วิธี เจาะ ผนัง ยิ ป ซั่ ม

วิธี เจาะ ผนัง ยิ ป ซั่ ม

  • ตกแต่งบ้าน
  • รู้เรื่องช่าง
  • 16 ธ.ค. 2558

ผนังเบากับการแขวนของหนักๆ

โดย นิธิพันธ์ วิประวิทย์

ผนังที่เราเห็น ๆ กันอยู่ในงานก่อสร้างทุกวันนี้ทั้ง ๆ ที่หน้าตาเป็นผนังเหมือน ๆ กัน แต่ภายในนั้นทำจากวัสดุได้หลากหลายประเภท แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงผนังเบาซึ่งทำจากวัสดุน้ำหนักเบา เช่นยิปซั่ม หรือไฟเบอร์ซีเมนต์ ที่เรียกว่าผนังเบาเพราะมันมีน้ำหนักเบาครับ

ประโยชน์จากความเบามีมากมาย ทั้งประหยัดโครงสร้าง ทำงานง่าย(แค่ติดตั้งโครง ติดตั้งแผ่น) ไม่จำเป็นต้องมีคานรับน้ำหนักมารองรับ วิธีการก่อสร้าง ก็แค่ทำโครงคร่าวภายในผนัง แล้วบุด้วยวัสดุบุ เช่นแผ่นยิปซั่ม เป็นต้น ผนังเบาจึงนิยมใช้กับงานที่ต้องการความรวดเร็ว มันทำหน้าที่เป็นผนังได้ดีพอควร แม้วัสดุทำผนังเบาบางประเภทจะไม่ทนน้ำ แต่ก็สามารถนำมากั้นระหว่างห้องที่ไม่เปียก เช่น ระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้อย่างดี

แต่กับความเคยชินของบ้านเราที่ชอบแขวนของกับผนัง ผนังเบามักมีปัญหาตรงที่แขวนของหนัก ๆ ไม่ได้ อย่างแผ่นยิปซั่มที่ทำผนัง บางแค่ 12 มม. แถมวัสดุคือผงยิปซั่มอัด บุทับด้วยกระดาษแข็ง วัสดุกับความบางขนาดนี้ ต่อยแรง ๆ ยังมีทะลุ ประกอบฉากหนังบู๊พอไหว หากเจาะน๊อตขันสกรูเข้าไป ก็มีแต่จะกลายเป็นรูเยิน ๆ ผนังยิปซั่ม(และผนังเบาอื่น ๆ ) จึงมักไม่แนะนำให้เจาะแขวนของหนัก ๆ โดยเฉพาะเจาะด้วยตะปูหรือน๊อตทั่วไป

…. แขวนไม่ได้ด้วยตะปูหรือน๊อตทั่วไป แสดงว่าทำได้ด้วยอุปกรณ์พิเศษ ใช่แล้วครับ สำหรับโลกแห่งการก่อสร้าง มีอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยแก้ปัญหานี้ได้ครับ ภาษาช่างเรียกพุกปีกผีเสื้อ หรือพุกยิปซั่ม ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับ ว่าเกิดมาเพื่อผนังยิปซั่ม พุกปีกผีเสื้อ เป็นสกรูที่มาพร้อมพุกตัวเล็ก ๆ ปกติ แต่มีกลไกที่ทำให้เมื่อเจาะทะลุเข้าไปในแผ่นยิปซั่มแล้วเจ้าพุกจะกางขาออกเป็นแฉกยึดกับแผ่นยิปซั่มไว้ ช่วยให้รับน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

การเจาะอาจจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญและรอบคอบขึ้นเล็กน้อย คือต้องเจาะให้ตัวพุกฝังกับแผ่นยิปซั่มแน่น ๆ ก่อนไขกางปีก เพื่อกันตัวพุกหมุนตัวฟรี ไม่ยอมกางปีกออกมา แต่โดยรวมแล้ว ไม่ยากเกินไปสามารถทำเองได้ครับ พุกปีกผีเสื้อแต่ละแบบรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากันครับ เลือกใช้ได้ตามการรับน้ำหนักที่ระบุไว้ได้ กรอบรูป ชั้นวางของเบา ๆ ใช้พุกปีกผีเสื้อนี้ได้สบาย



