กำจัด ขน วิธี ไหน ดี สุด

วิธีการกำจัดขนนั้นที่คนไทยนิยมกันมีหลากหลายแบบ  โดยแต่ละแบบนั้นก็มีความแตกต่างกันทั้งในขั้นตอนการกำจัดขน ระยะเวลา ความสะดวกในการหาซื้ออุปกรณ์ และราคา ซึ่งเราจะมาอธิบายให้ฟังกันว่าการกำจัดขนทั้ง 5 วิธี อันได้แก่ การถอนขน การโกนขน การใช้ครีมกำจัดขน การเลเซอร์ขน และการแว็กซ์ขน มีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไรของการกำจัดขนอย่างหมดเปลือก

1. การถอนขน

หลายๆคนต้องเคยใช้วิธีนี้ในการกำจัดขนรักแร้อย่างแน่นอน เพราะเป็นวิธีแบบดั้งเดิมที่ง่ายดาย ถึงขั้นสามารถทำได้ด้วยมือเปล่าเลย เช่น การใช้มือดึง แต่ส่วนใหญ่เราจะใช้อุปกรณ์ในการถอน นั่นคือ แหนบ หรือในสมัยนี้ได้มีการพัฒนาเครื่องถอนขนกันแล้ว ซึ่งข้อดีและข้อเสียของการถอนมีดังนี้

ข้อดี

• ง่าย เนื่องจากไม่ต้องใช้เวลาในการเตรียมและไม่ต้องใช้ทักษะในการทำ
• สะดวก สามารถกำจัดรักแร้ได้ทั้งเส้นหนาและเส้นบาง
• อุปกรณ์แหนบมีราคาถูก ในขณะเดียวกันหากเป็นเครื่องถอนขนจะสนนราคาอยู่ที่ เริ่มต้น 199 บาท – 3,000 บาท
• ขนขึ้นช้าเนื่องจากเป็นการดึงจากรากขน
• สามารถทำเองได้ที่บ้าน

ข้อเสีย

• หากเป็นการถอนขนด้วยแหนบจะเป็นการถอนขนทีละเส้น ทำให้ใช้เวลานานในการถอน
• การดึงหรือถอนที่รุนแรงทำให้รูขุมขนบวม อาจส่งผลให้เกิดการคัน ระคายเคืองต่อผิวหนังเป็นตุ่มแดง
• หากถอนขนออกไม่หมด เนื่องจากเส้นขนขาดอยู่ใต้ผิวหนังระหว่างการถอน จะให้เกิดขนคุดได้
• ผิวเป็นหนังไก่เกิดขึ้นได้หลังจากการเกิดขนคุด

2.การโกนขน

เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดในบรรดาวิธีกำจัดขนรักแร้ทั้งหมด แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าผลลัพท์ที่ตามมานั้นไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะว่าการโกนเป็นเพียงการตัดขนที่ระหว่างโคนของเส้นขน ซึ่งเป็นการตัดแนวเฉียงในบริเวณที่ขนหนา ทำให้ขนขึ้นใหม่มีลักษณะเป็นเส้นหนาและแหลมคม ส่งผลให้เราเกิดอาการคัน แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ รายละเอียดเป็นยังไงไปดูกันเลยค่ะ

ข้อดี

• ง่าย สามารถทำเองได้ที่บ้าน
• สะดวก เนื่องจากไม่ต้องใช้เวลาในการเตรียมและไม่ต้องใช้ทักษะในการทำ
• รวดเร็ว สามารถกำจัดขนได้ทั้งเส้นหนาและเส้นบางพร้อมๆกัน
• อุปกรณ์มีราคาถูก มีดโกนทั่วไปราคาเริ่มต้นเพียง 150 บาท

