมมากเพราะทุกบทบาทที่เธอแสดงเรตติ้งมักจะลอยตัวตลอดโดยเฉพาะซีรีส์เรื่อง What’s Wrong with Secretary Kim ที่ได้ประกบคู่กับพัคซอจุนค่ะ การแสดงของทั้งคู่เข้ากันได้ดีมากจนมีข่าวลือว่าทั้งคู่กำลังคบหากันค่ะ

อีชีอู (ซงคัง)

อีชีอูเป็นนักพยากรณ์อากาศอายุน้อยแต่มากความสามารถ ชื่อ “อีชีอู” ของเขามีความหมายว่า ”ฝนที่ตกในเวลาที่เหมาะสม” เขาเป็นคนที่ดูเงอะงะแต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเขามีไอคิวสูงถึง 150 เลยทีเดียว อีชีอูเป็นคนเต็มไปพลังงานบวกและมองโลกในแง่ดี ถึงแม้ว่าเรื่องอื่นเขาจะไม่จริงจังเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเรื่องของอากาศความแม่นยำของเขาถือเป็นที่หนึ่งและเขาก็เป็นคนที่จริงจังกับการทำงานคนหนึ่งเลยค่ะ

นักแสดงที่ได้รับบทบาทนี้คือ “ซงคัง”ค่ะ เป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วซงคังเป็นลูกรักของ Netflix เพราะเขารับบทนำในซีรีส์ที่เป็น Original ของ Netflix มาหลายเรื่องมากทั้ง Love Alarm, Sweet Home และ Nevertheless ค่ะ การได้เห็นซงคังแสดงคาแร็กเตอร์เชิงบวกทำให้ผู้เขียนรู้สึกสุขใจมากค่ะ ทำให้เราสามารถเห็นความเป็นทางการในตัวเขามากยิ่งขึ้นด้วย ใครที่เป็นแฟนคลับของซงคังต้องไม่พลาดค่ะ

ฮันกีจุน (ยุนพัค)

ฮันกีจุนเป็นชายหนุ่มที่มีอายุ 36 ปี เขาเป็นคนที่หน้าตาดีคนหนึ่ง และได้ทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าทีมโฆษกของกรมอุตุวิทยา ความสามารถหลักของเขาก็คือเขาเป็นคนที่พูดเก่งมาก ๆ และสามารถพูดโน้มน้าวให้คนคล้อยตามได้ ฮันกีจุนคบกับเขาจินฮากยองมาเป็นเวลา 10 ปี ในระหว่างที่คบกันนั้นหน้าที่การงานของเขาก็เริ่มก้าวหน้าขึ้น แต่เขาไม่ชอบความจืดชืดของจินฮากยอง เขาก็เลยนอกใจเธอไปคบกันสาวรุ่นน้องอย่างแชยูจินแทน จุดด้อยของฮันกีจุนคือเขาจะรู้สึกแย่เมื่อต้องพบกับความพ่ายแพ้และความล้มเหลวค่ะ

บทบาทนี้ได้ผ่านการแสดงโดย “ยุนพัค” ค่ะ เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากและทักษะการแสดงของเขาก็ทำให้เราละสายตาไม่ได้ ถึงแม้ว่าผู้เขียนจะไม่ชอบคาแร็กเตอร์นี้เท่าไหร่ แต่พูดได้เลยว่าการแสดงของเขาทำให้ผู้เขียนรู้สึกหมั่นไส้ได้ค่ะ

แชยูจิน (ยูรา)

แชยูจินเป็นนักข่าวด้านพยากรณ์อากาศ ด้วยหน้าที่การงานทำให้เธอต้องมาทำงานกับทีมนักพยากรณ์อากาศในกรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลี ซึ่งในระหว่างนั้นแชยูจินเป็นแฟนกับอีชีอูมาก่อน แต่ด้วยความโลภและเบื่อความไม่ก้าวหน้าของอีชีอู ทำให้เธอแอบคบกับโฆษกด้านพยากรณ์อากาศอย่างฮันกีจุนแบบลับ ๆ เธอเข้ามาเป็นมือที่สามในความสัมพันธ์ของจินฮากยองและฮันกีจุน ทำให้งานแต่งงานของทั้งคู่ต้องยกเลิกไปแล้วเธอก็มาสวมรอยเป็นเจ้าสาวแทน แชยูจินเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวมากและเธอก็ขอให้อีชีอูปิดบังเรื่องที่เคยเป็นแฟนกันมาก่อนเพราะกลัวว่าฮันกีจุนจะรู้ค่ะ

