Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง

มาถึงตรงนี้มันก็ดูไม่ต่างจากนาฬิกาอนาล็อกที่เราคุ้นเคยทั่วไป แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่สายตาเห็น คุณต้องลองใช้ปลายนิ้วของคุณสัมผัสลงไปบริเวณกระจกเบา ๆ เพียง 2 ครั้ง หน้าจอแบบดิจิตัลจะปรากฎขึ้นมา หลังจากนั้นคุณก็สามารถเลือกสไลด์ไปด้านขวาหรือด้านซ้ายเพื่อเลือกใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้เลย


ส่วนเมนูที่อยู่ภายใต้นาฬิกาเรือนนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับสุขภาพล้วน ๆ และเป็นจุดเด่นของ Garmin มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจ, การนับก้าวเดิน, การวัดอัตราความเครียด, การวัดเวลานอนหลับที่เหมาะสม รวมไปถึงมันยังสามารถเชื่อมต่อกับ GPS เพื่อเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมออกกำลังกายต่าง ๆ ได้แก่ การทำคาร์ดิโอ, โยคะ, การวิ่ง, การปั่นจักรยาน และการว่ายน้ำ เป็นต้น อีกทั้งมันยังสามารถวัดค่าออกซิเจนในร่างกายเราได้ด้วยระบบเซ็นเซอร์เช่นกัน โดยข้อมูลสุขภาพทั้งหมดจะถูกส่งไปยังแอปพลิเคชั่น The Garmin Connect ที่รองรับทั้งระบบ Android และ IOS

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง


ส่วนความน่าสนใจอื่น ๆ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น การแจ้งเตือนสายเรียกเข้า, ข้อความ, การแจ้งเตือนโซเชียลมีเดียส่วนตัวซึ่งเราสามารถตอบกลับข้อความต่าง ๆ ผ่านนาฬิกาเรือนนี้ได้ทันที


สำหรับจอแสดงผลเป็น OLED มีความละเอียดอยู่ที่ 72 x 154 พิกเซล อยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่ได้ดีหรือแย่จนเกินไป และ Garmin Vivomove Sport สามารถดันน้ำได้ในระดับ 5ATM หรือกันแรงดันน้ำที่ระดับ 50 เมตร ส่วนตัวแบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็มจะสามารถใช้ได้นานถึง 5 วัน

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง


ตอบโจทย์ทั้งความไฮบริด, ดีไซน์และสุขภาพด้วยราคาไม่แรงที่ $179.99 หรือประมาณเกือบ ๆ 6,000 บาทเท่านั้นครับ 

นอกจากจุดเด่นของความคลาสสิคและนาฬิกาไฮบริดแล้ว Vivomove 3 Series เรียกได้ว่าเป็น สมาร์ทวอทช์ซ่อนรูป ที่คนอื่นๆมองมาแถบไม่รู้เลย อาจจะคิดว่าเป็นแค่นาฬิกาเข็มทั่วๆไป ซึ่งตรงนี้ล่ะ ... คือจุดเด่นของ Vivomove 3 Series ที่แอบซ่อนหน้าจอ OLED ได้แนบเนียน เนียบจนไม่รู้ว่าแผงหน้าปัดหลังเข็มนั้น คือหน้าจอแสดงผลข้อมูลไว้ติดตามสุขภาพ และ ออกกำลังกาย

ส่วนเรื่องวิธีการแสดงผลของหน้าดิจิตอล นั้นจะแสดงผลยังไง? จะทำงานควบคู่กับเข็มนาฬิกาจริงๆได้ยังไง? ไปชมรายละเอียดสเปคกันก่อน แล้วมาสรุปรายละเอียดของหน้าจอ

 

เลือก Garmin Vivomove 3 Series ยังไง? ทำไมเยอะไปหมด ?