แต่ถ้าเกิดต้องการแขวนของหนักมาก ๆ เช่นทีวีเครื่องใหญ่ ๆ หรือเครื่องปรับอากาศ อันนี้ไม่แนะนำให้ฝากความหวังไว้ที่พุกปีผีเสื้อนะครับ ควรจะยึดของหนัก ๆ แบบนี้เข้ากับโครงคร่าวในผนังเพื่อรับน้ำหนักโดยตรง แล้วถ้าผนังทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเราจะหาโครงคร่าวเจอได้อย่างไร?

วิธีง่าย ๆ ให้ลองใช้เข็มเจาะผนังดูครับ ถ้าหากจิ้มไปแล้วทะลุแผ่นยิปซั่มสบาย ๆ แสดงว่าตำแหน่งนั้นไม่มีโครง ก็ลองเจาะที่ระยะ 5 ซม.ถัดไป ถ้าจิ้มแล้วติด ๆ เมื่อไหร่ สันนิษฐานได้ว่ามีโครงคร่าวผนังอยู่ตรงนั้นครับ โดยปกติโครงคร่าวผนังเบาจะมีระยะห่างประมาณทุก ๆ 40 – 60 ซม. ตามตั้งครับ ถ้าหาโครงได้ซักจุดสองจุด ก็สามารถขันสกรูเกลียวปล่อยยึดเข้ากับโครง จะรับน้ำหนักได้ดีกว่าจุดที่ยึดเข้ากับแผ่นยิปซั่มมากมาย

ถ้าของหนักมาก ๆ อาจต้องใช้ทั้งพุกปีกผีเสื้อ และการขันสกรูเข้ากับโครงเข้าช่วยกัน ใช้จำนวนจุดยึดมากขึ้นก็มั่นใจได้มากขึ้น และถ้าให้ดี หากช่วงก่อสร้างรู้แล้วว่าจะแขวนของหนัก ๆ ไว้ที่จุดไหน ก็ให้ทำการเสริมโครงบริเวณที่จะแขวนของหนัก ๆ ไว้ตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง จะดีที่สุดเลยครับ เท่านี้ผนังเบาในห้องเรา ก็สามารถแขวนของหนัก ๆ ได้เรียบร้อยแล้ว

จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยครับ

บ้านหรือคอนโดของคนยุคใหม่ ต้องสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกพื้นที่อย่างคุ้มค่าแม้แต่บนผนังก็ด้วยเช่นกัน บ้านรุ่นใหม่มักจะต้องมีการติดงานศิลปะ, กรอบรูปติดผนัง, รูปภาพครอบครัว หรือผลงานเจ้าของบ้านไว้ที่ฝาผนังในห้องรับแขก, ห้องนอน, ห้องครัว หรือแม้แต่ห้องน้ำ การเจาะ ยึด และแขวนจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องศึกษาให้ดี เพราะผนังที่ไม่ว่าเป็นผนังคอนกรีตทั่วไป, ผนังเบาแบบต่างๆ หรือผนังแบบติดตั้งกระเบื้องผนังห้องน้ำ ถ้าทำไม่ดีก็อาจจะก่อให้เกิดปัญหาเรื่องความเสียหายตามมาได้อย่างง่ายดาย ถ้าไม่อยากผนังพังจนช้ำใจเพราะการแต่งบ้านลองมาดูเทคนิคการใช้ผนังให้เหมาะสมด้วยการ เจาะ ยึด แขวนอย่างถูกต้อง ดังนี้

