ขั้นตอนการประเมินโดยใช้แฟ้มสะสมผลงานที่สำคัญมีกี่ขั้นตอน

แฟ้มสะสมงาน  คือ การสะสมงานอย่างมีจุดมุ่งหมายเพื่อแสดงถึงผลงาน  ความก้าวหน้าและสัมฤทธิ์ผลของนักเรียนในส่วนหนึ่งหรือหลายส่วนของการเรียนรู้ในวิชานั้นๆ การรวบรวมจะต้องคลอบคลุมถึงการที่นักเรียนมีส่วนร่วมในการเลือกเนื้อหา  เกณฑ์การคัดเลือก  และเกณฑ์การตัดสินใจในระดับคะแนน  รวมทั้งเป็นหลักฐานที่สะท้อนการประเมินตนเองของนักเรียนด้วย  (กรมวิชาการ, 2539: 68)

ทฤษฎี/แนวคิด

แนวคิดเรื่องแฟ้มสะสมงานได้ถูกนำมาใช้ในช่วงประมาณตอนปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19  โดยนักศึกษาในกลุ่มประเทศแถบอเมริกา  โดยมีประเทศแคนาดาเป็นผู้ริเริ่มการจัดการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ที่มีหลักการสำคัญ  คือ  ยึดหลักการประเมินผู้เรียนจากการสะสมผลงาน  และได้พัฒนาสู่รูปแบบใหม่ที่ชัดเจนขึ้นในประเทศแมกซิโก  ในชื่อที่เรียกว่า  “The teaching  portfolio”  พร้อมทั้งมีการศึกษากันอย่างจริงจังในระยะต่อมาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา  โดยแนวคิดเรื่องแฟ้มสะสมงานเป็นที่กล่าวขวัญในสหรัฐอเมริกาประมาณกลางปี  ค.ศ. 1980 แฟ้มสะสมงานนักเรียนได้ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังทั้งในระดับชั้นของโรงเรียนในเขตการศึกษาในและมลรัฐโดยมีการใช้หลายรูปแบบ

  1. แฟ้มรวบรวมผลผลิตจากโครงงานที่ผู้เรียนผลิตขึ้นเอง
  2. แฟ้มรวบรวมผลงานประเภทต่างๆ ของผู้เรียน  และบันทึกของครู
  3. แฟ้มรวบรวมผลลัพธ์ที่ได้จากการวัดผลมาตรฐานที่นำมาใช้วัดผลผู้เรียน

การนำแฟ้มสะสมงานไปใช้ในการประเมินผลได้รับการพัฒนาและใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศแถบตะวันตก  ทั้งในยุโรป  สหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย  ในราวปี 1988  เป็นต้นมาโดยเรียกว่า “การประเมินผลการเรียนโดยใช้แฟ้มสะสมงาน (Portfolio  assessment)”  ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย  เช่น  รัฐเวอร์มอนต์  ได้ใช้วิธีการนี้ประเมินผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์อย่างเป็นทางการทั่วทั้งรัฐแทนวิธีการดั้งเดิมที่ใช้แบบทดสอบ  ซึ่งจากการสอบถามครูนักการศึกษาและผู้บริหารการศึกษามีความเห็นตรงกันเป็นส่วนใหญ่ว่าเป็นวิธีการประเมินผลที่ใช้ได้ดีกว่าวิธีการเดิม ในประเด็นที่สามารถตรวจสอบได้ว่านักเรียนเรียนรู้อย่างแท้จริงหรือไม่  และนักเรียนมีความสามารถอะไรบ้างจากการแสดงออกทั้งทางด้านสติปัญญา  ร่างกายและความรู้สึก  (ชัยฤทธิ์  ศิลาเดช, 2540)

ประเภทของแฟ้มสะสมงาน

วรรณดี  ชุณหวุฒิยานนท์ (2540: 4-5) ได้แบ่งแฟ้มสะสมงานตามจุดมุ่งหมายในการใช้ไว้ดังนี้

  1. Personai  portfolio  เป็น portfolio ที่รวบรวมข้อมูลสารสนเทศส่วนตัวของนักเรียน  เช่นบุคลิกภาพส่วนตัว  งานอดิเรก  งานกิจกรรม  งานท่องเที่ยว  ความสามารถพิเศษ เรื่องราวของครอบครัว  รวมทั้งงานอ่าน  งานเขียน  สิ่งที่ภาคภูมิใจ  สิ่งที่สนใจ  สิ่งที่ประสบความสำเร็จ  เป็นต้น
  2. Learning  portfolio  เป็น  portfolio  ที่รวบรวมงานของนักเรียน  แสดงให้เห็นถึงความรู้  ความสามารถ ความพยายาม  ความก้าวหน้า และผลสัมฤทธิ์ในด้านใดด้านหนึ่งหรือหลายด้านของนักเรียนซึ่งเน้นกระบวนการเรียนรู้ของนักเรียนมักประกอบด้วยรายงานกระบวนการทำงานของนักเรียน  การประเมินตนเองของนักเรียน  การบันทึกของครู  ความคิดเห็นของผู้ปกครองและเพื่อนนักเรียน จุดมุ่งหมาย  คือ  ให้แนวทางแก่ครูและนักเรียนในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน  และให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมด้วย