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง

โดยแบ่งรุ่นย่อยของ Vivomove 3 Series ได้ออกเป็น 3 รูปแบบหลักๆ

Vivomove 3S 

  • ตรงคำว่า S นี้ล่ะ.. เมื่อไหร่ที่คำว่า S ต่อท้ายลงอะไร รุ่นนั้นจะมีขนาดเล็ก
  • หน้าปัด 39 mm | สาย 18 mm | จอ Hidden OLED

Vivomove 3

  • ขนาดมาตรฐาน เหมาะสำหรับสวมใส่กับข้อมือทั่วไป
  • หน้าปัด 44 mm | สาย 20 mm | จอ Hidden OLED

 

Vivomove Style / Luxe
  • ขนาดกลาง อัพเกรดวัสดุตัวเรือน & สาย พรีเมี่ยมขึ้น และ เพิ่มหน้าจอแสดงผลด้านบน ซึ่งจะแตกต่างกับ 3/3S นั้นเอง
  • หน้าปัด 42 mm | สาย 20 mm | จอ Hidden color AMOLED

 

รายละเอียด

  • หน้าจอดิจิตอล Hidden ระบบสัมผัส ถูกซ้อนอยู่ในแผงหน้าปัด แสดงผลต่อเมื่อสัมผัส หรือ ยกข้อมือขึ้นมา
  • วัดชีพจรด้วยเซนเซอร์ที่ข้อมือ และ  Pulse Ox, Body Battery, วัดความเครียด
  • เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รับฟังก์ชั่น smart notifications แจ้งเตือนข้อความ, สายเรียกเข้า โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา
  • ติดตามสุขภาพตลอด 24 ชม. เพียงสวมใส่ไว้เท่านั้น เช็คข้อมูลต่างๆจากหน้าปัดนาฬิกาได้ทันที
  • โหมดกีฬาเบื้องต้น & ฟิตเนส เช่น วิ่ง, ปั่น, ว่ายน้ำ และฟิตเนส
  • เช็คความฟิตด้วยค่า VO2MAX และ HRZONE 
  • แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุดถึง 5 วัน และในโหมดนาฬิกาปกติสูงสุดถึง 1 สัปดาห์

 

 

ก่อนที่จะเริ่มใส่ Vivomove 3 Series เพียงเสียบชาร์จไฟกับสายชาร์จที่มีมาให้ในกล่อง เพื่อเปิดใช้งาน และนำไปซิงค์กับสมาร์ทโฟนด้วย Garmin Connect app ผ่านบลูทูธ โดยทำตามขั้นตอนจนเสร็จสิ้นก็พร้อมใส่ใช้งานได้ทันที

ระหว่างสวมใส่ Vivomove 3 Series หน้าจอแสดงผลดิจิตอลจะยังไม่ถูกทำงาน เพื่อให้เข็มนาฬิกาได้แสดงผลเวลาอย่างเดียว แต่เมื่อมีการเคลื่อนไหวจากท่าทางพลิกนาฬิกาขึ้นมาดู เข็มนาฬิกาจะถูกหลบขึ้นมาชั่วคราว เพื่อแสดงผลข้อมูลจากหน้าจอดิจิตอล และ ควบคุมด้วยระบบสัมผัส หลังจากพลิกข้อมือลงสักครู่ นาฬิกาจะกลับเข้าสู่โหมดปกติ เพื่อใช้ดูเวลาจากเข็มปกติ โดยระบบติดตามต่างๆ จะยังทำงานอยู่อัตโนมัติอยู่เบื้องหลัง

 

รูปทรง

ตัวเรือน

  • อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนของ Vivomove 3 Series ที่ใช้ สแตนเลส เป็นวัสดุกรอบหน้าปัดทุกรุ่นแล้ว เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรง ทนทาน ต่อการใช้งานยาวนานขึ้น
  • โดยในรุ่น Vivomove Style จะเป็นรุ่นเดียวที่ใช้วัสดุตัวเรือนเป็น อลูมิเนียม เสริมความพรีเมี่ยมขึ้นไปอีกขั้น

 