บทบาทนี้ได้ผ่านการแสดงโดย “ยูรา” ค่ะ ยูราเป็นหนึ่งในเกิร์ลกรุ๊ป Girl’s Day ค่ะ เรื่องความสวยไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะเพราะสวยมาก ๆ แต่การแสดงของเธอก็ทำให้ผู้เขียนหมั่นไส้มากเหมือนกันค่ะ

2. นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ

พยากรณ์วันนี้ มีรักบางแห่ง (Forecasting Love and Weather) ถือเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่ได้นำเสนอเกี่ยวกับการพยากรณ์อากาศ ซึ่งตัวเรื่องจะพูดถึงการบริหารอุตุนิยมวิทยาซึ่งเป็นหน่วยงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติของเกาหลี อันที่จริงแล้วสภาพอากาศเป็นปัจจัยที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเราแต่มักจะถูกมองข้ามอยู่เสมอ และตัวเราเองก็ไม่ได้มีความรู้มากนักเกี่ยวกับงานของนักพยากรณ์และความยากลำบากที่พวกเขาต้องเผชิญในแต่ละวัน

ในขณะที่ได้ทำการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ ทีมงานฝ่ายผลิตก็ได้เข้าไปขอคำปรึกษาและขอคำแนะนำจากโฆษกและนักพยากรณ์อากาศเป็นเวลา 6 เดือน โดยคนที่ให้คำแนะนำและความรู้เกี่ยวกับอากาศก็คือคุณ “โนซองอุน” ซึ่งเขาเคยทำงานในสำนักงานโฆษกกรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีมาเป็นเวลา 27 ปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ทีมงานยังได้ถ่ายทำซีรีส์ที่ศูนย์ไต้ฝุ่นแห่งชาติในซอกวิโพจริง ๆ โดยได้จับภาพวิดีโอเกี่ยวกับสภาพอากาศ ทำให้ซีรีส์มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือเราจะเห็นได้ว่าในแต่ละตอนจะมีเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ เน้นให้เราเห็นว่าช่วงนี้อากาศได้เริ่มต้นและสิ้นสุดลงอย่างไร อีกทั้งทางเรื่องยังได้อธิบายการเปลี่ยนแปลงในความสัมพันธ์ของตัวละคร โดยอิงถึงข้อมูลที่คาดการณ์ถึงความผิดปกติของสภาพอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย โดยความสัมพันธ์หลักที่เน้นถึงจะเป็นความสัมพันธ์ของคน 4 คนนั่นก็คือจินฮากยอง อีชีอู ฮันกีจุนและแชยูจิน

ซึ่งความสัมพันธ์ของตัวละครทั้ง 4 คนเผยให้เห็นสัญญาณที่แปรผันอยู่ตลอดเวลา ตัวเรื่องเลยได้มีการอธิบายว่าทุกคนมีความรู้สึกอย่างไรในช่วงนี้ ซึ่งแต่ละความรู้สึกจะมีความสอดคล้องกับอุณหภูมิที่หนาวเย็นหรือความแรงของลมที่แตกต่างกันอยู่เสมอ ถือได้ว่าเป็นการพยากรณ์ความรักและสภาพอากาศไปพร้อม ๆ กันด้วย ดังประโยคหนึ่งที่ว่า “คลื่นลมมักจะทิ้งร่องรอยไว้เสมอไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่” ซึ่งมันก็เป็นความนัยที่ไม่ได้พูดถึงสภาพอากาศเพียงอย่างเดียว แต่ยังพูดถึงความสัมพันธ์ด้วย “เพราะถึงแม้จะผ่านการเลิกรามาสักพักแล้ว แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นไว้กับจินฮากยองและอีชีอูอยู่ดี” เมื่อนำสภาพอากาศมาหลอมรวมเข้ากับความสัมพันธ์ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