3.   Accountability portfolio  เป็น portfolio  ที่รวบรวมผลงานของนักเรียนที่คัดสรรแล้ว  แสดงให้เห็นผลการเรียนรู้ของนักเรียนตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร  มักประกอบด้วยผลการประเมินมาตรฐานการเรียนรู้  งานที่คัดเลือกแล้วซึ่งสร้างขึ้นตามเกณฑ์ที่กำหนด  และบันทึกของครู  จุดมุ่งหมาย  คือ  ประเมินผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนเพื่อการตรวจสอบและประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา

จากรายละเอียดของแฟ้มตามวัตถุประสงค์ต่างๆ  จะเห็นได้ว่าการนำแฟ้มสะสมงานมาใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาพัฒนาการของนักเรียนจากผลงานตลอดจนการเรียนการสอนและกิจกรรมในห้องเรียน  จะสามารถบอกได้ถึงพัฒนาการความก้าวหน้าและความสำเร็จในการทำงานแฟ้มสะสมงานจึงเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะศึกษาพัฒนาการได้อย่างต่อเนื่อง  และสามารถปรับปรุงแก้ไขพัฒนาการในด้านต่างๆ ตลอดจนเพิ่มศักยภาพในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระบวนการจัดทำแฟ้มสะสมงาน

กระบวนการจัดทำแฟ้มสะสมงานในชั้นเรียนมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นที่  1  ขั้นวางแผนร่วมกันในการทำงาน

ขั้นที่  2  ขั้นรวบรวมชิ้นงานและจัดการชิ้นงาน

ขั้นที่  3  ขั้นเลือกชิ้นงาน

ขั้นที่  4  ขั้นสร้างสรรค์ผลงาน

ขั้นที่  5  ขั้นสะท้อนข้อมูลย้อนกลับเกี่ยวกับชิ้นงาน

ขั้นที่  6  ขั้นตรวจสอบความสามารถของตนเอง

ขั้นที่  7  ขั้นประเมินค่าผลงาน

ขั้นที่  8  ขั้นสร้างความสัมพันธ์

ขั้นที่  9  ขั้นให้คุณค่า  นำเข้าและเอาออกของชิ้นงาน

การประเมินแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) เป็นแหล่งสะสมผลงาน ชิ้นงาน หรือหลักฐานที่เป็นเครื่องแสดงความรู้ ความสามารถ และทักษะ เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าและความสำเร็จของผู้เรียน โดยแฟ้มสะสมผลงานมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุจุดมุ่งหมายของผู้เรียน ตลอดจนเป็นเครื่องมือสำหรับผู้สอน เพื่อตีค่าความสามารถที่แท้จริงของผู้เรียน นอกจากนี้แฟ้มสะสมผลงานยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาการเรียนรู้ของผ้สอน และพัฒนาทักษะความสามารถของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ในการประเมินแบบสรุปรวม (Summative Assessment)

           แฟ้มสะสมผลงานสามารถใช้ในจุดมุ่งหมายต่าง ๆ ในชั้นเรียน เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเรียนการสอนได้อย่างดี เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการเรียนรู้ของผู้เรียนในทุกระยะที่มีการเรียนการสอน เนื่องจากแฟ้มสะสมผลงานเป็นแหล่งรวมผลงานของนักเรียนทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ช่วยให้กำกับพัฒนาการทางการเรียนของผู้เรียน และผู้เรียนใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินตนเอง ดังนั้นแฟ้มสะสมผลงาน จึงเป็นวิธีการที่ใช้ประเมิน

          แฟ้มสะสมผลงานสามารถแบ่งได้ 2 ลักษณะ คือ 1) แฟ้มสะสมงานที่ดีที่สุด มุ่งเน้นการนำเสนอเพื่อการประเมินผลผลิตขั้นสุดท้ายที่ดีที่สุด ผู้เรียนจะต้องสร้างสรรค์แฟ้มสะสมผลงานที่ดีที่สุด เพื่อประเมินตามรายวิชาหรือเพื่อรับรองหรือจัดลำดับชั้นเรียน 2) แฟ้มสะสมงานที่แสดงความก้าวหน้าของผู้เรียน โดยผู้เรียนต้องมีผลงานในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่แสดงถึงความก้าวหน้า ดังนั้นแฟ้มสะสมผลงานในลักษณะนี้ จึงสนใจขั้นตอนการทำผลงาน ซึ่งแนวทางในการจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน มีดังนี้

          1. กำหนดวัตถุประสงค์ของแฟ้มสะสมผลงานต้องการสะท้อนความก้าวหน้าและความสำเร็จของผู้เรียนในเรื่องใดด้านใด อาจพิจารณาจากตัวชี้วัด/มาตรฐานการเรียนรู้ รายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ และระดับเป็นตัวตั้ง

          2. วางแผนการจัดทำแฟ้มสะสมผลงานที่เน้นการจัดทำชิ้นงาน กำหนดเวลาของการจัดทำแฟ้มสะสมงาน และเกณฑ์การประเมิน โดยผู้เรียนและผู้สอนอาจกำหนดร่วมกันก่อนเริ่มการจัดทำแฟ้มสะสมผลงาน