1.เลือกพุกให้เหมาะกับผนัง

พุก คือ ตัวรองน็อตที่จะถูกฝังเข้าไปในผนังหลังการเจาะเสร็จสิ้น จะช่วยยึดให้น็อตหรือตัวสกรูติดแน่นกับรูที่โดนเจาะมากยิ่งขึ้น โดยตัวพุกจะมีหลายขนาดและหลายรูปแบบ เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานที่หลากหลาย โดยพุกที่ถูกนำมาใช้ในงานเจาะผนังมากที่สุด คือ พุกพลาสติกหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าพุกตัวหนอน เหมาะกับงานเจาะเพื่อแขวนรูปภาพและงานยึดท่อขนาดเล็ก ส่วนพุกคอนกรีตบล็อกจะเป็นแบบคุณภาพขึ้นมาอีกนิดเพราะสามารถรองรับน้ำหนักของสิ่งที่แขวนหรือยึดได้ดีกว่าและมีความแข็งแรงกว่า นอกจากนี้ยังมีพุกคอนกรีตมวลเบาที่ใช้กับเหล่าผนังมวลเบาโดยเฉพาะ, พุกงานยิปซั่ม, พุกเหล็กเพื่องานยึดฝ้า และพุกตะกั่วเพื่องานกลางแจ้งที่จะต้องทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ

2.เลือกวิธีเจาะให้เหมาะกับผนัง

ผนังเบาที่ทำมาจากสมาร์ทบอร์ด, ยิปซั่มบอร์ด หรือไฟเบอร์ซีเมนต์ ควรเจาะด้วยสว่านดอกเล็กเพราะเป็นเพียงผนังเบา ไม่จำเป็นต้องใช้ใหญ่มากเพราะผนังเบาจะเสียหายง่าย เพียงเจาะนิดเดียวก็ทะลุได้ง่าย นอกเสียจากเจาะไปโดนแผ่นโครงคร่าว โดยให้เจาะความลึก 5 เซนติเมตร และเว้นระยะห่างจากจุดเดิมประมาณ 40-60 เซนติเมตร ส่วนผนังปูนควรเลือกใช้ดอกสว่านเจาะปูนกับพุกเบอร์ 6 และเบอร์ 7 จากนั้นให้เจาะความลึกเท่ากับความยาวของพุก โดยนำพุกมาวัดกับดอกสว่านและใช้ปากกาหรือสีเมจิกมาขีดเส้นไว้เพื่อให้รู้ระยะในการเจาะที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

3.เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

อุปกรณ์ที่ควรเตรียมในการเจาะ ยึด แขวน คือ สว่าน, ดอกสว่าน-ดอกสว่านเจาะปูน, พุกพลาสติก, พุกตะกั่ว หรือพุกที่เหมาะสมกับงานของคุณ นอกจากนี้ให้เตรียมไขควงสี่แฉก, ค้อน, ปากกา และสก็อตเทป รวมไปถึงอุปกรณ์เก็บกวาดหลังการเจาะที่จะมีเศษผนังหล่นลงมาเป็นจำนวนมาก

สำหรับห้องน้ำที่มีกระเบื้องผนังห้องน้ำให้ใช้วิธีการเจาะที่เหมือนกับผนังปูน รวมไปถึงการใช้พุกก็เช่นเดียวกัน เพียงแต่การเจาะกระเบื้องผนังห้องน้ำต้องใช้ความระมัดระวังสูง ไม่ควรกระแทกสว่านหนักจนเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจทำให้กระเบื้องแตกทั้งบานได้ง่าย แต่ควรเจาะเข้าไปลึกกว่าปกติเพราะต้องเจาะให้ผ่านเนื้อกระเบื้องด้วย นอกจากนี้ควรใช้เทปกาวแบบผิวด้านมาติดตรงจุดที่จะเจาะเพื่อป้องกันความลื่นในขณะเจาะ แค่นี้ ก็ปลอดภัย สบายใจได้แล้วแน่นอน