ข้อเสีย

• เสี่ยงต่อการบาดเจ็บจากใบมีดโกน หากมีดโกนไม่สะอาดอาจก่อให้เกิดติดเชื้อได้
• การโกนขนเป็นการทำร้ายเซลล์ผิวหนัง เมื่อผิวได้รับการเสียดสีจากใบมีดโกนจะให้เกิดรอยดำคล้ำได้ง่าย
• ขนที่เกิดจากการโกนจะเป็นตอ ทำให้เกิดอาการคัน
• ขนขึ้นเร็วภายใน 2-3 วันเนื่องจากไม่ได้กำจัดขนจากราก

3.การใช้ครีมกำจัดขน

สำหรับวิธีนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยมเพราะสะดวกและไม่เสียเวลามากนัก เนื่องจากเป็นการทาทิ้งไว้ แล้วนรอให้แห้ง จึงนำกระดาษหรือผ้าเช็ดเพื่อให้เส้นขนหลุดออก โดยเส้นขนที่หลุดออกจะเป็นเส้นขนที่อยู่บนผิวหนังคล้ายกับการโกน ผลิตภัณฑ์หาง่าย เนื่องจากมีตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป

แต่หลายๆคนคงยังไม่รู้ว่าครีมกำจัดขนนั้นมีส่วนผสมของสารเคมีที่มีความเป็นด่างสูง นั่นคือ แคลเซียมไฮดรอกไซต์ ซึ่งเป็นสารเคมีหลักในเนื้อครีมโดยสารเคมีดังกล่าวจะทำหน้าที่ในการละลายคีโรตีนโปรตีนของเส้นขนที่อยู่เหนือผิวหนัง เพื่อให้เส้นขนอ่อนนุ่มลงและตัดขาดจากรากขนหรือส่วนที่ติดอยู่บนผิวหนังได้โดยง่าย แต่ถ้าหากคุณลองนึกตามว่าขนาดเส้นขนเรายังขาดได้ แล้วนับประสาอะไรกับผิวอันบอบบางของเรา

ลองมาดูข้อดีข้อเสียของวิธีนี้กัน

ข้อดี

• ประหยัดเนื่องจากครีมกำจัดขน ราคาเริ่มต้นเพียง 99 บาท มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์
• ง่าย สะดวก หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ไม่ต้องใช้ความชำนาญในการทำ
• รวดเร็ว เนื่องจากขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยาก เพียงทาที่ผิวหนังทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วเช็ดออกได้

ข้อเสีย

• มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น แคลเซียมไฮดรอกไซต์ และแคลเซียมไทโอไกลโคเลท ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเซลล์ผิวหนัง หากทาค้างไว้บนผิวหนังเวลานาน
• กลิ่นฉุนของสารเคมี อาจทำให้ผู้ที่มีอาการแพ้กลิ่น เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ
• ขนขึ้นเร็ว เนื่องจากเป็นการกำจัดขนส่วนบนผิวหนังเท่านั้น ทำให้ขนสามารถกลับขึ้นมาได้ภายใน 3 – 5 วันเท่านั้น
• ขนขึ้นใหม่เส้นหนากว่าเดิม

4.การเลเซอร์ขน

ในปัจจุบันการกำจัดขนรักแร้ด้วยเลเซอร์เป็นที่นิยมกันมาก เนื่องจากเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและสามารถทำให้เส้นขนบางลงได้จริงโดยไม่ทำให้ผิวคล้ำ ซึ่งแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มสูงจัดอยู่ในช่วงความถี่ที่สามารถทำลายบริเวณรากขนโดยไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณข้างเคียง

แต่ทั้งนี้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์อาจไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะสำหรับคนผิวสีแทนหรือผิวคล้ำนั้น การเลเซอร์อาจทำให้คุณเจ็บปวดมากกว่าคนผิวขาว เนื่องจากเม็ดสีผิวดูดพลังงานแสงมากกว่า อาจทำให้เกิดอาการแสบร้อน และไหม้ได้ สำหรับข้อดีข้อเสียของการเลเซอร์กำจัดขนมีดังนี้