3. ความสัมพันธ์ระหว่าง จินฮากยอง และ อีชีอู

ความสัมพันธ์ระหว่างจินฮากยองและอีชีอูเป็นความสัมพันธ์ที่น่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ (ที่ไม่บังเอิญ) ค่ะ จินฮากยองและอีชีอูเป็นคนที่ถูกนอกใจกันมาทั้งคู่ ทั้งที่ทั้งคู่เป็นคนที่ดีมากในเรื่องของความสัมพันธ์แต่ก็ยังไม่ถูกใจคนรัก แต่จุดไคลแม็กซ์ยิ่งกว่านั้นก็คือแฟนเก่าของทั้งคู่อย่าง “ฮันกีจุนและแชยูจิน” ดันแต่งงานกันค่ะ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เกิดมาจากการเปิดใจและเผลอไผลไปมีความสัมพันธ์กัน จนสุดท้ายก็ตกลงคบกันแบบต้องการรู้กันแค่ 2 คนเท่านั้น โดยมีคำขาดที่ว่าหากใครรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ก็จะเลิกรากันทันที พูดได้เลยว่าจินฮากยองและอีชีอูเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันมากแต่ก็มีตัวขัดขวางตลอดเวลานั่นก็คือฮันกีจุนและแชยูจิน

ฮันกีจุนและแชยูจินถือเป็นคู่ผัวเมียมหาภัยของเรื่องเลยค่ะ ซึ่งหากจะให้พูดก็พูดได้เลยว่าเป็น “ผีเน่าและโลงผุ” อย่างแท้จริง เพราะทั้งคู่ต่างเข้าไปเป็นมือที่สามของความสัมพันธ์แล้วมาแต่งงานกัน ฮันกีจุนและแชยูจินเป็นคนที่เห็นแก่ตัวทั้งคู่ เมื่อทั้งคู่เห็นว่าคนที่ตัวเองทิ้งไปมีชีวิตที่ดีขึ้นก็รู้สึกว่าจะยอมไม่ได้ เลยพยายามก่อกวนอยู่ตลอดเวลา ความตลกก็คือฮันกีจุนและแชยูจินเป็นคนหลงตัวเองมากคิดว่าจินฮากยองและอีชีอูยังลืมตัวเองไม่ได้และต้องการสร้างความวุ่นวาย ทั้งทั้งที่จินฮากยองและอีชีอูเดินไปไกลมากแล้ว และผู้เขียนก็คิดว่าตัวละครมหาภัยอย่างฮันกีจุนและแชยูจินจะต้องสร้างความวุ่นวายให้กับจินฮากยองและอีชีอูมากขึ้นอย่างแน่นอน

4. ความรักในที่ทำงานไม่ยั่งยืนจริงหรือ?

เมื่อดูซีรีส์เรื่องนี้จุดเด่นของเรื่องที่เราสามารถเห็นได้ตั้งแต่ตัวอย่างของซีรีส์ก็คือ “ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน” ค่ะ หลายคนอาจจะได้ยินกันมาแล้วว่า “ความรักในที่ทำงานไม่ยั่งยืน” เรื่องนี้อาจจะทำให้หลายคนสงสัยว่าจริงหรือไม่ เพราะในเรื่องจินฮากยองก็ขีดเส้นความสัมพันธ์ไว้กับอีชีอูด้วยสถานการณ์ที่ว่า “หากมีคนจับได้จะเลิกรากันในทันที” อันที่จริงแล้วความสัมพันธ์ในที่ทำงานไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยั่งยืนนะคะ แต่ตัวจินฮากยองเองรู้สึกเข็ดหลาบกับความสัมพันธ์ในที่ทำงานไปแล้ว เลยไม่อยากที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ให้ใครรู้ ซึ่งผู้เขียนมองว่าความสัมพันธ์ในที่ทำงานก็เหมือนกับการที่เราคบกับเพื่อนสนิทค่ะ ตอนแรกรักกันมากและคนรอบข้างก็รับรู้ แต่เมื่อเลิกรากันความสัมพันธ์ก็ขาดสะบั้น แม้แต่หน้าก็ยังมองกันไม่ติด ยิ่งต้องเจอกันทุกวันยิ่งอึดอัดและทำตัวไม่ถูกจนอีกฝ่ายต้องเป็นคนจากไปเอง ถึงจะเป็นการตัดความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์