หน้าจอ

  • สำหรับวัสดุหน้าจอพื้นฐานในรุ่น Vivomove 3S และ Vivomove 3 ยังคงเป็นกระจกเสริมเคมีที่มีความแข็งแรงคงทนในระดับมาตรฐาน
  • ส่วน Vivomove Style ใช้กระจก Gorilla Glass 3 แบบโค้ง เพิ่มความทนทานต่อรอยขีดข่วนมากขึ้น และ Vivomove Luxe ใช้กระจกคริสตัลแซฟไฟร์แบบโค้ง

 

การแสดงผลข้อมูล

ประเภทการแสดงผลของหน้าจอดิจิตอลแบ่งได้ 2 ประเภท

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง

  • แบบที่ 1 : OLED แบบซ่อน เฉพาะด้านล่างเท่านั้น (3S/3)

รูปแบบการแสดงยังเหมือนเดิมกับรุ่นที่แล้วอย่าง Vivomove Hr ที่แสดงผลเฉพาะด้านล่างเท่านั้น ส่วนด้านบนจะสลักโลโก้ Garmin คงไว้

  • แบบที่ 2 : AMOLED สีแบบซ่อน ทั้งด้านบน และ ด้านล่าง (Style/Luxe)

สำหรับจอแสดงผลด้านบนที่เพิ่มเข้ามา จะแสดงสีสันด้วยไอคอนที่เข้าใจได้ง่าย พร้อมเป้าหมายที่ควรทำได้เพื่อส่งผลดีต่อสุขภาพ 

  • 3S - ขนาดหน้าจอ 39 มม. ประเภทหน้าจอ OLED แบบซ่อน
  • 3 - ขนาดหน้าจอ 44 มม. ประเภทหน้าจอ OLED แบบซ่อน
  • Style - ขนาดหน้าจอ 42 มม. ประเภทหน้าจอ AMOLED สีแบบซ่อน
  • Luxe - ขนาดหน้าจอ 42 มม. ประเภทหน้าจอ AMOLED สีแบบซ่อน

 

เซนเซอร์

ด้านหลังนาฬิกามาพร้อม เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง และ เซ็นเซอร์ Pulse Ox ที่เป็นมาตรฐานใหม่ของ Garmin รุ่นใหม่ๆ สำหรับวัดความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด โดยเปิด/ปิดใช้งานอัตโนมัติ

 

สายนาฬิกา

Vivomove 3 Series ใช้สายรูปแบบ  Quick Release ที่ถอดเปลี่ยน หรือ ใช้งานได้ง่าย สะดวก โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือเข้ามาช่วย จึงเปลี่ยนสีสันให้เหมาะกับสไตล์ได้ลงตัว โดยมีจุดที่แตกในเรื่องของ ขนาด และ วัสดุของสายดังนี้

  • 3S - ขนาดสาย 18 มม. (ซิลิโคน)
  • 3S - ขนาดสาย 20  มม. (ซิลิโคน)
  • Style - ขนาดสาย 20  มม. (ซิลิโคน หรือ ไนล่อน)
  • Luxe - ขนาดสาย 20  มม. (หนัง หรือ สแตนเลสสตีล)

 

 

ใช้งานในชีวิตประจำวัน

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง

หน้าปัดนาฬิกา

แสดงผลข้อมูลเวลา, วัน/เดือน และ จำนวนแบตเตอรี่ที่คงเหลืออยู่ ซึ่งเป็นหน้าหลักสำหรับเลื่อนเปลี่ยนข้อมูลแสดงผลต่างๆ

จำนวนก้าวเดิน

สถิติเหล่านี้จะถูกติดตามอัตโนมัติเพียงใส่ไว้บนข้อมือตลอดเวลา โดยตรวจจากการเคลื่อนไหวของแขน เพื่อมาคำนวณเป็นจำนวนก้าว โดยฝั่ง Vivomove Style/Luxe จะดูเป้าหมายด้วยแถบครึ่งวงกลมด้านบน

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง

วัดความเครียด

เป็นฟังก์ชั่นที่เหมาะสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิตอย่างมาก สำหรับการผ่อนคลาย หยุดพักจากความเครียด โดยอาศัยเซนเซอร์วัดชีพจรเข้ามาตรวจวัดความแปรผัน เพื่อแสดงข้อมูลออกว่าอยู่ในระดับ ผ่อนคลาย หรือ เครียด จากสภาวะต่างๆในขณะนั้น 