ข้อดี

• ขนที่ขึ้นใหม่บางลงอย่างเห็นได้ชัด โดยการกำจัดขนแต่ละครั้งจะทำให้ขนบางลง 10 – 30%
• การทำเลเซอร์ไม่ทำให้ผิวบางลง หรือคล้ำลง

ข้อเสีย

• อาจมีผลข้างเคียง เช่น บวม แดง ก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บ
• ราคาสูง เริ่มต้นที่ 10,000 – 50,000 บาท สำหรับโรงพยาบาลชั้นนำ
• หลังทำเสร็จผิวจะบอบบางจึงต้องมีระยะเวลาการพักฟื้นถึง 48 ชั่วโมง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
• ใช้เวลา 3- 5 ครั้ง และต้องทำติดต่อกันเป็นเวลา 5- 8 สัปดาห์กว่าขนจะบางลง
• ต้องทำโดยแพทย์เฉพาะทางหรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

5.การแว็กซ์

วิธีนี้เป็นที่นิยมในต่างประเทศมานานมากแล้วและในประเทศไทยเองก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น การแว็กซ์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ สามารถทำเองได้ง่าย รวดเร็ว และราคาไม่แพง ซึ่งแว็กซ์มีหลายประเภท เช่น แว็กซ์ร้อน  (Hot Wax) แว็กซ์น้ำผึ้ง (Honey Wax) ต่างก็มีประสิทธิภาพแตกต่างกันไป เรามาดูกันว่าข้อดี ข้อเสียของแว็กซ์มีอะไรกันบ้าง

ข้อดี

• สามารถทำเองได้ แว็กซ์บางประเภท เช่น แว็กซ์ร้อน มีเพียงแค่หม้อแว็กซ์ก็สามารทำเองที่บ้านได้แล้ว
• การแว็กซ์ไม่ทำให้เกิดขนคุด หรือบาดแผลใต้วงแขน
• ใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ 20 – 30 นาทีเท่านั้น
• กำจัดขนจากราก ทำให้ขนบางลงและขึ้นช้ายาวนานถึง 4 สัปดาห์
• ผิวกระจ่างใสขึ้น เนื่องจากการกำจัดขนด้วยแว็กซ์ช่วยทำให้เกิดการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ ผิวที่ตายแล้วจะหลุดลอกออกไปพร้อมกับแว็กซ์

ข้อเสีย

• ต้องให้ขนมีความยาวพอดี หากยาวเกินไปจะทำให้เส้นขาดได้ง่าย หากสั้นเกินไปจะทำให้การแว็กซ์ขนทำได้ยาก
• หากแว็กซ์ไม่ถูกต้องอาจทำให้เจ็บระหว่างขั้นตอนการแว็กซ์
• จำเป็นต้องศึกษาขั้นตอนการแว็กซ์อย่างละเอียด

อย่างไรก็ตามการกำจัดขนนั้นไม่มีวิธีไหนที่ดี 100% ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกของแต่บุคคล แต่อย่าลืมคำนึงถึงข้อดี และข้อเสียของการกำจัดขนแต่ละวิธี รวมทั้งการศึกษา รายละเอียดของวิธีการกำจัดขนแต่ละประเภท เพื่อให้เราสามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยค่ะ

สามารถติดตามข่าวสาร Verna Wax ได้ทาง

Instagram : vernawax.official

Facebook : Verna Wax Spa Time

Line@ : @vernawax

#Vernawax #Verna #ใครๆก็เลือกVernawax #แว๊ก #เลเซอร์กำจัดขน #wax #เวอร์นาแว็กซ์ #แว็กซ์ขน #แว็กซ์ #Vernalifestyle #hardwax #แว็กร้อน #แว็กซ์ร้อน #แว็กซ์ร้อนดียังไง

กำจัดขนด้วยวิธีไหนดีสุด

กำจัดขนหน้าแข้งวิธีไหนดีสุด

กำจัดขนรักแร้แบบไหนดีที่สุด

เลเซอร์กำจัดขนแบบไหนดีที่สุด