ดังนั้นก็เลยมีบริษัทบางบริษัทได้คัดค้านความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน หากเกิดขึ้นแล้วจะต้องตกลงกันว่าใครจะเป็นฝ่ายลาออกและหางานใหม่ ถึงแม้ว่าว่ามันจะเป็นแค่เรื่องเล็ก ๆ แต่เรื่องความรู้สึกนั้นส่งผลกระทบถึงหลาย ๆ เรื่องซึ่งรวมถึงเรื่องการทำงานด้วย ดังนั้นความสัมพันธ์ฉันคู่รักในที่ทำงานไม่ควรจะเกิดขึ้นจริง ๆ ค่ะ เพราะถ้าดีมันก็จะดีไปเลย ถ้าแย่ก็ถึงขั้นเลวร้าย ในบางครั้งก็ยังมีการเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงานระหว่างคู่รักด้วยค่ะ และแน่นอนว่าการเปรียบเทียบว่าใครเหนือกว่าใครอาจจะทำให้ระหว่างคู่รักเกิดความรู้สึกแย่ เมื่อสะสมนาน ๆ เข้าความสัมพันธ์ก็ยิ่งสั่นคลอนค่ะ

5. ครอบครัวและการทำงานในกรมอุตุวิทยา

งานของกรมอุตุวิทยาเป็นงานที่เหนื่อยมากจริง ๆ ค่ะเพราะนอกจะต้องคาดการณ์เรื่องสภาพอากาศแล้วยังต้องทำวิจัยและรายงานผลอย่างต่อเนื่องอีกด้วย นั่นเป็นเพราะว่าสภาพอากาศเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เราไม่สามารถจะสั่งให้ฝนตกหรือหยุดได้ตามความชอบ ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอากาศทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นลม ฝน หิมะ พายุ ลูกเห็บหรือหมอกก็ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุตุวิทยาทั้งนั้นค่ะ นั่นทำให้คนที่ทำงานในกรมอุตุวิทยาแทบจะไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวเลย จุดนี้ผู้เขียนชอบการบรรยายของเรื่องมากเพราะนอกจากความสัมพันธ์ของตัวละครหลักแล้ว ทางเรื่องก็ได้นำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละครอีกหลายตัวละครอีกด้วย

โดยตัวละครตัวที่ผู้เขียนให้ความสนใจมากค่ะคือออมดงฮันค่ะ ออมดงฮันหรือหัวหน้าออมเป็นผู้พยากรณ์อาวุโสที่ทำงานร่วมกับจินฮากยอง เขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องการทำงานมาก แต่เรื่องครอบครัวเขาค่อนข้างล้มเหลวเพราะทั้งภรรยาและลูกมีท่าทีและเฉยชาต่อเขา แต่นั่นก็ไม่ใช่ความผิดของภรรยาและลูกของค่ะ แต่เป็นเพราะตัวของออมดงฮัน ออมดงฮันใส่ใจกับงานเป็นคนที่บ้างานมากและให้ความสัมพันธ์กับครอบครัวเป็นสิ่งสุดท้าย แม้แต่วันที่ภรรยาตัวเองคลอดลูกก็ไม่กลับมา ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากสำหรับครอบครัวค่ะ พอหลังจากที่คลอดลูกแล้ว ออมดงฮันก็ยังคงให้ความสนใจกับงานอยู่ดี ทำให้ลูกสาวของเขาไม่สนิทสนมและทำตัวห่างเกิน ส่วนตัวภรรยาก็เคยชินกับการทำทุกอย่างด้วยตนเองไปแล้วทำให้เธอรู้สึกว่าการขาดเขาไปก็ไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งในจุดนี้เป็นข้อคิดที่ดีมากและเหมาะกับคนที่ชอบทำงานจนลืมความสัมพันธ์ในครอบครัวค่ะ