หากท่านเดินทางระหว่างสนามบินฮาเนดะ-นาริตะ หรือสนามบินอิตามิ-คันไซ จากสนามบินขาออกภายในญี่ปุ่น และต่อเที่ยวบินไปยังเที่ยวบินระหว่างประเทศ ท่านสามารถเช็คอินสัมภาระของท่านได้ที่สนามบินขาออกระหว่างประเทศ Show
โปรดใช้ “เคาน์เตอร์ต่อเครื่องเที่ยวบินระหว่างประเทศ” ที่สนามบินซัปโปโร (นิวชิโตเสะ), นาโกย่า (ชูบุ), โอซาก้า (อิตามิ), ฟุกุโอกะ และโอกินาว่า (นาฮะ) จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศทั้งที ไปตั้งหลายวันก็ต้องมีกระเป๋าพะรุงเต็มไปหมด ทั้งเสื้อผ้า ของใช้ เครื่องสำอาง ของจำเป็นต่างๆ อีกเพียบ ไหนจะยังต้องขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศครั้งแรก น่าตื่นเต้นจริงๆ เลย ต้องเตรียมตัวยังไง ใช้เอกสารอะไรบ้าง จะทำยังไงดีนะ 1. เตรียมตัวให้พร้อมสิ่งที่จำเป็น ที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่องบิน
2. มาก่อนเวลา 2 ชั่วโมงควรจะกะเวลาให้ไปถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ก่อนขึ้นเครื่องอย่างน้อย 2 ชั่วโมง จะได้ไม่ฉุกละหุก และมีเวลาอีกเยอะสำหรับสิ่งต่างๆ ดังนี้
3. ตรวจสอบเที่ยวบินเมื่อถึงสนามบินให้เช็คดูจอมอนิเตอร์ว่าเที่ยวบินที่เรานั่งมีสถานะเป็นยังไง ออกตามเวลา หรือดีเลย์หรือไม่ เค้าน์เตอร์เช็คอินหมายเลขอะไร จองตั๋วเครื่องบินออนไลน์4. ได้เวลาเช็คอินเข้าเช็คอินโดยการตรวจตั๋วโดยสาร และรับบัตรสำหรับขึ้นเครื่อง หรือ Bording Pass ใครยังงงอยู่ ตั๋วโดยสารกับบัตรขึ้นเครื่องเป็นคนละใบกันนะ ซึ่งตั๋วโดยสารที่เรามีอยู่ยังไม่สามารถขึ้นเครื่องได้ทันที จะต้องเอาไปให้เจ้าหน้าที่แต่ละสายการบินตรวจและออกบัตรให้อีกหนึ่งใบ เรียกว่าบัตรขึ้นเครื่อง (ฺBoarding Pass) โดยในบัตรจะแสดงรายละเอียดว่าว่าต้องไปขึ้นเครื่องที่ประตูไหน นั่งเก้าอี้ตัวไหน อย่าลืมตรวจสอบข้อมูล ชื่อ-สกุล ของเราว่าถูกต้องตรงกันหรือเปล่า และจะมีใบ ตม. เปล่าๆ อีกหนึ่งใบแนบมาพร้อมกันด้วย ตรวจบัตรเสร็จแล้วก็นำกระเป๋าผ่านเข้าเครื่อง X-Ray เพื่อนำไปเช็คอิน ซึ่งเป็นกระเป๋าที่เราจะฝากไปเก็บใต้ท้องเครื่องบิน ต้องดูให้แน่ใจว่ากระเป๋าที่เราโหลดไปใต้ท้องเครื่องนั้น จะไม่มีของจำเป็นที่จะต้องหยิบใช้ระหว่างเดินทาง เพราะจะไม่สามารถรื้อออกมาได้อีก 5. ตรวจหนังสือเดินทางใบ ตม. ที่ได้รับมานั้น ให้กรอก 2 หน้า บัตรขาออก และ บัตรขาเข้า กรอกเป็นภาษาอังกฤษช่องละ 1 ตัวอักษร โดยข้อมูลต้องตรงกับใน Passport ระวังให้ดี ด้านบนสุดให้กรอกนามสกุลก่อน แล้วตามด้วยชื่อ เรามักจะถนัดเขียนขึ้นต้นด้วยชื่อก่อน อาจจะเผลอเขียนผิดเอาได้ กรอกเสร็จแล้วก็เอาไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เอาไปยื่นพร้อมเอกสารอื่นๆ ทั้ง Passport และ Bording Pass ที่ตรงประตูทางเข้า รอรับใบเข้าเมืองที่เจ้าหน้าที่ฉีกคืนให้เราครึ่งหนึ่งพร้อมกับพาสปอร์ตคืนมา อย่าทำหายเชียวนะ เพราะขากลับเราจะต้องใช้อีกครั้ง 6. สแกนสัมภาระตรวจหนังสือเดินทางเสร็จแล้ว ก็ไปสแกนสัมภาระกันต่อ จะมีทางเดินเข้าช่องสแกนสัมภาระ ให้เอาสิ่งของในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกง กระเป๋าสตางค์ ไปเก็บไว้ในกระเป๋าถือ เสื้อคลุมต้องถอดออก บางสนามบินที่เข้มงวดมากจะต้องถอดเข็มขัด และ รองเท้าด้วย ส่วนน้ำดื่มจะต้องทานให้หมดก่อนเข้าสแกนสัมภาระ หรือไม่ก็ต้องทิ้งลงถังขยะ กระเป๋าถือ เป้ ให้วางลงในสายพานผ่านเครื่อง x-ray ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แล้วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ 7. รอขึ้นเครื่องหลังจากสแกนสัมภาระเสร็จ ได้สัมภาระคืนกลับมาแล้ว ถ้ามีเวลาเหลือก่อนเครื่องอาจจะหาอะไรกิน แวะเดินเล่นช้อปปิ้ง Duty Free ได้ จากนั้นก็ไปขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ก่อนเวลา Boarding Time ระหว่างรอขึ้นเครื่องให้สังเกตจอหน้าเกตว่าเป็น Flight ที่เราบินหรือเปล่า เพราะบางครั้งอาจมีการเปลี่ยนเกต ทางที่ดีควรไปถึงหน้าประตูก่อนเครื่องขึ้นอย่างน้อย 30-40 นาที เร็วกว่านั้นได้ยิ่งดี จะได้ไม่พลาด 8. ขึ้นเครื่องก่อนเครื่องออกจะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง เจ้าหน้าที่จะขอดู Passport พร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา 9. ออกเดินทางเมื่อขึ้นไปอยู่บนเครื่องแล้วให้นั่งตามหมายเลข สังเกตง่ายๆ จะติดอยู่บริเวณที่เก็บสัมภาระ หากหาไม่เจอสามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ เก็บสัมภาระไว้ในช่องด้านบนได้ ส่วนของมีค่าให้เก็บไว้กับตัว จากนั้นก็คาดเข็มขัดนิรภัย ปรับพนักเก้าอี้ตั้งตรง เปิดม่านบังแสง ปิดโทรศัพท์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ดูสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน ที่บนเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะแจกใบ ตม. ของประเทศที่เราจะไป ให้เรากรอกข้อมูล 10. ถึงที่หมายเดินตามป้าย Arrivals หรือ Immigration เตรียมเข้าด่าน ตม. ของประเทศนั้น ให้เตรียม Passport + ใบ ตม. ของประเทศนั้นไว้รอตรวจให้พร้อม เสร็จจาก ตม. ก็ไปรับกระเป๋าที่เราโหลดมา มองหาชื่อเที่ยวบินในป้ายของแต่ละสายพานแล้วไปรอรับกระเป๋าที่ช่องนั้น หลังจากได้กระเป๋าอย่าลืมสำรวจความถูกต้อง ว่าเป็นกระเป๋าของตัวเองหรือเปล่า มีส่วนไหนแตกเสียหายหรือไม่ หากเกิดความเสียหายสามารถขอเคลมกับทางสายการบินได้ตามความเป็นจริง ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ออกจากอาคารผู้โดยสารได้เลย
เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการเดินทาง แค่นี้มือใหม่หัดขึ้นเครื่องบินก็ไม่ต้องกลัวขึ้นเครื่องกันแล้วล่ะ ขอให้เดินทางปลอดภัยกันทุกคนนะคะ บินในประเทศยังไงสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ แนะนำผู้โดยสารเช็กอินล่วงหน้าผ่านช่องทางออนไลน์ของแต่ละสายการบินครับ โดยที่เราสามารถทำรายการได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงและภายใน 2 ชั่วโมงก่อนการเดินทางครับผม ซึ่งหากต้องการโหลดสัมภาระ ก็สามารถให้ติดต่อเคาน์เตอร์เช็กอินได้ครับ โดยเผื่อเวลาอย่างน้อย 45 นาทีก่อนเวลาเดินทางครับ
ขึ้นเครื่องบินในประเทศครั้งแรก ทำไงสรุปทุกขั้นตอน ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกต้องทำอย่างไร?. 1. ตรวจสอบข้อมูลก่อนเช็คอิน ... . 2. เช็คอินก่อนขึ้นเครื่องบิน ... . 3. เข้าด่านตรวจก่อนขึ้นเครื่องบิน ... . 4. ขึ้นเครื่องบิน ... . 5. เดินทางถึงที่หมาย. ขึ้นเครื่องบินต้องทำไงบ้างเอกสารสำหรับการขึ้นเครื่องบินที่ห้ามขาดเลยก็คือบัตรประชาชนและตั๋วโดยสารนั่นเอง นอกจากนี้หากเพื่อนๆ ไปเที่ยวต่างประเทศก็อย่าลืมพกพาสปอร์ต วีซ่า เอกสารยืนยันการจองโรงแรม เอกสารแผนการท่องเที่ยว รวมไปถึงใบรับรองแพทย์กรณีที่เพื่อนๆ มีโรคประจำตัวหรือกำลังตั้งครรภ์อยู่
บินในประเทศต้องเตรียมอะไรบ้างบินในประเทศ ใช้อะไรบ้าง
บัตรประจำตัวประชาชน ตั๋วเครื่องบิน หรือบุ๊คกิ้งการจอง เอกสารอื่น ๆ ที่สายการบิน หรือจังหวัดปลายทางต้องการ อาทิ เอกสารการฉีดวัคซีน ผลตรวจโควิด เป็นต้น
|