บันทึกดื่มน้ำ

เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาสำหรับคนรักสุขภาพ สำหรับบันทึกข้อมูลการดื่มน้ำระหว่างวัน โดยผู้ใช้ต้องเป็นผู้บันทึกข้อมูลด้วยตนเอง ด้วยการเลือกปริมาณของน้ำที่ได้ดื่มไปจริงๆ

 

การแสดงผล

ในเรื่องการแสดงผลรายละเอียดฝั่ง Vivomove 3S/3 ค่อนข้างดูยากกว่า Vivomove Style/Luxe ด้วยเนื้อที่แสดงผลที่ถูกจำกัดเพียงพื้นที่ด้านล่างเท่านั้น

Body Battery

อยากให้ได้ลองนำไปใช้งาน เพื่อตรวจวัดระดับพลังงานในร่างกาย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการทำกิจกรรมออกกำลังกาย หรือ ควรหยุดพักผ่อน

 

ติดตามออกกำลังกาย

โหมดออกกำลังกาย

  • มาถึงในกิจกรรมออกกำลังกายกันบ้าง เมื่อเข้ามาจะพบกับโหมดพื้นฐาน เดิน, วิ่ง, คาร์ดิโอ, พลัง, โยคะ และ อื่นๆ เพื่อให้ได้ใช้งานสำหรับติดตามในช่วงออกกำลังกาย พร้อมบันทึกข้อมูลและเช็คสถิติย้อนหลังผ่าน Garmin Connect app 
  • โดย Vivomove 3S/3 และ Vivomove Style/Luxe  ภายในตัวเรือนจะไม่มี GPS เพื่อติดตามความเร็ว หรือ ระยะ ในสถานที่กลางแจ้ง แต่ยังสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อดึง GPS จากสมาร์ทโฟนเข้ามาร่วมใช้งาน แต่ถือว่าไม่สะดวกเพราะต้องพกพาสมาร์ทโฟนติดตัวไปตลอดเวลา

การแสดงผลในโหมดออกกำลังกาย

ฝั่ง Vivomove Style/Luxe จะได้เปรียบตรงที่หน้าจอด้านบนที่แสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ตลอด ในช่องด้านล่างสำหรับเลื่อนดูข้อมูลต่างๆ แต่โดยรวมแล้วข้อมูลที่แสดงผลเป็นเพียงข้อมูลพื้นฐานเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับมือใหม่ที่เริ่มออกกำลังกาย

Pulse OX 

สำหรับเช็คภาพรวมว่าการนอนหลับที่ละเอียดขึ้น จากช่วง REM รวมถึงค่าออกซิเจนในเลือด 

Garmin vivomove sport เข็มไม่ตรง

VO2 Max

เห็นว่าเป็นนาฬิกาสำหรับผู้เริ่มต้น แต่ก็มี VO2 Max มาให้ได้ใช้งาน เพื่อเช็คค่าความฟิตของร่างกาย เพื่อวัดผลจากการออกกำลังกาย หรือ ความพร้อมต่อการออกกำลังกายที่มีคุณภาพ

แพร่สัญญานอัตราการเต้นของหัวใจ

เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ช่วยส่งสัญญานอัตราการเต้นของหัวใจไปยังอุปกรณ์ที่รองรับ 

 

สรุปปิดท้าย

Garmin Vivomove 3 Series ของดี ของคนรักสุขภาพ ถ้าคุณกำลังคิดว่าสุขภาพเป็นเรื่องไกลตัว ไม่รู้สถิติของสุขภาพ และ วัดผลอะไรไม่ได้เลย อยากให้ลอง Vivomove 3 Series มาใส่แทนนาฬิกาปกติที่ใส่อยู่ ด้วยแบตเตอรี่ที่ไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวัน บวกกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์มือใหม่ที่ต้องการติดตามสุขภาพ บอกเลยว่ามีความสุขกับการใช้งานอย่างแน่นอน