          3. จัดทำแผนการจัดทำแฟ้มสะสมงานและดำเนินการตามแผนที่กำหนด ผู้เรียนมีบทบาทเป็นผู้รับผิดชอบ ส่วนผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้ให้ข้อเสนอแนะ

          4. ประเมินชิ้นงานเพื่อการพัฒนาและปรับปรุง การประเมินนี้ควรมีลักษณะประเมินแบบมีส่วนร่วม และเปิดโอกาสให้ผู้เรียน เพื่อน ผู้สอน และผู้ปกครองและผู้เกี่ยวข้อง เข้ามามีส่วนร่วมในการประเมิน

          5. คัดเลือกชิ้นงาน ประเมินชิ้นงานตามเงื่อนไขที่ผู้สอนและผู้เรียร่วมกันกำหนด และดำเนินการคัดเลือกชิ้นงานเป็นระยะ

          6. นำชิ้นงานที่คัดเลือกแล้วจัดทำเป็นแฟ้มที่สมบูรณ์ ประกอบด้วยหน้าปก คำนำ สารบัญ ชิ้นงาน แบบประเมินแฟ้มสะสมผลงาน และเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ตามความเหมาะสม

          7. สะท้อนความรู้สึกและความคิดเห็นต่อชิ้นงานหรือแฟ้มสะสมผลงานนั้น  โดยผู้เรียนอาจเขียนได้อย่างอิสระหรือผู้สอนอาจเป็นผู้กำหนดกรอบการสะท้อนตามวัตถุประสงค์

          8. จัดแสดงแฟ้มสะสมงานและชิ้นงานของผู้เรียนเมื่อสิ้นภาคเรียน/ปีการศึกษา หรือในโอกาสต่าง ๆ

          การประเมินแฟ้มสะสมผลงาน ต้องพิจารณาวัตถุประสงค์ในการจัดทำแฟ้มสะสมผลงานเป็นหลัก เพื่อกำหนดเกณฑ์การประเมินแฟ้มสะสมผลงานที่เหมาะสม

ตัวอย่างตัวอย่างเกณฑ์การให้คะแนนแบบองค์รวมเพื่อประเมินพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนจากแฟ้มสะสมผลงาน

พัฒนาการ คุณลักษณะของแฟ้มสะสมผลงาน
ก้าวหน้ายอดเยี่ยม (4 คะแนน) แสดงความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง จากตอนเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน พัฒนาจากการอ่าน/เขียนแคบ ๆ ไปสู่ความสามารถในการอ่าน/เขียนในหัวข้อที่หลากหลาย สามารถสังเกตและให้คำแนะนำต่อการเปลี่ยนแปลงในงานของตนเองทั้งในชั้นเรียนและนอกชั้นเรียน
ก้าวหน้ามาก (3 คะแนน) ผู้เรียนได้ขยายการใช้ภาษาและรู้คำศัพท์ที่กว้างขึ้น สามารถทำงานได้โดยอิสระในการอ่าน/เขียนมากยิ่งขึ้น งานมีคุณภาพต่างจากระยะแรก แต่ไม่เท่าประเภทก้าวหน้ายอดเยี่ยม
ก้าวหน้าบ้าง (2 คะแนน) งานเขียนของผู้เรียนสอดคล้องกันตลอดและเข้าใจง่ายแต่เนื้อเรื่องและเนื้อหายังคงเหมือนเดิม ผู้เรียนอ่านเพื่อทำความเข้าใจและพอใจในปริมาณที่ไม่มากนัก มีชิ้นงานที่หลากหลายน้อยและประยุกต์สู่ชีวิตประจำวันได้น้อย
ก้าวหน้าน้อย (1 คะแนน) พอร์ตโฟลิโอมีชิ้นงานน้อย ก้าวหน้าน้อยด้านการอ่านเขียน ความตั้งใจในการอ่าน/เขียนมีน้อย
ไม่ก้าวหน้า (0 คะแนน) พอร์ตโฟลิโอไม่มีข้อมูลเพียงพอที่จะประเมินเป็นเพียงแฟ้มรวมงาน

          ผู้สอนสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการช่วยในการวัดประเมินการเรียนรู้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสิ่งที่มุ่งวัด ยกตัวอย่างเช่น Padlet เป็นโปรแกรมในลักษณะกระดานข่าว (Bulletin board) ที่ผู้เรียนงานสามารถสร้างและแบ่งปันเนื้อหาหรือความคิดเห็นร่วมกันกับผู้อื่นได้ ดังนั้นจึงสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการระดมสมอง แสดงความคิดเห็น อภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ข้อมูลข่าวสาร สะท้อนความคิด สรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในคาบเรียน บันทึกอนุทิน (Diary) แผนผังความคิด หรือแฟ้มผลงาน โปรแกรมนี้ช่วยสะท้อนให้ผู้สอนได้สารสนเทศเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจในบทเรียน หรือกระบวนการทางความคิดของผู้เรียนได้อย่างทันที