รวมคะแนนภาควิชาการและพลศึกษาได้ 100 % แล้วบวกกับคะแนนช่วย(ตามข้อบังคับ) แล้วจึงเรียงลำดับคะแนนและลำดับที่ใหม่ ข้อสังเกต พลศึกษามีความสำคัญมาก ผู้ที่สอบติดรอบแรก ในลำดับที่ท้าย ๆ ก็มีสิทธ์สอบได้ตัวจริงถ้าทำพลศึกษาได้คะแนนสูง ที่สำคัญคือ ว่ายน้ำ 50 เมตร วิ่ง 1000 เมตร และดึงข้อ นักเรียนต้องรีบฝึกตั้งแต่ต้นปีเพราะต้องอาศัยเวลาในการฝึกฝน เหล่าตำรวจ Show รอบแรก ภาควิชาการ 700 คะแนน คิดเป็น 100% ตัวชี้วัดสำหรับตัดสิน : ใช้คะแนนภาควิชาการ 100% รวมกับคะแนนช่วย(ตามข้อบังคับ) แล้วเรียงลำดับใหม่ เหล่า ทอ. รอบแรก ภาควิชาการ 700 คะแนน คิดเป็น 70% ตัวชี้วัดสำหรับตัดสิน : คะแนนภาควิชาการ พลศึกษา สัมภาษณ์ และความถนัด รวมกันได้ 100%และกับรวมคะแนนช่วย (ตามข้อบังคับ) แล้วจึงเรียงลำดับคะแนนใหม่ เหล่า ทร. รอบแรก ภาควิชาการ 700 คะแนน คิดเป็น 100% ตัวชี้วัดสำหรับตัดสิน
เรื่องสายตา
*** สำหรับในการทำ PRK หรือ เลสิค ต้องปรึกษาแพทย์เนื่องจากขึ้นอยู่กับกระจกตาของแต่ละคน สาระวิชาที่ต้องเตรียมตัว วิทยาศาสตร์ ( 250 คะแนน)
คณิตศาสตร์ ม.1 - ม. 3 ( 250 คะแนน ) ภาษาอังกฤษ ( 150 คะแนน) ภาษาไทย ( 60 คะแนน) สังคมศึกษา ( 50 คะแนน ) หลักการเตรียมตัวระยะยาว
**ผู้ปกครองมีส่วนสำคัญในการสร้างฐานความรู้คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และสำหรับผู้ที่มุ่ง จปร. และทหารอากาศ ควรเน้นฝึกพลศึกษาที่ว่ายน้ำ50 เมตร วิ่ง 1000 เมตร และดึงข้อควบคู่กับการสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์,คณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ โรงเรียน เตรียมทหาร กรมยุทธศึกษา กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นสถาบันการศึกษาที่มีภารกิจในการปกครองบังคับบัญชา และให้การศึกษาทั้งด้าน วิชาการ พลศึกษา วิชาการทหาร – ตำรวจ เพื่อให้นักเรียนเตรียมทหารมีความรู้ ความสามารถ และปลูกฝังคุณสมบัติการเป็นผู้นำ อุปนิสัย อัธยาศัย ที่เหมาะสมที่จะเข้าศึกษา ต่อใน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ หลักสูตรการศึกษาหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารเท่ากับหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ของกระทรวงศึกษาธิการ (ม.4 – ม.6) โดยกำหนดระยะเวลา 3 ปี นักเรียนเตรียมทหารที่ได้ศึกษาจบหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตร มีสิทธิและวิทยฐานะเท่ากับผู้สำเร็จการศึกษามัธยมตอนปลายของกระทรวงศึกษาธิการ และจะได้ไปศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ต่อไป การเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเตรียมทหารโรงเรียนเตรียมทหารไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือกนักเรียนเตรียมทหาร แต่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ จะเป็นผู้ดำเนินการสอบคัดเลือก และกำหนดจำนวนการรับนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในแต่ละปี และส่งมาเรียนร่วมกันที่โรงเรียนเตรียมทหารเป็นเวลา 3 ปี เมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรของโรงเรียนเตรียมทหารแล้วจึงไปศึกษาต่อในโรงเรียนเหล่า ตามที่นักเรียนสมัครสอบได้ไว้ตั้งแต่ต้น สอบนักเรียนเตรียมทหารมีอะไรบ้างการสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรีมทหารแบ่งเป็น ๒ รอบ คือ การสอบภาควิชาการ (คะแนนเต็ม ๗๐๐ คะแนน) และการสอบรอบสองเป็นการสอบพลศึกษา การสอบสัมภาษณ์ และการตรวจร่างกาย. วิชาคณิตศาสตร์. วิชาวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ). วิชาภาษาอังกฤษ. วิชาภาษาไทย และสังคมศึกษา. สอบเตรียมทหาร วุฒิอะไรข้อ ๑๑ ผู้ที่จะเข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหาร ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและลักษณะ ๑๑.๑ สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.๔) หลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ หรือใช้คุณวุฒิไม่ต่ำกว่า ม.๔ หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ ๑ ๑ /๑๑.๒ อายุไม่ต่ำกว่า....
สอบเตรียมทหารทำอะไรบ้างการทดสอบภาควิชาการ จะทำการสอบวิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภาษาไทยและสังคม โดยมีขอบเขาเนื้อหารายวิชาครอบคลุมความรู้ตามหลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ของกระทรวงศึกษาธิการ แต่ในหลักสูตรใหม่ คาดว่าจะปรับใช้หลักสูตรชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประมาณ 70% และ มัธยมต้น 30% คณิตศาสตร์
เตรียมทหารสอบยังไงในส่วนการสอบคัดเลือกจะแบ่งเป็น 2 รอบ กล่าวคือ การสอบรอบแรกเป็นการสอบภาควิชาการใน 5 วิชาหลัก คือ คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ภาษาอังกฤษ และภาษาไทย การสอบรอบที่สองเป็นการสอบสัมภาษณ์ และทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เรียกว่าเป็นการทดสอบที่ต้องใช้สติปัญญา ไหวพริบ พละกำลัง และความพร้อมทุก ๆ ด้าน เพื่อจะช่วงชิงให้ได้เข้ามาเป็นนักเรียน ...
|